ทำขนมเปี็ยะกันเถอะเด็กที่บ้านและคนหลายคนในบ้านชอบกินขนมเปี๊ยะไส้ถั่ว แบบมีไข่เค็มตรงกลางแต่เราไม่ค่อยชอบนะ ชอบทำขนมนี้มากกว่าชอบกินเพราะประการแรกมีคนชอบกินก็ดีแล้ว ทำแล้วจะได้มีคนรับผิดชอบประการต่อมา ขนมนี้มีหลายขั้นตอนพอควร แต่ไม่ยาก และไม่ค่อยเสียหายเท่าไหร่ ถ้าขั้นตอนการทำหรือส่วนผสมจะผิดเพี้ยนนิด ๆ หน่อย ๆ เหมาะสมสำหรับเอาไว้ทำเล่นแก้เครียด ใช้แต่มือทำงาน ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมากเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องของสุขภาพเล็กน้อยนะคะช่วงนี้มีอาการเพี้ยน ๆ ของระบบประสาทในร่างกายไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะซีเรียสหรือเปล่า เพราะคุณหมอที่เราไปพบ ก็ไม่ได้ทำท่าว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเริ่มด้วยอาการชา ๆ ตามร่างกายซีกขวา หนังหัว หน้าผาก ขมับ ซีกขวาจะชา ๆ ซ่า ๆ เวลาไปโดนเหมือนคนเป็นเหน็บที่เวลาเอาอะไรไปจิ้มๆ แล้วจะแปล๊บ ๆ ที่รีบไปเพราะรู้สึกว่ามันเริ่มจะขยายบริเวณที่ชามากขึ้น ลงมาที่แก้ม และริมฝีปาก เริ่มซ่า ๆ กลัวจะคุณอัมพถามหา เหมือนที่เห็นคนเป็นแล้วหน้าจะตกข้างนึงนัดพบคุณหมอด้านระบบประสาท หลังจากเช็คอาการเพิ่มเติม พบว่ามีกล้ามเนื้อแขนขาด้านขวาอ่อนแรงกล้ามเนื้อต้นคอ ไหล่ แข็งเครียดค่อนข้างมาก โดนสัมภาษณ์เพิ่มเติมเรื่องการนอนหลับ เราบอกว่ามีอาการตื่นตอนประมาณตี 3 ของทุกวันแล้วจะไม่ค่อยหลับ ไปจนถึงตีห้าแล้วหลับใหม่มีอารมณ์หดหู่ในช่วงที่นอนไม่หลับผลการตรวจ พบว่าไม่ได้เป็นอาการที่เกี่ยวกับระบบประสาทโดยตรง แต่เป็นผลมาจากการทำงานของสมอง ที่ผลิตเคมีสำหรับร่างกาย มีการทำงานไม่ถูกต้อง ทำให้ส่งผลกับอาการทางกายต่าง ๆ ที่เป็น ทั้งนี้ รวมถึงการนอนไม่ตลอด อาการหดหู่ หรือกล้ามเนื้อเครียด ฯลฯ ที่เล่ามานี้เท่าที่พอจำได้นะคะ ไม่ได้ควักกระดาษมาจดตอนคุณหมอท่านนั้นเลคเชอร์สรุปว่า จะใช้การให้ยาแก้ที่ต้นเหตุ คือปรับเคมีในสมอง ไม่ได้แก้อะไรเกี่ยวกับทางกายภาพ เพราะคุณหมอมองว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นปลายเหตุสาเหตุส่วนใหญ่ของอาการแบบนี้ มาจากความเครียด มียาบางตัวที่รับมา ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นยาคลายเครียด กินแล้วคนรอบข้างจะพบความเปลี่ยนแปลงของตัวเรา เช่น อาจจะพบว่าใจดีขึ้น ดุน้อยลง ...? ..หมายความว่าไงฮะ..คุณหมอ..กลับเข้าเรื่องทำขนมของเราดีกว่าขนมเปี๊ยะแบบไส้ถั่วกวนไข่เค็มวันนี้ เป็นแบบเปลือกนุ่ม ๆ ต้นฉบับแป้งมาจากบ้านคุณหน่อง wee_nong คนเก่ง ที่ทำขนมอะไรก็ดูดีไปหมด ขอขอบคุณคุณหน่อง มา ณ ที่นี้นะคะตามไปดูบล็อกขนมเปี๊ยะไส้เผือกคุณหน่องได้ที่นี่นะคะส่วนไส้ถั่วกวนเราปรับไปปรับมาจากหลาย ๆ สูตรที่เจอ ๆ ในห้องสูตรอาหาร ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เคยเอามาโพสไว้ค่ะก่อนอื่น ทำไส้ถั่วกวนก่อนค่ะส่วนผสมไส้ถั่วกวนถั่วทอง (ถั่วเขียวเราะเปลือก) 500 กรัม (นน.