Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 

O ชั่วฟ้าดินดับ .. 2 O









O ลมเช้าลูบแผ่นน้ำ - - - กระเพื่อมวง
เมื่อรุ่งแสงเริ่มผจง - - - จับฟ้า
เลื่อนรอบแล่นริ้วดรงค์ - - - โรยกระทบ ฝั่งเนอ
แสงแรก, ลมอ่อนล้า - - - ลูบ, โน้มนำ-คะนึง ฯ

O คำนึงวกย้อนสู่ - - - ยามสาง นั้นนา
ลมร่ำ, ผืนพลอย-วาง - - - หยาดล้อม
จีวร, บาตร, รูป-กลาง - - - กุศลบท
กรรทบ, ปรุงแต่ง-พร้อม - - - แวดล้อมประนอมขวัญ ฯ

O รูปจีวร-ก้าว, ย่าง - - - หยุด, รอ
รูปพักตร์พริ้มเพราลออ - - - นอบ, ไหว้
ข้าวหอมกรุ่น, แดดทอ - - - กระทบรูป
หน้าจบน้อม, แดดไล้ - - - ลูบเนื้อเนียนถนอม ฯ

O คำข้าว, ช่อดอกไม้ - - - ถวายพระ
น้อมรูป, เชิญสัจจะ - - - จบเกล้า
น้อมจิต, รับพุทธะ - - - ธรรมท่าน แล้วแฮ
ภาพงดงามยามเช้า - - - อยู่, เชื้อเชิญประชัน ฯ

O รูปจีวร-ก้าวผ่าน - - - พ้นสมัย
เหยียบโลก, ย่ำอาลัย - - - ล่มล้าง
รูปเนตรเหลือบ, หฤทัย - - - โยกแกว่ง
สบ, นิ่ง, ใจล่องคว้าง - - - สุดคว้า, สุดขืน ฯ

O รูปจีวรล่วงพ้น - - - เพียงตา
อีกรูป-งำลีลา - - - ลอบชม้าย
ธรรมพระแว่ว, เพทนา - - - แนบอก
สบเนตร, แววเนตรคล้าย - - - ข่มสะเทิ้น, ครวญธรรม ฯ

O หลังภาพ-ผมหล่นล้อม - - - รูปพักตร์,
ธรรมพระ, สัมมามรรค, - - - เนตรชม้อย,
บาปบุญ, จดจำหลัก - - - ลงจิต
คือโลกบัดนั้นคล้อย - - - เคลื่อนเร้าแรงถวิล ฯ

O เช้านั้น, นันทิ-ตั้ง - - - ตอบกาล
ลมร่ำ, รูปรำบาญ, - - - รูปเจ้า
บุญส่ง, บาปสืบสาน - - - สบแม่ ฤาแม่
สบเนตร, เนตรจึ่งเร้า - - - เร่งให้เสน่หา ฯ

O คง-บุญพาผ่านพ้อง - - - พบกัน
แววเนตรจึงล่ามพัน - - - ผูกไว้
บาปสร้างแต่เบื้องบรรพ์ - - - สุดบิด เบือนแม่
ลบรูป, ลบรอยได้ - - - แต่ด้วยชีพสูญ ฯ

O หล่นลงแล้วรุ่งเรื้อง - - - รมยา
ล่มรูปรอยทรมา - - - มอดเชื้อ
รูปนาม, รูปจริต, ปรา- - - - กฎแวด ล้อมเนอ
จักขุ, แดด-โอบเนื้อ - - - อุ่นเนื้อทะนุถนอม ฯ

O แผ่วลมเช้าป่ายริ้ว - - - โลมวัลย์
อีกรูปนามโลมขวัญ - - - ฝากชู้
แดดเช้า, เลศนัย-บรร- - - เจิด, ส่อง, สื่อเนอ
เมิน-ข่มยิ้ม, รับรู้ - - - ร่วมเชื้อเชิญอรุณ ฯ

O แดดยามสายรุ่งเรื้อง - - - รัศมี
เมื่อรูปนามเริ่มลี- - - - ลาศคล้อย
แววเนตร, กอปรท่วงที- - - - เมิน, หลบ
โลกแวดล้อม, เนตรชม้อย - - - หยุดสิ้น, พันธนา ฯ

O ช่อมาลย์อวลกลิ่นไล้ - - - ลมยอ
พลิ้วผ่านเหมือนร่ำรอ - - - แวดล้อม
รื่นหอม, รูปงาม-พะนอ - - - แนบจิต พี่แม่
จึงบัดนั้นพรั่งพร้อม - - - ห่วงละห้อย-หวาน, หอม ฯ

O ช่อเรียวรูปเด็ดไว้ - - - ในมือ
กลีบบอบบางถนอมถือ - - - กริ่งช้ำ
ใจเอยหวั่นไหวฤๅ - - - จึงระส่ำ เต้นนา
แต่เมื่อแววเนตรล้ำ - - - ล่วง-เชื้อเชิญใจ ฯ

O ภาพก้านช้อยช่อขึ้น - - - พะนอลม
ซ้อนทับภาพเนตรคม - - - เหลือบค้อน
ให้เพ่งผาด-ปรารมภ์ - - - รุมอก
รุม-ว่าคือออดอ้อน - - - ออดให้นิวรณ์กระเหิม ฯ

