ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 พฤษภาคม 2555
 

รู้จักพระเยซูผ่านพระธรรม 2 เธสะโลนิกา

15 มกราคม 2012
คริสตจักรยะลา

2เธสะโลนิกา 2:16-17
16ขอให้องค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา และพระบิดาเจ้าของเรา ผู้ทรงรักเราและประทานให้เรามีความชูใจนิรันดร์ และความหวังอันดีโดยพระคุณ 17ทรงชูใจและตั้งใจของท่านไว้ให้มั่นคง ในการกระทำและในวาจาอันดีทุกอย่าง


อธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงรักเราทั้งหลาย จนได้ทรงประทานพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อเป็นพระผู้ไถ่ของเรา ขอบพระคุณสำหรับพระสัญญาที่ได้ทรงประทานให้ พระเยซูคริสต์จะทรงเสด็จกลับมารับเราทั้งหลายผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์ ให้ไปอยู่ในแผ่นดินสวรรค์ ขอทรงโปรดให้เราทั้งหลายมีความเชื่อที่มั่นคง และยืนยันบนความจริงแห่งพระวจนะของพระองค์ เพื่อจะไม่ถูกล่อลวงให้หลงไป


ปีใหม่ 2012 ได้เริ่มขึ้นแล้ว ผมคงจะไม่ทักทายว่าสวัสดีปีใหม่อีก เพราะสายไปครึ่งเดือนแล้ว สำหรับหลายๆคน ปี 2012 เริ่มต้นอย่างไม่สวยหรูนัก ทั้งน้ำท่วมต้อนรับปีใหม่ และข่าวคราวความกังวลเนื่องจากคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ และในที่สุดเราก็พบว่า เป็นคำทำนายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่กระนั้นก็ตาม ปี 2012 ได้ถูกโหมโรงไว้ว่า จะเป็นปีที่น่าหวาดวิตก ทั้งจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงกว่าครั้งใดๆ ตลอดจนการเมืองในประเทศต่างๆทั้งเกาหลีเหนือ และอิหร่าน ก็ล้วนแต่ทำให้ผู้ที่ติดตามข่าวต้องรู้สึกวิตกไม่มากก็น้อย ส่วนคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวเลย ก็คงจะไม่มีความรู้สึกใดๆ จะว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่วิตกทุกข์ร้อนใดๆ แต่บางที การไม่ได้รับรู้อะไรบ้างเลย ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เตรียมตัวรับสถานการณ์เช่นกัน คิดว่าหากจะรับรู้สถานการณ์ไว้บ้าง และดำเนินชีวิตไปด้วยความไว้วางใจในพระเจ้า ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม

เมื่อวานพี่น้องหลายท่านในคริสตจักรก็ได้ไปร่วมออกบูทงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งคริสตจักรของเราได้ร่วมกิจกรรมกับเทศบาลนครยะลา ปีนี้เป็นปีที่ 5 แล้ว มีเด็กๆมากมายได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมในเต๊นท์ของเรา ซึ่งเราก็ได้เตรียมของขวัญชิ้นเล็กๆพร้อมกับใบปลิวแจกให้กับเด็กๆ มีการแสดงละครหุ่นมือ ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับความรอดโดยทางพระเยซูคริสต์ ตลอดจนเกมส์เล็กๆเช่นปาเป้าลูกโป่ง และบิงโก ซึ่งได้ใช้การอ่านข้อพระคัมภีร์ โดยใช้ตัวเลขของบทและข้อเป็นตัวเลขในเกมส์ หวังว่าพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ที่ได้ถูกประกาศออกไปจะเกิดผลในเวลาอันสมควร ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเปิดช่องทางให้สำหรับการประกาศพระกิตติคุณในอนาคตข้างหน้า

วันนี้เราจะมาค้นหาพระเยซูคริสต์จากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่กันต่อ เรามาถึงพระธรรม 2 เธสะโลนิกา ซึ่งเป็นจดหมายฝากของอัครทูตเปาโลที่เขียนไปยังคริสตจักรในเมืองเธสะโลนิกา ในคราวก่อนนั้นเราได้รับรู้แล้วว่าปัญหาของคริสตจักรที่นั่นคือ การใส่ร้ายอัครทูตเปาโล และความกังวลเกี่ยวกับการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ หลังจากที่ส่งจดหมายฉบับแรกไปได้ไม่นาน อัครทูตเปาโลก็มีความจำเป็นต้องเขียนจดหมายฉบับที่สองส่งตามไป ทั้งนี้เนื่องจากปัญหายังคงมีอยู่ ดังนั้นเรื่องราวในจดหมายฝาก 2 เธสะโลนิกา ก็ยังคงพูดถึงปัญหาเรื่องคล้ายๆเดิม คือการอธิบายให้เข้าใจถึงการเสด็จกลับมาของพระเยซูเจ้า และหมายสำคัญที่สามารถสังเกตเพื่อจะรู้ว่าวันเหล่านั้นใกล้เข้ามาแล้ว ส่วนผู้ที่ก่อให้เกิดปัญหานั้น มีคำแนะนำให้จัดการอย่างจริงจังเด็ดขาด

เราจะไม่ลงไปในรายละเอียดของเรื่องราวปัญหาในเธสะโลนิกา แต่เราจะมาดูว่าเราจะรู้จักพระเยซูมากขึ้นได้อย่างไรจากจดหมายฝากฉบับนี้

2 เธสะโลนิกา 1:4-8
4ฉะนั้นเราเองจึงอวดท่านทั้งหลายต่อบรรดาคริสตจักรของพระเจ้า ในเรื่องความทรหด และความเชื่อของท่านในยามที่ท่านถูกข่มเหงนานาประการ และที่ท่านอดทนต่อความยากลำบากนั้น 5เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดถึงการพิพากษาอันยุติธรรมของพระเจ้า ซึ่งจะพิสูจน์ว่าท่านเป็นผู้สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า เหตุที่เห็นแก่แผ่นดินนั้นท่านทั้งหลายจึงกำลังทนทุกข์อยู่ 6เพราะว่าพระเจ้าทรงเห็นว่า เป็นการยุติธรรมแล้วที่จะทรงเอาความยากลำบาก ไปสนองคนเหล่านั้นที่ก่อความยากลำบากให้กับท่านทั้งหลาย 7และที่จะทรงให้ท่านทั้งหลาย ที่รับความยากลำบากนั้นได้รับความบรรเทาด้วยกันกับเรา เมื่อพระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์ในเปลวเพลิง พร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ผู้มีฤทธิ์ของพระองค์ 8และจะลงโทษสนองคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระเจ้า และแก่คนที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้าของเรา


พระเยซูจะทรงเสด็จกลับมาอย่างแน่นอน นอกจากเป็นความหวังในเรื่องของความรอดในฝ่ายวิญญาณ ที่ผู้เชื่อทุกคนจะได้รับตามพระสัญญา คือรอดจากโทษในบึงไฟนรก และได้เข้าพำนักในแผ่นดินสวรรค์ร่วมกับพระเยซูคริสต์ อีกสิ่งหนึ่งที่พระเยซูคริสต์จะทรงนำมาด้วยก็คือ การลงโทษสำหรับคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระองค์

ในการประกาศเรื่องราวข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ อาจเปรียบได้กับการเตือนภัยพิบัติตามธรรมชาติอย่างที่เพิ่งจะเกิดในประเทศเราเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการแจ้งให้ประชาชนทราบว่า น้ำปริมาณมหาศาลกำลังจะมาถึง ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ ก็มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เชื่อการเตือนภัย ประชาชนบางส่วนก็ไม่เชื่อ และยังรีรอ ไม่คิดว่าภัยพิบัติจะเป็นความจริง เพราะว่าตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีประวัติเรื่องน้ำท่วมในแถบนั้นเลย และในที่สุดน้ำก็มาถึง ความเสียหายอย่างรุนแรงก็ตามมา บางก็สูญเสียทรัพย์สิน บางก็สูญเสียชีวิต เรื่องนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดี ประชาชนในบางพื้นที่บอกว่า ไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆเลย หรือได้รับการแจ้งเตือนช้าเกินไปไม่สามารถอพยพได้ทัน

คริสเตียนได้รับมอบหมายงานที่สำคัญ คือการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการพิพากษาโทษบาปที่กำลังจะมาถึงในอนาคต เพื่อให้คนทั้งหลายอพยพจากการดำเนินชีวิตอยู่ในบาปอันจะนำไปสู่ความพินาศ ให้ย้ายเข้ามาพึงพิงในร่มพระคุณของพระเยซูคริสต์

เชื่อว่า คริสเตียนจำนวนหนึ่งก็ดำเนินการอยู่แล้ว บางส่วนอาจจะกำลังสาระวนอยู่กับเรื่องราวอื่นๆ เราคงจะไม่โทษว่า การที่คนส่วนหนึ่งต้องรับโทษในบึงไฟนรก เป็นเพราะคริสเตียนไม่ประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูให้เขาฟัง เพราะพระคุณของพระเจ้ามีเพียงพอสำหรับมนุษย์ทุกคน หากเขาคนนั้นยอมรับเอาข่าวประเสริฐของพระเยซู แต่คนเหล่านั้นปฏิเสธพระคุณของพระเจ้า ทำให้เขาต้องรับโทษบาปของเขาเอง และไปถึงความพินาศในนรก

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คริสเตียนจะใช้อ้างเพื่อจะไม่ต้องออกไปประกาศข่าวประเสริฐ

ในข้อที่ 7 ได้ใช้คำว่า เมื่อพระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์ในเปลวเพลิง พร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ผู้มีฤทธิ์ของพระองค์ ซึ่งอ่านแล้วก็ชวนให้ประหลาดใจว่า ภาพการเสด็จกลับมาของพระเยซูเป็นเช่นไรหนอ หากมาด้วยเปลวเพลิงแบบนี้ ก็เป็นภาพที่น่ากลัวจริงๆ

การกลับมาของพระเยซูจะน่ากลัวหรือน่ายินดี ก็ขึ้นกับว่าคนคนนั้นอยู่ในสภาพใดเมื่อพระองค์กลับมา เรื่องนี้จะเปรียบเทียบได้ด้วยภาพของผู้พิพากษาที่กำลังเดินทางมาที่บัลลังค์ หากผู้ที่รอคำพิจารณาคดีนั้นรู้ว่า คำพิพากษาสำหรับตนเป็นการประกาศว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ พ้นมลทินทั้งสิ้น ผู้ที่รอคำพิพากษาก็จะเห็นว่า การมาขอผู้พิพากษาเป็นการมาที่น่ายินดี

แต่สำหรับผู้ทำผิดในคดีร้ายแรง ผิดซ้ำซาก ต่างกรรม ต่างวาระ หลักฐานแน่นหนา ทั้งพยานชี้ตัว และวัตถุพยาน รวมถึงบทลงโทษของความผิดนั้นร้ายแรงยิ่งนัก การมาของผู้พิพากษาก็ช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

การกลับมาของพระเยซูคริสต์ ในมุมมองหนึ่งก็เพื่อนำความยุติธรรมมาให้กับคนของพระองค์ ที่ต้องทนทุกข์ลำบากเพื่อพระองค์ โดยตอบแทนคนชั่วร้ายด้วยความทุกข์ยากลำบาก

ข้อนี้เป็นสิ่งที่สนับสนุนเหตุผลของผู้เชื่อกลุ่มหนึ่งที่มีความหวังว่า พระเยซูจะเสด็จกลับมารับคนของพระองค์ก่อน 7 ปีแห่งกลียุค โดยให้ความลำบากแสนสาหัสในช่วงเวลานั้นเป็นสิ่งตอบแทนแก่คนชั่วร้ายที่ข่มเหงรังแกบรรดาผู้เชื่อ

ตรงนี้ขอขยายความเพิ่มเติมเล็กน้อย ในเรื่องเกี่ยวกับการเสด็จกลับมาของพระเยซูในยุคสุดท้าย มีความเห็นที่แตกต่างกันในผู้เชื่อ ซึ่งก็ไม่ถือว่าใครถูกใครผิด เพราะทั้ง 3 ฝ่ายก็มีเหตุผลรองรับจากพระวจนะของพระเจ้า

ผู้เชื่อกลุ่มแรก เชื่อว่าพระเยซูจะเสด็จมารับคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ก่อน 7 ปีแห่งกลียุค โดยผู้ที่ไม่เชื่อ และคริสเตียนที่ไม่บังเกิดใหม่จะถูกทิ้งไว้

ผู้เชื่อกลุ่มที่สอง เชื่อว่า พระเยซูจะเสด็จกลับมารับคริสเตียนที่บังเกิดใหม่เมื่อกลียุคได้ดำเนินไป 3 ปีครึ่ง โดยผู้ที่ไม่เชื่อ และคริสเตียนที่ไม่บังเกิดใหม่จะถูกทิ้งไว้

