O น้ำค้างเดือนเจ็ด .. O
Ernesto Cortazar - Aurora
1 .. O ค่อยค่อยก่อรูปวาง .. ก่อนสางหม่น- จะเคลื่อนพ้นผ่านล่วง .. เมื่อดวงสูรย์- ลอยเลื่อนขึ้นโชนช่วงเป็นดวงกูณฑ์ ผ่านจำรูญจำรัสโลมปัถวี O เงียบงันทั้งเหน็บหนาว .. ที่พราวหยาด พร้อมโอภาสดวงศศินใกล้สิ้นสี จบสิ้นแล้วรมยาแห่งราตรี จักเลือนลี้ตรู่สางจนจาง .. คลาย O วารีหยดหยาดรอ .. จะล้อแสง เพื่อแต้มแต่งงามระยับก่อนลับหาย อย่างยินยอมแสงพลอดตราบวอดวาย ก่อนเวียนว่ายหยาดซ้ำ .. อีกค่ำคืน O เพียงเพื่อจะระเหิดระเหยร่าง อยู่ท่ามกลางร้อนแรงของแสงคลื่น ให้แผดเผารุมร้อนได้ย้อนกลืน กลบหยาดรื่นเลือนเร้น..เปลี่ยนเป็นไอ O กลั่นหยาดพิลาสร่วง-เป็นดวงประดับ เรียงหยดรอแสงระยับ .. มาขับไข กรรทบโลมเม็ดน้ำ .. อย่างร่ำไร ก่อนมอดไหม้ระเหยช่วง .. จนล่วงรอย O ที่บรรจบแห่งศิวาและราตรี หยดวารีหยาดแล้ว .. จากแผ่วค่อย- ตราบเติมงามเต็มพื้น-ด้วยผืนพลอย เพื่อจักลอยระยับยวง .. ล้อดวงวัน O เผาเถิดให้ระเหิดระเหยแห้ง ทอดทอแสงงามระยับ .. ลงรับขวัญ จะยอมรูปแหลกร่าง .. เป็นรางวัล- การกีดกันแววระยับ .. ที่ลับเลือน O จะหยาดให้เผาอยู่ทุกตรู่สาง พลอยผืนจะหยาดวางทั่วทางเถื่อน และจะรอร้อนเกรียมมาเยี่ยมเยือน- เพื่อกลบเกลื่อนงามระยับลงกับกาล . . 2 .. O เช้านี้ลมพลิ้วไหว .. โลมไม้ดอก แล่นระลอกเข้าประนอม-รสหอมหวาน ภุมรินรุดเร่งรับเบ่งบาน เมื่อกรอบกาลเลื่อนช่วงรับดวงไฟ O อ้อยอิ่งกลาง-หมอกเช้าอันขาวขุ่น คืออกอุ่นอาวรณ์-ผู้อ่อนไหว ริ้วลมร่ำแผ่วผ่านดอกมาลย์ไกว เช่น-อาลัยไหวอยู่ .. ไม่รู้วาง O ร่อนเร่เสาะสุมาลย์รสหวานหอม ผึ้งบินล้อมเรณู .. แต่ตรู่สาง ละม่อมรูปอิริยากอปรท่าทาง ก็ล้อมขวางกักกันคอยบัญชา O เฝ้าคอยมานับนานแต่กาลไหน จึงหัวใจแต่ละห้อยเฝ้าคอยหา ห้วงคำนึงทั้งผอง, ในสองตา- จึงเหมือนว่าประทับอยู่แต่ผู้เดียว O หรือพิมพ์ลงสัญญาแต่คราที่- ร่วมวาทีพร่ำพร้อง .. ขอข้องเกี่ยว จะกี่ภพกี่ชาติ, สวาดิเกลียว- จงรัดเหนี่ยวผูกกันนิรันดร O อ่อนหวานศัพท์สำเนียงความเอียงอาย พร้อมแววตาเหลือบชม้ายจะคล้ายอ้อน- นั้น-แต่งรอบเสน่หาให้-อาวรณ์- จำเริญตอน .. ลุกลามขึ้นล่ามดึง O อุษากาลผ่านคล้อย .. สูรย์ลอยเด่น ค่อยแฝงเร้นอาลัยส่งไปถึง หวังอีกทรวงห่วงหา .. จักตราตรึง กับหวานซึ้งอาวรณ์ .. ส่งย้อนคืน O รอเถิดรูปนิรมิตโศภิตผู้- รอบแรงชู้โอบกระหวัด .. อย่าขัดขืน นัยหนึ่งเมื่อหยัดหยั่ง .. จักยั่งยืน อย่าคิดฝืนฝ่าหักแม้สักครา O จะยิ่งกว่าภุมรินหลงกลิ่นหอม ภายใต้อ้อมแขนหวง .. ผู้ห่วงหา ย่อมมีเพียงหอมหวานแห่งมารยา รอเจ้าถาโถมลง .. อย่างปลงใจ O หมอกขุ่นขาวลับล่มกับลมร่ำ เมื่ออกคร่ำครวญฝัน .. ยังฝันใฝ่- อยู่กับความปรารถนา .. แรงอาลัย ด้วยรูปพักตร์ผู้พิไล .. ตรึงนัยน์ตา O อ้อยอิ่งกลางแดดสาย .. และอายอุ่น กับงามหนึ่งละเมียดละมุนด้วยคุณค่า แผ่วลมพลิ้วโรยสายปัดป่ายมา คล้ายรอท่ารอทีผู้มีใจ O หวังยิ่งกว่าภุมรินหลงกลิ่นหอม คือ-หลงอ้อมแขนชู้ .. เกินกู้ไหว หวังอาวรณ์เร้ารุม .. เช่นขุมไฟ- โหมเข้าใส่อกนั้น .. ค่ำยันเช้า O อย่าได้มีหมองหมาง .. เป็นอย่างอื่น ทุกตาตื่นหัวใจแต่ใฝ่เฝ้า ถวิลหาอ้อมแขนห้อมแหนเงา โอบรูปเยาว์หยอกยั่วทุกชั่วยาม O รอคอยมานับนานแต่กาลไหน จึงอกใจต้องสาปจนวาบหวาม- กับชั่วตาจบจูบ..ด้วยรูปนาม ก็ถูกล่ามรัดไว้ทั้งใจกาย . . 3 .. O เยี่ยงไรหนอคิดย้อน .. แล้วร้อนรุ่ม- กับเพลิงขุมอาวรณ์ .. เกินผ่อนหาย หน้าผากเนียนแก้มหน้า .. นัยน์ตาชาย- สบ-แพ้พ่าย .. ละห้อยเห็น .. อยู่เช่นนั้น O อาจรู้ฤๅ .. คะนึงหาบรรดามี- ค่อยวาดวีพาใจ .. แกว่งไกวสั่น สื่อเลศนัยเร้นอยู่ให้รู้ทัน ด้วยสุดกั้นกีดงามที่ลามทรวง O หวังถึงเนตรอ่อนโยน .. ค่อยโชนฉาย- แวววาบคล้ายโลดแล่น-ด้วยแหนหวง หวังถึงแรงบุญบาป .. จักทาบทวง ผูกเป็นบ่วงล้อมขวัญรัด-พันธนา O ลับรูป .. หากคะนึงยังตรึงอยู่ ด้วยแรงชู้ปรุงชาติ .. สืบปรารถนา จากท่วงทีอ่อนหวานที่ผ่านตา ตรึงสัญญาบีบเค้น .. อยู่เช่นนั้น O ลบเลือนฤๅ .. เพียงพรับคล้ายกับว่า บางรูปหน้าผุดขวางขึ้นกลางฝัน จะฝ่าพ้นอาลัย .. อย่างไรกัน เมื่อกางกั้นทิศทาง .. ทุกย่างเดิน O คล้ายกับการ-หมดสิ้นแรงดิ้นรน- คือใจคนต้องหวาน .. อยู่นานเนิ่น พ่ายแพ้ต่อรูปธรรมที่ก้ำเกิน แล้วลุกลามจำเริญ .. อยู่เนิ่นนาน O โหดร้ายกันจริงหนอ .. ลออลักษณ์ มากุมกัก .. รัดล้อมด้วยหอมหวาน แล้วแทรกซึ้งซ่านล่วงสู่ดวงมาน จนสะท้านสะท้อนอยู่ .. ด้วยผู้เดียว O พาใจคนเฝ้าคิด .. หมายชิดเชย จากรูปเผยให้ตา .. ละล้าเหลียว จนยกเหยียดก้าวย่างของร่างเพรียว เข้าล่มความเปล่าเปลี่ยว .. สิ้นเดี๋ยวนั้น ! O ผ่านมา .. ให้อบอุ่นและคุณค่า แทรกลงฝ่าอารมณ์ .. ถึง-ซมสั่น ผ่านมา .. ให้ถ้อยคำและรำพัน- ได้โอบรูปถนอมขวัญ .. อย่างบรรจง . . 4 .. O จากนี้-คือพร่ำพลอด .. ความออดอ้อน- ถ้อยคำวอน, สำหรับ .. พร้องศัพท์ .. ส่ง- สื่อความหมายลึกล้ำแห่งจำนง จำหลักลงใจงาม .. ไว้ล่ามคา O หวังถึง-ความอาวรณ์..ที่ซ่อนเร้น จักเพิ่มแรงบีบเค้น .. ให้เห็นท่า- เห็นที-แววอ่อนหวานในม่านตา- เผยออกให้รู้ว่า .. ใคร-อาวรณ์ !
Create Date : 29 กรกฎาคม 2558 |
|
2 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2566 10:34:21 น. |
Counter : 3959 Pageviews. |
|
|
|
ผ่านมาค่ะ...
"O ผ่านมา .. ให้อบอุ่นและคุณค่า
แทรกลงฝ่าอารมณ์ .. ถึง-ซมสั่น
ผ่านมา .. ให้ถ้อยคำและรำพัน-
ได้โอบรูปถนอมขวัญ .. อย่างบรรจง"
555