O ปรุงปรนสีกลิ่นเรื้อง - - - รมยา
ลอยล่องลานเพ-ลา - - - สู่รุ้ง
กลีบกรองละลานตา - - - เตรียบค่า ควรเนอ
หอมย่อมเกินเขตคุ้ง - - - ครอบฟ้าครองขวัญ ฯ

O เพรางายปฐมะเรื้อง - - - รังสิมันต์
มัทนะชมพูบรร- - - - เจิดช้อย
เตรียบพักตร์, ผุดผ่องวรร- - - - โณภาส เทียมฤๅ
เพียงเนตรเจ้าเหลือบชม้อย - - - มากน้อยประเมินไฉน ฯ

O กลิ่นเกลี้ยงกุสุมะรู้ - - - รวยริน
อบร่ำคร่ำครวญถวิล - - - หวั่นร้าง
หอมเอยหล่อเลี้ยงจิน- - - - ตภาพแต่ แม่นา
รูป-กลิ่น-ใจ-ล่องคว้าง - - - ระหว่างห้วงหวานหอม ฯ

O เพราพรายโอภาสเมื้อ - - - เมฆบน
เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า
เมื่อหอมกลิ่นเสาวคน- - - - ธะรสจู่ ใจนา
ล่มลบถ้วน, เหลือหน้า- - - - หนึ่งหน้านางเดียว ฯ


พศ. ๒๐๒๖



ภาพจำลองพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา ..



ต่อไปนี้เขียนล้อโคลงกำสรวลสมุทร.

(โคลงทั้ง 3 คือ ยวนพ่าย .. ทวาทศมาส .. กำสรวลสมุทร (ที่ชอบเรียกกันผิดๆว่า กำสรวลศรีปราชญ์ ) มีข้อสันนิษฐานจากนักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ที่น่าเชื่อถือมากกว่าข้อมูลเดิม .. ว่าน่าจะเป็นพระนิพนธ์ใน "สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3" พระโอรสองค์โตในสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดาของ "สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2-พระเชษฐาธิราช ที่มีพระราชมารดาเป็นเจ้าหญิงของราชวงศ์สุโขทัย" ..

พ. ณ ประมวญมารค (หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี - ท่านจันทร์) ได้เสนอว่าโคลงดั้นทั้ง ๓ คือ ..
- ยวนพ่าย (แต่งประมาณ พ.ศ.2017-2025)
- กำสรวลสมุทร (แต่งประมาณ พ.ศ.2025-2030 (หรือ 34))
- ทวาทศมาส (แต่งประมาณ พ.ศ.2027-2031)

และเป็นข้อสันนิษฐานที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด



.. พรายพรายพระธาตุเจ้า - - จยรจนนทร แจ่มแฮ
ไตรโลกยเลงคือโคม - - ค่ำเช้า
พิหารรเบียงบรร - - รุจิเรข เรืองแฮ
ทุกแห่งห้องพระเจ้า - - น่งงเนือง ฯ


O พรายพรายพระธาตุเจ้า - - - เจียรสูรย์ แจ่มแฮ
สามโลกรับจำรูญ - - - ค่ำเช้า
เจดีย์ยอดชี้ปูน - - - โปรดสัตว์
บอกมรรคาทวนเศร้า - - - โศกร้อนกร่อนระรุม ฯ

.. ศาลาอเนขสร้าง - - แสนเสา โสดแฮ
ธรรมาศจูงใจเมือง - - สู่ฟ้า
พิหารย่อมฉลักเฉลา - - ฉลุแผ่น ไส่นา
พระมาศเลื่อมเลื่อมหล้า - - หล่อแสง ฯ


O ศาลาเอนกสร้าง - - - แสนเสา โสดแฮ
ธรรมข่มใจมืดเมา - - - หมดสิ้น
พระมาศเลื่อมเลื่อมเงา - - - งำอก ใจเอย
งำอกใจเดือดดิ้น - - - ดับร้อนทารุณ ฯ

.. ตระการหน้าวัดแหว้น - - วงงพระ
บำบวงหญิงชายแชรง - - ชื่นไหว้
บูรรพาท่านสรรคสระ - - สรงโสรด
ดวงดอกไม้ไม้แก้ว - - แบ่งบาล ฯ


O ตระการหน้าวัดแหว้น - - - วังพระ
บวงบำรุงสัจจะ - - - จบไหว้
ร่มธรรมรูปพุทธะ - - - สถิตอยู่
จิตต่างดวงดอกไม้ - - - เพ่งน้อมประนอมคะนึง ฯ

.. กุฎีดูโชติช้อย - - อาศํร
เต็มร่ำสวรรคฤาปาง - - แผ่นเผ้า
เรือนรัตนพิรํยปราง - - สูรยปราสาท
แสนยอดแย้มแก้วเก้า - - เฉกโฉม ฯ


O กุฎียกยอดช้อย - - - ชูทาง
บอกวัตรเข้าขัด, ขวาง - - - ขวากร้อน
เรือนรัตน์ภิรมย์ปรางค์ - - - ปราสาท
เหลื่อมระยับแสงย้อน - - - เยี่ยมท้าทรมาน ฯ

.. อยุทธยายศโยกฟ้า - - ฟากดิน
ผาดดินพิภพดยว - - ดอกฟ้า
แสนโกฎบยลยิน - - หยาดเยื่อ
ไตรรัตนเรืองรุ่งหล้า - - หลากสวรรค์ ฯ


O อยุธยายศท่วมทั้ง - - - ธานินทร์
งามดั่งนาครอินทร์ - - - เอี่ยมฟ้า
แสนโกฏโสตอาจยิน - - - เสียงอยู่
ธรรมเปล่งเสียงกล่อมหล้า - - - หล่อล้อมใจเมือง ฯ

.. อยุทธยาไพโรชไต้ - - ตรีบูร
ทวารรุจิรยงหอ - - สรหล้าย
อยุทธยายิ่งแมนสูร - - สุระโลก รงงแฮ
ถนัดดุจสวรรคคล้ายคล้าย - - แก่ตา ฯ


O อยุธยาไพโรจน์ไต้ - - - ตรีบูร
ไตรรัตน์จำรัสจรูญ - - - ร่วมพ้อง
บัลลังก์ร่มไพบูลย์ - - - บาลบ่ม ชนแฮ
เย็นศิระอุระต้อง - - - ตอบรู้อภิรมย์ ฯ

.. ยามพลบสยงกึกก้อง - - กาหล แม่ฮา
สยงแฉ่งสยงสาวทรอ - - ข่าวชู้
อยุทธยายิ่งเมืองทล - - มาโนช กูเอย
เขตรตระหลบข่าวรู้ - - ข่าวยาม ฯ


O ยามพลบเสียงกึกก้อง - - - กาหล แม่ฮา
ซอ, กรับ, รับฉิ่งปรน - - - โสตรู้
โคลงกลอนกาพย์ระคน - - - ครวญขับ
ขับกล่อมทรวง, กล่อมชู้ - - - ชื่นล้ำคำเกษม ฯ

.. ปารนี้แก้วข้าตื่น - - ฤาหลับ อรเออย
นอนน่งงฉนนใดดู - - ด่งงนี้
ยอมือบนนทับอก - - โดยแม่ กูเออย
เจ็บยิ่งล้ำพ้นผี้ - - หมื่นทวีแสนทวี ฯ


O ป่านนี้แก้วข้าตื่น - - - ฤๅหลับ อรเอย
นอนนั่งฉันใด, พรับ - - - เนตรเฝ้า-
คอยเรียมวกย้อนกลับ - - - คืนสู่
คอย-สู่, อยู่ค่ำเช้า - - - อาจรู้ฤๅสมร ฯ

.. ปารนี้อรเช้าแม่ - - เกลาองค์ อยู่ฤา
ต่างกรดานจตุรงคมยง - - ม่ายม้า
ฤาวางสกาลง - - ทายบาท
ฤากล่าวคำหลวงอ้า - - อ่อนแกล้งเกลาฉนนท ฯ


O ป่านนี้รูปแน่งน้อย - - - เกลาองค์ อยู่ฤๅ
ตั้งกระดานชนวนลง - - - จดถ้อย
ฤๅมุ่งเพลาะผ้าผจง - - - จับจีบ
ใจเล่าเจ้าจักคล้อย - - - อยู่ข้างเรียมไฉน ฯ

.. ดวงดยวบววมาศแพ้ - - พิมทอง พี่เออย
รยมบหลับใหลหา - - ค่ำเคี้ย
ดวงดยวแม่มองหน - - หาพี่ พู้นแม่
ใครช่วยชูเกล้าเกลี้ย - - กล่อมแถง ฯ


O ดวงเดียวบัวมาศแพ้ - - - พิมทอง พี่เอย
เรียมบ่หลับไหลครอง - - - ค่ำนี้
หวังเดียวแม่, แม่มอง - - - หาอยู่
อยู่ออดอ้อนชวนชี้ - - - ชิดเนื้อโอบถนอม ฯ

.. โกกิลกรวิกษอ้ยง - - ยูงยาง
จับกิ่งยูงยางเยาว - - เพื่อนพร้อง
พละลบกัลโหยลาง - - โลมลูบ
จับกิ่งยางแล้วร้อง - - ไร่เฌอ ฯ


O โกกิลกรวิกเอื้อน - - - ออกเสียง
จับกิ่งยูงยางเพียง - - - พร่ำร้อง
พระลบกัลโหยเคียง - - - แขรูป เคียวนา
จับม่านหม่นคลี่คล้อง - - - ขอบฟ้าคลุมฝัน ฯ

.. ศรีมาพิโยคพื้น - - รัตนภูม
ถนัดดุจพระภูมผจง - - แผ่นแผ้ว
เล็งแลเยียฟ้าฟูม - - ชลเนตร
เพราะพี่เจ็บเจ้าแคล้ว - - คลาศไกล ฯ


O เรียมมาพิโยคพื้น - - - รัตนภูมิ
แผ่นอกเป็นแผ่นปูม - - - จดร้อย
หมึกจารจากนัยน์ฟูม - - - น้ำหลั่ง
บอกหนึ่งผู้แน่งน้อย - - - แน่วรู้ - คอยรอ ฯ