ผู้เชื่อกลุ่มที่สาม เชื่อว่า ทั้งคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ คริสเตียนที่ไม่บังเกิดใหม่ และผู้ที่ไม่เชื่อ จะต้องทนทุกข์ยากลำบากตลอดทั้ง 7 ปีแห่งกลียุค แล้วพระเยซูจะเสด็จกลับมารับคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ ส่วนคริสเตียนที่ไม่บังเกิดใหม่ และผู้ที่ไม่เชื่อ จะถูกทิ้งไว้


ไม่ว่าในที่สุดความเชื่อของกลุ่มใดจะเป็นจริง สำหรับคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ พระเยซูผู้ที่เสด็จกลับมา ทรงเป็นความยินดีสำหรับเขาเสมอ

สำหรับเราที่นี่ เราควรเชื่อตามกลุ่มไหน ผมมีความเห็นว่า หากเลือกได้ ก็อยากให้ความเชื่อของกลุ่มแรกเป็นจริง เพราะเราจะไม่ต้องลำบาก แต่หากไม่ใช่อย่างนั้น เราทุกคนจะต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์แสนสาหัส เพื่อพิสูจน์ว่าเราเป็นคนที่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า และโอกาสที่จะไม่ต้องทนทุกข์คือ 1 ใน 3 แต่โอกาสที่จะต้องทนทุกข์คือ 2 ใน 3 ดังนั้นควรเตรียมพร้อม โดยการเสริมสร้างชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณให้เข้มแข็ง สอนลูกหลานให้รู้จักความจริงของพระเจ้า เพื่อความจริงนั้นจะรักษาความเชื่อของเขาไว้ให้มั่นคง

หากพระเยซูทรงเสด็จกลับมาในนาทีนี้ เราเองจะต้อนรับพระองค์ด้วยท่าทีแบบไหน ด้วยความยินดี หรือว่า ด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด


2 เธสะโลนิกา 2:7-12
7เพราะว่าอำนาจลึกลับนอกกฎหมายนั้นก็เริ่มทำงานอยู่แล้ว แต่ผู้ที่คอยหน่วงเหนี่ยวเดี๋ยวนี้นั้นจะยังหน่วงเหนี่ยวอยู่จนออกไปให้พ้น 8ขณะนั้นคนนอกกฎหมายนั้นก็จะปรากฏตัวขึ้น และพระเยซูเจ้าจะทรงประหารมันด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์ และจะทรงผลาญให้สูญไปด้วยการปรากฏและการเสด็จมาของพระองค์ 9คนนอกกฎหมายนั้นจะมาโดยการดลบันดาลของซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ์ต่างๆและหมายสำคัญ และการอัศจรรย์แห่งความเท็จ 10และอุบายอธรรมต่างๆสำหรับคนเหล่านั้นที่จะต้องพินาศ เพราะเขาทั้งหลายไม่ได้รักความจริงเพื่อจะรอดได้ 11เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงให้ความลุ่มหลงมาครอบงำเขา ให้เขาเชื่อสิ่งที่เท็จ 12เพื่อคนที่ไม่เชื่อความจริง แต่ยินดีในการอธรรมจะได้ถูกพิพากษาลงโทษสิ้นทุกคน


การเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ มีเรื่องราวที่ผู้เชื่อทุกคนจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากซาตานจะกระทำการล่อลวง ในพระวจนะบางตอนเรียกผู้นั้นว่า ปฏิปักษ์พระคริสต์ หรือ ผู้ต่อต้านพระคริสต์ ในที่นี้เรียกด้วยคำว่า คนนอกกฏหมาย ซึ่งจะปรากฏตัวเพื่อล่อลวงคนเป็นอันมากให้ติดตามไป พระคัมภีร์ได้บอกอย่างชัดเจนว่า คนเหล่านั้นที่จะหลงตามมันไปคือคนที่ “ไม่ได้รักความจริงเพื่อจะรอดได้ ... เชื่อสิ่งที่เท็จ ไม่เชื่อความจริง … ยินดีในการอธรรม”

น่าสนใจนะครับ คุณสมบัติของคนเหล่านั้นตรงกับชีวิตของเราหรือเปล่า เราเป็นผู้ที่ไม่ได้รักความจริงเพื่อจะรอดได้หรือเปล่า คือ ไม่รักข่าวประเสริฐ ไม่รักพระวจนะของพระเจ้า เราเป็นคนที่เชื่อสิ่งเท็จหรือเปล่า เราเป็นคนที่ไม่เชื่อความจริงหรือเปล่า เราเป็นคนที่ยินดีในการอธรรมหรือเปล่า หากใช่ เรากำลังเป็นผู้ที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการถูกล่อให้หลงโดยคนนอกกฏหมายหรือผู้ต่อต้านพระคริสต์นั้น


