ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง คุณได้หรือเสียอะไร? แต่ถ้าพระเจ้ามีจริง คุณได้หรือเสียอะไร?

 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 มกราคม 2550
 

เป็นที่ชอบพระทัย

16 กรกฎาคม 2006
คริสตจักร ยะลา

โรม 12:1-2
1 พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย
2 อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม

เราทุกคนที่นี่ล้วนแต่เคยเป็นเด็กมาก่อน ในวัยเด็กนั้นเราแทบทุกคนได้รับการสั่งสอนการตักเตือนจากพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้เราเติบโตขึ้นเป็นคนดี แม้บางครั้งเรารู้สึกต่อต้านต่อการสั่งสอนนั้นบ้างตามประสาเด็ก แต่เด็กทุกคนก็มีความปรารถนาอย่างเดียวกันคือ การได้รับการชมเชยจากพ่อแม่ การที่พ่อแม่จะบอกเราว่า “ดีมาก เก่งมาก” มันกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราพยายามที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่าง แต่บางครั้งสิ่งที่เด็กๆทำ โดยคาดหวังว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะพึงพอใจ กลับไม่ได้เป็นไปดังที่ตั้งใจ ทำให้เกิดความท้อใจ สับสน ผิดหวัง
แทบไม่ต่างกันกับชีวิตคริสเตียน แม้เราจะมีอายุในวัยใดก็ตาม เราทุกคนอยู่ในฐานะเหมือนกันคือเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็มีพฤติกรรมคล้ายๆกัน นั่นคือการพยายามจะให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า แต่ปัญหาก็คือ เรารู้หรือเปล่าว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยอะไรบ้าง

อธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงรักเรามาก และแม้ว่าเราจะประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือทำเรื่องโง่ๆที่ทำให้พระองค์เสียพระทัย พระองค์ก็ยังทรงอดกลั้นพระทัยเพราะทรงรักเรา ขอทรงโปรดยกโทษและชำระเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะสามารถอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ได้ โปรดทรงนำสิ่งที่ไม่ใช่ของพระองค์ออกไปจากชีวิตของเรา
เวลานี้ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ทรงเคลื่อนไหวและสัมผัสจิตใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อจะทรงเปิดเผยให้เราเข้าใจถึงความจริงจากพระวจนะของพระองค์ เพื่อเราจะสามารถเป็นลูกที่พระองค์พอพระทัย


คำสอนสำหรับเด็กๆเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสังคม ดังเช่นในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ก็มีการรณรงค์ทางโทรทัศน์โดยใช้เพลงโบราณเพลงหนึ่ง คนที่อายุเกิน 30 ปีคงจะคุ้นเคยดี “เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน…” ผมเชื่อว่าตามโรงเรียนต่างๆก็คงได้นำเอาเรื่องนี้ไปขยายผล รณรงค์ในหมู่เด็กนักเรียนที่อยู่ในปกครอง แต่เป็นสิ่งที่น่าเสียใจมากสักเท่าใดถ้าเด็กๆจะรู้ว่า คนที่สอนให้เด็กๆเป็นเด็กดี เมื่อเขาเองโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มีลักษณะที่ดีอย่างในคำสอนนั้นหลงเหลืออยู่
สำหรับคนทั่วไปก็น่าเสียใจมากพออยู่แล้ว จะยิ่งน่าเสียใจมากกว่านั้นสักเท่าใด ถ้าหากคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่เอง สอนลูกหลานให้ติดตามพระเจ้าและมีชีวิตที่พระเจ้าพอพระทัย แต่กลับไม่ได้มีชีวิตอย่างที่สอนนั้น

วันนี้เราจะมาสำรวจดูว่า พระวจนะของพระเจ้าได้บอกอะไรบ้างเกี่ยวกับ สิ่งที่พระเจ้าทรงชอบพระทัย หรือทรงพอพระทัย และสิ่งใดที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย

พระเจ้าทรงพอพระทัย
โคโลสี 3:20
20 ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า

สำหรับเราทั้งหลายที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เราสามารถทำในสิ่งนี้ เพื่อเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าได้

1 ทิโมธี 2:1-3
1 เหตุฉะนั้นก่อนสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลายให้วิงวอนอธิษฐานทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อคนทั้งปวง
2 เพื่อกษัตริย์ทั้งหลายและคนทั้งปวงที่มีตำแหน่งสูง เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างเงียบๆและสงบสุขในทางธรรมและอย่างนอบน้อม
3 การกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ดี และเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

ในกลุ่มอธิษฐานคืนวันศุกร์ เราได้อธิษฐานเผื่อเรื่องต่างๆ รวมถึงบ้านเมือง และพระมหากษัตริย์ และผู้มีหน้าที่ปกครองประเทศ หากพี่น้องอยากจะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ขอเชิญมาร่วมกลุ่มอธิษฐาน

