Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 
4 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงเป็นยามเฝ้าตลิ่งให้ปวงสัตว์

.




ภิกษุ ท. !
เปรียบเหมือนมีบุรุษผู้หนึ่ง ว่ายล่องกระแสน้ำลงไปเพราะเหตุจะได้สิ่งน่ารักน่าเพลินใจ มีบุรุษบัณฑิตผู้หนึ่ง ยืนอยู่บนฝั่ง เห็นบุรุษผู้ว่ายน้ำนั้นแล้ว ร้องบอกไปว่า

"ท่านผู้เจริญ !
ท่านย่อมว่ายล่องตามกระแสน้ำ เพราะเหตุจะได้สิ่งน่ารักน่าเพลินใจโดยแท้. แต่ว่า ทางเบื้องล่างนั้นมีห้วงน้ำลึก มีคลื่น มีน้ำวน มียักษ์ มีรากษส ซึ่งเมื่อท่านไปถึงที่นั่นแล้ว จักต้องตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย".

ภิกษุ ท. !
บุรุษผู้ว่ายล่องตามกระแสน้ำ นั้น ครั้นได้ฟังดังนั้นแล้วก็พยายามว่ายทวนกระแสน้ำกลับมา ด้วยกำลังมือและเท้าทั้งหมดของเขา

ภิกษุ ท. !
คำอุปมานี้ ตถาคตผูกขึ้น เพื่อให้รู้เนื้อความ. เนื้อความในเรื่องนั้น ดังนี้ : คำว่า ‘กระแสน้ำ' เป็นชื่อแห่งตัณหา.

คำว่า ‘สิ่งน่ารักน่าเพลินใจ' เป็นชื่อแห่งอายตนะภายในหก.
คำว่า`ห้วงน้ำลึก' เป็นชื่อแห่งสัญโญชน์เบื้องต่ำห้าอย่าง.
คำว่า `คลื่น' เป็นชื่อแห่งความโกรธ และความคับแค้น.
คำว่า ‘น้ำวน' เป็นชื่อแห่งกามคุณห้า.
คำว่า ‘ยักษ์' และ ’รากษส' เป็นชื่อแห่งเพศตรงข้าม.
คำว่า ‘ว่ายทวนกระแสกลับมา' เป็นชื่อแห่งเนกขัมมะ.
คำว่า ‘พยายามด้วยกำลังมือและเท้าทั้งหมด 'เป็นชื่อแห่งการปรารภความเพียร.
คำว่า ‘บุรุษบัณฑิต ผู้ยืนอยู่บนฝั่ง' เป็นชื่อแห่งตถาคต ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
นี้แล
.
.
.
บาลี อิติวุ. ชุ. ๒๕/๓๑๖/๒๘๙.
ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.




 

Create Date : 04 กันยายน 2555
0 comments
Last Update : 4 กันยายน 2555 8:55:27 น.
Counter : 1313 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.