...จากเวลาที่ยาวนาน...กับวันวานที่เลยไป...จะมีภาพที่ใจ...ยังจดยังจำไว้ทุกคืนวัน...ผ่านไปเร็วดูราว...เหมือนฝัน...ภาพความหลังครั้งนั้น...ไม่เคยเก่า... ย้ำและเตือนในหัวใจเรา...ตลอดเวลา... : )



Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
18 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 

[...an inconvenient truth...]






...
ยังไงดี...เพิ่งดูหนังเรื่อง An Inconvenient Truth
ดูไปแล้วก็ ประหวั่นพรั่นพรึง กับอนาคตของโลก - -"
...
ใครยังไม่ได้ดู ชม Trailer ข้างล่างหน่อยนะคะ
...


...
แค่อยากจะบอกเล่าเรื่องราวที่ได้รับรู้มา
ที่พอจะทำได้ อย่างน้อยก็ให้เพื่อนเพื่อน...ได้รับรู้ว่า
มันคือหน้าที่ของ "เรา" ในฐานะผู้อาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน
...
โลกร้อนขึ้น ค่อยค่อยร้อนมากขึ้น... รับรู้กันได้ใช่มั้ยคะ
...
...
ตามที่ได้รู้มาว่า เหตุที่โลกร้อนขึ้น และอากาศเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันนั้น
...
เนื่องมาจากปริมาณ ก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) เพิ่มปริมาณสูงขึ้นมาก
...
ปริมาณที่สูงขึ้นมากนั้น มาจากการที่ประชากรของโลกเพิ่มมากขึ้นมาก
การพัฒนาอุตสาหกรรม
การใช้และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
ฯลฯ
...
...ส่งผลกระทบต่อทุกทุกมุมของโลก...
ดังที่ได้เห็นเหตุการณ์อันเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เกิดขึ้นอย่างหนัก ต่อเนื่องในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา
...
...
ดูหนังเรื่องนี้แล้ว
ตระหนักตั้งแต่ต้นเรื่องว่า
แล้ว เรา เนี่ย... สามารถช่วยอะไรได้บ้าง
...
...
ในฐานะ คนตัวเล็กเล็กคนนึง บนโลก
ที่ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเรื่องยิ่งใหญ่ในโลกนี้ได้
...
เพราะแม้กระทั่ง อัล กอร์ เอง ก็ยังเจออุปสรรคมากมาย
...
ในการพยายามอธิบาย ให้คนในวงกว้างทั่วไปได้รับทราบ
และเข้าใจ ตลอดจน ตระหนักเห็นว่า เหตุการณ์ต่างต่าง
ที่เกิดขึ้นในโลกขณะนี้ เป็นปัญหาที่
เราทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
...
เหตุผลมากมายหลายประการทำให้การแก้ไขปัญหานี้
เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก
...
...
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คงต้องเริ่มจากตัวเอง
และบอกต่อเพื่อนเพื่อนที่.. คิดและสนใจในสิ่งเดียวกัน
...
อยากรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง ตามนี้เลยอ่ะค่ะ
...




ปล1.อยากดู clip แบบไม่กระตุก รบกวนกด pause ไว้ก่อน
แล้วไปเที่ยว blog เพื่อนเพื่อนก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาดูนะคะ
แต่ต้องกลับมาน๊า

ปล2.ถ้าใครอยากดูหนังเรื่องนี้ ถามไถ่ได้ทั้งหน้าไมค์และ
หลังไมค์นะคะ...จขบ.เต็มใจให้ความร่วมมือ

ปล3.คงจะทำอะไรกันได้บ้าง คนละเล็กคนละน้อยนะคะ
...
อย่างน้อยที่สุดก็สวดอ้อนวอน

ปล4.ตัวหนังสือใน clip เล็กไปหน่อยนะคะ
สงสารพี่พี่จังค่ะ พยายามเพ่งหน่อยนะคะ




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2550
63 comments
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2550 15:44:01 น.
Counter : 4305 Pageviews.

 


...
เหอ เหอ แปลก แปลก อ่ะค่ะ เข้ามา blog ตัวเองแล้วไม่มีเพลง เนี่ย ^^"
...
ถ้าจะดู clip ก็ สลับโหมด เอาละกันนะคะ เปิด ปิด กันได้ตามใจชอบ อิอิ ^^
...


I Need To Wake Up-Melissa Etheridge



...

Have I been sleeping?
I’ve been so still
Afraid of crumbling
Have I been careless?
Dismissing all the distant rumblings
Take me where I am supposed to be
To comprehend the things that I can’t see

Cause I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

And as a child
I danced like it was 1999
My dreams were wild
The promise of this new world
Would be mine
Now I am throwing off the carelessness of youth
To listen to an inconvenient truth

That I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

I am not an island
I am not alone
I am my intentions
Trapped here in this flesh and bone

And I need to move
I need to wake up
I need to change
I need to shake up
I need to speak out
Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now

I want to change
I need to shake up
I need to speak out
Oh, Something’s got to break up
I’ve been asleep
And I need to wake up
Now
...
...

 

โดย: Serendipity_t 18 กุมภาพันธ์ 2550 13:35:32 น.  

 


ขอลุกขึ้นยืน ... ปรบมือให้กับ คุณ Serendipity_t ค่ะ

Mann! You're Rockkk!!!

 

โดย: yourstarlight IP: 203.188.59.25 18 กุมภาพันธ์ 2550 13:39:59 น.  

 





...
ภาวะโลกร้อนหรือไม่มีใครชอบของร้อน
...
ซูซี่ กำลังจะหม่ำไอศครีม แต่ไม่ทัน เพราะละลายไวมาก
ผู้ใหญ่ท่านนึงเดินมาบอกว่า สงสัยมั้ย ว่าทำไมไอศครีมถึงละลายเร็ว
ซึ่ง วายร้ายคนนี้ไม่ใช่ชาวต่างชาติแต่เป็นภาวะโลกร้อน ^^"
...
อธิบายโดย มีรูปการ์ตูนของคุณแสงอาทิตย์ เดินทางไกลมายังโลกเพื่อแวะมาฉายแสงให้โลกสว่างขึ้น
ลั้นลาลั้นลา... มาแป๊บนึง และก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว
...
แต่ว่า มีคุณก๊าซเรือนกระจก มา block ไว้ ขู่ว่าห้ามไปไหนทั้งนั้น
คุณแสงอาทิตย์สู้ไม่ไหว ...ไม่นานต่อมา โลกก็เต็มไปด้วยคุณ คุณแสงอาทิตย์
ซากแสงอาทิตย์ที่ตกค้างทำให้บรรยากาศร้อนขึ้น
...
ซูซี่ ถามว่า เราจะกำจัดก๊าซเรือนกระจกได้ยังไง
(ในส่วนถัดมาน่าจะเป็นตลกร้าย ของการเมืองภายใน America เองแล้วอ่ะค่ะ - -")
...
บอกว่า วิธีง่าย ง่าย เพื่อต่อสู้ภาวะโลกร้อน
คือมีนักการเมืองแสนฉลาดท่านนึง ได้หาวิธีแก้ไขโดย
...
ตั้งแต่ ปี 2069 เราหย่อนน้ำแข็งก้อนยักษ์ ลงในมหาสมุทรเป็นครั้งคราว
...
ซูซี่ จำไม ถามต่อว่า เหมือนที่คุณพ่อใส่น้ำแข็งในเครื่องดื่มทุกเช้า
แล้วคุณพ่อก็เมาอาละวาด - -"
...
ผู้ใหญ่ท่านเดิม บอกว่า เราจึงต้องเพิ่มปริมาณน้ำแข็งมากขึ้นไม่หยุดเพราะภาวะโลกร้อนมากขึ้น
แต่มันก็แก้ปัญหาได้ตลอดกาล
ซูซี่อ้าปากจะเถียง - -"
...
แต่ ผู้ใหญ่ท่าน บอกว่า แก้ไขได้ตลอดกาล เหอ เหอ - -"
...

 

โดย: Serendipity_t 18 กุมภาพันธ์ 2550 13:43:49 น.  

 

...

อันนี้เป็น link จาก blog นก varissaporn327 นะคะ
...
เรื่องเดียวกัน เผื่อจะสนใจตามอ่านกันได้เลยนะคะ
CDM
...

 

โดย: Serendipity_t 18 กุมภาพันธ์ 2550 16:55:37 น.  

 

เรื่องนี้เราติดตามกันมานานแล้วค่ะ ... น่ากลัวเชียวล่ะสำหรับผลกระทบที่เรากำลังได้รับตอนนี้ ...

เราเองก็เป็นอีกคนหนึ่ง ตัวเล็กๆ เหมือนกันล่ะคะ อะไรช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป อย่างน้อยๆ
ก็ช่วยแชร์เรื่องราวดีๆ แบบนี้ไปเยอะ อย่างน้อยก็จะได้ช่วยให้คนได้เข้ามาอ่านและทำความ
เข้าใจว่า ส่วนเล็กๆ อย่างเรานั้น ทำอะไรบ้างเพื่อจะช่วยให้โลกของเรานั้นน่าอยู่ หรือว่าไม่เสียหาย
กว่าเดิมค่ะ ....

เดี๋ยวคลิปพี่กำลังจะคลิกไปดูนะจ้ะ ....

 

โดย: JewNid 18 กุมภาพันธ์ 2550 17:01:47 น.  

 



wakkkk ... ทำไมมันยาวยืดอย่างงั้นล่ะ ... จัดการให้ทีนะค่ะ ... : P

 

โดย: yourstarlight (yourstarlight ) 18 กุมภาพันธ์ 2550 19:52:22 น.  

 

แวะมาราตรีสวัดิ์นะค่ะ

หนังน่าดูจังเลยค่ะ

จะรอติดตามดูค่ะ
มีความสุขวันปีใหม่จีนนะค่ะ



ซินเจี่ยยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
อังเปาตั่วตั่วไก้

มีร่างกายแข็งแกร่ง จิตใจแข็งแรง
เงินทองมากมี เศรษฐีเร็ววันนะค่ะ
มีความสุขทุกๆวันเวลาเสมอค่ะ



 

โดย: catt.&.cattleya IP: 58.9.63.207 18 กุมภาพันธ์ 2550 21:11:05 น.  

 

เค้าเรียกว่ามาเม้นท์กันเป็น ลูกค้าประจำ ไม่เป็นไรจ้า ...
ว่าแต่ว่าอย่าลืมนะ เปลี่ยนใจนั่งแทนพี่เหอะเจ้าชิงช้าสวรรค์

 

โดย: JewNid 18 กุมภาพันธ์ 2550 21:12:34 น.  