.. จากมาสายสวาดิไว้ - - อยุทธยา แลนา
อกเปล่าอกสายสินธุ์ - - หากรู้
ลุะดานกนนชาววา - - ลวงใหญ่ แล้วแฮ
วาลยิ่งสารสับสู้ - - เสริฐชล ฯ


O มุ่งมาสายสวาดิเนื้อ - - - เนาทรวง
ตามสิทธิ์คำสัตย์บวง - - - บอกไว้
วอนเทพประเทียบทวง - - - ฤทธิ์กล่อม แม่นา
กล่อมแม่, ทรวงแม่ให้ - - - ห่วงรู้คอยเรียม ฯ

.. จรลิวไต้ฟ้าต่ำ - - เตือนยาม
โหยบเหนสายใจ - - จรคล้าย
บลุแม่เมากาม - - กาเมศ กูเออย
ลพี่หว้ายน้ำหน้า - - มืดเมา ฯ


O จรลิ่วไต้ฟ้าต่ำ - - - เตือนยาม
โหยบ่เห็นหน้าทราม- - - - สวาทแก้ว
เลือดตายิ่งฝนลาม - - - หล่นโลก แม่เอย
ท่วมจิตจมมิดแล้ว - - - จากร้อนแรงถวิล ฯ

.. รฦกเนื้อกรรเกษสร้อย - - สาวสวรรค กูเออย
กรกอดหมอนเหมือนนาง - - ร่ำไห้
รฦกกำจรจนนทน์ - - อายโอษฐ พู้นฦา
ทรงกรรแสงไจ้ไจ้ - - จั่นจวญ ฯ


O อาสูรศรีสวัสดิ์สร้อย - - - สาวสวรรค์ กูเอย
ใคร่จักกล่อมทรวงขวัญ - - - ฝากอ้อน
เรียมใฝ่รอบกัปกัลป์ - - - เวียนกลับ แม่แม่
ใฝ่รอบกาลกลับย้อน - - - เยี่ยมหน้าพะนอนวล ฯ

.. ระฦกรศน้องไน่ - - ในตา พี่แม่
เออสมุทรอยงกาม - - กล่อมเหน้า
เยียแลลนนลุงมา - - บางค่อม
ถนัดค่อมน้อยข้าเจ้า - - ส่งงจนนทน์ ฯ


O เวียนรำลึกแล้วหลับ - - - ใหลฝัน รูปเนอ
ย่อมรูปสมบูรณ์จันทร์ - - - แจ่มหน้า
ละเมอรับรองขวัญ - - - ฝากสวาดิ
ดื่มด่ำด้วยรสฟ้า - - - สั่งฟ้าโรยริน ฯ

.. เยียมาม่ายน้องขวล - - ขวายแด แลแม่
นอนน่งงฤากวนกาม - - แกว่งไส้
ลุกยืนวงงเวงแล - - ลิวโลด
คืนน่งงลห้อยไห้ - - บ่ำบวง ฯ


O หลังมองโฉมแม่แต้ม - - - ติดตา
รูปพักตร์นงโพธพา - - - ผ่าวไส้
ดาลระลอกกระแสกา - - - เมศมุ่ง ขวัญเฮย
มุ่งกระเวนทรวงไหม้ - - - หมื่นร้อนทรมาน ฯ

.. ฝ่ายสยงสุโนกไห้ - - หานาง แม่ฮา
รยมทนนทึงแทงโลม - - ลิ่นเล้า
มาดลบำรุะคราง - - ครวญสวาสดิ
ให้บำรุะหน้าเหน้า - - จอดใจ ฯ


O คำนึงฤๅว่างเว้น - - - นาที
จวบรอบสุริเยศลี - - - ลาศคล้อย
เสนาะเสียงสุโนกมี - - - มากล่อม
กลว่าเสียงแน่งน้อย - - - เอ่ยน้อมประนอมนัย ฯ








... สารสยามภาคยพร้อง - - - กลกานท์ นี้ฤๅ
คือคู่มาลาสวรรค์ - - - ช่อช้อย
เบญญาพิศาลแสดง - - - เดอมกรยดิ พระฤๅ
คือคู่ไหมแส้งร้อย - - - กึ่งกลาง ...


O โคลงดั้นยวนพ่ายซ้อง - - - สดุดี
ศักดิ์กษัตริย์เจ้าธานี - - - ชนกผู้-
ยาตราทัพประยุทธี - - - ล่มศัต รูนา
ให้ทั่วถิ่นรับรู้ - - - เรี่ยวแกล้วกรุงสยาม

O อัคระเกียรติยศพ้น - - - พันไผท
สมรรถะพยุหะพลไกร - - - แกร่งล้ำ
ศรัทธะประสาทะใน - - - พุทธศาสตร์ ท่านฤๅ
ตรรกะวิภาษอยู่ค้ำ - - - หลักแท้ธรรมกถา

O เพรางายสุริยะเรื้อง - - - โรยยาม
แต่หมู่ลาวคุกคาม - - - เขตแคว้น
ทูลกระหม่อมนิราศปราม - - - ป้องเศิก เสี้ยนแล
พาจิตใจขุ่นแค้น - - - พรากร้างโยธยา

O จำพรากนุชนาถเจ้า - - - จอมใจ
หมองหม่นชลเนตรไหล - - - หลั่งย้อย
หวาดหวั่นชีพแกล้วไป - - - ป้องเหตุ
คนอยู่หลังเมื่อละห้อย - - - ห่วง, ไห้-ฤๅเห็น ?

O ธงทิวปลิวยั่วเย้ย - - - ลมเย็น
เมื่อทุกข์โศกสร้อยเพ็ญ - - - เพียบพร้อม
ใครเล่าจักคอยเอ็น - - - ดูยั่ว เย้านา
แขน, อกเคยโอบอ้อม - - - จักอ้อมโอบใคร ?

O สรวลศัพท์คฤโฆษฆ้อง - - - กลองไชย
ทุ่มพ่างแตรสังขไหว - - - แว่วครื้น
คชา, อัศวะ, พลไกร - - - แกล้วโห่ ฮึกแฮ
พร้อมคีตลั่นสนั่นพื้น - - - แผ่นหล้าแหล่งสถาน

O โอ้..สร้อยโศภิตพ้น - - - อุปมา
จักพรากสู่ยุทธกา- - - - รณะแกล้ว
เก็บงำรอบถวิลอา- - - - วรณ์พี่ เทอญแม่
ล่มเศิกเสี้ยนสิ้นแล้ว - - - จักย้อนคืนสม

O สองเนตรจักลับหน้า - - - นานวัน
ยังแต่เยื่อใยพัน - - - ผูกไว้
ใครจักดอดด้อมขวัญ - - - ฝากสวาดิ
กรประโลมเกศไล้ - - - กล่อมเจ้าหลับฝัน

O เรื่อยเรื่อยแกล้วคชม้า - - - คลาขบวน
ลิ่วลิ่วลับเนื้อนวล - - - แจ่มหน้า
สองอกพิโยคครวญ- - - - คร่ำเทวษ
เกรงแต่รอบเหว่ว้า - - - จักล้อมประนอมคะนึง

O โฉมเคยแป้งประแก้ม - - - กันไร
โจงจีบพัสตร์ห่มสไบ - - - บ่มเนื้อ
เรียมจากจักมีใคร - - - เชยแม่ นาแม่
แขนเล่าใครจักเอื้อ - - - โอบให้หนาวหาย

O อกเอยช่างอนาถโอ้ - - - อาภัพ
ห่างพะงางอนพรับ - - - เนตรพ้อ
ก่อนเคยโอบแขนรับ - - - ขวัญแม่ นาแม่
มาจะรันทดท้อ - - - อกสะท้อนระทมถวิล

O เพรงไป่เคยจากเจ้า - - - แม้ยาม เดียวนา
มาบัดนี้คลาดงาม- - - - รูปแล้ว
ศึกนอกเพื่อป้องปราม - - - ปราบเศิก เสี้ยนนา
อีกศึกในอกแคล้ว - - - คลาดพ้นยามใด

... แถลงปางข้าไท้ท่วย - - - ใจหาญ
ตามต่อยไพรีเรือง - - - ร่อนแกล้ว
แถลงปางรำบาลลาว - - - มัวโม่ห
ทันที่น้ำลิบแล้ว - - - ชื่นไชย ...


O ปรานีเจ้าอ่อนน้อย - - - นงค์ยง พี่เอย
โฉมเมื่อสิ้นโสรจสรง - - - สาปเนื้อ-
จักหอมกรุ่นละมุนองค์ - - - รอโอบ แอบแม่
มาห่างรสเคยเอื้อ - - - จักอ้อนออดใคร

O แรมรักอำมฤตร้าง - - - รมยา
เหลือแต่กรุ่นสุคนธา - - - เถื่อนล้อม
ค่ำคืนเมื่อไสยา - - - ระทวยอยู่
ใครจักโอบรูปน้อม - - - แนบไว้ในทรวง

O ลมเย็นอาจเยี่ยมเหย้า - - - ในยาม
เมื่อแม่-นอนอกหวาม - - - วาบชู้
โดดเดี่ยวเปลี่ยวรสกาม - - - กรอมรูป
เฝ้าพลิกร่างรอรู้- - - - รส, อ้อนเอ่ยไฉน

O รอนรอนสุริเยศคล้อย - - - สนธยา
เหล่านกโบกปีกคลา- - - - คล่ำแล้ว
ลำแสงสุดสายตา - - - เหลื่อมเมฆ
ตรมสุดใจเมื่อแคล้ว- - - - คลาดหน้านวลถนอม

O รอยเรียมปางก่อนสร้าง - - - สมกรรม
เคยพรากคู่เขาทำ - - - ก่อนกี้
บาปเวรจึ่งย้อนจำ- - - - จองโทษ
พาพรากเจ้าอ่อน,ชี้ - - - สั่งให้ครวญถวิล

O รอยเราพรากนกเนื้อ - - - เขาขัง
พาพลัดพรากรวงรัง - - - คู่เคล้า
ชาตินี้บาปเบื้องหลัง - - - ตามติด
พาพลัดพรากอ่อนเจ้า - - - จ่อมด้วยอาดูร

O วงจันทร์จำรัสฟ้า - - - เรียมครวญ
หลงว่าวงพักตร์นวล - - - แจ่มเนื้อ
แผ่วผ่านกรุ่นจันทน์อวล - - - อบกลิ่น
หลงว่ากลิ่นอ่อนเอื้อ - - - อบเนื้อแนมจันทน์

... กรุงลาวกลอยขยาดหน้า - - - ตาตาย ศรากแฮ
จักอยู่เมืองเกรงกรร - - - บ่ได้
กลัวกลับเกลื่อนพล-อยาย- - - - อยังออก
หนีสมเด็จเหง้าไท้ - - - พ่ายพัง ...


