Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

O รื่นวรรษา .. O








Secret Garden - Song From A Secret Garden



O ต้านสายลมห่มห้อม .. ด้วยอ้อมกอด
วงแขนทอดโอบกายช่วยคลายหนาว
วานนั้นเนตรสองดวง .. ก็ช่วงราว-
จะข่มดาวแสงปลั่ง .. สิ้นทั้งปวง
O ในอ้อมกอดพลอดพร่ำ .. ด้วยคำหวาน
เงียบเปลี่ยวเปล่าทรมานย่อมลาญล่วง
เมื่อแดดข่มขับหมอก .. พฤกษ์ดอกดวง-
ก็ช้อยช่อรอหน่วงแสงสรวงนั้น
O วานนั้นแดดเรื่อรอง .. ฟ้าผ่องใส
สุมาลย์ต้องลมไกว .. ก็ไหวสั่น
ลมบนฟ้าโหมระลอก .. นกหยอกกัน
และสัมพันธ์หนึ่งครองด้วยสองใจ
O เมื่อทอดกายสองแขนหนุนแทนหมอน
ลมแผ่วพลิ้วโชยย้อน .. คนอ่อนไหว
หลับอยู่กลางอ้อมละมุนของอุ่นไอ
และเรียวมือลูบไล้ .. ด้วยใยดี
O หอมเขนยเกยกอด .. ตลอดคาบ
นิ่งเสพทราบอุ่นไออยู่ในที่
ครั้งนั้นแรงอาลัย .. รอบไมตรี-
ก็คลายคลี่โอบคลุม .. ลงสุมซ้อน
O จนกระซิบคำหวานเผยผ่าน .. แว่ว
ลมร่ำแก้วโรยล้อม .. กลิ่นหอมอ่อน
หอมหัวใจหวานล้ำ .. ถ้อยคำวอน-
ก็ซอกซอนแทรกผลอยู่วนเวียน
O สกุณาป่าฝนบินพ้นผ่าน
เมื่อตำนานรสประณีต .. เริ่มขีดเขียน
ด้วยเลือดอุ่นเรื่อแดง .. ด้วยแรงเพียร-
งามก็เจียรจารทั่ว .. ทั้งหัวใจ
O เลิศพิสุทธิ์ยุดย้ำ .. กรองคำถ้อย
ก็เพื่อคอยสำหรับ .. การขับไข
รอบอาวรณ์รำบายจากภายใน
เผยออกให้เห็นความงดงามนั้น
O เมื่อตื่นตามองเห็น .. ความเป็นไป
ก็เมื่อสบตาใคร .. แวว-ไหวสั่น
ความรู้สึกลึกซึ้งเชื่อมถึงกัน
แววที่หวั่นไหวอยู่ .. ก็รู้เชิญ
O ถ้วนสิ้นความอ่อนหวาน .. ที่ผ่านหา
คล้ายกับว่ามาช่วย .. กลบขวยเขิน
ความรู้สึกดื่มด่ำก็ดำเนิน-
เข้าก้ำเกินใจอยู่ไม่รู้ลา
O สายลม .. มวลดอกไม้ที่รายรอบ
คล้ายรอนอบน้อมให้ผู้ใฝ่หา
สุรโลกสรวงสูง .. จับจูงมา
รองรับแรงภิรมยาในอารมณ์
O กลางสายลมโรยระลอก .. หอมดอกไม้
คือหัวใจคนรื่น .. สิ้นขื่นขม
กรุ่นตักเนื้ออุ่นอ่อน .. ตาค้อนคม-
เหมือนห้อมห่มถ่ายถอน .. ความอ่อนล้า
O งามประกายเนตรพรับให้นับเนื่อง
ผ่องผกายเรื่อเรื้องที่เบื้องหน้า
โอนอ่อนหวานผ่านแล้วในแววตา
มอบห่วงหาอาวรณ์ .. ลงซ้อนทบ
O กลางสายลม .. แขนเรียว .. ส่วนเสี้ยวหน้า-
ก็โน้มฝ่าใฝ่ฝันลงบรรจบ
โอษฐ์อิ่มแนบแก้มพลัน .. ก็ครันครบ-
เงื่อนเหตุแห่งชาติภพ .. ตระหลบล้อม