 

แอมเคยอยู่ชุมนุมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ
ช่วงนั้นกระตือรือร้นมากๆๆๆๆ
พอจบออกมาก็ค่อยๆ ลดลง
แต่ว่าก็ยังกังวลใจอยู่เป็นระยะๆ นะคะ
ที่บ้านพ่อก็พยายามให้ปลูกต้นไม้บ่อยๆ
ส่วนใหญ่ขันอาสาเป็นคนรดน้ำค่ะ
ว่าแต่ วันนี้ยังไม่ได้รดน้ำต้นไม้เลย
มัวแต่ทำอย่างอื่น จะไปรดตอนนี้ก็คงไม่ดีแล้ว

ช่วยกันค่ะช่วยกัน
^^

 

โดย: I am just fine^^ 18 กุมภาพันธ์ 2550 22:38:43 น.  

 

บล็อกวันนี้เป็นของขวัญของโลกวันตรุษจีน...

หลับให้สบายนะโลก แล้วเราจะช่วยๆกันทำให้โลกของเราเย็นลง
คนละนิดละหน่อยเนอะ...


ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ เค้าว่าคนทำงานวันนี้ต้องทำงานหนักตลอดปีเปล่า พี่ยังทำงานอยู่หน้าจอเลย โฮ โฮ

ปล. ตอนนี้อยากกินแต่ส้มตำกะเย็นตาโฟ
ส้มตำพอหาได้ เย็นตาโฟนี่สิ เฮ้อ
ฝากต่ายกินแทนละกัน เอาผักบุ้งเยอะๆนะ

 

โดย: SevenDaffodils IP: 69.140.210.74 19 กุมภาพันธ์ 2550 1:08:49 น.  

 

Al Gore is very HYPOCRYTE. He himself has huge houses that consume lots of energy just to maintain them. Plus he flies on a private jet promoting the movie. Anyway, I'm not against the idea, I think it's really great if all of us are aware of the problems and really willing to do their parts. It bothers me that someone just keeps blaming the others while himself wasting lots of energy everyday.
By the way, it's not even certain that "Global warming" exists, scientists can't agree on that either. It's really just a "Theory/Belief" so far. Some years ago people were crazy about "Ice age" too. So, to me it's kind of a trend or something for wealthy people who have lots of free time.
Anyway,I agree that we should try to do whatever we can, just not worry too much. What will happen, happens. Everything keeps changing all the time and that's why the Buddha was tired of it and he finally found the greatest way to get out!

 

โดย: Choueang_K IP: 71.202.146.161 19 กุมภาพันธ์ 2550 7:19:11 น.  

 

^
^
ครบทุกประเด็น เหมือนที่เราคุยกันเลยจ้า เก๋
...
...
ปลูกต้นไม้เยอะเยอะกันดีกว่า

 

โดย: P'Tye IP: 203.148.239.254 19 กุมภาพันธ์ 2550 8:54:43 น.  

 

อย่างไรก็ตาม โลกยังต้องการสำนึกรักษ์โลกอยู่มาก ๆ ในขณะที่มนุษย์ดูจะรักความสบาย เห็นแก่ประโยชน์ตนมากขึ้น

มันน่าคิดนะคะ
เริ่มจากตัวเราเองก่อนเลย ดีมั้ย

มาค่ะ พวกเรา มาทำอะไรที่มันจะมีผลถึงการยืดอายุโลกกันดีกว่า
(วันนี้ มาแนวเน้นสาระกันเนอะ...)

คุณSerendipity_t หายจากอาการไม่สบายรึยังคะ

 

โดย: ชิงดวง 19 กุมภาพันธ์ 2550 12:55:20 น.  

 

P'Tye,
(^__^) More information on Kyoto treaty; Out of the whole world, only twenty something countries must reduce the CO2, the rest don't have to.(Like China and India produce tons of CO2 and other pollutions every single day. And China just admits they problably won't be able to meet air pollution standard by the Olympics in 2008-which's part of the agreement for Olympics hosting. Most days in Bejing has 10 times more pollution than western countries, and in bad days it even goes up to50 times!) Plus, some countries (like France and Germany)that signed the treaty just violated the rules.(What's good is that?) I respect the countries that is truthful and honest enough to admit\\t that it's not realistic for them.
It might be true that the us produces the most amount of CO2 but it's very big country (9,631,420 SQ KM) with lots of people (298,444,215) Thailand is 514,000 SQ KM big and that takes about 187 countries the size of Thailand to have the same size of the us. I'm more than a million percent sure that if there were 187 countries like Thailand, they will produce A LOT more pollution than the us. I'm not protecting the us, I just can see that they're very efficient in using energy. And for sure far more than any other countries, especially Asian and Eastern Europian countries.(Well, also Africa countries I guess)

 

โดย: Choueang_K IP: 71.202.146.161 19 กุมภาพันธ์ 2550 12:56:31 น.  

 

More information on Global Warming:
When they consider global warming, they cut out "water vaporation" which is the big factor in trapping the heat. Actually they cut out many factors, why? It's just too difficult to consider every factor, better just pick whatever they want to believe, right?(For example; they don't consider carbonsulphide, the gas produced by cars that reflects the heat, so actually cooling the globe.And this exact gas caused people to believe "global cooling or ice age" before.)
The real and true science: The earth is AN OPEN SYSTEM. Do you recall from highschool what that means?- It means you can never predict the result!!! I think global warming isn't scientific by whatever mean.
In the movie, 5 big hurricanes hit the us (last year), global warming's believers were so excited they thought these surely caused by global warming. They assured it was going to get worse and worse, the end of the world is coming. THE FACT:This year, no hurricane at all, I think they're pretty disappointed about that. One more thing, I live in San Francisco, this year the water in the Bay area is few degrees cooler, the GW believers can't explain why. They just try to say "Maybe ice is melting so that makes the water cooler!!!" Oh, my gosh...I can't believe they even think that! GW is like a religion, it's what they want to believe. This year the snow in New York set a record, more than 1 meter in a week. The GW says" The heat actually caused the snow" Oh my Lord Buddha!!! Then Thailand and Africa would have had tons of snow all year long! I think Buddhism is much more scientific than GW.

 

โดย: Choueang_K IP: 71.202.146.161 19 กุมภาพันธ์ 2550 13:29:17 น.  

 

Still I want to insist, I agree it would be great if we can reduce pollutions. I agree CO2 and other danger gas are bad (But I don't think it has anything to do with GW) I absolutely agree we should do whatever we can to make this world a better place. (^__^)

P'Tye, I guess I clicked submit twice, please delete one for me, thanks. Going to bed...Nighty night

 

โดย: Choueang_K IP: 71.202.146.161 19 กุมภาพันธ์ 2550 13:36:49 น.  

 

oops! I thought I clicked twice, well I didn't so. :P I guess I'm sleepy.
Have a good rest of the day. Nighty night (really this time)

 

โดย: Choueang_K(again) IP: 71.202.146.161 19 กุมภาพันธ์ 2550 13:40:57 น.  

 


Serennnnnnn... คะ ... ช่วยจัดการกับ Comment อันนั้นของเราที ... มันยาววววยืดดดด ...ทำไมปล่อยไว้เงี๊ยะ ...ฮื่อออ...อ..อายชาวบ้านนนนนเค้า ... ได้โปรด ... เอารอบเดียวก็พอออออ... ..

ใครที่สนใจประเด็นสิ่งแวดล้อมที่ทวนกระแสขบวนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกระแสหลัก กรุณาอ่านบทความของ Bjorn Lomborg นะคะ ... //www.lomborg.com/

ดีค่ะ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จะได้รู้ไว้หลายๆ มุม ... เชื่อว่าทุกคนก็ต้องการเห็นสิ่งแวดล้อมดีและผู้คนช่วยกันดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ใช่ม๊า ... : ) ...

We're rockk!!

 

โดย: yourstarlight IP: 203.156.44.5 19 กุมภาพันธ์ 2550 14:04:22 น.  

 

เย้ เย้ ชอบชอบ เม้นท์เยอะ
...
ก่อนอื่นขอแนะนำ คุณ Choueang_K ให้เพื่อนเพื่อนรู้จักด้วยนะคะ
เป็นน้องสาวเราค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
เมื่อวานได้คุยโทรศัพท์กันถกเรื่องนี้ไปรอบนึงละ
...
ขอบใจนะเก๋ สำหรับข้อมูลอีกทางนึง
...
...
ขอเอาอันนี้มาเก็บไว้ตรงนี้ด้วยละกัน : )
ใครใคร่อ่าน...อ่าน เลยค่ะ ยาวมั่ก
...
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
An Inconvenient Truth สัญญาณเตือนพิบัติโลก
20 กันยายน 2549 16:16 น.


"เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเวลานักการเมืองพูดอะไรออกมา ต้องเอาสองหารแล้วใส่ตระแกรงร่อน ที่เหลือคือ ความจริง แต่สำหรับ An Inconvenient Truth ที่ออกมาจากปากผู้ที่เกือบจะได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 43 แห่งสหรัฐ คือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม ร่วมเปิดเผยความจริง"

สหรัฐเคยมีประธานาธิบดีที่อดีตเคยเป็นดาราภาพยนตร์อย่างพระเอกคาวบอย โรนัลด์ เรแกน แต่สำหรับอัล กอร์ กลับเป็นอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงภาพยนตร์ที่เปิดโปงความจริงให้โลกตระหนักถึงภาวะโลกร้อน

อัล กอร์ รับบทเป็นตัวเขาเองในภาพยนตร์เรื่อง An Inconvenient Truth ที่มีความยาว 94 นาที บางคนอาจจะอยากรู้ว่าหลังจากเขาพ่ายการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับจอร์จ บุช แล้ว วิถีชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างไร หรือไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร เพราะเนื้อเรื่องที่เขานำมาเสนอน่าสนใจกว่า

ผีเสื้อขยับปีก

ภาพโคลสอัพจับไปที่ หมีขาวขั้วโลก ที่กำลังพยายามตะเกียก ตะกาย ว่ายน้ำ เพื่อขึ้นไปอยู่บนแผ่นน้ำแข็งเล็กๆแผ่นหนึ่ง แต่มันตกลงมาอีกครั้งพร้อมกับแผ่นน้ำแข็งที่แตกกระจายออกไป ดูเหมือนว่า ความพยายามของมันจะไม่มีที่สิ้นสุด มันว่ายน้ำ ไปหาแผ่นน้ำแข็งแผ่นใหม่ ขณะที่กล้องค่อยๆ แพนภาพให้เห็นในมุมกว้าง แผ่นน้ำแข็งชิ้นเล็กน้อยที่หมีขั้วโลกกำลังปีนป่าย เป็นเพียงจุดเล็กกลางมหาสมุทร

...มันต้องว่ายน้ำอีกไกลแค่ไหน จึงจะถึงแผ่นน้ำแข็งที่เคยเป็นบ้านที่อบอุ่น ... ความพยายามของหมีขาวขั้วโลก ให้ทั้งความรู้สึกหวาดหวั่น และลุ้นระทึกกับผู้ชมที่เข้ามานั่งดู หนังสารคดีเล็กๆ An Inconvenient Truth ซึ่งจัดขึ้น โดย ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใครจะไปคิดว่า น้ำแข็งขั้วโลกที่ติดกันเป็นแผ่นใหญ่สีขาวโพลนจะกลายเป็นเวิ้งมหาสมุทร และมีเศษแผ่นน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย

หลังจากการพ่ายการแข่งขันชิงประธานาธิบดีในปี ค.ศ.2000 อัล กอร์ พลิกบทบาทตัวเองเป็นพระเอกนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตีแผ่เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตการณ์โลกร้อนอย่างแจ่มแจ้ง ตั้งแต่จุดแรกของปัญหาโลกร้อน ไปจนถึงบทอวสานของโลก ที่อาจจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่กี่สิบปี

ต้องยอมรับว่า มีนักการเมืองของสหรัฐไม่กี่คนที่เข้าใจปัญหาโลกร้อน อัล กอร์ คือไม่กี่คนในจำนวนนั้น เขาเป็นนักสิ่งแวดล้อมที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง ในฐานะรองประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลบิล คลินตัน เขาผลักดันให้เกิดการประชุมพิธีสารเกียวโตว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี ค.ศ.1997 เพื่อให้ประเทศที่พัฒนาแล้วร่วมลงสัตยาบันรับมือกับปัญหาโลกร้อน โดยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ อันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อนขึ้น

อัล กอร์ ปรากฏตัวบนเวทีด้วยบุคคลิกที่เป็นกันเอง และพกพาอารมณ์ขันเรียกเสียงหัวเราะแก่ผู้ฟังโดยบอกว่า " I'm Al Gore. I used to be the next president of the United States" แต่สิ่งเขาตั้งคำถามต่อมา พร้อมกับนำเสนอข้อมูลและต้นเหตุของภัยพิบัติที่เกิดในรอบทศวรรษ พลันเสียงในห้องสัมมนาเงียบกริบ สลับกับเสียงถอนลมหายใจ

เขาถามว่า "แล้วเราจะเหลืออะไรเอาไว้ให้ลูก หากว่าชั้นบรรยากาศที่บอบบางที่สุดในระบบนิเวศของโลกไม่ทำหน้าที่กรอง แสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องทะลุชั้นบรรยากาศมายังพื้นผิวโลก และนำความอบอุ่นมาให้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากอุณหภูมิโลกร้อนเกินไป"

เป็นความจริงที่ว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกดำรงอยู่ได้เพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซอื่นๆ ห่อหุ้มโลกไว้ทำให้โลกอบอุ่นและน่าอยู่ แต่การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากซากฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมัน ตลอดจนการหักล้างทำลายป่า ยิ่งเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น และอุณหภูมิโลกยิ่งสูงขึ้น

สารคดี ได้ฉายภาพเปรียบเทียบน้ำแข็งทั่วโลก จากภาพถ่ายเทือกเขาคีรีมันจาโรเมื่อสามสิบปีก่อน ที่มีน้ำแข็งปกคลุมบนยอดเขามากมาย กับภาพปัจจุบันที่มีน้ำแข็งเหลือน้อยมาก จนนักวิทยาศาสตร์บอกว่า ไม่ถึงสิบปีเทือกเขาแห่งนี้จะไม่มีน้ำแข็งอีกต่อไป

ธารน้ำแข็งตามเทือกเขาต่างๆ ที่กำลังหายไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เทือกเขาแอนดิสในอาร์เจนตินา ชิลี ไปจนถึงเทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ และเทือกเขาหิมาลัย น้ำแข็งจากเทือกเขาหิมาลัยเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสำคัญ 7 สาย แต่อีกไม่ถึงห้าสิบปี ประชากรที่พึ่งพิงแหล่งน้ำเหล่านี้จะเผชิญกับการขาดแคลนน้ำจืดอย่างรุนแรง

อัล กอร์ ได้นำภาพเส้นกราฟแสดงอุณหภูมิที่สูงขึ้นแผ่กระจายไปตามเมืองใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในปี ค.ศ.2003 คลื่นความร้อนได้ทำให้คนในยุโรปตายไปถึง35,000 คน อุณหภูมิในมหาสมุทรสูงขึ้น และเกิดพายุรุนแรงและถี่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไต้ฝุ่น เฮอร์ริเคน ไซโคลน หลายร้อยลูกที่พัดกระหน่ำชายฝั่งทั่วโลกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะพายุเฮอร์ริเคนแคทรีนาที่พัดกระหน่ำเมืองนิวออร์ลีนส์ในเดือนสิงหาคม 2005 สร้างความเสียหายครั้งประวัติศาสตร์มีคนตายกว่า 2 พันคน และทรัพย์สินเสียหายกว่า 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ข้อมูลที่สำคัญคือภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา ขั้วโลกเหนือ และเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งหากน้ำแข็งละลายหมดระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงถึง 6 เมตร อดีตรองประธานาธิบดีได้ใช้กราฟแสดงให้เห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกร้อนขึ้นคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ใส่ลูกเล่นในการนำเสนอเรื่องโดยนำเอารถเครนมายกตัวเองขึ้นตามเส้นกราฟที่พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา

แน่นอนว่า หากถึงเวลานั้น กรุงเทพฯ นิวยอร์ก ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ จมน้ำไปครึ่งหนึ่ง บังกลาเทศอาจหายไปจากแผนที่โลก และประชากรนับพันล้านคนจะไม่มีที่อาศัย

 

โดย: จขบ........login มะด้าย :) IP: 203.148.239.254 19 กุมภาพันธ์ 2550 15:04:47 น.  

 

โลกร้อน เรื่องจริงหรือนิยาย

อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกร้อน ยังคงเป็นข้อถกเถียงว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยสารคดีได้บอกถึง ความพยายามของ บริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่พยายามทำให้คนทั่วไปเชื่อว่า โลกร้อนเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้นไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นจริง และเมื่อเป็นแค่ทฤษฎีก็ไม่ต้องเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงเสมอไป ถึงตอนนี้หนังได้นำเอาภาพการ์ตูน ที่เปรียบเทียบ กบกำลังลอยอยู่ในหม้อหุงต้มที่กำลังเปิดเตาแก๊ส ตอนที่หม้อยังไม่ร้อน กบก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อน้ำร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเดือดปุดๆ กว่ากบจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว

อัล กอร์ พยายามจะบอกว่า โลกร้อน เป็นเรื่องของผลกระทบระยะยาว ไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลัน ต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะเห็นผล แต่เมื่อปรากฏผลแล้วก็สายเกินแก้
สารคดีจบลงด้วยคำถาม ถึงเวลาหรือยังที่เราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนร่วมกัน ซึ่งคำถามจึงย้อนกลับมาที่ประเทศไทยว่า เราพร้อมหรือตระหนักแค่ไหนกับภาวะโลกร้อน "เราจะเป็นกบที่ลอยในหม้อหุงต้มที่เมื่อรู้สึกตัวก็สายไปเสียแล้ว หรือจะช่วยกันป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป"

คำถามเหล่านี้ถูกไขข้อสงสัย หลังจบสารคดี ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำผู้รู้นักคิดมาช่วยกันถกเถียง เพื่อย้อนกลับมาดูตัวเองประเทศไทยพร้อมแค่ไหนกับภาวะโลกร้อนขึ้น มีสัญญาณอะไรที่เตือนภัย ได้ว่า โลกร้อนขึ้นไม่ได้เป็นเพียงทฤษฎี หากเป็นเรื่องจริงที่ต้องระมัดระวัง

รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ภาควิชาธรณีวิทยาบอกว่า สัญญาณอันตรายเริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยจากการศึกษาระดับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกประเทศไทยได้รับผลกระทบแน่นอน โดยจะเกิดภูมิอากาศแปรปวนของฤดูกาล ในช่วงฤดูฝน 6 เดือน จะมีปริมาณฝนตกเยอะขึ้นและจะมีอุทกภัยเพิ่มขึ้นทุก 20% ต่อปีซึ่งในปีนี้เริ่มเห็นแล้วว่า เรามีอุทกภัยมากขึ้น ส่วนฤดูหนาว ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านเข้ามาจะทำให้หนาวจัดในบางปี และในช่วงนั้นจะเกิดฝนตกหนักในภาคใต้อีกด้วย

"อ่าวไทย ฝั่งตะวันออก ฝนจะตกมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติและจะทำให้มีผลต่อพืชผลทางการเกษตรในอนาคต"

รศ.ดร.ธนวัฒน์ บอกว่า ไม่เพียงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น ความรุนแรงของภัยธรรมชาติก็มีเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพายุไต้ฝุ่นเช่น เดิมมีพายุไต้ฝุ่น
2.8 ลูกต่อปี แต่ในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 ลูกต่อปี ซึ่งในส่วนอ่าวไทยเดิมพายุไต้ฝุ่นเคยพัดผ่านประเทศเวียดนามก่อนที่จะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงที่พัดเข้าไทย โดยจะมี
พายุที่พัดเข้าสู่อ่าวไทยโดยตรง 3-5 ปีต่อ ลูก แต่ในอนาคต พายุไต้ฝุ่นจะพัดเข้าสู่อ่าวไทยโดยตรงไม่ผ่านเวียดนาม และอาจจะเกิดขึ้น 1-2 ปีต่อลูก ซึ่งจะทำให้มี
ความรุนแรงมากขึ้น ส่วนฤดูร้อนจะร้อนเร็วขึ้น ร้อนนานขึ้น และอุณหภูมิสูงขึ้นและยังพบว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีฟ้าผ่ามากขึ้นในช่วงพายุฤดูร้อน

ทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วในไทย โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ซึ่งในเรื่องนี้ได้รับการยืนยัน จาก จรูญ เลาหเลิศชัย นักอุตุนิยมวิทยา 8 กรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่า จากการเฝ้าดูอากาศพบว่า ผลกระทบจากโลกร้อนเกิดขึ้นแล้ว โดยพบว่าพายุมีความรุนแรงมากขึ้น ถี่ขึ้นแน่นอน ซึ่งที่น่าสังเกตคือ ทะเลระดับต่ำกว่า 40 เมตรอย่างอ่าวไทยไม่น่าจะเกิดพายุได้ เพราะพายุจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อทะเลมีระดับความลึก 50 เมตร แต่ปัจจุบันอ่าวไทยเริ่มมีพายุเกิดขึ้นแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่เพียงมีพายุเป็นสัญญาณเตือนเท่านั้น วราวุธ ขันติยานันท์ ผู้อำนวยการส่วนฝนหลวง สำนักฝนหลวงและการบินยังบอกเช่นกันว่าตลอดระยะเวลาของการทำฝนหลวงมานานกว่า 30 ปี พบว่า การรวมตัวของเมฆเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าจะมีรูปร่างไม่แตกต่างจากเดิม แต่ความแข็งแรงของน้อยลง เพราะเดิมฐานเมฆจะมีความหนาแน่น เพื่อควบคุมอุณหภูมิที่เกิดขึ้นในก้อนเมฆไม่ให้ฝนตกเร็วเกินไป แต่ปัจจุบันจะพบว่า เมฆเริ่มอ่อนแอ รวมกลุ่มเร็วขึ้นและฝนตกกระจายค่อนข้างเร็วแล้วก็หายไป เรียกว่า ก้อนเมฆไม่มีความสมดุล ทำให้ลักษณะของฝนตกแบบพรมๆ แล้วหายไป บางแห่งตกหนัก

ส่วนในระดับใต้ทะเลลึกก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน โดย ผศ.ดร.ปราโมทย์ โศจิกร ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล บอกว่า อ่าวไทยเป็นทะเลบริเวณที่เรียกว่าเส้นศูนย์สูตร เป็นทะเลปิดอยู่นอกเขตการไหลของน้ำมหาสมุทร ทำให้ทิศทางการไหลของน้ำจึงขึ้นอยู่กับกระแสลมเป็นหลัก ซึ่งอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น กระทบต่อปะการังใต้น้ำแน่นอนหากอุณหภูมิสูงเกิน 33 องศา ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว ซึ่งเริ่มมีปรากฏการณ์ให้เห็นแล้วในอ่าวไทย ที่ปะการังจำนวนไม่น้อยเริ่มฟอกขาวจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น

ปะการังเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอาศัยอยู่ในทะเลตามโขดหิน แท้จริงแล้วสีของปะการังเกิดจากสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง คือสาหร่ายทะเลขนาดเล็กที่มีชีวิตอยู่ร่วมกับปะการังแบบพึ่งพาอาศัยกัน สาหร่ายเหล่านี้มีความไวต่ออุณหภูมิน้ำทะเลมาก เพียงอุณหภูมิสูงขึ้นหนึ่งองศาเซลเซียส สาหร่ายจะหยุดสังเคราะห์แสงและตายไป สีของปะการังจึงดูซีดขาว

ถึงแม้จะมีภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดหลายเรื่องที่นำเสนอภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่อง The Day After Tomorrow และ The Core แต่ทั้งหมดนั้นยังอิงความเป็นดราม่ามากกว่า "ข้อเท็จจริง" แต่สำหรับ An Inconvenient Truth เป็นภาพยนตร์ที่นำเอารายงานข่าวหายนะภัยที่เกิดขึ้นทั่วโลกผสมกับข้อมูลจริงเชิงอุตุนิยมวิทยาที่ไม่อาจปฏิเสธได้

 

โดย: จขบ........login มะด้าย :) IP: 203.148.239.254 19 กุมภาพันธ์ 2550 15:08:15 น.  

 

ข่าวดีก็คือ มนุษยชาติสามารถแก้ปัญหานี้ได้ และเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำ เพียงแค่เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตบ้างเล็กน้อยในแต่ละวันจะช่วยเพิ่มพูนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเพื่อหยุดภาวะโลกร้อน ถึงเวลาแล้วที่เราจะช่วยกันแก้ปัญหาตั้งแต่วันนี้
---------------
10 วิธีแก้ปัญหาโลกร้อน ง่ายๆ ทำได้ทุกคน

1. เปลี่ยนหลอดไฟ จากหลอดกลมหันมาใช้หลอดตะเกียบแทน เชื่อไหมว่าลดการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

2. ขับรถน้อยลง หันมาเดิน ขี่จักรยาน บริการขนส่งมวลชน หรือเลือกติดรถเพื่อน ทางเดียวกันไปด้วยกัน แค่นี้ ก็สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ปอนด์ทุกๆ 1 ไมล์ที่เราลดการขับขี่

3. รีไซเคิลของให้มากขึ้น แค่รีไซเคิลขยะในบ้านเพียงครึ่งหนึ่งก็ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2,400 ปอนด์ต่อปี

4. เช็คลมยาง รักษาระดับลมยางให้เหมาะสม ช่วยประหยัดการใช้น้ำมันได้ถึง 3% และการประหยัดน้ำมันในทุกๆ แกลลอน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้ 20 ปอนด์

5. ใช้น้ำร้อนน้อยลง เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นแต่ละครั้งใช้พลังงานจำนวนมาก อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นน้อยลง และอย่าเปิดฝักบัวแรงสุด ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 350 ปอนด์ต่อปี การเลือกซักผ้าในน้ำธรรมดาช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 500 ปอนด์ต่อปี

6. เลี่ยงซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์สิ้นเปลือง ลดขยะได้ 10% ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,200 ปอนด์ต่อปี

7. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ปรับตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ 25 องศา ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้โข

8. ปลูกต้นไม้ ต้นไม้ 1 ต้นดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ตัน

9. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า แค่เพียงปิดโทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เมื่อไม่ใช้ ช่วยโลกลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นพันๆ ปอนด์ต่อปี

10.ปฏิบัติและบอกต่อ ร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหาโลกร้อน

 

โดย: It's Me...again อิอิ IP: 203.148.239.254 19 กุมภาพันธ์ 2550 15:12:46 น.  

 

หวัดดีจ้า มาชวนไปดูลูกหมีกันหน่ะ อิอิ

 

โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม 19 กุมภาพันธ์ 2550 17:15:24 น.  

 

คุณ yourstarlight ฝากให้จัดการค่ะ อิอิ
...
...
เมื่อกี้เรารีบออกไปธุระข้างนอก ... ก็เลยทิ้งไว้แค่เสียงปรบมือ ... : ) ...

... หัวหน้าเราบอกว่าปีที่ผ่านมา Person of the Year 2006 หนังสือพิมพ์ Time ยกให้บุคคลแห่งปี 2006 ก็คือ ... YOU ...

เราก็เห็นปรากฏการณ์เหล่านี้อยู่บ่อยๆ แต่วันนี้มันทำให้เรารู้สึกถึง

Time's Person of the Year: You

The "Great Man" theory of history is usually attributed to the Scottish philosopher Thomas Carlyle, who wrote that "the history of the world is but the biography of great men." He believed that it is the few, the powerful and the famous who shape our collective destiny as a species. That theory took a serious beating this year.
To be sure, there are individuals we could blame for the many painful and disturbing things that happened in 2006. The conflict in Iraq only got bloodier and more entrenched. A vicious skirmish erupted between Israel and Lebanon. A war dragged on in Sudan. A tin-pot dictator in North Korea got the Bomb, and the President of Iran wants to go nuclear too. Meanwhile nobody fixed global warming, and Sony didn't make enough PlayStation3s.

But look at 2006 through a different lens and you'll see another story, one that isn't about conflict or great men. It's a story about community and collaboration on a scale never seen before. It's about the cosmic compendium of knowledge Wikipedia and the million-channel people's network YouTube and the online metropolis MySpace. It's about the many wresting power from the few and helping one another for nothing and how that will not only change the world, but also change the way the world changes.

The tool that makes this possible is the World Wide Web. Not the Web that Tim Berners-Lee hacked together (15 years ago, according to Wikipedia) as a way for scientists to share research. It's not even the overhyped dotcom Web of the late 1990s. The new Web is a very different thing. It's a tool for bringing together the small contributions of millions of people and making them matter. Silicon Valley consultants call it Web 2.0, as if it were a new version of some old software. But it's really a revolution.

And we are so ready for it. We're ready to balance our diet of predigested news with raw feeds from Baghdad and Boston and Beijing. You can learn more about how Americans live just by looking at the backgrounds of YouTube videos—those rumpled bedrooms and toy-strewn basement rec rooms—than you could from 1,000 hours of network television.

And we didn't just watch, we also worked. Like crazy. We made Facebook profiles and Second Life avatars and reviewed books at Amazon and recorded podcasts. We blogged about our candidates losing and wrote songs about getting dumped. We camcordered bombing runs and built open-source software.

America loves its solitary geniuses—its Einsteins, its Edisons, its Jobses—but those lonely dreamers may have to learn to play with others. Car companies are running open design contests. Reuters is carrying blog postings alongside its regular news feed. Microsoft is working overtime to fend off user-created Linux. We're looking at an explosion of productivity and innovation, and it's just getting started, as millions of minds that would otherwise have drowned in obscurity get backhauled into the global intellectual economy.

Who are these people? Seriously, who actually sits down after a long day at work and says, I'm not going to watch Lost tonight. I'm going to turn on my computer and make a movie starring my pet iguana? I'm going to mash up 50 Cent's vocals with Queen's instrumentals? I'm going to blog about my state of mind or the state of the nation or the steak-frites at the new bistro down the street? Who has that time and that energy and that passion?

The answer is, you do. And for seizing the reins of the global media, for founding and framing the new digital democracy, for working for nothing and beating the pros at their own game, TIME's Person of the Year for 2006 is you.

Sure, it's a mistake to romanticize all this any more than is strictly necessary. Web 2.0 harnesses the stupidity of crowds as well as its wisdom. Some of the comments on YouTube make you weep for the future of humanity just for the spelling alone, never mind the obscenity and the naked hatred.

But that's what makes all this interesting. Web 2.0 is a massive social experiment, and like any experiment worth trying, it could fail. There's no road map for how an organism that's not a bacterium lives and works together on this planet in numbers in excess of 6 billion. But 2006 gave us some ideas. This is an opportunity to build a new kind of international understanding, not politician to politician, great man to great man, but citizen to citizen, person to person. It's a chance for people to look at a computer screen and really, genuinely wonder who's out there looking back at them. Go on. Tell us you're not just a little bit curious.

By LEV GROSSMAN

ในโลกยุคปัจจุบันนี้ เรามีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของสิ่งต่างๆ ด้วยกันทุกคน เป็นแรงผลักดันกันและกัน ... ความคิดเห็น การสละเวลามานั่งคิด นั่งทำอะไร มันก็น่าชื่นชมทั้งนั้นแหละ ...เราก็เห็นปรากฏการณ์เหล่านี้อยู่บ่อยๆ อย่างประเด็นนี้เราก็เห็นในหลายๆ Blog ... แต่วันนี้มันทำให้เรารู้สึกมากเป็นพิเศษ ... เราก็เลยชื่นชมน่ะ .. : ) .... You're rock! ค่ะ ...

โดย: yourstarlight (yourstarlight ) 18 กุมภาพันธ์ 2550 19:47:25 น

 

โดย: Serendipity_t 19 กุมภาพันธ์ 2550 22:25:06 น.  