โคโลสี 1:27-29
27 พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้ธรรมิกชนเหล่านั้นรู้ว่า ในหมู่คนต่างชาตินั้นอะไรเป็นความมั่งคั่งแห่งข้อล้ำลึกนี้ คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี
28 พระองค์นั้นแหละเราประกาศอยู่ โดยเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนให้มีสติปัญญาทุกอย่าง เพื่อจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่แล้วในพระคริสต์
29 เพื่อเหตุนี้เองข้าพเจ้าจึงตรากตรำทำงานด้วยความอุตสาหะ เข้มแข็งด้วยพลังที่พระองค์ทรงดลใจข้าพเจ้าอยู่

การที่คริสเตียนจะรู้ว่า พระคริสต์ทรงสถิตในเราและเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ดังนั้นให้เราได้อุตสาหะ ที่จะมีส่วนช่วยงานที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

กิจการ 10:34-35
34 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด
35 แต่คนใดๆในทุกชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์

การดำเนินชีวิตในทางชอบธรรม เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มีหรือไม่มีตำแหน่ง มีหรือไม่มีการยอมรับในสังคม สามารถเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าได้

1 เปโตร 3:17
17 เพราะว่า การได้รับความทุกข์เพราะทำความดี ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ก็ดีกว่าจะต้องทนอยู่เพราะการประพฤติชั่ว

เอ๊ะ ทำไมต้องมีคำว่า “ถ้า” แล้วตกลงว่าการรับทุกข์หรือทนทุกข์เพราะความดีเป็นที่พอพระทัยหรือเปล่า

1 เปโตร 2:19-21
19 เพราะว่าผู้ที่ได้รับความเห็นชอบว่าดีนั้น ก็ต่อเมื่อเขาเห็นแก่พระเจ้าและยอมอดทนต่อความทุกข์ที่ไร้ความเป็นธรรม
20 เพราะจะเป็นความดีความชอบอย่างไรถ้าท่านทำความชั่ว และท่านถูกเฆี่ยนเพราะการกระทำชั่วนั้น แม้ท่านจะอดทนต่อการถูกเฆี่ยนด้วยความอดกลั้น แต่ว่าถ้าท่านทั้งหลายกระทำการดีและทนเอาเมื่อตกทุกข์ยาก เพราะการดีนั้น ท่านก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
21 เพราะพระเจ้าทรงใช้ท่านสำหรับเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะว่าพระคริสต์ก็ได้ทรงทนทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ให้เป็นแบบอย่างแก่ท่านเพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์

ใช่แล้ว เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าจริงๆ และพระเยซูคริสต์ยังทรงเป็นแบบอย่างด้วย

2 โครินธ์ 7:8-11
8 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะได้ทำให้ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบับนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนี้ ข้าพเจ้าจะเสียใจบ้างเพราะข้าพเจ้าเห็นว่า จดหมายฉบับนั้นทำให้ท่านมีความเสียใจเพียงชั่วขณะเท่านั้น
9 แต่บัดนี้ข้าพเจ้ามีความชื่นชมยินดี มิใช่เพราะท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจใหม่ เพราะว่าท่านได้รับความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ท่านจึงไม่ได้ผลร้ายจากเราเลย
10 เพราะว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ย่อมกระทำให้กลับใจใหม่ ซึ่งนำไปถึงความรอดและไม่เป็นที่น่าเสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำไปถึงความตาย
11 จงพิจารณาดูว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า กระทำให้เกิดความกระตือรือร้นมากทีเดียว ทำให้เกิดความขวนขวายที่จะแก้ตัวใหม่และการเดือดร้อนแทน ความตื่นตัว ความอาลัย และความกระตือรือร้น และการลงโทษ ในทุกสิ่งเหล่านี้ ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าท่านก็ไม่ได้กระทำผิด

ตัวอย่างของเรื่องนี้ได้แก่ เปโตร กับ ยูดาส อิสคาริโอท ความเสียใจเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่ชอบ แต่หากจะเกิดความเสียใจขึ้นในชีวิตของเราก็ขอให้เป็นความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้าเถิด เป็นความเสียใจที่เกิดประโยชน์อย่างมากมายกับชีวิตของเรา

โรม 14:17-18
17 เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์
18 ผู้ที่ปรนนิบัติพระคริสต์ในการเหล่านั้น ก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า และเป็นที่พอใจของมนุษย์ด้วย

พระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงเรื่องของการดำเนินชีวิตไม่ให้เป็นที่สะดุด ให้เราระมัดระวังให้ดีเพื่อเห็นแก่พี่น้องที่มีความเชื่ออ่อนกว่า

2 โครินธ์ 8:12
12 เพราะว่าถ้ามีน้ำใจพร้อมอยู่แล้ว พระเจ้าก็พอพระทัยที่จะทรงรับตามที่ทุกคนมีอยู่ มิใช่ตามที่เขาไม่มี

บางครั้งเราเห็นพี่น้องทำสิ่งที่ดี เราก็ปรารถนาที่จะกระทำด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะเราก็ปรารถนาในสิ่งที่ดี แต่หากเป็นภาระที่ทำให้เราเหน็ดเหนื่อยเกินไป หรือกลายเป็นความกังวลหรือทุกข์ใจ พระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยสิ่งที่เรามี ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่มี

