|
การเลือกวัสดุเพื่อแต่งภายใน
เค้าว่ากันว่า ศาสตร์ มาคู่กับ ศิลป์ นั้นหมายถึงว่าทุกอย่างที่เราทำอย่างเช่น การตกแต่งบ้านนั้น เป็นศิลปะที่เราต้องใช้ในการตกแต่ง ซึ่งการตกแต่งนั้นก็มีหลักเกณฑ์ที่เขาได้แนะนำมาเพื่อความลงตัวที่เรียกว่า ศาสตร์ นั่นเอง ดังนั้นก่อนที่เราจะทำการตกแต่งใดๆ ถ้าเราได้ศึกษาในเรื่องของทฤษฏีก็จะทำให้เป็นไอเดียนำไปสู่ความลงตัวในการตกแต่ง
การตกแต่งภายในห้องต่างๆนั้นจะต้องใช้วัสดุต่างๆมาจัด เพื่อให้เกิดผลทางความรู้สึกและการใช้สอยตามที่ต้องการ อาทิเช่น วัสดุที่เป็นหินธรรมชาติจะให้ความรู้สึกถึงความแข็งกระด้าง มีความเป็นธรรมชาติมั่นคงแข็งแรง วัสดุที่เป็นพรมหรือขนสัตว์ก็จะให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวลอ่อนโยน ส่วนวัสดุที่เป็นโลหะก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นความทันสมัย แข็งแรง เป็นต้น
หลักเกณฑ์ในการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในประเภทต่างๆนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆดังนี้
1.ความนิยมความชอบส่วนบุคคล ต้องสำรวจความชอบหรือรสนิยมส่วนตัวเสียก่อนว่าเราต้องการให้บ้านของเรามีการตกแต่งออกมาในรูปแบบใด รวมทั้งการให้มีความกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับส่วนอื่น ๆ และรูปแบบหน้าตาของบ้าน มิฉะนั้นแล้วภาพโดยรวมของบ้านก็จะไม่สอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความแปลกแยกจนเกินไป พยายามควบคุมสิ่งของประดับตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวมภายในห้อง ไม่ให้โดดเด่นจนหลุดไปจากองค์ประกอบอื่น ๆ จำนวนของตกแต่งที่มาประดับในห้องไม่ควรมีปริมาณที่มากและหลากรูปแบบเกินไปจนห้องดูรก ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องดูรกจนละลานตาจนเกินไปแล้วจะทำให้ทำความสะอาดและจัดระเบียบยากขึ้นด้วย
2.ทุนทรัพย์ในการก่อสร้าง วัสดุในการตกแต่งภายในประเภทต่างๆ มีราคาในการก่อสร้างถูกหรือแพงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิด ประเภท คุณภาพและการใช้สอยการเลือกวัสดุชนิดใดต้องพิจารณาในเรื่องทุนทรัพย์ในการก่อสร้างด้วย
3.การใช้งานและการดูแลรักษา การตกแต่งในบางรูปแบบอาจดูแลรักษายาก เช่น มีคิ้วมีบัวและลวดลายมาก จะเป็นที่เก็บฝุ่นทำความสะอาดยาก ถ้าเราไม่มีการเอาใจใส่ดูแลก็อาจจะทำให้เป็นที่สะสมฝุ่นเชื้อโรค ทำให้การอยู่อาศัยไม่สะดวกสบายและไม่ปลอดภัย วัสดุตกแต่งภายในบางประเภทมีอายุการใช้งานที่สั้นดูแลรักษายาก หรือมีราคาแพงเช่น Wallpaper เราต้องพิจารณาประกอบเหตุผลให้ดี นอกจากนั้นแล้วควรจัดบริเวณหรือตู้สำหรับวางสิ่งของตกแต่งให้พอเพียง มิฉะนั้นแล้วอาจทำให้ของประดับตกแต่งต้องวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ และควรจัดหมวดหมู่ของตกแต่งแยกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้เป็นระเบียบและดูแลรักษาได้ง่าย ๆ
4.สนองตอบการใช้งานตามพื้นที่ใช้สอย เช่น ห้องที่สกปรกง่ายต้องเปียกน้ำบ่อย ควรเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ๆ ไม่เก็บความสกปรกเอาไว้ ห้องที่มีการใช้งานหนัก ควรเลือกวัสดุที่มีความคงทนถาวร และ ห้องที่มีการใช้ระบบเสียง ควรเลือกวัสดุที่อ่อนนุ่ม ไม่สะท้อนเสียง เป็นต้น
Create Date : 20 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2556 13:34:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 768 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|