ถั่วแห้ง) แช่น้ำไว้หนึ่งคืน แล้วนำมานึ่งให้สุกน้ำตาลทรายแร่ 300 กรัมดอกเกลือหยิบมือน้ำมันคาโนล่า 180 มิลลิลิตรน้ำเปล่า 1/3 ถ้วยแบะแซ 2 ช้อนโต๊ะเนยสด 50 กรัมไข่แดงไข่เค็ม (optional)วิธีทำไส้ถั่วกวน- บดถั่วทองที่นึ่งสุกนิ่มแล้วให้ละเอียด เราใช้เครื่อง food processor ค่ะ- ในกระทะสำหรับกวนถั่ว ตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำลงไป ตามด้วยแบะแซ คนให้ละลาย- ใส่น้ำตาลทราย และเกลือลงไปทั้งหมด คนพอให้เข้ากัน ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ๆ- ตามด้วยถั่วบด และน้ำมันคาโนลา กวนให้เข้ากันดี- พอส่วนผสมเริ่มเนียนเข้ากัน เติมเนยสดลงไป แล้วกวนต่อด้วยไฟอ่อน ๆ จนแห้งไม่ติดกระทะ- ถ้าใส่ไข่แดงไข่เค็มในไส้ด้วย ให้นำไข่แดงเรียงลงในถาดปูกระดาษฟอยล์ พรมด้วยเเหล้าจีนเล็กน้อย ส่งเข้าไปอบด้วยไฟอ่อน ๆ อุณหภูมิ 140 องศาซี สัก 10 นาที จะได้หอม ๆ พักไว้ให้เย็นแล้วนำมาหั่นแบ่งเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ- เมื่อถั่วกวนเย็นตัวลงแล้ว นำมาปั้นเตรียมไว้เป็นลูกกลม ๆ เราใช้ช้อนตวงขนาด 1 ช้อนชาเต็มตักถั่วกวน แล้วห่อไข่เค็มตรงกลาง จะได้ไส้ขนมขนาดเส็นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ค่ะ- นำไส้ที่ปั้นเสร็จทั้งหมด ไปอบด้วยควันเทียนให้หอม เราอบทิ้งไว้ข้ามคืน ส่วนผสมตามที่ใช้ จะได้ไส้ถั่วกวนประมาณ 180 ลูกค่ะ จากนั้นมาเครียมส่วนของเปลือกขนมกันสัดส่วนของแป้งที่ให้จะค่อนข้างพอดีกับไส้ที่ได้นะคะส่วนผสมแป้งชั้นนอกแป้งเค้ก 375 กรัมแป้งอเนกประสงค์ 160 กรัมไอซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะน้ำเย็น 270 กรัมน้ำมันคาโนล่า 225 กรัมดอกเกลือ หยิบนิ้วส่วนผสมแป้งชั้นในแป้งเค้ก 225 กรัมแป้งอเนกประสงค์ 190 กรัมน้ำมันคาโนล่า 150 กรัมวิธีทำ- เราเริ่มจากแป้งชั้นนอกก่อน ร่อนแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ตามด้วยไอซิ่ง คนให้เข้ากัน- ใส่น้ำเย็นที่ผสมเกลือลงไป และคนให้ละลายแล้ว และน้ำมันคาโนล่าลงในแป้ง ใช้พายยางคนให้เข้ากัน- แล้วนวดต่อพอให้แป้งเนียนนุ่ม คลุมด้วยผ้าหรือพลาสคิตแรปอย่างน้อย 30 นาที- แป้งชั้นใน ร่อนแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน - เติมน้ำมันคาโนล่าลงไป นวดให้เข้ากัน- คลุมและพักไว้เช่นเดียวกับแป้งนอก- เมื่อครบเวลา นำแป้งชั้นนอกออกมาแบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ เราใช้น้ำหนักก้อนละประมาณ 19-20 กรัมต่อลูกจะได้แป้งชั้นนอก 58 ลูก- แบ่งแป้งชั้นในให้ได้จำนวนเท่า ๆ กับชั้นนอก - นำแป้งชั้นนอกแผ่ออกให้เป็นวงกลม นำแป้งชั้นในมาใส่ตรงกลาง แล้วห่อให้สนิท คลึงกลมเรียงพักไว้- เมื่อครบทุกชิ้นแล้ว เริ่มต้นคลึงแป้ง โดยหยิบแป้งก้อนแรกที่คลึงเอาไว้มา เอาด้านหัวกลม ๆ ลง ใช้ไม้คลึงแป้งคลึงให้เป็นรูปยาวพอประมาณ จะได้ชิ้นแป้งครั้งแรกเป็นรูปวงรี ม้วนแป้งตามด้านสั้นให้แน่น พักไว้- จับแป้งที่ม้วนไว้ครั้งแรก คลึงตามความยาวให้ค่อนข้างบาง แล้วม้วนตามด้านสั้นอีกครั้งให้แน่น ๆ- เมื่อทำครบแล้ว พักแป้งไว้สัก 10=15 นาที โดยคลุมด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ไว้ด้วยถึงตอนสนุกแล้ว- นำแป้งที่ม้วนไว้แล้วออกมา ตัดด้วยมีดคม ๆ ได้สามชิ้น- วางชิ้นแป้งโดยเอาด้านแบนลง คลึงให้เป็นแผ่นกลม กว้างประมาณ 1/12 นิ้ว หรือให้ใหญ่กว่าไส้ที่ปั้นไว้ก็แล้วกันนะคะ - ห่อไส้ถั่วกวนที่เตรียมไว้ จับจีบหรือเก็บตะเข็บให้สนิท วางเรียงลงในถาดอบที่ทาไขมันเตรียมไว้แล้ววางชิด ๆ กันได้ค่ะ เพราะเจ้าขนมเปี๊ยะนี่ไม่ขยายตัวอีกแล้ว แต่อาจจะยากในการทาไข่แดงก่อนอบเล็กน้อยเป็นแถวเป็นแนว- ก่อนอบ ถ้าชอบ ผสมไข่แดงกับน้ำเล็กน้อย ทาที่หน้าขนม จะได้สีสวย ๆ ค่ะ- ส่งเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิคงที่แล้วที่ 165 องศาซี เราใช้เวลาถาดละประมาณ 20=25 นาที หรือสำรวจหน้าขนมเองเป็นระยะ ๆ นะคะออกมาแล้ว หอมฟุ้งไปทั่วบ้านเลยพักให้เย็นบนตะแกรงเมื่อขนมเย็นสนิทแล้ว เรียงลงในภาชนะที่จะใช้อบควันเทียนเว้นที่ตรงกลางเอาไว้ใส่ถ้วยเทียนอบด้วยนะคะจุดเทียนอบให้ติด และเมื่อติดดีแล้ว ดับไฟ ให้มีควัน ใส่ลงในถ้วย แล้วปิดฝาชามอบให้สนิทถ้าชอบให้หอมมาก ๆ ก็จุดเทียนสักสอง-สามครั้ง แล้วพอครั้งสุดท้ายก็ปิดฝาทิ้งไว้เลยค่ะเราอบไว้ข้ามคืนเหมือนเดิมเช้ามาอีกวัน คนในบ้านก็ได้กินขนมเปี๊ยะนุ่ม ๆ หอม ๆ ทำใหม่ ๆ แล้วตัดมาดูไส้ข้างในกันดีกว่ามีแบบไม่ทาไข่แดงที่หน้าด้วย เราชอบนะ สีขาวดูละมุนตาดีทำเยอะ ต้องแบ่งเอาไปแจกจ่ายเพื่อนฝูง เพื่อนบ้านด้วยขนมเปี๊ยะแบบนี้ทำไม่ยาก แต่จะใช้เวลาหน่อย ซึ่งเหมาะกับการที่บางเวลาไม่อยากทำอะไรรีบร้อนค่อย ๆ ทำ ใช้มือทำงาน จะได้ทำใจให้ว่าง ๆ ได้ขนมอร่อย ๆ ให้คนในบ้านกิน แล้วยังได้แจกจ่ายเพื่อนพ้อง คนรู้จักอีกด้วยเป็นการใช้เวลาที่อยากทำให้ความคิดว่าง ๆ แบบได้ประโยชน์อีกด้วยนะขอให้มีความสุขกับทุกส่ิงที่ต้องทำนะคะขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้ค่ะ
น่าทานอะไรอย่างนี้ จกไป 10 ชิ้นได้ไหมคะเนี้ย ของโปรดเลยอะคะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [