ตากล้องนรกเมิน เดินถึกเดินทุยตะลุยดอย
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
เขาผีปันน้ำ ดอยมด 8-13 ธันวาคม 2549

ทริปนี้ เป็นทริปเดินป่าที่ผู้ร่วมทริปน้อยที่สุด ตั้งแต่เริ่มเดินมา และเป็นทริปล่มที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเจอ


แปลกอย่างไร คือ ทริปที่ตั้งใจจะไป ไม่ได้ไปเลย และแลปกกว่าคือ ดันมีทริปที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ไป และดันได้ไปซ้อนๆกันถึง 3 ทริป


ทริปนี้ ไม่ได้ตั้งใจไป แต่เกิดเพราะแค้น ที่เอามอเตอร์ไซค์เข้าลาวคนเดียวไม่ได้

กลับมาบ้าน ทีแรกว่าจะไปเปิดทริปฆ่าตัวตาย ลุยดงระเบิดไปเบตง แต่มานั่งดูเงินแล้ว คงไปไม่ได้กลับแน่ เลยมาดูเวบ TKT ก็ไปเจอเจ้าอี๊ดเปิดทริปเดินดอยมด

เป็นทริปที่ผมชอบมาก เพราะมีสมาชิกเพียง 4 คน
มีเจ้าอี๊ด คนตั้งทริป
ลุงชัย พรานนำทาง
ใหญ่ หลานลุงชัยคนนำทาง
และ ผมเอง ที่เป็นลูกทัวร์ตัวจริง

ตอนแรกที่เข้าไปดู ก็มีคนมาลงชื่อไป 7-8 คน ต่อมาถอนตัวหมด เหลือผมคนเดียว แต่ก็ยังยืนยันว่า "จะไป"

ทริปนี้ ประสบผลสำเร็จจริงนะ เจ้าอี๊ดเอ๊ย


เริ่มจากจุดนัดพบที่อาเขต เช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2549 แต่แบกของเลยขี้เกียจถ่ายรูป มาเริ่มก็ที่นี่เลย แยกบ้านโถ








จริงๆแล้วทริปนี้ จะมีผม กับพรานนำทาง ไปกระหนุงกระหนิงกันแค่ 2 คน เพราะเจ้าอี๊ดติดเรียน แต่อาจารย์คนสอนโทรมา cancel เจ้าอี๊ดเลยว่าง ผมเลยชวนคนตั้งทริปไปด้วย

หึๆๆ สมาชิกเพิ่มละ








เริ่มต้นเดินทาง โดยนั่งรถไปยังจุดปล่อยตัว 5555555


สภาพถนนก็นี่แหล่ะครับ







หลังจากจัดแจงสัมภาระแล้ว ก็เริ่มเดิน







แวะพักนิดหน่อย

สำหรับดอยมด ทางเดินขึ้น โหดมาก เดินขึ้นชันๆ แบบเนินหมูด้องที่ดอยหลวงพะเยา หรือเนินมรณะที่ภูสอยดาว ตลอดทั้งเส้นทางเลย


ระยะทางไม่ไกล แต่เดินชัน







เห็นลิบๆนั่น ยอดดอยอะไร จำไม่ได้ ไว้แวะทานข้าวกลางวัน


ยังไม่ใช่จุดพักแรมนะครับ แค่เดินผ่าน แวะทานข้าว








เมื่อขึ้นไปถึงจุดทานข้าวกลางวัน แล้วมองลงมา






ล้อมวง ทานข้าวกลางวันครับ







เนื่องจากคนน้อย เลยเดินได้เร็ว

ถึงยอดดอยมด ตอนบ่ายสามโมง

เลยมีเวลาเดินถ่ายรูปเยอะ






ทริปนี้ดี ทั้งทริปมีกล้องตัวเดียว แต่เจ้าอี๊ดยังพอใช้ DSLR เป็น เลยได้รูปผมมามั่ง ไม่งั้นก็มีแต่รูปชาวบ้าน -_-'







ถ่ายหมู่ด้วยขาตั้งกล้องครับ

อุตส่าห์แบกไป งือๆๆ

หนักจนเปลี่ยนจาก 055PROB เป็น 190PROB แทน






พรุ่งนี้ เราจะข้ามไปครับ







ให้ยืนดีๆ เพ่ทั่นก็ดันไปยืนทำทะเล้นซะงั้น

เฮ้อ







เหลือเวลาเยอะ เลยหัดถ่าย Portrait ซะ
นางแบบมีคนเดียว สบาย







โห่ะๆๆ ขอหล่อมั่ง





สู้ค่ะ







แบบว่า เวลาเหลือฮะ

เลยถ่ายไปเรื่อยๆ






อ่ะ เดี๊ยวจะหาว่ามีแต่รูปทะเล้น(ก็ทำเองนี่หว่า)

เอารูปที่ดูดีมาลงละนะ







มุมเศร้า






ตัดมาเช้า ระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นมาให้ดู






กลางคืน ลมแรงมาก

หนาวมาก

เช้าเลยไม่มีทะเลหมอก เพราะลมยังพัดแรงมากอยู่






รอบแรก ยังไม่สำเร็จ เพราะหมอกฟุ้งเยอะมาก มองไม่เห็นอะไรเลย

เลยลงมาชงกาแฟทานแก้หนาว







รอบสอง ขึ้นไป ค่อยยังชั่ว ยังพอมองเห็นบ้าง







หมอกฟุ้ง






ถ่าย Portrait เช้าๆ แสงสวย ชอบจริงๆเลย







ไปดูพระอาทิตย์รอบสอง ก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ เลยลงมาหุงหาอาหารทานกัน







อาหารอร่อยๆ

แค่นี้ก็อิ่มอร่อยได้ครับ







จุดพักแรม กับยอดดอย ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร


แต่ไปนอนยอดดอยเลยไม่ไหวครับ ลมแรงมาก






ล้อมวงทานอาหาร







ได้เวลาเดินลงดอย


เอ่อ ลืมบอกไปครับ เนื่องจากทริปนี้ วางแผนอย่างดี แต่แผนทุกอย่าง ล่มหมด

ตกลงเลยไม่มีแผนแล้ว ไปมันเรื่อยๆ


ดังนั้น ว่าจะเดินดอย 3 วัน 2 คืน เลยเปลี่ยน เป็น 2 วัน 1 คืน แล้วไปนอน Homestay บ้านแม่โถต่อ 1 คืน

ก่อนกลับ กทม


แต่...


แผนล่ม ยังตามมาราวี


ไม่ได้กลับ กทม แต่ได้ไป แม่จอนหลวงต่อ



อิอิ..









ไฮไลต์ ของดอยมดคือ เดินตามสันมีด


จริงๆก็คือ ทางเดินแคบๆ เชื่อต่อระหว่างยอดดอย 2 ยอด


ถ้าไม่เดินผ่านตรงนี้ ก็อ้อมได้ครับ แต่เดินกันไกลเลย


แต่ไม่รู้ใครดันไปทำรั้วเหล็กไว้ เลยไม่มันส์เลย







ถ้าไม่มีรั้วเหล็ก ต้องเข้าเกียร์โฟว์ครับ ไม่งั้น ผ่านลำบาก

คือใช้ทั้งมือทั้งติง ถ้าจะให้ดี ต้องใช้ตรูดด้วย เพราะทางเดิน กับเหว ห่างกันแค่ก้าวดียว


ขนาดมีรั้ว ยังต้องเข้าเกียร์โฟว์บางช่วงเลยครับ








ทางขึ้นก็ชันมาก มากขนาดต้องปีนหน้าผากันเลย


หลังจากพ้นสันมีดมาแล้ว ก็เจอต้นนี้ ไม่แน่ใจว่าต้นพญาเสือโคร่งไหม







ชี้อะไรกัน ??






เออ นั่นดิ ชี้อะไรกัน ???







