O บุหรง .. รำแพน .. O
James Last - Romance For Violin
O เอื่อยอ่อยลมทะเล .. คล้ายเห่กล่อม- อยู่รายล้อมรอบใจ .. ผู้ใฝ่หา เห็นแผ่นน้ำกระเพื่อมพลิ้ว .. เป็นริ้วมา ก็รู้ว่าคือปฐม .. แห่ง-ลมวก O ชั่วแววตาพริ้มพรับ .. อยู่วับไหว ก็รู้ว่า-หัวใจ .. ที่ในอก- คล้าย-เผยเลศผ่านตา .. คอยสาธก- ยอรูป-ยกวิญญาณ .. ละลานล้อม ! O แต่-สายตาเลื่อนพบ .. บรรจบรูป แม้น-เพียงวูบเดียวผ่าน, ความหวานหอม- กลับพลุ่งโพลงเบิกบท-เกินอดออม ให้ยินยอมน้อมรับแนบกับทรวง ! O แต่ละครั้งคราวชม้อยชม้ายนั้น ความไหวสั่นในแวว - ฤๅแล้วล่วง ? แก้มเนื้อเนียนอิ่มใส, พร้อมในดวง- ตาคู่งาม-คล้ายช่วง .. บอกท่วงที ! O มีรูป .. และมีใจ-หวั่นไหวรูป อีกหอมหวานโลมลูบ แต่วูบที่- ตาสบตา .. ภพชาติเริ่มวาดวี- พาเปลี่ยวเหงาหลีกลี้ .. ไปพ้นทาง ! O พร้อมรูปคราญ, ลมทะเลที่เพพัด- โลมน้ำปัดจนตื่นเป็นคลื่นขวาง รื่นริ้วลม .. เรื่อแกมแตะแต้มปราง คล้าย-สุดลบสุดล้าง-ให้จาง .. เลือน O ลมผ่านริ้ว .. เย็นชื่นก็รื่นล้อม พักตร์ละม่อมเฉิดฉายก็ป่ายเปื้อน- ลงบนห้วงความคิด .. คอยติด .. เตือน- การเหลียวเบือนบอกเลศ .. คล้าย-เจตนา ! O ริ้วลม .. ทั้งริ้วคลื่นโตนตื่นตอบ- เหมือนคอยรอบล้อมแดดที่แผดจ้า และแววสบตอบตื่นในผืนตา- ก็เหมือนว่า .. ผุดเผยอย่างเคยตัว ! O งาม-จึงเช่นน้ำค้าง .. ที่วางหยาด รอลมลาดเรียวหญ้าแต่ฟ้าหลัว เพรียกอารมณ์แห่งชายให้ส่ายรัว กับเพียงชั่วรูปนาม .. ล้อม .. ล่ามไว้ ! O ท่ามกลางลมร่ำสาย .. กลับ-คล้ายว่า- ที่เบื้องหน้า-รูปนาม .. คุกคามใส่ เพรียกสายตารับรู้ .. แล้วจู่ใจ- ด้วยอาวรณ์พิสมัย .. ผ่านนัยน์ตา O แล้วโลกก็หมุนผ่านสู่ด้านใหม่ มีทั้งรูป .. พร้อมใจผู้ใฝ่หา แววอุทธัจขัดเขิน .. เมียงเมินมา จึงยังคารูปค้าง .. เกินล้างลบ O โลกเบื้องหน้า .. รอผ่านความหวานหอม ด้วยรูปพักตร์งามละม่อม .. เกินอ้อมหลบ ที่ขวางทางอยู่นั้น .. ย่อมครันครบ- การบรรจบโดยเดช .. แห่งเจตนา O อ่อยเอื่อย .. ลมทะเล .. ยังเห่ห้อม- อยู่แวดล้อม กรณี และทีท่า- ของรูปลักษณ์ผ่องแผ้ว .. และแววตา- ของหัวใจใฝ่หา .. เพ-ลานั้น O งาม-ย่อมเช่นน้ำค้าง .. ที่วางหยาด รอลมลาดโลมไล้ .. พลิ้ว .. ไหวสั่น รูปพักตร์งาม .. ตาชาย-ก็คล้ายกัน มอง .. หวามหวั่น วูบแล้วทั่วแววตา ! O ลมผ่านริ้วหวิวหวีด .. สังคีตถ้อย- ก็เผยรูปเผยรอยล่องลอยหา พากย์รำพึงรำพัน .. เฝ้าพรรณนา- จึงเหมือนว่าร้อยคำ .. เพรียก - น้ำใจ O ให้จดจ่อรูปพรรณ .. ถ้อยบรรดา ตอกย้ำว่าอารมณ์ .. สุดข่มไหว อีกหนึ่งการแพ้-พ่าย .. จากภายใน หลังอาลัยโหมระลอก .. เย้าหยอกทรวง O ฤๅ .. หัตถ์พรหมเอื้ออวยอำนวยให้- แต่งอาลัยล้อมลาม .. เกินข้ามล่วง หวัง .. โสตพรหมยินคำ, ความ-บำบวง แล้วช่วยหน่วงจิตเจ้า .. ลงเคล้าคลอ O สังคีตแว่ว .. ปฏิพัทธ์-รำบัดช่วง