 


ขอบคุณค๊า ... Serennn ...

ปล.ยินดีที่ได้รู้จักคุณ Choueang_K และคุณเพื่อนๆ คนอื่นๆ ด้วยนะคะ ... ว่างๆ ก็ไป Drink ที่ Blog เอ๊ย...ม่ายช่าย ... ไปคุยกันนะคะ ...

 

โดย: yourstarlight IP: 203.188.37.239 20 กุมภาพันธ์ 2550 0:08:08 น.  

 


อ่าน ๆ ดู ๆ แล้วก็น่ากัวนะค่ะ

แต่คนหมู่มาก มักไม่ค่อยให้ความสนใจ ต้องรอให้เกิดก่อนค่อยกระตือรือร้นเนอะ

ในฐานะประชากรโลกตัวเล็ก ๆ คนนึง ทำได้แค่ช่วยกันคนละเล็กละน้อย

รับผิดชอบในส่วนที่เป็นของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอค่ะ เริ่มจากที่ตัวเราก่อน ช่วยกัน ๆ ค่ะ

คุณต่ายดูแลสุขภาพนะค่ะ คิดถึงจ้า

 

โดย: NinG_CDC 20 กุมภาพันธ์ 2550 11:20:13 น.  

 

หายป่วยแล้วจะมาช่วยใหม่นะคะคุณต่าย



ปล.อยากให้โลกสวยงาม

 

โดย: azamiya 20 กุมภาพันธ์ 2550 11:21:27 น.  

 

ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ อยากดูจังเลย
แต่ติดตามข่าวคราวภาวะโลกร้อนมาตลอด
ทุกๆชาติตระหนักและกำลังหาทางร่วมกันแก้ไขนะคะ
รู้สึกมันน่ากลัวจัง และมันจะผลกระทบต่อโลกของเราในอนาคตแน่ๆ

ตอนนี้วิธีที่คนที่ตัวเล็กๆ สมองเล็กๆอย่างตะกร้าที่จะช่วยได้
ก็คงเป็นวิธีประหยัดพลังงานอ่ะค่ะ เปิดแอร์แค่ช่วงเวลานอน
ไฟดวงไหน ห้องไหนที่ยังไม่ได้ใช้ก็ปิดซะ

แล้วที่บ้านก็ปลูกต้นไม้ค่ะ มะม่วง ขนุน มะยม พริก เอิ๊กกส์

คงช่วยโลกได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

//บทความที่เขียนดีมากเลยค่ะวันนี้ ....

 

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว 20 กุมภาพันธ์ 2550 13:25:32 น.  

 

ดู clip ข้างบนได้แค่ 23 วินาทีเอง
...
จิงจิง มี 4 นาทีอ่ะ
...
...
อยู่นี่น๊า
...
...

 

โดย: Serendipity_t IP: 203.148.239.199 20 กุมภาพันธ์ 2550 15:10:28 น.  

 


หนูก็ร้อนเหมือนกันคร๊าพี่ต่าย
อยากแก้ผ้าโดดน้ำจังเรย พี่ต่ายจะไปกะหนูไหมคะ
ถ้า อยากไปก็กระโดดขึ้นโลมาเลยค่า
หนูจะพาดำน้ำให้ชื่นจาย








เน็ตหนูมันอืดกดยังไงก็ไม่เล่นซ๊ากที เรยมองไม่เห็นอะไร
ยังไงพี่ต่ายช่ายส่งเอ็มร้อยมาให้ที
เผื่อมันจะมีแรงขึ้นมาจั๊กกะนิ๊ด

 

โดย: maxpal 20 กุมภาพันธ์ 2550 16:00:29 น.  

 

คุณ Serendi... เห็นป่าวว่าคุณ Yourstar...มาเบรคการเป็น Powerpuff girl ของเราซะแล้ว ดับความฝันการเป็นสาว(เหลือ)น้อยพิทักษ์โลกของเราซะงั้น

แถมเสนอให้เรา 3 คน เป็น Charlie's Angles อีกแน่ะ (ว่าแต่ว่า ใคระเป็นคนไหนล่ะ...)

ทีนี้เป็นการเป็นงานละนะ
ชื่นชมบล็อกนี้จัง
ในที่สุดถ้ามีคนเริ่ม จากหนึ่งจะเป็นสอง เป็นสามเป็นสี่ต่อไปไม่สิ้นสุด และเมื่อนั้น โลกที่เราร่วมกันรับผิดชอบก็จะฟื้นคืนชีพในที่สุด

เราปรบมือให้...ตั้งนานแล้ว

 

โดย: ชิงดวง 20 กุมภาพันธ์ 2550 20:28:15 น.  

 


Serennnn ... คะ .... ทุกคนนน ... อยู่ๆ มันก็ไม่ available แล้ววอ่ะ

This video is no longer available due to a copyright claim by Paramount Pictures Corporation

Paramount Pictures ทำไมเงี๊ยยยะ ... ฮื่อ ...

 

โดย: yourstarlight IP: 203.156.44.5 21 กุมภาพันธ์ 2550 12:08:55 น.  

 

อันไหนเหรอคะ อันแรกเหรอคะ แง่มแง่ม
เอางี้ได้มั้ยคะ
...
ขอที่อยู่หลังไมค์ เด๋วจัดส่ง via mailman ให้อ่ะค่ะ
...
เต็มเต็มเรื่องเลย

 

โดย: Serendipity_t 21 กุมภาพันธ์ 2550 12:14:49 น.  

 



เรามีประชุมวันนี้บ่าย 2 น่ะค่ะ ...เรากะว่าจะยกหน้านี้ของ Seren ... Show ซะหน่อย ... จ๋อยเลย ...มันเป็นตัวอย่าง Trailer ด้านปลุกจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก เราพยายาม Search หา Trailer เรื่องนี้อยู่ ... ส่วน Link เพลง เรากะว่าจะเปิดไปด้วยตอนพูดประเด็น ... กันมันตีกันก็เลยคิดว่าแยกดีกว่า ... ฮื่ออออ..อ.อ.อ..

 

โดย: yourstarlight IP: 203.156.44.5 21 กุมภาพันธ์ 2550 12:28:42 น.  

 

อันนี้ได้มั้ยคะ //www.climatecrisis.net/trailer/

 

โดย: Serendipity_t 21 กุมภาพันธ์ 2550 12:31:19 น.  

 



ได้ค่ะ ... ขอบคุณมากกกกนะคะ ... : ) ... ไปเข้าเครื่องคั้นน้ำส้มก่อนนะคะ....

 

โดย: yourstarlight IP: 203.156.44.5 21 กุมภาพันธ์ 2550 13:18:20 น.  

 

อ่านแล้ว...อยากจะดูหนังเรื่อง an inconvenient truth เลยนะคะเนี่ย

ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องดีๆ มาเผยแพร่

น่าสนใจมากค่ะ

 

โดย: Eternity IP: 203.113.33.11 22 กุมภาพันธ์ 2550 18:48:39 น.  

 

^
^
น้องหนึ่ง เด๋วพี่จัดให้ อิอิ
และเด๋วฝากน้องแอมไปให้นะจ๊ะ

 

โดย: P'Tye IP: 203.148.239.199 23 กุมภาพันธ์ 2550 9:13:15 น.  

 


ไปขออนุญาตคุณ law of nature เอา link นี้มาแปะที่ blog
เอาไว้ให้เพื่อนเพื่อนที่สนใจ ว่านักวิทยาศาสตร์ท่านช่างคิดกันเพียงใด
...
...
5 วิธีที่อาจแก้ไขปัญหาโลกร้อนขึ้น (FIVE WAYS TO SAVE THE WORLD)
...
ช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุกันดีกว่าค่ะ

 

โดย: จขบ.ค่ะ IP: 203.148.239.199 23 กุมภาพันธ์ 2550 13:14:27 น.  

 

นั่งอ่านอยู่นานมาก แต่ก็อ่านจนจบทุกข้อความเห็น
ตอนแรกว่าจะเอา 10 ข้อมาแปะให้ ( ผมแปะไปสองบล๊อกแล้วครับ )
แต่พบว่ามีคำแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เลยไม่ต้องเอามาเพิ่มเติม

วันหลัง ทำบล๊อกเรื่องนี้บ้างดีกว่า

ปอลอ
คลิปยังไม่ได้ดูนะครับ พอดีตอนนี้เน็ทช้า
วันที่ใช้เน็ทเร็วจะเข้ามาดูอีกทีครับ อยากดูซูซี่หม่ำไอศครีม

 

โดย: พลทหารไรอัน 23 กุมภาพันธ์ 2550 16:32:37 น.  

 

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

เก่งจังที่ตามหาบล้อกเรื่องนี้ได้ เพราะที่บล้อกน้องๆเรียกว่าเขาวงกตอิอิ

ถ้าหลายคนช่วยๆกัน โลกของเราจะน่าอยู่เพื่อ

Shall I add your blog?...

 

โดย: law of nature 23 กุมภาพันธ์ 2550 17:55:18 น.  

 

ขอบคุณมากนะคะพี่ต่าย

แต่ไม่อยากรบกวนพี่ต่ายเลยค่ะ

Bonne nuit นะคะพี่ต่าย

 

โดย: Eternity IP: 203.113.33.6 23 กุมภาพันธ์ 2550 22:47:28 น.  

 

^
^
มะต้องเกรงใจน๊า
...
หรืออยากจะยืมของน้องแอม ...ก็ได้น๊า
แต่มะรู้ว่า น้องแอมจะให้ยืมป้าว อ่ะจิ

 

โดย: Serendipity_t 23 กุมภาพันธ์ 2550 22:57:19 น.  

 

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะพี่ต่าย

ถ้ายืมแอม..แล้วแอมไม่ให้หนึ่งยืม

ยังงั้นถ้าพี่ต่ายฝากแอมมาให้..แอมคงไม่เอาให้หนึ่งหรอกมั้งคะ

ท่าทางจะอดดูจริงๆ ล่ะค่ะเนี่ย

ฝันดีนะคะพี่ต่าย

 

โดย: Eternity IP: 203.113.33.13 26 กุมภาพันธ์ 2550 23:06:03 น.  

 

ได้ดูแล้วครับ global waffle ของนู๋ซูซี่
ส่วนอีกอันที่เป็น how to ประกอบเพลงของ Melissa Etheridge ( ที่เพิ่งได้ออสการ์ไปเมื่อวาน )
วันนี้รู้สึกว่าฟังเพลงนี้เพราะขึ้นมากๆ เลยครับ
ผมชอบประโยคนี้อะครับ
vote for leaders who pledge to solve this crisis
55555+

 

โดย: พลทหารไรอัน 27 กุมภาพันธ์ 2550 14:52:01 น.  

