Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 

O ฟ้าคร่ำฝนครวญ .. O








ชัยภัค ภัทรจินดา - ลาวสองคอน



O ลมพลิ้วไม้เอนลู่ .. ฤดูฝน
ก่อนเม็ดน้ำร่วงหล่น .. ฟ้าหม่นหมอง
หยดพรมพรรณไม้ปวงก่อนร่วงนอง
เมื่อแสงทองบนฟ้า .. ค่อยล้าเลือน
O รวมหยาดที่เบื้องบน ..แล้วหล่นร่วง
เริ่มคาบช่วงสืบสายลงป่ายเปื้อน
ทีละหยดพรากหาว, เมื่อดาวเดือน-
ค่อยคล้อยเคลื่อนเลื่อนดวง .. หยุดช่วงทอ
O สายลมพลิ้วผ่านบท, ความสดชื่น-
ย่อมแตะตื่นตัวรู้ .. ให้ชูช่อ
แสงวิชชุวาบวามจึงงามพอ-
ให้คนรอพิศชมได้สมใจ
O ประจุจลน์วนแล่นเหนือแผ่นฟ้า
อวดวิโรจน์เรขาทาบทาให้-
ผืนฟ้าที่หม่นหมองได้ยองใย-
กับเส้นไฟครั่นครื้น .. ยามตื่นตัว
O อาวรณ์จึงโลดเต้น ..ราวเส้นไฟ
เมื่อความนัยเผยบอกเฝ้าหยอกยั่ว
ภาพแววตาคู่นั้น .. ที่สั่นรัว-
จากเพียงชั่ว .. สบ ..สะเทิ้น .. ขัดเขินนั้น
O ภาพหยาดฝนหล่นเม็ด .. ราวเพชรรุ้ง-
บำราศคุ้งโค้งฟ้า, แววตาหวั่น-
จึงรุ่งเรื้องเปลื้องความ .. ให้ตามทัน-
การไหวสั่น-ปริศนาแห่งอารมณ์
O พร้อมเส้นไฟพุ่งเฟื้อย .. แล้วเลื้อยวาบ
คือเนตรปลาบแววปลั่งเข้าถั่งถม-
อกผู้กรำหวานหอม .. ให้จ่อมจม
ด้วยสุดข่มข้ามเขต .. แห่งเลศการณ์
O คะเนนึกคะนึงอยู่, ความรู้สึก-
ก็จมลึกล่วงลง .. สู่สงสาร
บนฟ้า-ฟ้าครืนครั่น, แสงวันวาน-
วาบแววหวาน-ครั่นครื้น .. ล้อมผืนทรวง
O น้ำหยาดหล่นโปรยปราย, ภาพสายฝน-
ส่าย-ลูบไล้ลมวน .. แล้วหล่นร่วง
ที่แทรกบท รดหลั่ง .. ใจทั้งดวง-
นั่นคือท่วงทีท่า .. ผู้อาลัย
O จนรับรู้แสงวาม .. งดงามระยับ
จากดวงตาพริ้มพรับตอบรับให้-
แปร-รอคอยละห้อยหวง ..ด้วยห่วงใย
เป็น-สุมใส่จำนง .. กลางวงกรรม
O จากรับรู้ ระยับช่วงแห่งดวงเนตร
จนเผยเลศปรารมภ์ .. พร้อมลมร่ำ-
กลางหยาดฝนโปรยปราย .. พลิ้ว-ร่ายรำ
พา-ความ, คำ .. เร้ารุมลงสุมทรวง
O ลมเย็นรื่นร่ำโรย, ฝนโปรยปราย
เมื่อความหมายเร้นแฝง-คือแรงหวง-
ค่อยเผยออกคุกคาม, งดงามปวง-
จึงเผยช่วงชาติภพ .. บรรจบล้อม !
O ต่อหน้ากาลเวลา .. สายฟ้าแลบ
การอิงแอบส่งผ่านความหวานหอม-
ย่อมเหมือนฝนขาดช่วง .. เมื่อ-ดวงพะยอม-
ค่อยโน้มน้อมกลีบรับเข้าซับน้ำ
O สายหยุดนั้น .. หยุดกลิ่นแต่สิ้นสาย
หากเนตรฉายแสงผ่าน ..กลับ-หวานฉ่ำ
หยุดได้ฤๅแววระยับ .. พริ้มพรับนำ-
ด้วยอาวรณ์จองจำ .. ให้จำนน
O สิ้น .. ภาพไม้เอนลู่ - ฤดูลม
เหลือเพียงห่มร่างอุ่นแทนฝุ่นฝน
พร้อม .. ภาพแววละห้อยหา -ในตาคน-
อันหวานล้น .. รอถนอม .. อยู่พร้อมแล้ว !