เทียบหมายเคียงถ้อยปวง .. ที่บวงขอ ฤทธิ์เทพทั้งแดนฟ้า .. พึงมารอ- ช่วยเติมต่อหวานหอม .. เข้าล้อมลน O บ่ายคล้อย .. ดอกแดดยังแผดเผา งามรูปเยาว์เล่านั้น - นับพันหน- เฝ้าเผยเพรียกเจตจินต์ .. ให้ดิ้นรน- ไปกับขวนขวายชู้ .. รั้งอยู่ฤๅ ? O หอมโกสุมกล่อมยาม .. เมื่อวามวับ- ของแววตาพริ้มพรับ .. ตอบรับสื่อ ลมเหนื่อยอ่อนร่ำสาย .. กลับคล้ายมือ- เรียว-ยุดยื้อเตรียบหอมรายล้อม .. รอ O ตฤปความหอมรื่นล้ำ-แห่งธรรมชาติ บำบวงภาษปรุงปอง .. พร่ำพร้องขอ หมายโสตเทพเพลิดเพลิน .. คำเยินยอ ดลฤทธิ์ก่อเยื่อใย .. รัดใจนั้น O ผูกมัดด้วยแรงชู้ .. อย่ารู้คลาย ลงเงื่อนตาย .. ซ้อนให้คอยไหวสั่น- ด้วยถวิลร้อนแรง .. เข้าแบ่งปัน- โอบออขวัญ .. แนบอุ่นเข้าหนุนทรวง O ละคาบยามพ้นผ่าน .. แม้นนานเนิ่น พึงจำเริญแรงชู้อย่ารู้ล่วง ดื่มด่ำรสวาบหวาม, ถ้อยความปวง- พร้อมความห่วงใยมี .. เต็มที่ทาง O หมายทุกทุกอณูธาตุ .. ห้วงอากาศ แลโอภาสพร่างพราวทุกก้าวย่าง ล้อมรูปแพงทองขวัญ .. ป้องสรรพางค์- ถนอมร่างถนอมเนื้อ .. ไว้เอื้ออิง O ทุกสังคีตแว่วผ่าน .. ความหวานหอม- พึงแวดล้อมอาลัย .. รอบใจหญิง ทุกรอบจันทร์ลอยดวง .. โปรดช่วงชิง- อาวรณ์กลิ้งเกลือกวาง .. ลงกลางใจ O บำบวงถ้อยเทอดแถนทั้งแดนฟ้า เพื่อก่อรูปพรรณนา .. หมายอาศัย- ฤทธิ์อำนวยแทรกหวานสู่ด้านใน- ดวงจิตใคร - สั่นเต้น .. ด้วยเอ็นดู O เตรียบคำถ้อยเพื่อแถนทั้งแสนสรวง ช่วยทาบทวงอาวรณ์ .. มอบย้อนสู่- หัวใจเยาว์ .. อบร่ำความดำรู- จากนัยชู้แห่งชาย .. ที่หมายชม O เมื่อหม่นมัวบ่ายโบกโลมโลกล่าง จนเริดร้างแสงระยับที่ทับถม ตระการรูปปรารถนาในอารมณ์ ก็ห้อมห่มทรวงไว้ด้วยนัยเดียว O เตรียบจินตาร่ำรอลออภาค รับอาวรณ์ไหลหลากอันกรากเชี่ยว เตรียมหัวใจปลิดปลิวด้วยนิ้วเรียว- เจ้า - เอื้อมเหนี่ยวเด็ดวาง .. ลงข้างใจ O เตรียบอารมณ์ร่ำรอพะนอถวิล หมายร่ำรินรสความ .. จนหวามไหว- เร่งวงรอบเสน่หา แรงอาลัย- ล้อมจิตให้เฝ้าหมาย .. แต่ชายเดียว !
O อินทร์, พรหม, อิศวเรศ-ทั้ง - - - นารายณ์ ถ้วนเทอญ ผ่านพจน์รสความ, ราย - - - รอบแก้ว ปรุงจิต, ค่ำ, เช้า, สาย- - - - เที่ยงบ่าย เย็นนา ตื่น, หลับ, ฝัน-อย่าแคล้ว - - - คลาดละห้อยถวิลเห็น ฯ
O พระเอยสะโรชท้อง - - - ชลธาร โปรดแทรกฤทธิ์อวตาร - - - ตอบชู้ บันดลรอบสังขาร - - - เร่งช่วง ปรุงจิตนั้น-สุดกู้ - - - กลับพ้นเสน่หา ฯ
............. สะโรช = สะโรชะ สะโร = สระ = ที่มีน้ำ ชะ = ผู้เกิด สะโรช = ผู้เกิดในน้ำ = บัว ในที่นี้หมายถึง พระนารายณ์
Create Date : 28 กันยายน 2555 |
|
22 comments |
Last Update : 8 เมษายน 2566 12:49:32 น. |
Counter : 6691 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีค่ะ...
ไพเราะทั้ง บทกลอน และ เพลงประกอบเลยนะคะ
"ลาวม่านแก้ว"
รออ่านต่อค่ะ ^^