|
อำนาจมืดยังคงบงการอยู่เบื้องหลัง
****วาระซ่อนเร้นจากภายในประเทศ วิกฤตการเมืองไทย*****
การรบยืดเยื้อ ผิดแผน อำนาจมืดยังคงบงการอยู่เบื้องหลัง
ผ่านทางพรรคประชาธิปัตย์
เป้าหมายเดิมคือการเคลื่อนม๊อบมายั่วยุให้ฝ่ายรัฐปราบปรามด้วยความรุนแรง
เมื่อมีการบาดเจ็บล้มตาย ภาพพจน์ในการเป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือดของอภิสิทธิก็จะหมดไปทันที
กลายเป็นความจำเป็นของทุกรัฐบาลที่จะต้องใช้กำลังปราบม๊อบ
และเมื่อมีการใช้กำลังจนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อาจต้านทานได้
ก็จะต้องนำทหารออกมาช่วย แต่ทหารประกาศชัดแจ้ง
ว่าอยู่ข้างประเทศไทย แบบสมัยสมัครสุนทรเวช คือออกมาแล้วไม่ทำอะไร
จนนำไปสู่ การรัฐประหารเงียบยึดอำนาจในที่สุด
โดยการยึดอำนาจของประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาชน
สุนทรพจน์อันลือลั่นของนายกยิ่งลักษณ์ ที่อูลันบาร์ตอ
ทำให้ นานา ชาติ จับตามอง การเมืองในประเทศไทยเป็นพิเศษ
หากทหารทำการรัฐประหารแบบเดิมๆ อาจโดนบอยคอต หรืออาจเป็นเงื่อนไขให้เกิดรัฐบาลพลัดถิ่น
ก็จำเป็นต้องทำการรัฐประหารแบบอื่นๆ เช่น ตุลาการภิวัตร ปปช.ชี้มูล ประชาชนภิวัตร
แต่ฝ่ายรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาลที่เรียนรู้ประสบการณ์ ในการถูกทำรัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง
ครั้งรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย เป็นบทเรียนอย่างดี
จึงใช้ความอ่อนสยบความแข็ง ไม่ใช้กำลังปราบปรามม๊อบของพรรคประชาธิปัตย์
แม้ฝ่ายม๊อบจะยั่วยุเพียงใด ก็ไม่เป็นผล ทำให้ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการนองเลือด
จากการที่คิดว่าจะเผด็จศึกภายในเร็ววัน ก็ทำให้เนินนานออกไปอย่างไม่มีกำหนด
การมาของม๊อบทำให้กรุงเทพเป็นอัมพาต คนกรุงส่วนหนึ่งซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์
เดือดร้อนอย่างช่วยไม่ได้ และเริ่มไม่พอใจในการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์
หากเนิ่นนานต่อไปเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัติในกรุงเทพก็จะร่อยหรอ
พรรคประชาธิปัตย์ก็ตระหนักในข้อนี้จึงเร่งเกมส์หวังเผด็จศึก โดยการประกาศสงคราม9ทัพบุกทำเนียบรัฐบาล
หวังให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของประชาชน และเข้าเงื่อนไขที่ทหารจะต้องออกมา
แต่ฝ่ายรัฐบาลได้แก้เกมส์โดยการประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน และใช้พระราชกฤษฏีกา
โปรดเกล้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่ หากใครฝ่าฝืนถือว่า ขัดพระราชอำนาจ
ฝ่ายม๊อบประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เริ่มเคลื่อนไหวโดยการชูประเด็น ไม่เอาพรบ.นิรโทษกรรม
ซึ่งได้ผล ประชาชนออกมาร่วมมากมาย จนสภาต้องถอนคืน แต่เมื่อม๊อบจุดติดแล้ว ก็ยกระดับมาเรื่อยๆ
สร้างเงื่อนไข ยึดที่นั่นยึดที่นี่ เป้าประสงค์คือล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
โดย คิดไป ทำไป เนื่องเพราะผิดแผนแต่ต้น ฝ่ายรัฐบาลไม่หลงกลเข้าตามแผนเดิมที่วางไว้
สุดท้ายจึงคิดชู "การปฏิรูปประเทศ" โดยสภาประชาชน แบบไร้พิมพ์เขียว
เป็นเงื่อนไข เพียงเพื่อไม่ต้องการเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะ รู้ตัวอยู่แล้วว่าแพ้แน่นอน และจะแพ้มากกว่าครั้งใดๆ
เพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ การเมืองข้างถนน ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
พวก สส. มีการเปลี่ยนขั้วย้ายข้าง หากเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเครื่องมือของอำนาจมืดอนุรักษ์นิยม
ก็จะเป็นเสียงข้างน้อยถึงน้อยมาก ในสภาอีกครั้ง.จึงบอยคอต ไม่ลงเลือกตั้งและจะปล่อยให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้
การชูสภาประฏิรูปประเทศ แบบลวกๆ ไร้พิมพ์เขียว จึงเป็นประเด็นที่จุดขึ้นเฉพาะหน้า
เพื่อลากดึงเกมส์ เลี้ยงม๊อบไปเรื่อยๆ ให้ถึงวันเลือกตั้ง และหรือ เพื่อบีบคั้น ให้นายกลาออกจากตำแหน่ง
เพื่อจะได้นายกตามที่กลุ่มอำนาจมืดต้องการ และ หากฝ่ายม๊อปประชาธิปัตย์ทำสำเร็จ
ฝ่ายคนเสื้อแดงก็จะออกมาคัดค้าน และอาจนำมาซึ่งหายนะสงครามกลางเมือง เช่น ประเทศ ซีเรีย
ผู้คนล้มตายมากมาย อะไรที่เกิดในประเทศอื่นได้ แล้วจะมีเหตุผลใดที่จะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย
หากชนชั้นนำ ยังคงแย่งชิงอำนาจ แบบไร้กติกา เขียนกติกาเข้าข้างตน
เมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้าย ชนชั้นนำ เหล่านี้ จะหอบเงินบินหนีไปเสวยสุขยังต่างประเทศ
ทิ้งให้ประชาชนคนธรรมดา จมอยู่ในทะเลเพลิงแห่งความเกลียดชัง สงครามกลางเมือง.
ดังคำกล่าวที่ว่า
"ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกย่อมแหลกราญ"
ระบอบประชาธิปไตยตามกติกาเท่านั้น
ถึงจะหยุดหายนะนี้ได้
ทุกคนมี1สิทธิ1เสียงเทียมกัน
อย่าให้ใครก็ไม่รู้ที่อ้างตัวว่าเป็นคนดี
มาแย่งสิทธิและเสรีภาพของคุณไป --เจเลน่า
----ก็อปเขามา โดนใจ
| Create Date : 23 ธันวาคม 2556 |
|
0 comments |
| Last Update : 23 ธันวาคม 2556 1:15:51 น. |
| Counter : 2064 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [
