BlogGang.com : : SEPULTURA_FROM_HELL : รหัสป่า รุ่น 7 ทริป 1 ป่ากรุงชิง นครศรีฯ 29 มิย.-1 กค 50

รหัสป่า รุ่น 7 ทริป 1 ป่ากรุงชิง นครศรีฯ 29 มิย.-1 กค 50

ทริปเดินถึกเดินทุยตะลุยดอยครับ

ทริปนี้ ไม่ใช่การไปเดินอย่างเดียว แต่เป็นการเข้าไปศึกษาเรียนรู้วิชารหัสป่า หรือการศึกษาเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ

รหัสป่า รุ่นนี้ เป็นรุ่น 7 แต่ละรุ่น จะมี 3 คอร์ส

สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นคอร์สแรก

ในคอร์สแรกนี้ จะสอนเบสิค เช่น การจัดเป้ อุปกรณ์ที่จำเป็น และไม่จำเป็น การทำอาหารจากธรรมชาติใกล้ตัว การหาแหล่งตั้งแค๊มป์ การผูกเปล ผูก Flysheet

การสะกดรอย การดูพืชที่ทานได้ และไม่ได้ การฟังเสียงธรรมชาติ การดมกลิ่น ฯลฯ

เริ่มต้นเดินทางด้วยรถตู้ ที่ ปตท สนามเป้า

ราวๆหกโมงเช้า ก็ถึงที่หมาย อ. ท่าศาลา นครศรีธรรมราช

แล้วก็ไปจัดของเตรียมเดินทางยังสวนฝากฟ้า

ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้เจอน้องลมฝน ลูกชายของพี่บอยทาร์ซาน และคุณแจงไทร แม่เจ้าลมฝน

ส่วนสาวน้อยเสื้อน้ำเงินนั่น ทำเอาหลายๆคนแปลกใจ เพราะคุณเธอดูมาดคุณหนูไฮโซ ไม่เหมือนนักเดินป่าโหดๆเลย แต่เธอทำได้ดีเลย

เก่งจริงๆครับ

ก่อนเดินทาง ก็มาฟังและอบรมคร่าวๆ ถึงรายละเอียดก่อน

เส้นทางคือ เดินเข้าเขตเมืองโบราณ ป่ากรุงชิง

ข้างๆยอดหกพูที่ผมเคยไปมาครั้งที่แล้ว

//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/03/E5201765/E5201765.html

//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/03/E5201938/E5201938.html

เส้นทางเริ่มเดินคือผ่านเหมืองร้อนๆ เส้นเดียวกับทางไปหกพูเลย

เดินไปสอนไป

เริ่มแรก การหาหยวกกล้วยไปต้มทาน

พี่บอย แสดงการหาให้ดู ว่าทำอย่างไร

คือโค่นต้นกล้วยลงมาทั้งต้น เพื่อหาหยวก ซึ่งก็คือแกนต้นกล้วยที่อ่อนที่สุดนั่นเอง

กล้วยทั้งต้น ได้หยวกมาไม่มาก

แล้วก็ตัดเส้นทางขึ้นยอดกรุงชิง

ระหว่างทางก็เจอแร้วดักสัตว์อยู่ทั่วไป

พักกันเล็กน้อย

ที่บอกไว้ต้นกระทู้ว่า เขตเมืองโบราณกรุงชิงนั้น ก็มาจากภาพนี้

ในบริเวณนี้ คาดกันว่าจะเป็นเขตเมืองโบราณ ที่ชื่อว่าเมือง ตามพรลิงค์

สังเกตดูได้จากแนวร่องน้ำ ดูอย่างไร มันก็ไม่ใช่การเรียงตัวแบบธรรมชาติ

อย่าลืมนะครับ บริเวณนี้ อยู่ในป่า บนภูเขา สูงกว่า 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลนะครับ

หลังจากนั้น ก็จัดแจงหาจุดตั้งแค๊มป์

แล้วก็สอนการดำรงชีพ เริ่มจากหุงข้าวด้วยหม้อสนาม

บ้างก็ทำอาหาร

อาหารเย็นมื้อแรกที่ช่วยกันทำบนภูเขา

เมื่อทำอาหารเสร็จ ก็ต้องมีนักข่าวมาทำข่าว

อิอิ

เช้าวันที่ 2 ก็แบ่งกลุ่มออกเดินป่า ฝึกการสะกดรอยเท้า

ก็ไปเจอหลักสำหรับทำสัมปทานเหมืองแร่เข้า แต่ด้วยอยุ่ในเขตป่าต้นน้ำ เลยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเหมือง

ขอบคุณข้าราชการดีๆนะครับ ที่เห็นคุณค่าป่าต้นน้ำ

การบ้านของวันนี้คือ

ทำกระบอกน้ำดื่มจากไม้ไผ่

เมื่อเวลาเหลือ ก็ทำกระติกดื่มน้ำด้วย

นี่คือพี่เลี้ยงสุดหล่อ พี่แนม

ลำธารบริเวณนี้ ก็ยังมีร่องรอยของการสร้างอยู่

มีการเข้ามุมสวยงาม

ธรรมชาติทำไม่ได้หรอก

แล้วก็เดินไปยังจุดถัดไป

ระหว่างทางก็เจอรังผึ้งขนาดใญ่

จุดพักทานกลางวัน น้ำตกไม่มีชื่อ

มื้อปราณี

คนแปดคน มาม่า 5 ห่อ ที่เหลือก็หาอะไรต้มๆลวกๆผสมกันเอาเอง

หลังจากนั้น ก็เริ่มฝึกการสะกดรอย กลับที่พัก

เมื่อกลับที่พักก็มาสอนการหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่กันต่อ

วิทยากรคือ พรานริน ผู้เดินป่าใต้มาจนแทบจะหลับตาเดินได้แล้ว

การหุงข้าวคือ เอาข้าวสารห่อด้วยใบไม้ที่ทานได้ ใบต้องนิ่ม แต่เหนียว เพราะใบต้องไม่ขาด แล้วยัดลงในกระบอกไม้ไผ่

เอาไปตั้งไฟ กรอกน้ำใส่ลงไปในกระบอกจนข้าวสุก

ระหว่างนั้น ก็ทำกับข้าว

ระหว่างหุงข้าว

หุงไปเรื่อยๆ

ออกมา หน้าตาแบบนี้

ทานมื้อเย็น

หลังจากมื้อนี้ ก็ฝึกสะกดรอยภาคกลางคืน

เนื่องจากเป็นการเดินกลางคืน เลยไม่ได้นำกล้องไปบันทึกภาพ
ทานมื้อเย็น

หลังจากมื้อนี้ ก็ฝึกสะกดรอยภาคกลางคืน

เนื่องจากเป็นการเดินกลางคืน เลยไม่ได้นำกล้องไปบันทึกภาพ