O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O
ชัยภัค ภัทรจินดา - ลาวสองคอน
O ลมพลิ้วไม้เอนลู่ .. ฤดูฝน ก่อนเม็ดน้ำร่วงหล่น .. ฟ้าหม่นหมอง หยดพรมพรรณไม้ปวงก่อนร่วงนอง เมื่อแสงทองบนฟ้า .. ค่อยล้าเลือน O รวมหยาดที่เบื้องบน ..แล้วหล่นร่วง เริ่มคาบช่วงสืบสายลงป่ายเปื้อน ทีละหยดพรากหาว, เมื่อดาวเดือน- ค่อยคล้อยเคลื่อนเลื่อนดวง .. หยุดช่วงทอ O สายลมพลิ้วผ่านบท, ความสดชื่น- ย่อมแตะตื่นตัวรู้ .. ให้ชูช่อ แสงวิชชุวาบวามจึงงามพอ- ให้คนรอพิศชมได้สมใจ O ประจุจลน์วนแล่นเหนือแผ่นฟ้า อวดวิโรจน์เรขาทาบทาให้- ผืนฟ้าที่หม่นหมองได้ยองใย- กับเส้นไฟครั่นครื้น .. ยามตื่นตัว O อาวรณ์จึงโลดเต้น ..ราวเส้นไฟ เมื่อความนัยเผยบอกเฝ้าหยอกยั่ว ภาพแววตาคู่นั้น .. ที่สั่นรัว- จากเพียงชั่ว .. สบ ..สะเทิ้น .. ขัดเขินนั้น O ภาพหยาดฝนหล่นเม็ด .. ราวเพชรรุ้ง- บำราศคุ้งโค้งฟ้า, แววตาหวั่น- จึงรุ่งเรื้องเปลื้องความ .. ให้ตามทัน- การไหวสั่น-ปริศนาแห่งอารมณ์ O พร้อมเส้นไฟพุ่งเฟื้อย .. แล้วเลื้อยวาบ คือเนตรปลาบแววปลั่งเข้าถั่งถม- อกผู้กรำหวานหอม .. ให้จ่อมจม ด้วยสุดข่มข้ามเขต .. แห่งเลศการณ์ O คะเนนึกคะนึงอยู่, ความรู้สึก- ก็จมลึกล่วงลง .. สู่สงสาร บนฟ้า-ฟ้าครืนครั่น, แสงวันวาน- วาบแววหวาน-ครั่นครื้น .. ล้อมผืนทรวง O น้ำหยาดหล่นโปรยปราย, ภาพสายฝน- ส่าย-ลูบไล้ลมวน .. แล้วหล่นร่วง ที่แทรกบท รดหลั่ง .. ใจทั้งดวง- นั่นคือท่วงทีท่า .. ผู้อาลัย O จนรับรู้แสงวาม .. งดงามระยับ จากดวงตาพริ้มพรับตอบรับให้- แปร-รอคอยละห้อยหวง ..ด้วยห่วงใย เป็น-สุมใส่จำนง .. กลางวงกรรม O จากรับรู้ ระยับช่วงแห่งดวงเนตร จนเผยเลศปรารมภ์ .. พร้อมลมร่ำ- กลางหยาดฝนโปรยปราย .. พลิ้ว-ร่ายรำ พา-ความ, คำ .. เร้ารุมลงสุมทรวง O ลมเย็นรื่นร่ำโรย, ฝนโปรยปราย เมื่อความหมายเร้นแฝง-คือแรงหวง- ค่อยเผยออกคุกคาม, งดงามปวง- จึงเผยช่วงชาติภพ .. บรรจบล้อม ! O ต่อหน้ากาลเวลา .. สายฟ้าแลบ การอิงแอบส่งผ่านความหวานหอม- ย่อมเหมือนฝนขาดช่วง .. เมื่อ-ดวงพะยอม- ค่อยโน้มน้อมกลีบรับเข้าซับน้ำ O สายหยุดนั้น .. หยุดกลิ่นแต่สิ้นสาย หากเนตรฉายแสงผ่าน ..กลับ-หวานฉ่ำ หยุดได้ฤๅแววระยับ .. พริ้มพรับนำ- ด้วยอาวรณ์จองจำ .. ให้จำนน O สิ้น .. ภาพไม้เอนลู่ - ฤดูลม เหลือเพียงห่มร่างอุ่นแทนฝุ่นฝน พร้อม .. ภาพแววละห้อยหา -ในตาคน- อันหวานล้น .. รอถนอม .. อยู่พร้อมแล้ว !
Create Date : 17 สิงหาคม 2557 |
|
5 comments |
Last Update : 18 เมษายน 2566 12:02:06 น. |
Counter : 2991 Pageviews. |
|
|
|
"O จนรับรู้แสงวาม .. งดงามระยับ
จากดวงตาพริ้มพรับตอบรับให้-
แปร-รอคอยละห้อยหวง ..ด้วยห่วงใย
เป็น-สุมใส่จำนง .. กลางวงกรรม
O จากรับรู้ ระยับช่วงแห่งดวงเนตร
จนเผยเลศปรารมภ์ .. พร้อมลมร่ำ-
กลางหยาดฝนโปรยปราย .. พลิ้ว-ร่ายรำ
พา-ความ, คำ .. เร้ารุมลงสุมทรวง
O ลมเย็นรื่นร่ำโรย, ฝนโปรยปราย
เมื่อความหมายเร้นแฝง-คือแรงหวง-
ค่อยเผยออกคุกคาม, งดงามปวง-
จึงเผยช่วงชาติภพ .. บรรจบล้อม ! "
แสนรู้..!
อ้อ.."อันเป็นที่รัก"นี่ มี "แรงหวง " สูงเรอะ