O ป่านนี้ศรีสวัสดิ์เจ้า - - - จอมสมร พี่เอย
ทอดรูปที่บรรจถรณ์ - - - นิทระแล้ว
ฤๅกราบพระวิงวอน - - - ด้วยห่วง ใยแม่
หวังกลับย้อนคืนแคล้ว- - - - คลาดพ้นภัยผอง

O ลมลงหนาวสุดไซ้ - - - อกอวล อกเอย
ไพรเถื่อนแว่วนกครวญ - - - คร่ำร้อง
เช่นอกพี่เรรวน - - - ถวิลรูป
รูปพักตร์พริ้มเพราพร้อง - - - พร่ำท้าลมหนาว

O เห็นฟ้าขอดเมฆแก้ว - - - อัมพร แม่อา
เอิบอิ่มบงกชงอน - - - รูปช้อย
พัสตราห่ม, สไบคอน - - - ขอดรูป นั้นนา
นึกรูปมือค่อยคล้อย- - - - ขยับคล้ายลืม-เผลอ

O แว่วยินมยุเรศร้อง - - - ริมดง
ขนขาบเขียวพิมพ์วง - - - แว่นพร้อม
พร่ำเพรียกคู่ครองลง - - - สังวาส
อายนก-อกนึกน้อม - - - เพรียกน้องในคะนึง

O ต้นสนทอดกิ่งด้อม - - - ดูไพร
ดังพี่ด้อมดูใคร - - - ก่อนกี้
ละม่อมพักตร์นวลใย - - - ยามสบ
โฉมย่อมคอยสั่งชี้ - - - ช่วงใช้อาวรณ์

O รำลึกกายอุ่นอ้อน - - - แอบองค์ พี่เนอ
กอดกระชับ, จำนง - - - นิ่มเนื้อ
ลมอุ่นผ่าวผ่านลง - - - โลมรูป
จนอุ่นนั้นหนุนเอื้อ - - - โอบเนื้อคลายหนาว

O แสงดวงวันเคลื่อนคล้อย - - - คลุมพนา
ลมโบกใบไม้พา - - - แผ่ป้อง
นึกรูปกับอกอา- - - - วรณ์พี่ แลแม่
รูปย่อมรู้ตื่นต้อง - - - อกรู้ตื่นตาม

... สรรเพชญภูวนารถแกล้ว - - - การยุทธ ยิ่งแฮ
ตามต่อยไพรีพัง - - - พ่ายล้าน
จยรจอมครุทธผลาญ - - - แผลงเดช
สยงสรเทือนพ้ยงค้าน - - - ค่นเมรุ ...


O อาวรณ์มาวูบเร้า - - - รุมทรวง
ท่ามกรุ่นคันธาดวง - - - ดอกไม้
เทียบหอมนิ่มเนื้อหวง - - - หาสวาดิ
เอื้อมเด็ดดอกมาลย์ไล้ - - - กลีบนั้นแทนนาง

O รวยรวยรสมาศไม้ - - - มาลา
ฟุ้งกลิ่นลมพัดพา - - - ผ่านรู้
นึกปรางสบด้วยนา- - - - สิกนิ่ง นั้นเนอ
กลิ่นย่อมคอยกล่อมชู้ - - - อยู่เชื้อเชิญโฉม

O ซ่อนชู้ซ่อนกลิ่นนั้น - - - นามใคร ไม้เอย
ฤๅซ่อนสิ้น-เยื่อใย - - - ราคชู้
รัดพันรอบอกใคร - - - ครวญคร่ำ
ตระหนกอกรับรู้ - - - ซ่อนเร้นได้หรือ

... อยู่ไทธิเบศรเจ้า - - - จอมปราณ
พราวพฤๅบพลคชเสน - - - เกลื่อนแกล้ว
ครั้นพระผ่าผลาญพล - - - ยวนย่อย ไปแฮ
ทันที่น้ำลิบแล้ว - - - เลิศไชย ...

... จึ่งชักช้างม้าค่อย - - - ลีลา
ยังนครไคลคืน - - - เทศไท้
พยงบานทพาธิก - - - ทรงเดช
ที่คนเคารพไข้ - - - ข่าวขยรร ...


O จำปีควรเด็ดก้าน - - - เชยชม
นึก-เสียบแซมเส้นผม - - - ผูกห้อย
เกศเส้นกับรื่นฉม - - - เคล้าอยู่
รอ-เนตรเจ้าเหลือบชะม้อย - - - เลศละห้อยคอยหอม

O มะลิลาหอมอบโอ้ - - - เอมใจ
เรียงระเบียบมาลัย - - - จับร้อย-
เป็นพวงต่างสายใย - - - โยงยึด ใจพี่
มาห่างมาลย์ช่อช้อย - - - จักเชื้อใครชม

O โนรีโนริศร้อง - - - ร่ำเสียง
ชวนสุโนกพร้องเพียง - - - หยอกเย้า
ขาบขนต่างสไบเคียง - - - คู่บ่า เจ้าฤๅ
งามว่างามแต่เจ้า - - - ขจ่างซึ้ง-รูป, เสียง

O สายัณห์อาทิตย์ด้อม - - - อัสดง
แว่วชะนีเสียงหลง - - - กู่ก้อง
กังวานท่ามป่าดง - - - ดิบเถื่อน
กลว่าเสียงร่ำร้อง - - - แว่วคล้ายเจ้าครวญ

O ราตรีตีทุ่มฆ้อง - - - ขานเขิน ใจนา
เมื่อสบเนตรเมียงเมิน - - - แม่ชะม้าย
ท่วงทีเช่นเทียบเชิญ - - - ชวนรับ เลศนา
รับเลศ-พารูปผ้าย - - - ผ่านรู้อภิรมย์

O หวั่นหวั่นในอกคล้อย - - - ลำเค็ญ
เกลือกว่ารสรมย์เพ็ญ - - - แม่รู้
มิอาจอดใจเป็น - - - ปมเหตุ
เรียมสุดย้อนคืนกู้ - - - ผ่อนแก้ปรารถนา

O ทุกข์นี้ใช่อาจห้าม - - - หักหาย
สุดคร่ำครวญรำบาย - - - บอกรู้
จักรุมอยู่ตราบสาย- - - - บ่ายค่ำ
เกรงลอบเล่นเชิงชู้ - - - เช่นรู้จากเรียม

O นับยามนับคาบร้าง - - - แรมสมร
ด้วยกิจ, จึ่งจำจร - - - จากห้อง
เพียงเพื่อจักไปรอน - - - ราญชีพ ยวนแฮ
พรากอนุชนวลน้อง - - - แต่ละห้อยคอยหวน

O สองกรรอนยุทธสิ้น - - - สุดณรงค์
เหลือแต่ศึกรบอนงค์ - - - แน่งน้อย
ดาบโล่ห์จำปลดปลง - - - จนปราศ สิ้นนา
แผงอก, สองแขนร้อย - - - รัดเนื้อนวลถนอม

O นุชเอยแต่พี่พร้อง - - - พร่ำถึง
หมายว่าหุบเหวบึง - - - บ่อกว้าง
ฤๅอาจรับคำนึง - - - ได้หมด
ตราบทั่วแหล่งน้ำ-ร้าง - - - อาจรู้รับคะนึง

... ยังพระนคเรศเรื้อง - - - อโยทธยา
อรอาศนไอสวรรยเป็น - - - ปิ่นเกล้า
จำนิรจำนยรมา - - - จอมราช
คิดใคร่เสวยศุขเท้า - - - เทศเหนือ ...








O เย็นเยียบงันเงียบล้วน - - - สูญสลาย
เมื่อเริ่มแสงกำจาย - - - จับฟ้า
ลบเลือนมืดหม่นกลาย - - - ย้อนกลับ
ให้โลกรู้เจิดจ้า - - - จับจ้องรัศมี ฯ

O มวลรสมาศไม้แห่ง - - - แดนวสันต์
เหมือนกรุ่นกลิ่นโลมขวัญ - - - ฝากรู้
ให้รื่นรสเขมะพรรณ- - - - ผ่านแนบ ทรวงเฮย
ก่อนเนตรปลาบแววชู้ - - - วาบเร้าคอยเฉลย ฯ

O ค่อยค่อยเผยพักตร์พริ้ม - - - เพรา-พะนอ
แข่งเรื่อราศีทอ - - - กระทบ-ไล้
รูป, จักขุ, พรรณลออ - - - ราวแอบ อิงแม่
หอมจึ่งแนบอกไว้ - - - ระหว่างเช้าเบิกโฉม ฯ

O รูป, จักขุ, กระทบแล้ว - - - เลือนฤา
ปรุงแต่งกระโหมฮือ - - - รบเร้า
สิ่งใดเล่ากระพือ - - - กระเพื่อมอยู่
เห็นแต่แรงใฝ่เฝ้า - - - ฝากฟ้าประคองฝัน ฯ

O แต่เผยรูปแวดล้อม - - - โลม-ขวัญ
เยี่ยงภู่ล้อมมาศพรรณ - - - ตฤป-ต้อง
หอมหวานกักกุมฝัน - - - ฝ่ารอด พ้นฤา
จักขุ-รูปสบ, พร้อง - - - พร่ำรู้เลือนไฉน ฯ

O รูปนาม, นันทิ, ตั้ง - - - ตอบกาล
แรกจักขุวิญญาณ - - - ผัสสะ, รู้
เนตรเหลือบสบ, สังขาร - - - ปรุงแต่ง
ลอบ, หลบ, สบ, ตอบชู้ - - - ชื่นล้ำคำแถลง ฯ

O ลอบ, เหลือบ, หลบ, สบต้อง - - - แววตา
โลมลูบใจ, บัญชา - - - เร่งเชื้อ
แฝงเร้นเลศเมื่อชม้อยหา - - - เพรียกห่วง ใยแม่
จักขุ, รูปนิ่มเนื้อ - - - นิ่งเชื้อเชิญถวิล ฯ

