SPINACH BREAD

My version, Soft and Green !



หน้านี้ไปตลาดทุกที่จะเห็นผักโขม หรือสปีแนชเยอะแยะไปหมด สวยสะพรั่ง น่ากิน บางทีก็ขนซื้อมาทั้ง ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาไปทำอะไรดี ส่วนมากพอมีอาการแบบนี้ คุณแม่บ้านที่บ้านจะจัดการทำความสะอาด เด็ด ต้มในน้ำเดือดผสมเกลือทะเล และสับไว้ให้เรียบร้อย เพราะไม่เช่นนั้น ผักที่ซื้อมาจากสวย ๆ จะกลายสภาพเป็นผักเหี่ยว และเน่าไปในที่สุด
การต้มหรือลวกให้สุก แล้วจะสับหรือไม่สับก็แล้วแต่ เป็นวิธีที่ดี ที่จะเก็บสปีแนชเอาไว้ได้นานขึ้น สำหรับบ้านเรา มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฟอสซิลในช่องแช่แข็ง ถ้ายังไม่มีเวลาทำอะไรกับมัน



สปีแนชรอบนี้ จับมาทำสปีแนชอบชีสไปแล้ว เป็น side dish ของพิซซ่าที่ทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนที่เหลือตั้งใจอยากเอามาทำขนมปังใส่ผัก แต่จด ๆ จ้อง ๆ สูตรเอาไว้หลายสูตร ที่เคยทำจะมาจากหนังสือ The Practical Encyclopedia of Baking เขียนโดย Martha Day ที่มีรูปประกอบและสูตรขนมเยอะแยะ สูตรนั้นเคยเห็นแม่ปูคนเก่ง ปูขาเก เซมารู นำมารีวิวไว้อย่างสวยงามมาก ๆ ตามไปดูได้ที่นี่ค่ะ

ขนมปังสปินิชกับเบคอน ปูขาเก เซมารู

แต่วันนี้ ไม่นึกอยากทำขนมปังที่ใช้เบคอนเป็นส่วนผสมเท่าไหร่

นอนจินตนาการ ..เวลาอยากทำขนมอะไร มักจะวาดภาพในจินตนาการไว้ก่อนเสมอเลย .. ว่าจะให้มันออกมาเป็นยังไง นึกได้ถึงสูตรขนมปังกล้วยหอมของคุณหน่อง wee_nong เซียนขนมปังคนหนึ่ง ที่เคยทำส่งการบ้านคุณหน่องที่บล็อกเดียวกันนั้นไป เลยคิดว่าน่าจะเอามาปรับใช้กับขนมปังสปีแนชวันนี้ของเราได้

ต้นฉบับขนมปังกล้วยหอมแสนอร่อยคุณหน่องค่ะ

Banana Bread คุณหน่อง

เราเปลี่ยนจากกล้วยหอมบดเป็นสปีแนชสับ แต่เพิ่มน้ำหนักอีกหน่อย แล้วเปลี่ยนจากเนยนิ่มในสูตร เป็นน้ำมันมะกอกแทน เราทำดับเบิ้ลสูตรนะคะ



ส่วนผสม

แป้งขนมปัง 600 กรัม (คุณหน่องใช้แป้งขนมปังผสมแป้งเอนกประสงค์)
Instant Dry Yeast 2 1/2 ช้อนชา
ผักโขมต้มสุกแล้วสับเล้ก ๆ 400 กรัม (พยายามสะเด็ดน้ำให้แห้ง ๆ นะคะ)
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 40 กรัม
เกลือทะเล 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 90 - 100 กรัม (แทนส่วนที่เป็นนมจากสูตรเดิม)
ไข่ไก่ 40 กรัม (ประมาณไข่ไก่เบอร์สาม หนึ่งฟอง)
น้ำมันมะกอก Extra Virgin Olive Oil 80 กรัม
Nutmeg 1/2 ช้อนชา
All spice 1/4 ช้อนชา
Oregano 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

คนน้ำตาล เกลือ ให้ละลายในน้ำเปล่า เติมไข่ไก่ลงไป ตีพอแตก พักไว้



ผสมแป้ง ยีสต์ และเครื่องเทศทั้งหมดเข้าด้วยกัน เราใส่รวมกันในโถที่จะใช้นวดเลย แล้วตีด้วยหัวตะขอ ความเร็วต่ำ ๆ สักพัก



เติมสปีแนชสับลงไป ตีให้เข้ากัน เนื้อโดว์เป็นสีเขียว..สวยดี

ค่อย ๆ เทส่วนผสมของน้ำ น้ำตาล เกลือ และไข่ลงไป ในระหว่างที่เครื่องยังเดินอยู่

จากนั้น ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ปรับสปีดให้เร็วขึ้นอีกนิด เราใช้ Stand Mixer ประมาณเบอร์ 4 ค่ะ

ตอนนี้ ถึงส่วนผสมในโถจะดูแห้ง ๆ ไปหน่อย ก็ไม่ต้องเพิ่มน้ำ หรือน้ำมัน เพราะสักพัก น้ำจากผักจะออกมาเองค่ะ มิฉะนั้นจะเหลวไปทีหลัง ต้องตีนานเกินไปกว่าจะไม่ติดโถ



ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเราหรือเปล่า ใช้เครื่องทำขนมปังทำแล้ว รู้สึกว่าออกมาสู้ใช้เครื่องนวดหัวตะขอไม่ค่อยได้ อาจจะเป็นเพราะเรายังปรับสูตรไม่ค่อยเป็นสำหรับใช้เจ้าเครื่องนั่นก็เป็นได้นะ