เราอาจคิดว่า เราเป็นคริสเตียน เราอยู่ในการปกป้องดูแลของพระเจ้า เราจะหลงไปได้อย่างไรกัน ครับ ถ้าเราอยู่ในการปกป้องดูแลของพระเจ้าจริงๆ เราจะปลอดภัย แต่ลองถามตัวเองดูว่า ท่านใกล้ชิดพระเจ้าเพียงใด ท่านใส่ใจกับพระวจนะของพระเจ้า และมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์สนิทสนมเพียงไร ท่านห่างไกลจากทางของพระองค์ไปมากเพียงไร หรือเพียงแค่มาโบสถ์และถวายทรัพย์

ผู้ต่อต้านพระคริสต์จะปรากฏมาพร้อมกับ “อิทธิฤทธิ์ต่างๆและหมายสำคัญ การอัศจรรย์แห่งความเท็จ และอุบายอธรรมต่างๆ” จงระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะหากท่านกำลังคิดว่า การประชุมบางแห่งสามารถเป็นทางลัดให้ท่านกลายเป็นคริสเตียนที่ดีได้ หรือคิดว่ามีอาจารย์ท่านใดสามารถอธิษฐานวางมือ ชาร์จพลังวิเศษ ให้ท่านเป็นคริสเตียนที่บังเกิดใหม่และรักพระเจ้าได้ในพริบตา ท่านอาจกำลังติดกับดักที่น่ากลัว

แต่ในที่สุด พระเยซูจะทรงจัดการกับมันอย่างเด็ดขาด โดยการประหารมันเสีย ด้วยลมพระโอษฐ์พระองค์ ซึ่งก็คือด้วยพระดำรัสสั่งของพระองค์

2เธสะโลนิกา 2:16-17
16ขอให้องค์พระเยซูคริสตเจ้าของเรา และพระบิดาเจ้าของเรา ผู้ทรงรักเราและประทานให้เรามีความชูใจนิรันดร์ และความหวังอันดีโดยพระคุณ 17ทรงชูใจและตั้งใจของท่านไว้ให้มั่นคง ในการกระทำและในวาจาอันดีทุกอย่าง


สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า ในโลกนี้ท่านจะประสพความทุกข์ยาก พระเยซูทรงบอกไว้อย่างนั้น เราไม่ได้ลำบากอยู่คนเดียว บรรดาพี่น้องคริสเตียนที่รักในความจริง และสัตย์ซื่อในการดำเนินชีวิตในทางแคบ ก็ประสพความยากลำบากเช่นเดียวกัน แต่เราจะหนุนใจกันและกันให้อดทนและมีความหวังใจ เพราะพระเยซูทรงรักเรา จะทรงประทานให้เรามีความชูใจนิรันดร์ และความหวังอันดีโดยพระคุณ พระองค์จะทรงชูใจและตั้งใจของท่านไว้ให้มั่นคงในการกระทำและในวาจาอันดีทุกอย่าง

ขอให้เราดำเนินตามความจริง ด้วยความอดทน ชีวิตคริสเตียนไม่มีทางลัดใดๆ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลากับพระเจ้า คริสเตียนที่จริงจังกับพระเจ้าทุกคนเป็นคนที่รักในการอ่านพระวจนะของพระเจ้า เขาจะแสวงหาโอกาสที่จะสามัคคีธรรมกับพี่น้องคริสเตียน เขาจะยึดมั่นในพระคำของพระเจ้าและไม่ประนีประนอมกับบาป เขาจะประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ทั้งโดยคำพูดและโดยการดำเนินชีวิต เขาจะเป็นเหมือนตะเกียงที่พระเยซูคริสต์ทรงจุดแล้วทรงตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เขาจะเป็นเหมือนเกลือที่รักษาความเค็มไว้ เขาจะสุภาพเหมือนแกะ เขาจะได้รับและใช้ของประทานแห่งพระวิญญาณอย่างสัตย์ซื่อ เขาจะเฝ้ารอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ด้วยใจยินดี

ขอให้เราเป็นเช่นนั้น



Create Date : 19 พฤษภาคม 2555
Last Update : 19 พฤษภาคม 2555 20:02:06 น. 1 comments
Counter : 999 Pageviews.  
 
 
 
 
Thank you for God Words that got through you
and please say prayer for me
 
 

โดย: narisa doungsuwan moros IP: 187.173.140.97 วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:11:15:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com