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2557
5 comments
Last Update : 18 เมษายน 2566 12:02:06 น.
Counter : 2991 Pageviews.

 

สดายุ..

"O จนรับรู้แสงวาม .. งดงามระยับ
จากดวงตาพริ้มพรับตอบรับให้-
แปร-รอคอยละห้อยหวง ..ด้วยห่วงใย
เป็น-สุมใส่จำนง .. กลางวงกรรม
O จากรับรู้ ระยับช่วงแห่งดวงเนตร
จนเผยเลศปรารมภ์ .. พร้อมลมร่ำ-
กลางหยาดฝนโปรยปราย .. พลิ้ว-ร่ายรำ
พา-ความ, คำ .. เร้ารุมลงสุมทรวง
O ลมเย็นรื่นร่ำโรย, ฝนโปรยปราย
เมื่อความหมายเร้นแฝง-คือแรงหวง-
ค่อยเผยออกคุกคาม, งดงามปวง-
จึงเผยช่วงชาติภพ .. บรรจบล้อม ! "

แสนรู้..!

อ้อ.."อันเป็นที่รัก"นี่ มี "แรงหวง " สูงเรอะ

 

โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 18 สิงหาคม 2557 0:43:28 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่
ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายค่ะ อากาศเปลี่ยนแปลง หนึ่งวันมี่หลายฤดู แอบมาอ่าน แต่อาจไม่ได้ทักทายนะคะ

 

โดย: medkhanun IP: 94.23.252.21 18 สิงหาคม 2557 4:45:50 น.  

 

มินตรา ..

ความรู้สึกไว ใช้ได้ทีเดียว .. 55

สามบทที่ยกมา เขียนใหม่เอี่ยมอ่อง .. ในอารมณ์ท่ามกลางฝุ่นฝนที่หล่นร่วง

ระหว่างฝนตกหนัก .. คนจำนวนไม่น้อยมักรู้สึกอยากนอนซุกผ้าห่มอยู่บนเตียง เพื่อดูเม็ดฝนนอกหน้าต่างที่กำลังเกรียวกราว !

ความหวง .. เป็นคุณสมบัติบางประการที่ทั้งหญิงชายมีต่อคนพิเศษของตน ..

ไม่เชื่อถามแม่ดู






เม็ดขนุน ..
น่าสงสารจริง .. ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ผู้คนก็ไม่เอาไหน .. จะโทรคุยกับคนรู้ใจก็ไกลเกิน เปลืองตังค์ เนอะ ..

ดูแลสุขภาพค่ะ ..
รอวันที่หายดีแล้วค่อยเข้ามาพูดคุย ..
ให้ถือว่าพื้นที่ตรงนี้มีคนยินดีพูดคุยกับน้องนะคะ

 

โดย: สดายุ... 18 สิงหาคม 2557 20:20:37 น.  

 

สดายุ..

