BlogGang.com : : SEPULTURA_FROM_HELL : ตาดน้ำพราก ตาดสักการะ แห่ง สปป ลาว 13-16 กันยายน 07

ตาดน้ำพราก ตาดสักการะ แห่ง สปป ลาว 13-16 กันยายน 07

หน้าฝน เรื่องท่องเที่ยว คงไม่พ้นเรื่องน้ำๆ

ล่องแก่ง ชมน้ำตก น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกับช่วงน้ำเยอะ

สัปดาห์ก่อน พาไปล่องแก่งมาแล้ว สัปดาห์นี้ จะพาไปชมน้ำตกที่มีความใหญ่โต อลังการมาก

เริ่มจากเย็นวันพุธที่ 12 ได้เวลาขึ้นรถที่นครชัยแอร์

เพิ่งเคยมาใช้บริการครั้งแรก ติดใจนครชัยแอร์ซะแล้ว

แค่ไม่มีการปลุกผู้โดยสารมากินข้าวต้มกลางดึก ผมก็เทใจให้เต็มร้อยแล้วครับ

ขึ้นรถไป โฮสเตท ก็มาเสริฟน้ำผลไม้ กับขนมกรุบทานเล่นก่อนเลย

แล้วซักพักก็มาเสริฟข้าวกล่อง กับน้ำเปล่า

ก่อนถึงจุดหมายปลายทาง ก็เสริฟขนมปัง กับนมกล่อง

บริการดีกว่าสายการบินอีก ราคาก็ไม่แพง ไปอุบล 552 บาท เบาะนวดไฟฟ้าอีก

ถึงอุบล ตรงเวลา 06:00 เป๊ะ

ก็ไปต่อรถเข้าปากเซ

รถเข้าปากเซ มี สองรอบ 07:30 กับ 09:30

แต่ช่วงนี้ งดรอบ 07:30 โดยไม่มีเหตุผล

เลยต้องรอรอบ สามโมงเช้าแทน

ไปถึงด่านช่องเม๊ก ก็กรอกเอกสารผ่านแดนกับ passport

เสร็จแล้วก็เดินข้ามไปกรอกที่ฝั่งลาว

เสียค่าผ่านแดน 50 บาท ทั้งไป และ กลับ

คือ ข้ามไปลาว ก็เสีย 50 บาท

จากลาว จะกลับมาไทย ก็เจออีก 50 บาท

มาลงรถที่นี่

เพื่อรอรถสองแถวมารับไปยังบ้านปากซอง จุดหมายปลายทาง ห่างออกไปอีก 60 km

มาถึงนี่ เจอหลอกแบบหน้ามึนๆ

มีหน้าม้า มาถาม ว่ามีรถหรือยัง เราก็ตอบไป ว่ามีแล้ว รถจอดข้างหลัง พวกหน้าม้า ยังมีชี้อีก นี่ไง คันนี้ ขึ้นเลย

เล่นเอาเราเหวอเลย ตกลง จะหลอก หรือจะล้อเล่นวุ๊ย งง

สภาพถนนที่นั่นก็ประมาณนี้

ไม่ใช่ถนนลาดยางเรียบๆ แต่ก็แปลก ที่ไม่มีหลุมหรือบ่อเลย

ถนนบ้านเรายังสู้ไม่ได้เลย ทั่น รมต ไปดูงานที่ลาวบ้างก็ดีนะครับ เดี๊ยวจะอายประเทศเพื่อนบ้าน

การจราจรก็ ไม่ติดขัด แต่ขับเร็วไม่ได้ เพระไม่มีใครขับเร็ว -_-'

แต่ถนนสายหลัก มีเส้นเดียว

ถนนสายรอง กลางเมืองแท้ๆ ยังเป็นแบบนี้อยู่

ตามชนบท นอกจากวัว ควาย แล้ว ก็มี หมู นี่แหล่ะครับ วิ่งเต็มถนนเลย

วัดที่โน่น สองข้างถนนเยอะมาก

มีกุฏิ 1-2 หลัง ศาลา 1 หลัง ไม่มีเมรุ ไม่มีรั้ว

ใช้โกฐิ แทนรั้ว วัดหรูหน่อย ก็มีรั้วไม้แบบที่เห็น

รถสองแถว ใช้ของ KIA วิ่งกันทั้งประเทศ อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝุ่น

สภาพป่าของลาว คล้ายๆป่าเหนือของไทย ก่อนที่จะถูกลักลอบตัด

คือเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แต่ไม่ใช่ป่าดงดิบ แบบป่าใต้บ้านเรา เดินง่าย

การลักลอบตัดไม้ มีทั่วไป แต่ลักลอบของลาวนี่ น่ารักครับ

เขาจะตัดแค่เท่าที่จะใช้ เช่น ครอบครัวนี้ มี 3 คน น่าจะทำมาหากินพอในพื้นที่ 2 ไร่ เขาก็จะเผาป่าไปแค่ 2 ไร่ กั้นรั้ว แล้วก้ทำมาหากินในนั้น

ไม่เหมือนบ้านเรา โลภมาก เล่นโค่นภูเขาหัวโล้นกันเป็นลูก

หลุดไปเรื่องลักลอบได้ไงเนี่ย -_-'

เอาเป็นว่า เขาไม่โลภละกัน

เส้นทางเข้าหมู่บ้าน เป็นแบบนี้ สิบสองกิโลเมตร

ไปถึงบ้านที่เราจะพัก

บ้านที่นี่ ทุกบ้านจะปลูกผักไว้ทานในครอบครัว และเหลือพอไปขาย หรือแลกเปลี่ยนบ้าง

ห้องส้วม อยู่ในสวนผัก น่ารักดีจังเลย

เย็นก็ทานข้าว

คณะเราไปกัน 11 คน

พี่กัณฑ์ หัวหน้าทริป

เช้า รถโฟว์วิลดอย ก็มารับ

ปรับ Custom Whitebalance ในกล้องให้ดีๆ แสงดีๆ สีก็สดได้แฮะ เจ้า Canon

ใช้ โฟว์วิลดอย 2 คัน ขนไปส่งครึ่งทางเท่าที่รถไปได้

ที่เหลือ ซิ่งตีน

เริ่มเดิน

เนื่องจากเราอยู่บนที่ราบสูง

หมู่บ้านที่เราไปพัก สูงจากระดับน้ำทะเล 1200 เมตร เลยเดินไปน้ำตกสบายๆ เพราะเป็นทางราบ

เดินยังไม่ทันมันส์เลย ถึงแล้ว

แค่เที่ยง ก็ถึงแล้ว

ตั้งแคมป์ ทานกลางวันกัน

แล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังน้ำตกแรกของทริป

ตาดน้ำพราก

ค่อยๆทะยอยๆกันข้ามน้ำ

เนื่องจาก ไม่ใช่น้ำตกที่เปิดให้เข้าชมเป็นทางการ

การไปถึงน้ำตก จึงยากมาก

ต้องปีนผา เลาะเหว ลงมาหลายร้อยเมตร กว่าจะเจอกับน้ำตกที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก

ยืนสูงขึ้นมากว่าสามร้อยเมตร เลนส์วายด์ยังเก็บภาพได้ไม่หมดเลย

น้ำตกน่าจะสูงราว 340 เมตร กว้างราว 80 เมตร

ไหลทิ้งตัวลงหน้าผารุนแรงมาก

เย็นย่ำค่ำลง ก็กลับที่พัก

พี่ชาวบ้านที่นำทาง เล่นซอให้ฟัง

เช้าขึ้นมา ก็เก็บแค๊มป์ เดินเท้าไปยังน้ำตกแห่งต่อไป

ใช้เวลาเดินราวๆ 4 ชั่วโมง

น่าจะได้ระยะทางราวๆ 12 กิโลเมตร

ก็มาถึงจุดตั้งแค๊มป์

ทานข้าวกลางวันแล้ว ก็เข้าไปชมน้ำตกต่อไป

น้ำตกแห่งนี้ชื่อ

ตาดสักการะ

เมื่อวานตาดน้ำพราก ว่าลงยากแล้ว

ตาดสักการะ ยากกว่าอีกเท่าตัว

ต้องโรยตัวกับหน้าผาลื่นๆ

เลาะสันเขาที่เป็นดงไผ่ลงมา

ชันแค่ไหน ดูเอาครับ ผมนั่งบนกิ่งไม้ ที่ยื่นออกไประดับเดียวกับคนที่ยืนใส่หมวกข้างล่างพอดี

คนเสื้อเขียวนั่น เกาะขอบหน้าผา รอรับคนที่จะทยอยลงไปอยู่

เมื่อฝ่าอุปสรรคลงมาเจอน้ำตกก็ถ่ายภาพกันใหญ่

ตาดน้ำพรากเมื่อวาน น้ำแรงมาก ทิ้งตัวลงจากหน้าผา

แต่วันนี้ ตาดสักการะ ทิ้งตัวลงมาผ่านเวิ้งผาลงมาราวๆ 240 เมตร

แต่ตาดนี้ดี ลมไม่แรง เลยนั่งถ่ายภาพสบายเลย

คุณหนูลุยป่าครับ

มาถึงก็หมดสภาพ

แต่สองสาวนี้เก่งใช้ได้เลยนะครับ ไม่มีบ่น แม้แผลจะเต็มตัว

อิอิ

แกล้งหมดสภาพ

แหม ทริปสบายๆแบบนี้ ขืนหมดสภาพ ผมก็แย่สิ

อิอิ

นั่งล้อมวงกินมาม่าแห้งกัน

ห่อเดียว 4 คน กินแกล้งพยาธิไปงั้น

อิอิ

เช้าวันต่อมา เดินทางกลับหมู่บ้าน

ระหว่างทาง พี่แอร์ คนนำทาง ก็สอนเรื่องการทำกาแฟ

กาแฟสุก จะเปลือกแดงๆ

เอามาลอกเปลือกออก 1 ชั้น แล้วเอาไปตาก แล้วมาลอกเปลือกชั้นใน ก่อนเอาไปคั่ว