ตีต่อไปจนได้ส่วนผสมที่เนียนนุ่ม ไม่ติดโถ ยืดหยุ่น จับดึงออกมาได้ ไม่ขาด แต่ไม่ถึงกับเป็นฟิล์มบาง ๆ นะคะ เพราะส่วนที่เป็นผักในส่วนผสมค่อนข้างเยอะ ตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 12-15 นาทีก็น่าจะโอเค

พักโดว์ในอ่างที่ทาน้ำมันมะกอกบาง ๆ โดยกลิ้งโดว์ให้น้ำมันเคลือบผิวให้ทั่ว

หาที่วางอุ่น ๆ เราพักในเตาอบที่เปิดแต่ไฟแสงสว่างอย่างเดียวไว้ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง


ครบเวลา เช็คดูว่าได้ที่หรือยัง โดยการใช้นิ้วจุ่มในแป้ง แล้วจิ้มลงไปตรงโดว์ ถ้าบุ๋มเป็นรอย ไม่เด้งกลับขึ้นมาก็ใช้ได้แล้วค่ะ

นำออกมา ไล่ลม แล้วขึ้นรูปตามชอบ ใส่ในพิมพ์ที่ทาน้ำมันบาง ๆ เอาไว้


วันนี้ เรากะผิดไปหน่อย ใช้พิมพ์โลฟเล็ก ขนาด 4 1/2 X 9 นิ้ว ส่วนผสมนี้ใส่ได้สองพิมพ์ แต่ แต่ แต่ มันเล็กไปนะ เพราะขนมปังจะล้นสูงและหัวโต ที่จริงก็พอมองเห็นอนาคตอยู่ แต่ด้วยความง่วงนอน เลยขี้เกียเตรียมพิมพ์ใหม่ ผลที่ได้ก็เป็นขนมปังหน้าตาตลกนิดหน่อย



เพื่อน ๆ ถ้าใช้ส่วนผสมเท่าสูตร ควรใช้พิมพ์ใหญ่ หรือยาวกว่านี้นะคะ ห้ามเลียนแบบ เยี่ยงอย่างที่ไม่ดี

ของเราทำเป็นทรงแบบนี้ แต่ก็มีหลุดอีก คือไม่ได้กดให้เนื้อโดว์แนบก้นพิมพ์ดี ๆ ผลก็คือ ขนมปังฐานไม่แน่น และสุกยาก อันนี้ก็อย่าทำตามค่ะ ไม่ดี



พักโดว์ให้ขึ้นอีกสักประมาณ..สี่สิบห้านาที หรือเป็นสองเท่า ระหว่างนี้เตรียมอุ่นเตาอบ ให้ได้อุณหภูมิ 180 องศาซี



นำโดว์ที่ได้เข้าเตาอบ ใช้เวลาทั้งหมด 25-30 นาที หรือจนเคาะก้นพิมพ์แล้วมีเสียงโปร่ง ๆ ก็เป็นอันใช้ได้



อันของเรานี่เคาะยังไงก็โปร่งค่ะ เพราะก้นขนมปังไม่แนบพิมพ์ ออกมาเช็คเองแล้วต้องใส่กลับเข้าไปอบใหม่อีกแทบไม่ทัน ใช้เวลาเยอะกว่าที่บอกอีกเกือบสิบนาที



หลังจาก 15 นาทีแรกไป อาจจะต้องใช้กระดาษฟอยล์ปิดหน้าขนมปังไว้หน่อย ถ้าไม่อยากให้หน้าสีเข้มเกินไปนะคะ

สุกแล้ว หอมฟุ้งไปทั่วบ้านเลย ได้ขนมปังเนื้อนุ่ม เหนียว หอมผักและเครื่องเทศน้อยๆ รสชาดดีทีเดียวค่ะ ..ชอบจัง



นายลูกชายซึ่งยังไม่ยอมนอน เล่นอยู่แถว ๆ ที่เราอบขนมปัง ร้องกินขนมปังที่ออกจากเตาใหม่ ๆ เขาชอบมาก ตะแรกบอกจะขอทั้งหมดที่เป็นหัวกระโหลกกรอบ ๆ ข้างบน..น่ากลัวที่สุด ไม่กล้านึกภาพว่าขนมปังที่เหลือจะเป็นยังไง ถ้ายอมตามใจ

คุณแม่คนไหนถ้าลูก ๆ ไม่ยอมกินผักเท่าไหร่ ลองทำขนมปังสปีแนชสูตรนี้ให้ชิม อาจจะชอบนะคะ เพราะมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ คล้าย ๆ พิซซ่าหน่อย ๆ ถ้าใครชอบน่าจะโรยพาร์เมซานชีสบนหน้าโดว์ก่อนอบก็น่าจะอร่อย แต่ต้องระวังเรื่องสีขนมปังจะเข้ม ต้องปิดฟอยล์แต่เนิ่น ๆ กระมัง

พักขนมปังในพิมพ์สักสิบนาที แล้วเคาะออกจากพิมพ์ ปล่อยให้เย็นบนตะแกรง ก่อนเก็บเข้ากล่อง สไลซ์ตอนที่เย็นแล้วจะดีกว่านะคะ



ขอขอบคุณสูตรที่ให้ไอเดียจากคุณหน่อง มา ณ ที่นี้



มีความสุขกับการอบขนมให้คนที่คุณรักทุกคนนะคะ



Happy Valentines Day มีความรักในหัวใจกันทุกคนคร้าบ..
..

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2554 16:38:22 น.		22 comments
Counter : 3891 Pageviews.
Share Tweet