O หอมนี้ .. O
Ernesto Cortazar - With you
O ลมผ่าวร้อนพลิ้วผ่านอยู่นานเนิ่น เมื่อ-ขัดเขินแฝงเร้น .. คล้ายเต้น-ไหว ลอบเหลือบมองทุกช่วง .. ก็หน่วงใจ- จนแกว่งไกว .. สั่นรัวอยู่ทั่วดวง O ลมตื่นตอนอ้อนเมฆ .. ก็เฉกเช่น- แววตาตื่นตอบเต้น .. ไม่เว้นช่วง ชายชำเลืองปริบปรอย เหมือนคอยทวง- การล้ำล่วง .. กล้ำกรายด้วยสายตา O แล้วจักษุวิญญาณ .. ก็ผ่านล่วง ให้ภพชาติพาดช่วง .. บนท่วงท่า- สบสัมผัสรูปนาม .. แล้วล่ามคา- แววแฝงเร้นปริศนา .. เบื้องหน้านั้น ! O รูปนามเคยผ่านช่วง .. พลัน-ร่วงป่น- ร่วงลงบนแววตา วุ่นว้า .. หวั่น โลกนี้หนอ .. ยองามมาล่ามพัน ยาก-แล้วขวัญ จะฝ่างาม .. เอาตามใจ ! O ความอ่อนโยน .. อ่อนหวานเมื่อผ่านล้อม ก็แนบน้อมอารมณ์ .. สุด-ข่มไหว เผยรูปนามเพียงเพื่อ .. ทอเยื่อใย- โอบล้อมให้ถวิลอยู่ .. แต่ผู้เดียว O ดาวจะเลื่อนเดือนจะลับ .. ไม่รับรู้ เมื่อแรงชู้ตื่นตอบ .. ทุกลอบเหลียว- เผยแววรับปรารมภ์ รอกลมเกลียว ร่วมโน้มเหนี่ยวคำนึง .. จดถึงกัน ! O เริ่มบทบาทแห่งโลกเข้าโยกตี ผ่านท่วงที .. แววตา .. เบื้องหน้านั่น ที่เหมือนทอสายสวาดิลงพาดพัน- ผูกล่ามขวัญร้อนรุม .. แล้วกุม .. กำ ! O ตรู่เช้า .. ที่เบิกบท .. ความสดชื่น ฤๅเท่ารื่นล้อมตระหลบ .. ให้อบร่ำ แววในตาเหลือบชาย .. เหมือนร่ายรำ- ถ้อยความ .. คำ .. เร่งรุดเข้ายุดยื้อ O แวววับ .. หวาน .. ชายตอบอีกรอบแล้ว ใด-อาจหยุดผ่องแผ้วจนแล้ว .. หรือ ? จิตวิญญาณเปล่าเปลี่ยว .. ใต้เรียวมือ- หลังสบสื่อ .. ยื้อยุด .. ฤๅ-ฉุดทัน ? O ม้วนปลายสอดเป็นห่วง .. เป็นบ่วงบาศก์ เอาภพชาติล่ามรอ .. เคล้าคลอขวัญ งามก็เหมือนสมสร้างแต่ปางบรรพ์ สบ-บัดนั้น .. ละห้อยเห็น .. ฤๅ-เว้นวาย ? O เหมือนยูงยืนอกแอ่น .. รำแพนหาง ให้รอบข้างรู้งามรู้ความหมาย- ว่าขาบเขียวเรียวขน .. ที่บนกาย- จักเฉิดฉายยอโฉม .. บรรโลมใจ O แต่วกวนพากเพียรเฝ้าเวียนพิศ รูป .. จริต .. อิริยา .. ฤๅฝ่าไหว ? เมื่อเฝ้าคอยหยอกยั่ว .. ล้อหัวใจ- มือย่อมไขว่คว้าอยู่ .. ให้รู้กัน O หมายปองงามทรามสวาดิในชาตินี้ ด้วยหัวใจดวงที่ .. ไม่มีหวั่น ! ร้างซึ่งความอ่อนไหว .. ดั่งไฟควัน ย่อมเพียงขวัญพาดช่วงในดวงตา O ชื่นชมวับวาวแสงดาวลอย ที่กระพริบพร่างพร้อยขึ้นคอยท่า- ขณะรูปผ่องแผ้ว .. พร้อมแววตา- เหมือนลอยรูปคอยท่าให้อาวรณ์ O จนสิ้นแรงทุกคราเมื่อตาพรับ แววระยับวนว่าย .. ที่คล้ายอ้อน ออดแววความอ่อนไหว เหมือนไฟฟอน- เข้ารุมร้อนลนจิตจนติดตาย O แต่ตาวามวาวพ้องมาต้องกัน แต่บัดนั้น..ความคำ..ก็รำร่าย วับวามความสดใส, หัวใจชาย- ก็ยอมวายวอดแล้ว .. ด้วยแววตา O เพ่งพิศความผุดผ่องที่ต้องอยู่ ย่อมรับรู้รูปรอยที่คอยหา เสพรับความหอมหวานแห่งมารยา ด้วยรู้ว่า .. ล้อมรัด เกินทัดทาน O แต่เฝ้าชมรูปนาม, ที่หวามไหว- คือหัวใจเพียบพร้อมด้วยหอม .. หวาน แล้ว-เรื่องราวร้อยขวัญแห่งวันวาน- ก็เอ่อซ่านรวมสาย .. ขึ้นว่าย-วน O ความอ่อนโยน .. อ่อนหวานยังผ่านล้อม ให้แนบน้อมดื่มด่ำ ..อยู่ซ้ำหน เผยรูปนามโอบไล้หัวใจคน- ที่คล้ายอลเวงอยู่ .. ไม่รู้พอ O ลมผ่าวร้อนหยุดผ่านไปนานเนิ่น ขณะการณ์ก้ำเกิน .. ดำเนินต่อ ลอบเหลือบมอง-แก้มอิ่ม .. ตาพริ้มรอ- แก้มนวลลออ .. แต้มยิ้ม .. ไว้พิม์ใจ ! O รูปเอย .. รอถนอม .. ในอ้อมกอด ทั้งความ, คำ พร่ำพลอด .. จักออดให้- ห้วงอารมณ์-เปี่ยมค่าแรงอาลัย จำหลักหวงแหนไว้ .. สุมใส่ .. ทรวง O อุ่นจะคอยโอบเอื้อ .. เนียนเนื้อนุ่ม หอมจักรุมเร้าสู่ไม่รู้ล่วง หวานจักหลอมรสสั่ง-ใจทั้งดวง- ร่วมเหนี่ยวหน่วง .. ปฏิพัทธ์ เข้ารัดรึง ! O คอจะรอแขนเรียว .. เข้าเหนี่ยวโอบ ฆานผู้โลภ-กรุ่นหอม .. จักยอม .. ถึง- ให้ทุกความดื่มด่ำในคำนึง- หอมเพียงหนึ่ง-หอมนี้ .. ไม่มีคลาย !
Create Date : 01 พฤษภาคม 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 12 เมษายน 2566 11:14:37 น. |
Counter : 3932 Pageviews. |
|
|
|