"O คะเนนึกคะนึงอยู่, ความรู้สึก-
ก็จมลึกล่วงลง .. สู่สงสาร
บนฟ้า-ฟ้าครืนครั่น, แสงวันวาน-
วาบแววหวาน-ครั่นครื้น .. ล้อมผืนทรวง"

เรียกกันว่า ..สัมผัสอักษร ..ใช่ไหมเอ่ย
" คะเนนึกคะนึงอยู่ "
"ลึกล่วงลง"
"บนฟ้า-ฟ้าครืนครั่น"
" วาบแววหวาน"
เป็นการใช้ คำมาย้ำย้ำ เน้น เน้น.. ซึ่งไม่น่าจะใช้
ฟังดู ก็ไม่ขัดหู..ดูเด่นด้วยซ้ำ..
(นี่พูดแบบมิใช่กวีนะ )

อ้อ..แม่สั่งไม่ให้พูด กับคนแปลกหน้า ใครก็ไม่รู้ ค่ะ
..555


 

โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 19 สิงหาคม 2557 2:24:25 น.  

 

มินตรา ..

การเขียนกลอนแบบสัมผัสอักษรปรากฎอย่างโดดเด่นในงานเขียนของเจ้าฟ้ากุ้ง ..

.. ปางพี่มาดหมายสมานสุมาลย์สมร .. ม
ดังหมายดวงหมายเดือนดารากร .. ด
อันลอยพึ้นอัมพรโพยมพราย ..พ

แม้นพี่เหิรเดินได้ในเวหาส .. ห
ถึงจะมาดก็ไม่เสียซึ่งแรงหมาย ..ม
มิได้ชมก็พอได้ดำเนิรชาย ..ช
เมียงหมายรัศมีพิมานมอง .. ม

นี่สุดหมายที่จะมาดสุมาลย์สมาน .. ม
สุดหาญที่จะเหิรเวหาสห้อง .. ห
สุดคิดที่จะเข้าเคียงประคอง .. ค
สุดสนองใจสนิทเสน่ห์กัน ..น

123 45 678
นี่คือกลอนแปด .. และการเล่นสัมผัสอักษรจะทำที่ตัวที่ 3-5-8 ..

ผมเลยเล่นอยู่ 2-3 บท ..
.
.
O ช่างเนิ่นนานหนักหนา .. แต่ครานั้น .. น
ก่อนรูปฉันทาชาติจะขาดช่วง .. ช ฉ
นับภาพซึ่งสุมใส่อยู่ในทรวง .. ซ ส
ล้วน – รูปพวงดวงพักตร์จำหลักพร้อม .. พ

O ค่อยเบือนเหลียวสบลักษณ์ .. รูปพักตร์ล้ำ .. ล
มือกุมกำเรียวก้อย .. เอ่ยถ้อยกล่อม .. ก
หยาดน้ำตาร่วงตก .. ห้วงอกตรอม- .. ต
ก็แวดล้อมกาลลาด้วยอาลัย .. ล

O ฝ่าลานทุ่งรุ้งทองลอยล่องถึง .. ท ถ
ธารดาวซึ่งทอส่องความผ่องใส .. ซ ส
รอบวงกัปหมุนกาล .. ตราบนานไกล- ..ก
จนบรรจบรูปใจ .. เช่นในจันทร์ .. จ

.. https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2013&date=02&group=11&gblog=448

ส่วนสัมผัสสระ ในวรรค เริ่มปรากฏโดดเด่นในงานสุนทรภู่
ยุคต้นรัตนโกสินทร์นี่เอง .. สมัยพระยตรังยังเล่นสัมผัสอักษรเหมือนสมัยอยุธยาอยู่เลย..

ก็ต้องนับว่า สุนทรภู่เป็นอีกกวีหนึ่งที่สร้างลีลาของตนเอง หรือมีอัตลักษณ์
.
.
ถามแม่ดูว่า .. มีลูกสาวบ้านหนึ่งมาแอบอ่านแอบคุยกับชายแปลกหน้ามาตั้ง 4-5 ปีแล้ว .. เป็นลูกแม่นี่ แม่จะตีไหม ?

555

 

โดย: สดายุ... 19 สิงหาคม 2557 6:16:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.