 

เมื่อวานดูกะน้องน้อง อีกรอบแว๊วว
ดูไปพากย์ไป น้องบอกว่า อย่างกะเรียนหนังสือแน่ะ

 

โดย: Serendipity_t 18 มีนาคม 2550 11:28:02 น.  

 

ไปขออนุญาตคุณ นิ้วกลม เอา link เกี่ยวกับกลอนเรื่อง โลกร้อน มาแปะที่ blog
...
เผื่อเพื่อนเพื่อนสนใจ : )
...
0001: โลก ไหม้ ร้อน

 

โดย: Serendipity_t 6 เมษายน 2550 17:04:41 น.  

 

^
^
นิ้วกลม เปลี่ยนชื่อเป็น 0001: กลอนแก้ร้อน แล้วค่ะ
เด๋วจะงงกัน

 

โดย: Serendipity_t 8 เมษายน 2550 13:10:20 น.  

 

ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ขอบคุณพี่แป๋วที่ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่อีกคน

................................

เรื่องนี้นั่งดู
ชอบ ตกใจ กับเนื้อหาในหนัง
แต่ก็เคลือบแคลงไว้ในเรื่องของ "การเมือง"
ที่ซ่อนอยู่ในหนัง

ทุนของการ เอา หรือ ไม่เอา ในเรื่องของการกลับมามอง
เรื่องของ "ภาวะโลกร้อน" คงไม่เท่ากัน
ระหว่างบุชกับกอร์
แต่ผลกระทบก็เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่างที่ผมเห็นชัดที่สุด ก็คือ สภาพอากาศในเชียงใหม่
ที่เปลี่ยนแปลงไปมาก และยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ใช่...เราไม่ควรกอบโกยทำลาย
แล้วก็ตายจากไป ทิ้งความเน่าเหม็นไว้ให้ลูกหลาน
เราทำในส่วนที่เราทำได้ เอาเปรียบโลกให้น้อยที่สุด
ในขณะที่คนอีกมากมายไม่เคยหยุดและหันมามอง
หรือทำอะไรเลย

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 11 เมษายน 2550 8:05:15 น.  

 

อิอิ ไม่ใช่ เดจาวูนะคะ
blog ยังไม่ว่างอัพเลยจ้า เหนื่อยอ่ะ แล้วก็เย็นนี้มีเลี้ยงอีก
...
...
บ้านเราร้อนมากกกกก
เลยเอาหน้านี้มาประกอบความรู้เรื่องโลกร้อนจ้า
เผื่อจะมีเพื่อนคนที่ยังไม่ได้อ่านกัน
...
ตรงคอมเม้นท์ ก็มีรายละเอียดนะคะ
...
...
แต่ถ้าเครียดเกินไป ก็ฟังเพลงอย่างเดียวก็ได้ค่ะ

 

โดย: Serendipity_t 25 เมษายน 2550 7:19:13 น.  

 

ส่วนที่ว่างว่างนั้น เป็นเพราะ Clip ของ Youtube ค่ะ
...
คิดว่า คงจะไม่ขอยืม link เค้ามาใช้อีกแล้ว
...
และก็ตอนนี้เลิกใช้ Google ชั่วคราว
Yahoo ก็สามารถนี่นา
...


 

 

โดย: Serendipity_t 25 เมษายน 2550 7:38:45 น.  

 

แวะมาหา ทางนี้ก็ชักร้อนเหมือนกันแล้วล่ะ

ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้สักที ยืมแล้วคืนแล้ว ต้องไปยืมใหม่อีกที เดี๋ยวคงจะได้ดู...

ดูจบแล้วจะแวะมาคุยใหม่จ้ะ...

 

โดย: SevenDaffodils 25 เมษายน 2550 8:20:11 น.  

 

บังเอิญจัง
เดี๋ยวในวันสองวันนี้ หนูต้องเขียนแนะนำหนังสือเรื่องนี้อ่ะค่ะ
พี่ต่ายซื้อมาหรือยังคะของสนพ.มติชน (เจ้าเดียวกะว้าวุ่นเลย อิอิ)
จะได้ยืมมาอ่าน
แหะแหะ

วันนี้ไม่ว่างใช่ไหมคะ
แอมก็ไม่ว่างค่ะ
55+
^^

 

โดย: morning am^^ IP: 58.8.115.222 25 เมษายน 2550 8:49:29 น.  

 

ไม่รู้สิว่าโลกร้อนขึ้นแค่ไหน แต่กุงเทบร้อนมั่กๆ จาบ้าตายอยู่แล้ว คุณสบายดีนะ ไม่ได้เจอกันนานเชียว ยังคิดถึงอยู่นะจ๊ะ

 

โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม 25 เมษายน 2550 9:19:08 น.  

 

ธารน้ำแข็ง ละลายทุกๆปีทั้งสันทั้งหดลงไปเรื่อยๆ

โลกร้อนมานานแระ

รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าซักวันเราต้องโดนธรรมชาติเอาคืนแน่ๆ

เพราะ เราเป็นคนนึงที่ยังใช้ สเปปรับอากาศ สเปฉีดยาฆ่ายุง

ทำสีผม และเปิดแอร์ ( ก็มานร้องงะ )


..ยังธรรมชาติไม่ละเว้นชีวิตมนุษย์อ่าเราแน่ๆ
รอวันโดนเอาคืนอยู่งะ

 

โดย: รักการ์ตูนทิงทัย 25 เมษายน 2550 16:35:17 น.  

 

ทุกอย่างมาจากการกระทำของมนุษย์เราทั้งนั้นจ้าต่าย

เราคิดไว้ว่า เราจะปลูกต้นไม้สัปดาห์ละต้น ต้นเล็กต้นน้อย ก็ว่าจะปลูก ปีนึงเราจะได้ 52 ต้น 10 ปี 520ต้น แต่ยังไม่ได้ชวนใครเลย ต่ายกลับบ้านแล้วเรามาปลูกกันดีป่ะ

แฮะ ๆ เราขโมย wireless ข้างบ้านใช้น่ะ ลมแรงนิ๊ดส์นึง เน็ทเราล่มซะงั๊น เฮ้อออออออออ TOT

good night จ้า)ใช้เผื่อลุง)

 

โดย: varissaporn327 26 เมษายน 2550 0:22:06 น.  

 

ทางนี้คนเขาก้อว่าร้อนกันนะต่าย ร้อนเร็วกว่าปกติ

แถมเมื่อวานไปปิคนิคบนเขามาอีกแล้วแหละ เห็นมีแมลงวันด้วยนะ (คราวที่แล้วไม่ยักเห็นหล่ะ) เพื่อนยังบอกเลยว่า เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ยังไม่มีเลยนะ แสดงว่าโลกเรามลพิษแย่ลง

ปล. ลืมเอากล้องไปอีกแย้วล่ะ

 

โดย: vanillaorchid 26 เมษายน 2550 13:10:25 น.  

 

ขอบคุณนะค่ะน้องต่ายพี่ได้รับของรางวัลแล้ว

ตอนแรกเห็นกล่องพัสดุเข้าใจว่า น้องต่ายกะน้องนกตกลงกันไม่ได้เรื่องสมบัติ

เลยคืนพี่ดีก่า

ส่วนเรื่องหนังพี่ยังไม่ได้ดูค่ะ

น้องต่ายจะเอามาให้พี่ดูวันอาทิตย์นี้ก็ได้นะค่ะ

ลืมแจ้งเวลาช่วงเที่ยงวันอาทิตย์นะค่ะถ้าว่างมาเจอกัน

 

โดย: Sugar and spice 26 เมษายน 2550 15:47:32 น.  

 

แวะมาหวัดดีจ้า ท่าทางงานจะยุ่งส่งท้ายเนาะ ต่ายสู้ๆๆๆ

 

โดย: Pattylala 26 เมษายน 2550 19:36:04 น.  

 

ขอบคุณมากสำหรับเนื้อหาสาระดี ๆ อย่างนี้ พอดีขณะนี้กำลังเรียนเรื่อง โลกปัจจุบัน อาจารย์ประจำวิชาให้ไปหาหนังเรื่องนี้มาดู แต่ไปหาดูแล้วค่ะ หายากมาก จนมาเจอเว็บนี้ ขอได้โปรดแนะนำด้วยค่ะว่าจะหาดูได้ที่ไหน ขอบคุณมากค่ะ patsachol_boonma@hotmail.com

 

โดย: พรรษชล IP: 203.146.57.117 10 มิถุนายน 2550 9:39:21 น.  

 

^
^
รบกวนเช็ค เมล์ ด้วยนะคะ

 

โดย: Serendipity_t 10 มิถุนายน 2550 20:05:04 น.  

 

ขอรบกวนด้วยคนน่ะ

คือเรากำลังจะทำโปรเจ็คจบเกี่ยวกับ"ภาวะโลกร้อน"
เรายังหาดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้เลย พอจะแนะนำได้ไหม
และก็อยากพูดคุยความคิดเห็นเรื่องนี้กับเพื่อนๆด้วย
ยังไงก็เมลมาคุยกันน่ะ vo_on@hotmail.com

ที่เลือกทำโปรเจ็คจบเรื่องนี้เพราะ เราแคร์โลกนี้จริงๆ...

 

โดย: วุ้น... IP: 203.158.118.15 20 มิถุนายน 2550 13:38:15 น.  