O ครั้งนั้นความอ่อนหวานที่ผ่านหา
ก็เหมือนว่าแผ่ซ่านทุกย่านหย่อม
แทรกวิญญาณเจตจินต์ให้ยินยอม-
เพื่อรอพร้อมถนอมขวัญ .. ให้มั่นคง
O ทั้งสิ้นและทั้งปวง .. ความห่วงใย
ก็วกเวียนรอบให้ .. อาลัย-หลง-
ร่วมอ่อนไหวอ่อนหวาน .. ได้ผ่านลง-
แผ่วบรรจงแตะวาง .. ที่กลางใจ
O ทั้งสิ้นและทั้งปวง .. แรงห่วงหา
ก็วกย้อนกลับมา .. ให้อาศัย-
ส่งรับความมั่นหมาย .. จากภายใน-
สองหัวใจผูกมั่น .. ร่วมพันธนา
O วันนี้ .. ริ้วลมฝน .. เมื่อพ้นผ่าน
ถ้วนปวงความอ่อนหวานก็ปานว่า-
โหมแรงลงผูกพัน .. คอยบัญชา-
แต้มเติมอาวรณ์ชู้คอยอยู่ .. เคียง
O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น
เมื่อถวิลอาลัย .. เริ่มให้เสียง
รื่นลมร่ำกำจาย..ก็หมายเพียง-
หอมจะรอร่วมเรียงลงเคียงใจ
O งามท่วงทีลักขณารูปปรารมภ์
ต่างฤๅ-มาลย์กลิ่นฉมเมื่อลมไหว-
ออดอ้อนลมลอดเลี้ยวผ่านเรียวใบ
ต่างฤๅ-นัยน์ตาค้อน .. ออดอ้อนนั้น ?
O รื่นรมย์กลางลมเหนือ, ที่เหนือกว่า-
คือแววตาของใคร .. วาบไหว-สั่น
บอกว่าบางอารมณ์ .. สุดข่ม, กัน-
ความผูกพันเสน่หาแสนอาวรณ์
O กลางริ้วลมโรยระลอก .. หอมดอกแก้ว
คล้ายเสียงหนึ่งผ่านแว่ว .. ดังแผ่ว-อ้อน
คอยรุมเร้าจิตชาย .. สู่ปลายจร-
เอื้อมเหนี่ยวกรเรียวเจ้า .. ที่เฝ้ารอ
O ริ้วลมหนาวผ่านสาย .. เมื่อสายแล้ว
โลมลูบแก้วระริกไหว .. ก้าน .. ใบ .. ช่อ
ต้องลมหนาวล้อมรุมทั้งพุ่มกอ
ต่างฤๅพักตร์นวลลออ .. ร่ำรอชม
O โอ .. เลือดฝาดแต่งแต้มเนียนแก้มอิ่ม
หรือ-สบยิ้มอ่อนหวาน .. แล้วซ่านสม ?
โอ .. ท่วงทีเอียงอายกลางสายลม-
ฤๅ-อาจข่มขับล้างให้จางรอย ?
O เข้าสาย .. ลมอ่อยเอื่อย, นกเจื้อยแจ้ว
เมื่อลมร่ำโลมแก้วอย่างแผ่วค่อย
ต่างฤๅอารมณ์ชู้ที่รู้คอย-
เฝ้าแหนหวงอ่อนน้อย .. รูปรอยนั้น
O แก้ว .. ปีบ .. โมกดอกขาว .. อะคร้าวรูป
ต้องลมลูบโลมไล้ .. ก็ไหวสั่น
แววในตาสบหมายย่อมคล้ายกัน
ต้องเลศนัยไหวหวั่น .. สุดบั่นทอน
O ขลุ่ยสังคีตยังครวญเสียงหวนไห้
เมื่ออาวรณ์อาลัยเกินไถ่ถอน
รับรู้เถิดใจเจ้า-ความเว้าวอน-
ย่อมออดอ้อนอยู่พร้อมอย่างยอมใจ
O กลางริ้วลมโรยระลอก .. หอมดอกแก้ว-
ก็หอมแล้วหอมอีก .. เกินหลีกไหว
อาจรุมเร้าเจตจินต์ .. ตราบสิ้นไป-
แห่งเปลวไฟลุกช่วง .. ทุกดวงดาว !