ทางราบ เดินง่ายๆ ไม่มีครับ

ไม่ขึ้น ก็ลง

สังเกตเจ้าอี๊ดนะครับ เป้ใบเล็กมาก


ทำไมน่ะเหรอ

ก็เพราะเจ๊ไม่ได้กะมาเดิน เลยไม่เตรียมของ

ดังนั้น ชุดเดินป่าเอย เต๊นเอย ยืมผมทั้งนั้น








ผมเลยกลายเป็นลูกหาบของเจ้าอี๊ดไปโดยปริยาย







มื้อกลางวัน ขาลงดอย วันที่ 10 ธันวาคม 2549








จริงๆแล้วเจ้าอี๊ดเข่าเจ็บครับ เธอเดินดอยมาหลายปี ตั้งแต่อายุน้อยๆ ผลคือเข่าเจ็บ ต้องผ่าตัด


โช๊คอัพหลังเสีย เลยต้องช่วยๆกัน ไม่ถือสาครับ มิตรภาพก็หาได้กันตอนลำบากนี่แหล่ะครับ









เจอไอ้ตัวนี้ตามทางด้วย







เดินลงมาถึงแล้วครับ

แวะดูตลาดเคลื่อนที่







บรรยากาศตอนเย็น หมู่บ้านกลางขุนเขา








บอกแล้วว่าแผนคือไม่มีแผน


จากเดิมว่าจะกลับมานอนเชียงใหม่ เปลี่ยนกระทันหัน ไปนอนบ้านแม่โถแทน


ทางเข้าหมู่บ้านครับ







ภาพทางเข้าหมู่บ้านนั่น ถ่ายตอน หกโมงเย็นะครับ มืดตื๋อ



มาถึงก็ อาบน้ำ ทานขันโตก


ใช่ขันโตกป่ะ -_-'

ไม่รู้อ่ะ กับข้าวง่ายๆแบบชาวบ้าน ต้มยำปลากระป๋อง ต้มผัก ข้าวนึ่ง ปลาเค็ม


แต่อร่อยมากกกกกกกกก








ข้างหลังนั่น เขากำลังมัดใบเมี่ยงอยู่


ใบเมี่ยง คือใบชาของทางเหนือ







ทานเสร็จ ก็คุยกันเรื่องอนุรักษ์ต้นน้ำ แล้วก็นอน

เช้ามาก็เดินถ่ายภาพ

นี่คือที่นอนเปลพักผ่อน












มองจากเปลออกไป จะเห็นวิวแบบนี้



น่านอนมากกกกกกกก








นี่คือบ้านรับรองหลังเล็ก

น่านอนมากครับ แต่ไม่ได้นอน เพราะมาถึงมืดแล้ว เลยขี้เกียจเดินขึ้นไป









ล้อมวงทานอาหาร ก่อนเดินทางกลับครับ







นั่งสองแถว จากเวียงป่าเป้า เข้าตัวเมืองเชียงใหม่


อัดกันเข้าไป แต่ได้รสชาติของชีวิตดีครับ


ข้างบนนั่น มีคนนั่งบนหลังคากับมอเตอร์ไซค์อีกคันนึงนะเออ








หลังจากเข้าเชียงใหม่ กะขึ้นดอยสุเทพ

แผนล่มอีก

เพราะเพื่อนจากห้องชายคาโทรมา และมารับไปนั่งบ้านเขา

พี่วัช

ที่นั่น มีเพื่อนๆจากห้องชายคาอยู่ 3 คน เขาเลยชวนไปแม่แจ่มต่อ


ผมก็ อิดออดเล่นตัวอยู่พักนึง แต่ก็ไป -_-'

เช้าวันที่ 12 ธันวาคม 2549

ระหว่างทางไปแม่แจ่ม








แต่ แผนล่ม ก็ยังตามมาราวี


เข้าแม่แจ่มไปแล้ว ไม่ชอบบรรยากาศ

เลยขึ้นไปแม่จอนหลวงซะงั้น


เอ้า ไปก็ไป







ในที่สุดก็มาถึง แบบไม่คาดหมาย และไม่มีในแผน


แต่ตรูก็ดันทุรังไปจนถึง -_-'







เดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ

เก็บสตอเบอรี่กินฟรี







ครอบครัวน้าบงกช จากห้องชายคา ครับ







บางมุม ของแม่จอนหลวง







นอนดูทะเลหมอกน้อยๆ จากในเต๊น

โอ๊ว สุขจริงเลย







ครอบครัวฟันดี

น่ารักดีจังเลย







แล้วก็ไปทานอาหารเช้า

อาหารที่นี่ ไม่มีตามสั่งครับ แต่จะใช้นับหัวเอา คือ บอกว่า มีกี่คน เขาจะทำอาหารเหมือนกันทุกกลุ่ม แต่กับข้าวอร่อยครับ และมีหลายอย่างมาก








ถ่ายภาพก่อนกลับ







ผ่านที่นี่ด้วย








สภาพเส้นทางขาออก







แล้วก็มาล่องแพ ที่แม่วาง ต่อ







เอา 300D ลงแพ ไม่มีถุงกันน้ำอีก เอาเข้าไป

จะเสี่ยงอะไรขนาดนั้น ชีวิตตรู







มีตกน้ำแน่นอนครับ







แต่ผมไม่ตกด้วย มือเหนียว -_-'


น้ำแรงเป็นบางช่วง








นั่งเฝ้าท้ายรถครับ



หมดทริปแผนล่มแค่เพียงเท่านี้ครับ


เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ


ส่วนภาคตากล้องโรคจิต รอว่างนิดครับ จะเอามาลง


รับรอง สวย....น้อยเหมือนเดิม -_-'


เจอกันใหม่ ทริปหน้าครับ







Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 23:08:29 น. 2 comments
Counter : 1643 Pageviews.

 
เข้ามาติดตามนะครับ เป็นทริปที่เดินสมบุกสมบันน่าดู แต่วิวยามเช้าที่มีหมอก+พระอาทิตย์ขึ้นก็สวยดีนะครับ ชอบ ชอบ...

เรื่องมิตรภาพระหว่างการเดินทาง ทำให้ผมนึกถึงทริปดอยหลวงเชียงดาวเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเป้ผมไม่ใหญ่อะไรเลย แต่เกะกะตรงกระเป๋ากล้อง+ขาตั้งนี่ล่ะ เดินไปเดินมา เอ๊ะ ทำไมหลังมันเบาๆหว่า ปรากฏว่า ขาตั้งกล้อง ถุงนอน ฯลฯ โดนดึงออกจากเป้หลังไปทีละชิ้นๆ

เพื่อนร่วมทริปคงเห็นผมหยุดถ่ายรูปเรื่อยๆ เลยอยากให้เดินสบาย ขโมยสัมภาระไปแบกให้ซะงั้น


โดย: Carlziess Lens วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:16:21:49 น.  

 
สุดๆไปเรยพี่ แหม ทำไปได้ เที่ยวกันเถิดเทิงขนาดนั้น
อึดสุดยอด
ขอกราบตักซักทีได้ไหม


โดย: PedDg วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:15:43:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SEPULTURA_FROM_HELL
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ก็แค่มนุษย์เดินดินคนหนึ่ง

ที่ชอบเที่ยว

ชอบพาหนะสองล้อ


ชอบเดินป่า



ชอบที่จะเดินทางตามความฝัน


พร้อมเสมอ แม้จะต้องเดินทางลำพังคนเดียว


===============


หากวันทำงาน คือช่วงเวลาที่ยาวนาน และเหน็ดเหนื่อย


เราก็ทำวันหยุดที่แสนสั้น ให้หนักหนาสาหัส และโหดกว่า



วันทำงาน ก็จะกลายเป็นวันพักผ่อนที่แสนสบายและยาวนาน
Friends' blogs
[Add SEPULTURA_FROM_HELL's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.