โคโลสี 1:19-20
19 เพราะว่าพระเจ้าทรงพอพระทัย ที่จะให้ความบริบูรณ์ทั้งสิ้นธำรงในพระองค์
20 และโดยพระองค์ ให้สิ่งสารพัดกลับคืนดีกับพระเจ้า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในแผ่นดินโลกหรือในสวรรค์ พระองค์ทรงทำให้มีสันติภาพด้วยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์

แน่นอนพระเจ้าทรงพอพระทัยในเรื่องของการคืนดีกับพระองค์ และคงไม่ผิดถ้าจะหมายรวมถึงการคืนดีกันในระหว่างพี่น้องที่มีความขัดเคืองกัน

1 ทิโมธี 5:4
4 ถ้าแม่ม่ายคนใดมีลูกหลาน ก็ให้ลูกหลานนั้นหัดปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา โดยปฏิบัติกับครอบครัวของตนก่อน และให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกๆทุกคน เพราะพระเจ้าทรงพอพระทัย อย่าให้เราหลงผิด อ้างว่าจะไปปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าแล้วใช้เป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงการช่วยงานบ้าน

ฮีบรู 13:15-16
15 เหตุฉะนั้น ให้เราถวายคำสรรเสริญเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าตลอดไป โดยทางพระองค์นั้น คือคำกล่าวยอมรับเชื่อพระนามของพระองค์
16 จงอย่าละเลยที่จะกระทำการดี และจงแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน เพราะเครื่องบูชาอย่างนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

พระเจ้าทรงพอพระทัยที่เราจะถวายคำสรรเสริญ ด้วยการยอมรับเชื่อในพระนามของพระองค์ และให้มีส่วนช่วยเหลือจุนเจือซึ่งกันและกัน อย่าลืมคำว่า “ซึ่งกันและกัน” ไม่ใช่งอมืองอเท้า รอรับการช่วยเหลือจากพี่น้อง


พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย
มาระโก 10:13-14
13 ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงถูกต้องตัวเด็กนั้น แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้
14 เมื่อพระเยซูทรงเห็นดังนั้นก็ไม่พอพระทัย จึงตรัสแก่เหล่าสาวกว่า "จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น

แม้ว่าในที่นี้พระเยซูกำลังตำหนิสาวกและแสดงให้เราว่าพระองค์ไม่พอพระทัยสิ่งที่พวกเขาทำ แต่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ พระคัมภีร์กำลังเล็งถึงท่าทีของผู้ที่เหมาะสมจะเป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า นั่นคือ เหมือนเด็กๆ คือเป็นไม้อ่อนที่ยอมให้พระเจ้าดัดแปลงแก้ไขได้ สาวกอาจเห็นว่าเด็กๆไร้ความสามารถ ผู้ใหญ่มีสิ่งที่จะคาดหวังได้ แต่พระเยซูไม่ได้มองอย่างนั้น

โรม 8:5-8
5 เพราะว่าคนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ก็ปักใจในสิ่งซึ่งเป็นของของเนื้อหนัง แต่คนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณ ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ
6 ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนัง ก็คือความตาย และซึ่งปักใจอยู่กับพระวิญญาณก็คือชีวิตและสันติสุข
7 เหตุว่าใจซึ่งปักอยู่กับเนื้อหนังนั้นก็เป็นศัตรูต่อพระเจ้า หาได้อยู่ใต้บังคับธรรมบัญญัติของพระเจ้าไม่ และที่จริงจะอยู่ใต้บังคับธรรมบัญญัตินั้นไม่ได้
8 และคนทั้งหลายที่อยู่ใต้เนื้อหนัง จะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าก็หามิได้

เป็นคำที่ชัดเจนอยู่ในตัวเอง ถ้าชีวิตคริสเตียนของเรายังอยู่ภายใต้เนื้อหนัง จะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่สนใจเรื่องฝ่ายวิญญาณ จะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าไม่ได้เลย

ฮีบรู 11:6
6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์

หวังว่าพี่น้องที่นั่งอยู่ที่นี่จะมีความเชื่อในพระเจ้า เพราะถ้าไม่มี ก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้เลย แต่จะรู้ตัวได้อย่างไรว่าเรามีความเชื่อ ก็ลองถามตัวเองดูว่า เราดำเนินชีวิตอย่างที่แสดงออกหรือเปล่าว่าไว้วางใจในพระเจ้า


ขอพระเจ้าช่วยเราทุกคน ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เราทุกคนต่างก็ต้องเรียนรู้และเติบโตขึ้น บางครั้งเรามักใช้คำว่า “ให้เราเป็นแบบอย่างที่ดี” แท้จริงแล้ว พระเยซูคริสต์ต่างหากที่เป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าเราไม่ได้มีชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์ เราจะเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้เลย



Create Date : 25 มกราคม 2550
Last Update : 25 มกราคม 2550 16:16:37 น. 0 comments
Counter : 1727 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

ksk
 
Location :
ยะลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ผมเป็นคริสเตียนครับ
เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ
จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี)
ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO
Toulouse FRANCE ปี 1994
เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43)
ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ)
ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K
กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547
สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น
สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด
และยาวมาจนถึงตอนนี้
ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน free counter

free counter

New Comments
[Add ksk's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com