|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นที่ชอบพระทัย
16 กรกฎาคม 2006 คริสตจักร ยะลา
โรม 12:1-2 1 พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย 2 อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม เราทุกคนที่นี่ล้วนแต่เคยเป็นเด็กมาก่อน ในวัยเด็กนั้นเราแทบทุกคนได้รับการสั่งสอนการตักเตือนจากพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้เราเติบโตขึ้นเป็นคนดี แม้บางครั้งเรารู้สึกต่อต้านต่อการสั่งสอนนั้นบ้างตามประสาเด็ก แต่เด็กทุกคนก็มีความปรารถนาอย่างเดียวกันคือ การได้รับการชมเชยจากพ่อแม่ การที่พ่อแม่จะบอกเราว่า ดีมาก เก่งมาก มันกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราพยายามที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่าง แต่บางครั้งสิ่งที่เด็กๆทำ โดยคาดหวังว่าพ่อแม่ผู้ปกครองจะพึงพอใจ กลับไม่ได้เป็นไปดังที่ตั้งใจ ทำให้เกิดความท้อใจ สับสน ผิดหวัง แทบไม่ต่างกันกับชีวิตคริสเตียน แม้เราจะมีอายุในวัยใดก็ตาม เราทุกคนอยู่ในฐานะเหมือนกันคือเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็มีพฤติกรรมคล้ายๆกัน นั่นคือการพยายามจะให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า แต่ปัญหาก็คือ เรารู้หรือเปล่าว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยอะไรบ้าง
อธิษฐาน ข้าแต่พระเจ้าพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงรักเรามาก และแม้ว่าเราจะประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือทำเรื่องโง่ๆที่ทำให้พระองค์เสียพระทัย พระองค์ก็ยังทรงอดกลั้นพระทัยเพราะทรงรักเรา ขอทรงโปรดยกโทษและชำระเราให้บริสุทธิ์ เพื่อจะสามารถอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ได้ โปรดทรงนำสิ่งที่ไม่ใช่ของพระองค์ออกไปจากชีวิตของเรา เวลานี้ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ทรงเคลื่อนไหวและสัมผัสจิตใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพื่อจะทรงเปิดเผยให้เราเข้าใจถึงความจริงจากพระวจนะของพระองค์ เพื่อเราจะสามารถเป็นลูกที่พระองค์พอพระทัย
คำสอนสำหรับเด็กๆเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสังคม ดังเช่นในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ก็มีการรณรงค์ทางโทรทัศน์โดยใช้เพลงโบราณเพลงหนึ่ง คนที่อายุเกิน 30 ปีคงจะคุ้นเคยดี เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน
ผมเชื่อว่าตามโรงเรียนต่างๆก็คงได้นำเอาเรื่องนี้ไปขยายผล รณรงค์ในหมู่เด็กนักเรียนที่อยู่ในปกครอง แต่เป็นสิ่งที่น่าเสียใจมากสักเท่าใดถ้าเด็กๆจะรู้ว่า คนที่สอนให้เด็กๆเป็นเด็กดี เมื่อเขาเองโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มีลักษณะที่ดีอย่างในคำสอนนั้นหลงเหลืออยู่ สำหรับคนทั่วไปก็น่าเสียใจมากพออยู่แล้ว จะยิ่งน่าเสียใจมากกว่านั้นสักเท่าใด ถ้าหากคริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่เอง สอนลูกหลานให้ติดตามพระเจ้าและมีชีวิตที่พระเจ้าพอพระทัย แต่กลับไม่ได้มีชีวิตอย่างที่สอนนั้น
วันนี้เราจะมาสำรวจดูว่า พระวจนะของพระเจ้าได้บอกอะไรบ้างเกี่ยวกับ สิ่งที่พระเจ้าทรงชอบพระทัย หรือทรงพอพระทัย และสิ่งใดที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย
พระเจ้าทรงพอพระทัย โคโลสี 3:20 20 ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สำหรับเราทั้งหลายที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เราสามารถทำในสิ่งนี้ เพื่อเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าได้