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2557
3 comments
Last Update : 17 เมษายน 2566 10:25:30 น.
Counter : 3006 Pageviews.

 

สดายุ..

"O แก้ว .. ปีบ .. โมกดอกขาว .. อะคร้าวรูป
ต้องลมลูบโลมไล้ .. ก็ไหวสั่น
แววในตาสบหมายย่อมคล้ายกัน
ต้องเลศนัยไหวหวั่น .. สุดบั่นทอน"

ตกลงว่า
O หอมเสน่หา .. O นี่
หอม "แก้ว" หรือ "ปีบ" หรือ"โมก"
ตัดสินใจให้เด็ดขาดซิ..
ดู "ท่านผู้นำ"ซิ..สั้นสั้น ง่ายง่าย ชัดเจน..
"ผมจะยึดอำนาจนะ"..รับผิดชอบแต่ผู้เดียวไปเลย..555

 

โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 28 พฤษภาคม 2557 13:26:04 น.  

 

สดายุ...

"O แก้วดอกขาวหอมอ่อนกำจรกลิ่น
เมื่อถวิลอาลัย .. เริ่มให้เสียง
รื่นลมร่ำกำจาย..ก็หมายเพียง-
หอมจะรอร่วมเรียงลงเคียงใจ"


.....ก็หมายเพียง-
หอมจะรอร่วมเรียงลงเคียงใจ.....

 

โดย: บุษบามินตรา IP: 94.23.252.21 30 พฤษภาคม 2557 0:41:50 น.  

 

มินตรา ..

แก้ว ปีบ โมก เป็นดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกัน .. ต่างกับ พุทธรักษาที่ขาวเหมือนกันแต่กลิ่นแรงกว่า ..

ผมชอบดอกไม้สีขาว ที่กลิ่นไม่แรง .. มันค่อยดูมี รสนิยม อยู่สักหน่อย เหมือนน้ำหอม อีซี มิยาเกะ .. ไม่ใช่น้ำหอมกลิ่นฉุนเฉียวตามตลาดนัดเมืองไทย

เปรียบเหมือนผู้หญิงไทย .. ที่จำนวนหนึ่งมีหวงตัวโดยธรรมชาติ มีท่าทีเก็บงำความรู้สึกยามอยู่ในที่สาธารณะ อันนี้คือน้ำหอมราคาแพง

ขณะที่จำนวนหนึ่งแสดงออกโดยเปิดเผยถึงธรรมชาติแห่งวัยเจริญพันธุ์ จึงไม่ค่อยหวงเนื้อตัว พูดจาจัดจ้าน อันนี้คือน้ำหอมทำเทียมตามตลาดนัด

โมก ปีบ แก้ว จึงเหมือนประเภทแรก
และ ดอกไม้สีสันต่างๆ จึงเหมือนประเภทหลัง

แค่ .. ชอบหรือไม่ชอบ
ไม่ใช่ .. ดีหรือไม่ดี

และเมื่อเปรียบกับสังคมแล้ว
.. ความไม่มีระเบียบวินัย
.. การพูดอย่างทำอย่าง
.. ความเชื่อในตัวบุคคลมากกว่าระบบ
.. การไม่ทำตามข้อตกลง
.. การใฝ่รู้ที่น้อยมากโดยเฉลี่ย

เหล่านี้เป็นภาวะของ น้ำหอมราคาถูกตามตลาดนัด
และสังคมไทย เป็นแบบหลัง

ไม่น่าเอาไปเปรียบเทียบกับ สวีเดน เดนมาร์คเลย
555

 

โดย: สดายุ... 30 พฤษภาคม 2557 6:09:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.