O ลมคงร่ำผ่านคล้าย - - - เสียงครวญ
เมื่ออีกใจเฝ้าหวน - - - ห่วงละห้อย
สรรพเสียงสุโนกจวน - - - จบโสต
เมื่อรูปเนื้ออ่อนน้อย - - - แนบไว้-นิวรณ์, หวัง ฯ

O กำแพงใดก่อขึ้น - - - ขัดขวาง
จักล่มลับอับปาง - - - ปลาตสิ้น
เยื่อใยเหนี่ยวรั้ง, กาง - - - กั้นอยู่
ขวากแค่เพียงกระผีกริ้น - - - อาจรู้กั้นหรือ ฯ

O คอยเถิดความห่วง, พ้น - - - พรรณนา
จักเร่งโหมฤทธา - - - โอบล้อม
เช้าจดค่ำจวบวา- - - - ระนิท ราแล
รสรื่นกุสุมาลย์, พร้อม - - - แวดล้อมอาลัย ฯ

O แต่นี้-หวง, ห่วงละห้อย - - - จักเห็น
เช้าจดสายบ่ายเย็น - - - ยั่ว-ย้ำ
ค่ำคืนครุ่นคิดเอ็น- - - - ดูแม่ แลแม่
คอย-รูปพักตร์ล่วงล้ำ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ

O จันทร์เพ็ญลอยเด่นฟ้า - - - ฝ่ายาม
เมื่อรูปเนตรน้ำวาม - - - วับเต้น
โอภาสแห่งจันทร์งาม- - - - งดอยู่
ด้วยเลศในเนตร-เว้น - - - วาบนั้น, ทำไฉน ฯ

O ชื่นเอยแต่เมื่อต้อง - - - แววตา
เผยเลศชู้ขจ่างมา - - - มอบไว้
ลอบ, หลบ, สบ, ตอบ, ครา - - - ครั้งหนึ่ง นะแม่
ถ้วนนรกหกฟ้าไซร้ - - - ดั่งสิ้นดับสูญ ฯ

O เจ้าเอย, จนดับ, ทิ้ง - - - ทรมาน
หรือตราบรอบสังขาร - - - หยุดสร้าง
เอกภพจักรพาฬ - - - พาล่ม ลาญแล
ไฟนอกโลกแล่นล้าง - - - อาจล้างอาลัย ฯ




 

Create Date : 21 มีนาคม 2556
8 comments
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 9:35:23 น.
Counter : 1221 Pageviews.

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

งดงาม....รออ่านต่อนะคะ

 

โดย: วลีลักษณา 24 มีนาคม 2556 6:33:34 น.  

 

สวัสดีครับคุณวลี

เหลืออีกยาวครับ

 

โดย: สดายุ... 25 มีนาคม 2556 6:03:51 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณศดายุ

O คะนึงมวลแชล่มน้อย - - - นงคราญ
เคลื่อนผ่านส่ำเสียงสนาน - - - เสนาะแท้
แต่รูปหนึ่งรำบาญ - - - เบียด-อก เรียมนา
สักหนึ่งคราญอาจแก้ - - - กลบได้สิ้นหรือ ฯ

แวะมาดื่มด่ำกับความงดงามของคำประพันธ์ค่ะ

 

โดย: วลีลักษณา 31 มีนาคม 2556 8:21:07 น.  

 

สวัสดีครับคุณวลี ฯ

ตั้งใจว่าจะแช่หน้านี้กันจนเปื่อยไปข้างครับ .. อิๆๆ

ลูกหลานอำมาตย์ขอมเขมรนั้นเป็นรากเหง้าเดียวกันกับราชวงศ์ละโว้อโยธยา(พระเจ้าอู่ทอง พระราเมศวร พระยาราม) แห่งเมืองลพบุรี .. และเรื่องกำลังจะนำไปสู่ต้นตระกูลของศรีสุดาจันทร์ต่อไป

มันเกี่ยวพันกับมหากาพย์มหาภารตะยุทธมากกว่า ..

ไปงานสัปดาห์หนังสือมาหรือยังครับ ..
ผมคงไปทันวันสุดท้าย ..

 

โดย: สดายุ... 31 มีนาคม 2556 14:52:07 น.  

 


สวัสดีค่ะ...

มาอ่านโคลง ไพเราะๆค่ะ...

 

โดย: น้องเล็ก IP: 118.172.117.112 3 เมษายน 2556 12:44:45 น.  

 

สวัสดีเจ้าค่ะน้องเล็ก ..

โคลงนี้พี่จะเขียนข้ามปีค่ะ
คิดว่าหลัง"กลับจากทะเล"โคลงจะไหลลื่นกว่านี้ ค่ะ

 

โดย: สดายุ... 3 เมษายน 2556 16:07:49 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 3 สุดยอด
ขอนุญาตเก็บภาพและลิงค์ไว้ให้โหวตน่ะค่ะ
ขอบคุณนะคะ

 

โดย: อุ้มสี 29 กันยายน 2556 14:30:42 น.  

 

สวัสดีค่ะ
โคลงไพเราะมากค่ะ

 

โดย: อิงดาว พราวฟ้า (สมาชิกหมายเลข 1088060 ) 24 พฤศจิกายน 2556 19:59:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.