1 ทิโมธี 2:1-3 1 เหตุฉะนั้นก่อนสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลายให้วิงวอนอธิษฐานทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อคนทั้งปวง 2 เพื่อกษัตริย์ทั้งหลายและคนทั้งปวงที่มีตำแหน่งสูง เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างเงียบๆและสงบสุขในทางธรรมและอย่างนอบน้อม 3 การกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ดี และเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ในกลุ่มอธิษฐานคืนวันศุกร์ เราได้อธิษฐานเผื่อเรื่องต่างๆ รวมถึงบ้านเมือง และพระมหากษัตริย์ และผู้มีหน้าที่ปกครองประเทศ หากพี่น้องอยากจะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ขอเชิญมาร่วมกลุ่มอธิษฐาน
โคโลสี 1:27-29 27 พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้ธรรมิกชนเหล่านั้นรู้ว่า ในหมู่คนต่างชาตินั้นอะไรเป็นความมั่งคั่งแห่งข้อล้ำลึกนี้ คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี 28 พระองค์นั้นแหละเราประกาศอยู่ โดยเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนให้มีสติปัญญาทุกอย่าง เพื่อจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่แล้วในพระคริสต์ 29 เพื่อเหตุนี้เองข้าพเจ้าจึงตรากตรำทำงานด้วยความอุตสาหะ เข้มแข็งด้วยพลังที่พระองค์ทรงดลใจข้าพเจ้าอยู่ การที่คริสเตียนจะรู้ว่า พระคริสต์ทรงสถิตในเราและเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ดังนั้นให้เราได้อุตสาหะ ที่จะมีส่วนช่วยงานที่พระเจ้าทรงพอพระทัย
กิจการ 10:34-35 34 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด 35 แต่คนใดๆในทุกชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์ การดำเนินชีวิตในทางชอบธรรม เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร มีหรือไม่มีตำแหน่ง มีหรือไม่มีการยอมรับในสังคม สามารถเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าได้
1 เปโตร 3:17 17 เพราะว่า การได้รับความทุกข์เพราะทำความดี ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ก็ดีกว่าจะต้องทนอยู่เพราะการประพฤติชั่ว เอ๊ะ ทำไมต้องมีคำว่า ถ้า แล้วตกลงว่าการรับทุกข์หรือทนทุกข์เพราะความดีเป็นที่พอพระทัยหรือเปล่า
1 เปโตร 2:19-21 19 เพราะว่าผู้ที่ได้รับความเห็นชอบว่าดีนั้น ก็ต่อเมื่อเขาเห็นแก่พระเจ้าและยอมอดทนต่อความทุกข์ที่ไร้ความเป็นธรรม 20 เพราะจะเป็นความดีความชอบอย่างไรถ้าท่านทำความชั่ว และท่านถูกเฆี่ยนเพราะการกระทำชั่วนั้น แม้ท่านจะอดทนต่อการถูกเฆี่ยนด้วยความอดกลั้น แต่ว่าถ้าท่านทั้งหลายกระทำการดีและทนเอาเมื่อตกทุกข์ยาก เพราะการดีนั้น ท่านก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า 21 เพราะพระเจ้าทรงใช้ท่านสำหรับเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะว่าพระคริสต์ก็ได้ทรงทนทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ให้เป็นแบบอย่างแก่ท่านเพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์ ใช่แล้ว เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าจริงๆ และพระเยซูคริสต์ยังทรงเป็นแบบอย่างด้วย
2 โครินธ์ 7:8-11 8 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะได้ทำให้ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบับนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เสียใจ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนี้ ข้าพเจ้าจะเสียใจบ้างเพราะข้าพเจ้าเห็นว่า จดหมายฉบับนั้นทำให้ท่านมีความเสียใจเพียงชั่วขณะเท่านั้น 9 แต่บัดนี้ข้าพเจ้ามีความชื่นชมยินดี มิใช่เพราะท่านเสียใจ แต่เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจใหม่ เพราะว่าท่านได้รับความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ท่านจึงไม่ได้ผลร้ายจากเราเลย 10 เพราะว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ย่อมกระทำให้กลับใจใหม่ ซึ่งนำไปถึงความรอดและไม่เป็นที่น่าเสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำไปถึงความตาย 11 จงพิจารณาดูว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า กระทำให้เกิดความกระตือรือร้นมากทีเดียว ทำให้เกิดความขวนขวายที่จะแก้ตัวใหม่และการเดือดร้อนแทน ความตื่นตัว ความอาลัย และความกระตือรือร้น และการลงโทษ ในทุกสิ่งเหล่านี้ ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าท่านก็ไม่ได้กระทำผิด ตัวอย่างของเรื่องนี้ได้แก่ เปโตร กับ ยูดาส อิสคาริโอท ความเสียใจเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่ชอบ แต่หากจะเกิดความเสียใจขึ้นในชีวิตของเราก็ขอให้เป็นความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้าเถิด เป็นความเสียใจที่เกิดประโยชน์อย่างมากมายกับชีวิตของเรา
โรม 14:17-18 17 เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ 18 ผู้ที่ปรนนิบัติพระคริสต์ในการเหล่านั้น ก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า และเป็นที่พอใจของมนุษย์ด้วย พระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงเรื่องของการดำเนินชีวิตไม่ให้เป็นที่สะดุด ให้เราระมัดระวังให้ดีเพื่อเห็นแก่พี่น้องที่มีความเชื่ออ่อนกว่า
2 โครินธ์ 8:12 12 เพราะว่าถ้ามีน้ำใจพร้อมอยู่แล้ว พระเจ้าก็พอพระทัยที่จะทรงรับตามที่ทุกคนมีอยู่ มิใช่ตามที่เขาไม่มี บางครั้งเราเห็นพี่น้องทำสิ่งที่ดี เราก็ปรารถนาที่จะกระทำด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะเราก็ปรารถนาในสิ่งที่ดี แต่หากเป็นภาระที่ทำให้เราเหน็ดเหนื่อยเกินไป หรือกลายเป็นความกังวลหรือทุกข์ใจ พระคัมภีร์ข้อนี้บอกเราว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยสิ่งที่เรามี ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่มี
โคโลสี 1:19-20 19 เพราะว่าพระเจ้าทรงพอพระทัย ที่จะให้ความบริบูรณ์ทั้งสิ้นธำรงในพระองค์ 20 และโดยพระองค์ ให้สิ่งสารพัดกลับคืนดีกับพระเจ้า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในแผ่นดินโลกหรือในสวรรค์ พระองค์ทรงทำให้มีสันติภาพด้วยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์ แน่นอนพระเจ้าทรงพอพระทัยในเรื่องของการคืนดีกับพระองค์ และคงไม่ผิดถ้าจะหมายรวมถึงการคืนดีกันในระหว่างพี่น้องที่มีความขัดเคืองกัน
1 ทิโมธี 5:4 4 ถ้าแม่ม่ายคนใดมีลูกหลาน ก็ให้ลูกหลานนั้นหัดปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา โดยปฏิบัติกับครอบครัวของตนก่อน และให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกๆทุกคน เพราะพระเจ้าทรงพอพระทัย อย่าให้เราหลงผิด อ้างว่าจะไปปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าแล้วใช้เป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงการช่วยงานบ้าน
ฮีบรู 13:15-16 15 เหตุฉะนั้น ให้เราถวายคำสรรเสริญเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าตลอดไป โดยทางพระองค์นั้น คือคำกล่าวยอมรับเชื่อพระนามของพระองค์ 16 จงอย่าละเลยที่จะกระทำการดี และจงแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน เพราะเครื่องบูชาอย่างนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่เราจะถวายคำสรรเสริญ ด้วยการยอมรับเชื่อในพระนามของพระองค์ และให้มีส่วนช่วยเหลือจุนเจือซึ่งกันและกัน อย่าลืมคำว่า ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่งอมืองอเท้า รอรับการช่วยเหลือจากพี่น้อง
พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย มาระโก 10:13-14 13 ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงถูกต้องตัวเด็กนั้น แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้ 14 เมื่อพระเยซูทรงเห็นดังนั้นก็ไม่พอพระทัย จึงตรัสแก่เหล่าสาวกว่า "จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น แม้ว่าในที่นี้พระเยซูกำลังตำหนิสาวกและแสดงให้เราว่าพระองค์ไม่พอพระทัยสิ่งที่พวกเขาทำ แต่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้ พระคัมภีร์กำลังเล็งถึงท่าทีของผู้ที่เหมาะสมจะเป็นพลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า นั่นคือ เหมือนเด็กๆ คือเป็นไม้อ่อนที่ยอมให้พระเจ้าดัดแปลงแก้ไขได้ สาวกอาจเห็นว่าเด็กๆไร้ความสามารถ ผู้ใหญ่มีสิ่งที่จะคาดหวังได้ แต่พระเยซูไม่ได้มองอย่างนั้น
โรม 8:5-8 5 เพราะว่าคนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ก็ปักใจในสิ่งซึ่งเป็นของของเนื้อหนัง แต่คนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณ ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ 6 ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนัง ก็คือความตาย และซึ่งปักใจอยู่กับพระวิญญาณก็คือชีวิตและสันติสุข 7 เหตุว่าใจซึ่งปักอยู่กับเนื้อหนังนั้นก็เป็นศัตรูต่อพระเจ้า หาได้อยู่ใต้บังคับธรรมบัญญัติของพระเจ้าไม่ และที่จริงจะอยู่ใต้บังคับธรรมบัญญัตินั้นไม่ได้ 8 และคนทั้งหลายที่อยู่ใต้เนื้อหนัง จะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าก็หามิได้ เป็นคำที่ชัดเจนอยู่ในตัวเอง ถ้าชีวิตคริสเตียนของเรายังอยู่ภายใต้เนื้อหนัง จะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่สนใจเรื่องฝ่ายวิญญาณ จะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าไม่ได้เลย
ฮีบรู 11:6 6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์ หวังว่าพี่น้องที่นั่งอยู่ที่นี่จะมีความเชื่อในพระเจ้า เพราะถ้าไม่มี ก็ไม่สามารถเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้เลย แต่จะรู้ตัวได้อย่างไรว่าเรามีความเชื่อ ก็ลองถามตัวเองดูว่า เราดำเนินชีวิตอย่างที่แสดงออกหรือเปล่าว่าไว้วางใจในพระเจ้า
ขอพระเจ้าช่วยเราทุกคน ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ เราทุกคนต่างก็ต้องเรียนรู้และเติบโตขึ้น บางครั้งเรามักใช้คำว่า ให้เราเป็นแบบอย่างที่ดี แท้จริงแล้ว พระเยซูคริสต์ต่างหากที่เป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าเราไม่ได้มีชีวิตที่เหมือนพระเยซูคริสต์ เราจะเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้เลย
Create Date : 25 มกราคม 2550 |
Last Update : 25 มกราคม 2550 16:16:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1727 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
ksk |
|
|
Location :
ยะลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]
|
ผมเป็นคริสเตียนครับ เป็นชาวยะลา เกิดปัตตานี ลูกจีนไหหลำ จบวิศวกรรมไฟฟ้า(ระบบควบคุม) จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ EL รุ่น 24 รหัส 31 (เคยเรียน ป.วส. IE ห้องอิเล็ก ที่ วทอ. 2 ปี รหัส 29 ห้องเดียวกับ ศิริ แว่น สมชาย สุกิตติ จั๊บ ไพบูลย์ จ่าบุญเลิศ ก่อนย้อนไปเริ่มต้นป.ตรี ปี 1 ใหม่กับรุ่นน้องในคณะวิศวฯ พูดง่ายๆว่า ซิ่ว 2 ปี) ป.โท วิศวกรรมการบิน(Avionique) จาก SUPAERO Toulouse FRANCE ปี 1994 เคยรับราชการเป็นอาจารย์ในคณะวิศวฯที่พระนครเหนือ 8 ปี ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก KMITNB Robot Camp เป็นสิ่งที่ยังพอให้ภาคภูมิใจเมื่อมองกลับไปที่เทคโนฯ ด้วยความคิดถึง 14 ปี อันแสนหวานกับชีวิตในพระนครเหนือ(มิย.ปี 29 - มิย.ปี 43) ตอนนี้ลาออกจากราชการ มาหากินด้วยลำแข้ง(ไม่ใช่เป็นนักมวยไทยนะ) ที่จังหวัดยะลาบ้านเกิด ตั้งแต่มิถุนายน ปี Y2K กำลังจะรุ่งเรืองแล้วเชียว 4 มกราคม 2547 สถานการณ์ไฟใต้ก็เริ่มขึ้น สิ่งที่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิด มันก็เกิด และยาวมาจนถึงตอนนี้ ผมยังนึกไม่ออกมันจะจบลงแบบไหน
free counter
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|