 

Signal from Scientists …From Forward Mail
สัญญาณเตือนภยันตราย ที่น่าสังเกต และให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือ

สิ่งที่มีการกล่าวออกมาจากปากของท่านอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่ได้พูดคุยออกอากาศในรายการ " โลกสวยด้วยมือเรา" กับ คุณสัญญา คุณากร เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2007 หรือ วันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 เวลา 20.47 น. ณ สถานีโทรทัศน์สีช่อง 5 กองทัพบก ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า ผู้ชม และผู้ฟังส่วนใหญ่ มักจะชมและฟังแล้ว ก็ผ่านเลยไป หาได้ใส่ใจในเนื้อหาสาระมากนัก แต่เนื่องจาก ในช่วงที่ฟัง ผู้เขียนรู้สึกขนลุกและเกิดอาการสั่นสะท้าน เหมือนมีสัญญาณเตือนว่าต้องฟังอย่างตั้งใจอย่าฟังผ่านๆ ดังนั้น ผู้เขียนจึงตั้งใจฟังอย่างจรดจ่อ ทำให้เก็บเนื้อหามาเล่าสู่ต่อเพื่อนสมาชิกผู้สนใจได้ว่า

- ภยันอันตรายที่ร้ายแรง ที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา พูดกับคุณสัญญา คุณากรว่า " จำได้ไหม เมื่อ 2 ปีก่อน ผมเคยพูดให้คุณสัญญาฯ ทราบว่า ภายใน 12 ปีข้างหน้า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 ปี ก็เหลืออีกเพียง 10 ปี ( ปีนี้ 2550 ก็น่าจะ หมายถึง ปี 2560 – ผู้เขียน) ผมก็ขอยืนยันสิ่งที่ได้เคยบอกกล่าวให้คุณสัญญาฯ ทราบแล้วนั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง จะมีเหตุการณ์ที่เป็นภยันตรายร้ายแรงเกิดขึ้น เพียงแต่เกรงว่า ระยะเวลาอาจร่นลงมาเหลือเพียง 7 ปี ส่วนปีที่ 10 นับจากนี้ไป ก็อาจจะเป็นปีที่มีความสงบสุข ปีที่มีแต่ความสมานฉันท์ ปีที่เลิกทะเลาะกันแล้ว เพราะผู้คนในช่วงนั้น เหลืออยู่น้อยมาก ไม่มีเวลาที่จะทะเลาะกันแล้ว แต่ต้องอยู่ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน"

- ที่ ดร.อาจองฯ กล่าวเช่นนั้น ดร.อาจองฯ ขยายความให้ฟังว่า " จากปัญหาโลกร้อน ปริมาณน้ำแข็งมีการละลายมากขึ้น และในที่สุดก็ไหลลงทะเล และมหาสมุทร ซึ่งพื้นที่ทะเล และมหาสมุทรแม้จะมีมากกว่าส่วนที่เป็นพื้นดิน แต่เผอิญ น้ำทะเลทั้งหมดมิได้มีปริมาณที่เท่ากันทั้งโลก แต่ไปถ่วงด้านหนึ่งมากขึ้น โลกอีกด้านหนึ่งมีน้อยกว่า เมื่อน้ำทะเลไปถ่วงด้านหนึ่งมากขึ้น ก็ เกิดสภาวะไม่สมดุล เป็นเหตุให้โลกแกว่งตัวผิดปกติ มีผลทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก แผ่นเปลือกโลกปรับตัวครั้งใด ก็จะเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนั้นๆ แผ่นเปลือกโลกจะมีรอยร้าวมากขึ้น ขอให้ทุกท่านสังเกตเหตุการณ์ของการเกิดแผ่นดินไหว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณมากขึ้น และถี่ขึ้นในทุกพื้นที่ของโลก รวมทั้งกระทบมาสู่ประเทศไทย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในลักษณะที่ถี่มากขึ้นเช่นนี้ (ในช่วงต้นปี 2550 หากจำไม่ผิดมีการเกิดแผ่นดินไหวแถวแม่ริม จ.เชียงใหม่ ประมาณ 60 ครั้ง – ผู้เขียน) การเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบให้แกนขั้วโลกมีการเปลี่ยนแปลง หากขั้วแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงกระทันหันหายนะครั้งใหญ่ของโลกจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ( น่าจะเกิดสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเกินความคาดคิดของนักวิทยาศาสตร์กายภาพ ดร.อาจองฯ เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกเป็นผู้ได้รับการประกาศเกียรติคุณในหอเกียรติยศขององค์การนาซ่าว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นชั้นนำของโลกคนสำคัญคนหนึ่ง ดร.อาจองฯ นอกจากการเป็นนักวิทยาศาสตร์กายภาพแล้ว ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิตด้วย โดยเป็นศิษย์เอกคนสำคัญของ " ท่านสัตยาไสบาบา" ผู้มีพลังฌานสมาบัติแก่กล้า ที่สหรัฐอเมริกายอมรับว่ามีพลังเหนือธรรมชาติในตัวท่านโดยเคยทดลองอดอาหาร / อดน้ำ ให้นักวิทยาศาสตร์อเมริกันชม ได้ถึง 17 วัน - ผู้เขียน)

- ในปัจจุบันปริมาณน้ำแข็งที่ภูเขาหิมาลัยได้มีการละลายไปมาก และปริมาณน้ำแข็งก็จะเหลือน้อยลง ซึ่งน้ำแข็งที่ภูเขาหิมาลัย มีผลต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง เมื่อปริมาณน้ำแข็งมีน้อยลง ปริมาณน้ำแข็งที่จะละลายเป็นน้ำในอนาคตก็จะมีน้อยลง ซึ่งในที่สุด ก็จะเกิดปัญหากระทบกระทั่งของประเทศต่างๆ ที่ต้องอาศัยน้ำในแม่น้ำโขงจะต้องเกิดการพิพาทแย่งน้ำกัน ในที่สุด แม่น้ำโขงจะเหือดแห้งลง

- องค์การสหประชาชาติ ได้ตระหนักในปัญหานี้ ได้มีหนังสือแจ้งมาถึงประเทศไทยให้ตระหนักในปัญหาที่จะเกิดในอนาคต ที่จะเกิดกรณีพิพาทแย่งแหล่งน้ำจืดกัน และจะต้องเร่งพัฒนาจิตใจในการมีคุณธรรม มีความเข้าใจในธรรมชาติที่จะมีปัญหาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดย ดร.อาจองฯ ได้เริ่มใช้ " โรงเรียนสัตยาไส" ที่ลพบุรี
เป็นศูนย์พัฒนาจิตใจเด็กรุ่นใหม่ ที่จะเติบใหญ่เป็นผู้นำประเทศ เน้นพัฒนาการด้านจิตใจ และความมีคุณธรรมเป็นสำคัญ ซึ่งหวังว่าจะมีส่วนช่วยให้สังคม
และประเทศชาติ มีความสงบและสันติเร็วขึ้นหลังจากเกิดมหันตภัยขึ้นในช่วงไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า ( ไม่เกินปี 2560 – ผู้เขียน)

ก่อนหน้านี้ ประมาณ 1 สัปดาห์ เผอิญได้ดูรายการโทรทัศน์ ที่คุณสัญญา คุณากร สนทนากับ ดร.สมิทธิ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ( อาจจะเป็นรายการ " โลกสวยด้วยมือเรา" ก็ได้ เพราะอยู่ในช่วงวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลาประมาณใกล้ๆ 23.00 น.)

- สิ่งที่ได้เห็นคือ ภาพแผนที่ประเทศไทย ที่ ดร.สมิทธิ์ฯ แจ้งว่า เป็นผู้ระบายสีด้วยตัวเอง ถึงพื้นที่น้ำท่วมถาวร ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ถ้าทุกคนในโลกใบนี้ ไม่ตระหนักปัญหาโลกร้อน ไม่ตั้งใจที่จะช่วยลดปริมาณการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในชั้นบรรยากาศของโลก ทุกคนยังคงเห็นแก่ตัว เป็นนักบริโภคนิยม ไม่มีการเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ นั่นคือ พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานคร นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สระบุรี ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ( ประมาณการด้วยสายตาว่ามีจังหวัดใดบ้างตามแผนที่ ที่คุณสัญญา คุณากร แสดงให้ดูทางโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่ง ก็น่าจะเป็นพื้นที่ที่จมน้ำถาวร หรือเป็นพื้นที่ทะเลในอนาคต)

- สำหรับ จังหวัดต่างๆ ริมทะเลทุกจังหวัดของประเทศไทย จะเป็นพื้นที่น้ำท่วมชั่วคราว ช่วงน้ำทะเลขึ้น ก็จะท่วม น้ำทะเลลด ก็จะไม่ท่วม ที่ไม่ท่วมเลยนั้นไม่มี ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันปริมาณน้ำในทะเลมีมากกว่าอดีตนั่นเอง นั่นคือ ปรากฏการณ์ที่จะได้เห็นในช่วง 10 ปีข้างหน้า ถ้าทุกอย่างดำเนินการเหมือนปกติเช่นทุกวันนี้

สำหรับนักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน เช่น ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา จะพูดจาระมัดระวังมากหน่อย เพราะมีตำแหน่งเป็นข้าราชการประจำในขณะนี้ ได้แสดงความเห็นในรายการ " โลกสวยด้วยมือเรา" ในวันเสาร์ที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 ว่า

- ปัจจุบันนี้ กระแสน้ำร้อน – น้ำเย็น ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก

- ปรากฏว่าในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น มีพายุเข้ามาทางอ่าวไทยมากขึ้น ความแห้งแล้งมีมากขึ้น บางพื้นที่มีฝนตกมากจนน้ำท่วม บางพื้นที่มีทั้งแห้งแล้ง และน้ำท่วม ในปีเดียวกัน มีแผ่นดินถล่ม โคลนถล่มมากขึ้น ถี่ขึ้น

- ในอดีต ฝนตกหนัก จะเห็น 1,000 ปีสักครั้ง แต่จากนี้ไป จะเห็นทุกๆ 3 ปี ที่มีฝนตกหนักมาก ทำให้เกิดอุทกภัย และโคลนถล่ม เป็นภัยร้ายแรงที่ต้องระวังมากขึ้น
- ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ลอยไปสู่ชั้นบรรยากาศของโลก จะฝังตัวบริเวณนั้น ประมาณ 50 – 200 ปี ถือเป็นหายนะของมนุษยชาติในอนาคต


ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
- ได้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันมีสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติทางทะเลให้เห็นหลายประการ เช่น ปะการังมีการตายมากอย่างผิดสังเกต น้ำทะเลกัดเซาะชายตลิ่งมากขึ้น ในปัจจุบันบางพื้นที่ บางส่วนของ จ.สมุทรปราการ บางส่วนของเขตบางขุนเทียน ใน กทม.พื้นดินถูกกลืนหาย กลายเป็นบริเวณน้ำทะเลถาวร
- มีพายุขึ้นฝั่งมากขึ้น คลื่นลมแรงมากขึ้น มีอุทกภัยมากขึ้น
- โลกก็มีชีวิต มีการเคลื่อนไหว เมื่อมนุษย์มีการกระทำที่เป็นการทำลายธรรมชาติบนโลก โลกก็จะมีการโต้ตอบ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการตายทั้งเป็น เพราะความวิบัตินี้จะมีผลถึงลูกหลานของเรา
- เมื่อเดือนที่แล้ว มิถุนายน 2550 มีแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ขั้วโลกใต้แตกลงมา ซึ่งเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ เท่ากับมลรัฐแคลิฟอเนียร์ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึง ปัญหาอุณหภูมิของโลกได้ร้อนเพิ่มมากขึ้น
- ตำราต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ ที่เคยอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถพยากรณ์เหตุการณ์เช่นเดิมได้อีก สิ่งที่ปู่ย่าตายาย เคยบอกเล่าให้ฟังไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เดิม เป็นความรู้ที่ไม่ถูกต้องมีมากขึ้น ในช่วงนี้ มีสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ ต้องเรียนรู้ปรากฏการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมาก จะประมาทกับปรากฏการณ์ต่างๆ มิได้ ยุคความหรรษากำลังจะหมดไป ( ยุคหฤโหดกำลังจะเข้ามาแทนที่ - ผู้เขียน)


รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ภาคธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ให้ความจริงว่า ปัจจุบันบริเวณอ่าวไทยตอนบน น้ำทะเลท่วมลึกเข้ามาในผืนแผ่นดิน ปีละ 2 – 4 เมตร และท่วมลึกเข้ามาในแผ่นดินเรื่อยๆ
- บริเวณแถวหมู่บ้านคลองด่าน และหมู่บ้านขุนสมุทรจีน จ. สมุทรปราการ พื้นดินหายไปในทะเลมากกว่า 180,000 ไร่แล้ว วัดขุนสมุทรจีน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ทั้งๆที่เดิมนั้น วัดขุนสมุทรจีน อยู่บนพื้นดินไม่มีน้ำล้อมรอบ แต่ปัจจุบันล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลแล้ว และทรุดตัวลงจากพื้นดินไปมาก
- หมู่บ้านขุนสมุทรจีน ค่อยๆจมหายไปในน้ำทะเล ทั้งๆที่พื้นดินบริเวณนี้มีโฉนดที่ดิน แต่ไม่มีโอกาสเห็นพื้นดินอีกแล้ว สะพานของกรมโยธาธิการที่เหลืออยู่ ปรากฏว่า ไม่มีหมู่บ้านรองรับ แต่เป็นสะพานที่วิ่งลงไปในทะเล เสาไฟฟ้าอยู่ในทะเล โรงเรียนอยู่ในทะเล แต่อยู่ไกลออกไป โดยไม่เห็นสภาพโรงเรียนอีกต่อไป เพราะจมหายมิดทั้งโรงเรียน สิ่งเหล่านี้ คือ ภาพที่รายการ " โลกสวยด้วยมือเรา" ถ่ายมาออกอากาศที่ช่อง 5 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 ที่ผ่านมา
- ที่ดินบริเวณ จ.สมุทรปราการ มีการทรุดตัวลงเร็วมาก ถึงปีละ 3 - 5 เซนติเมตร เป็นภาวะที่น่าจะอยู่ในระดับวิกฤติที่คนไทยต้องตื่นตัวได้แล้ว


ผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ( นายอภิรักษ์ฯ) ได้ให้ข้อมูลในรายการ " โลกสวยด้วยมือเรา" ในวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 อีกคนหนึ่ง
- ณ ปัจจุบัน บริเวณชายทะเลบางขุนเทียน มีน้ำทะเล รุกล้ำเข้ามาในบริเวณซึ่งเป็นที่ดินถึงปีละ 5 เมตร และคงสภาพท่วมถาวรในสภาพเช่นนั้น
- เดิม ไข้เลือดออก จะมีการระบาด 2 – 3 ปีต่อครั้ง แต่ปัจจุบันมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกทุกปี
- ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ประเทศไทยปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ 100 % เป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปล่อยจากบริเวณผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครถึง 40 % เป็นเรื่องที่คนใน กทม. ทุกคนต้องทราบถึงการที่ทุกคนมีส่วนทำลายชั้นบรรยากาศของโลกในปัจจุบัน
- ทุกวันที่ 9 ของทุกเดือน ขอความร่วมมือจากทุกท่านร่วมใจกันปิดไฟทุกดวง คนละ 15 นาทีในเวลา 19.00 น. หรือ เปิดเพียง 1 ดวงในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อจะได้มีแสงสว่างพอจะเห็นสิ่งต่างๆ และร่วมกันปิดเครื่องปรับอากาศ คนละ 15 นาทีในช่วงดังกล่าวด้วย
- เครื่องปรับอากาศทุกเครื่อง จะต้องตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 oC ไม่ควรตั้งต่ำกว่า 25 oC
- หากที่ใดยังใช้หลอดไฟที่ใช้ไส้ ต้องรีบเปลี่ยนหลอดไฟเป็นชนิดหลอดตะเกียบ ซึ่งจะลดกระแสไฟฟ้าได้มาก อีกทั้ง หลอดไส้ให้แสงสว่างเพียง 10 % แต่ให้ความร้อนถึง 90 % ทุกคนจึงควรร่วมใจกันลดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า และช่วยกันลดอุณหภูมิความร้อนของโลก โดยไม่ใช้หลอดไส้อีกต่อไป
- ทุกคนควรถอดปลั๊กไฟทุกครั้งที่ไม่ใช้ ไม่ควรเสียบปลั๊กแช่ไว้ แม้มิได้เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่การเสียบปลั๊กแช่ก็สูญเสียกระแสไฟฟ้าเช่นกัน
- หากเป็นไปได้ จะต้องพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถส่วนตัว มาใช้รถสาธารณะ หรือรถไฟฟ้ามากขึ้น
- 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีปริมาณน้ำท่วมมากขึ้น ฝนตกมากขึ้น พายุแรงมากขึ้น ( และในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2550 ก็ปรากฏว่ามีไฟป่าเผาผลาญถึง 7 มลรัฐในสหรัฐอเมริกา เช่น ที่ยูท่าห์ ไฟป่าทำลายป่าไม้ไปมากกว่า 700,000 ไร่ ในประเทศจีน ก็มีอุทกภัยใหญ่ ใน 7 มณฑล บ้านเรือนถูกทำลายมากกว่า 270,000 หลัง เป็นต้น เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนฯ ให้ทราบถึงมหันตภัยในอนาคต – ผู้เขียน)
- จากข้อมูลความเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นสิ่งที่ทุกคนเพียงแต่ " รู้" ไม่เพียงพอ แต่จะต้อง " รู้ และเข้าใจ ตระหนัก และจูงใจ" นั่นคือ " ทุกคนจะต้องรู้ถึงสภาพปัญหาที่มีการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจสิ่งที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนั้น เกิดจากการกระทำของพวกเราทุกคน ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำลายชั้นบรรยากาศของโลก ต้องตระหนักว่าเป็นภัยที่กำลังจะมาถึงตัวเรา ครอบครัวของเรา ภริยา / สามีของเรา บิดามารดาของเรา ลูกหลานของเรา ชุมชน สังคม ประเทศชาติ รวมทั้งโลกของเราด้วย"
- ทุกคนจะต้องเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง แต่ " ต้องลงมือทำทันที ที่มีโอกาส" โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเองก่อน
- หากไม่มีการเกิดระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ หรือไม่มีอุกกาบาตใหญ่มาชนโลกจนเกิดฝุ่นปกคลุมบรรยากาศโลก โลกก็จะเพิ่มความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
- แต่ ถ้ามีการเกิดระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ หรือมีอุกกาบาตใหญ่วิ่งมาชนโลก ย่อมทำให้เกิดฝุ่นปกคลุมบรรยากาศของโลก ทำให้แดดส่องลงมาไม่ถึงพื้นผิวโลก พื้นที่ส่วนนั้นๆ ก็จะกลับกลายเป็นยุคน้ำแข็งได้
- สิ่งที่แน่นอนที่สุด คือ ความไม่แน่นอน
- ให้ระวังสักนิด ประเทศไทย จะได้พบกับ " สึนามิ" อีกครั้ง แต่สึนามิครั้งนี้จะมีความใหญ่มากกว่า เหตุการณ์เมื่อ 26 ธันวาคม 2547 เพียงแต่จะเกิดเมื่อไรไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัด แต่ภาพนิมิตร " สึนามิ" ในอนาคตในประเทศไทยมีหลายท่านได้เห็นแล้ว แต่ช่วงเวลายังไม่ยืนยัน อยู่ระหว่างปี 2550 – 2560 ค่อนข้างแน่ครับ
- อย่าลืม โปรดแบ่งเวลาบางส่วนของชีวิตท่านในปัจจุบัน
- ไปทำจิตให้สงบ ฝึกการมีสติ และมีสมาธิให้มากขึ้น
- ฝึกฝนการรักษาศีล 5 อย่างจริงจัง
- ฝึกทำความเข้าใจในโลกธรรม 8 โดยเฉพาะส่วนลบของโลกธรรม 8 คือ การเสื่อมยศ เสื่อมลาภ ถูกนินทา และเป็นทุกข์
- ฝึกความเข้าใจในสามัญญลักษณะ ที่เป็นจริงของโลกว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดกาล ไม่มีสิ่งใดอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอด ไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนที่แน่นอนตลอด ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็แปรเปลี่ยน ในที่สุดก็ดับไปเสมอ
- ฝึกทำความเข้าใจ และตระหนักชัดว่า เมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น และแล้วก็ย่อมต้องมีการแตกดับ ฝึกให้เห็นว่า " ความตาย เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนที่เกิดแล้ว ต้องมีแก่ มีเจ็บ และมีตาย ไม่มีผู้ใดก้าวล่วงได้"
- ทำความเข้าใจว่า " ทรัพย์ทั้งปวง ของรักของหวงทั้งปวง" ไม่มีผู้ใดนำไปใช้ในโลกหน้าได้ สิ่งที่เหลืออยู่ และนำไปได้ในโลกหน้า ก็มีเพียง " บุญกุศล บุญบารมี คุณงามความดี ที่เราสร้างไว้เท่านั้น" โปรดอย่าลืมเป็นอันขาด



 

โดย: Serendipity_t 22 สิงหาคม 2550 19:17:04 น.  

 

วันก่อนไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับโลกร้อนมาสามเล่ม
รวมทั้งสารคดีเล่มเดือนมีนาคม2550 theme โลกร้อน
ชอบเล่มที่ชื่อ โลกร้อน : สิ่งที่เราทำเปลี่ยนแปลงโลกเสมอ
ของสำนักพิมพ์โลกสีเขียว
อ่านง่าย อ่านสนุก
ที่พี่ต่ายเอามาก็คล้ายๆ กันค่ะ
แต่ว่ามีสาระแล้วก็หลากหลายมุมมองดีค่ะ
ต้องช่วยกันเนอะ

ไม่นอนดึกๆๆๆ
แต่ว่าตอนนี้ก็ดึกมากแล้วนะคะ
^^

 

โดย: I am just fine^^ 29 สิงหาคม 2550 23:36:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Serendipity_t
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Serendipity หนึ่งในหนังเรื่องโปรด
ดูไปสามรอบละ... ยังจำมะได้เลย อิอิ

Serendipity(เซอรันดิพ' พิที)
n.โชคในการพบสิ่งที่ต้องการโดยบังเอิญ

"Thanks for here with me,
even though I'm incomplete.
'Coz from I am what I am.
...
U know? I'll do my best.
But,if I don't,that's okay,too."

...
ขอบคุณ คุณพลทหารไรอัน มากนะคะ
สำหรับ head blog อันใหม่ ...
ไม่มีโฆษณาแล้วค่ะ ^^
...


......

จำนวนผู้เข้าชมจ้า








Friends' blogs
[Add Serendipity_t's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.