O คันธา .. แห่งวรรษาสมัย O
Ernesto Cortazar - Sentiments
๘ O ผีเสื้อปีกบอบบางลอยร่างร่อน- ล้อมเกสรมาลย์อยู่แต่ตรู่สาง เมื่อหมอกเช้าแทรกตัวอยู่ทั่วทาง และน้ำค้างวางหยด .. รอ-รดริน O ลวดลายปีกบอบบางในสางตรู่ แทรกตัวสู่หวานหอมไม่ยอมสิ้น ให้รสรื่นรมย์นี้ .. ปลุกชีวิน- เพื่อโบกบินแนบยาม .. ให้งามล้น O ดอกไม้หอม, แสงฉาย, ปีก-ลายพราง- ค่อยค่อยคลี่ปีกกว้างก่อนคว้างหล่น- ลงแทรกกลีบดอกมาลย์เอาหวานปรน- เปรอตัวตนสำราญกลางม่านใบ O เห็นน้ำค้างวางหยาด .. อยู่ดาษดื่น ลมเช้าชื่นโรยริ้วก็พลิ้วไหว ประหนึ่งเพชร-เม็ดน้ำ .. นั้นร่ำไร รอแสงไล้โลมต้อง .. ก่อนล่องลอย O รวยรวยรสมาศไม้ที่ในสวน กลิ่นหอมอวลอบเร้าความเหงาหงอย รื่นคันธารสหนอ .. เหมือนรอคอย- บางรูปรอย .. ให้ถวิลแต่กลิ่นมาลย์ O คำนึงด้วยเจตจินต์ .. ที่ยินยอม- ถูกกักกุมรุมล้อมด้วยหอมหวาน ที่ทั้งใจไหวสั่นแต่วันวาน เมื่อใครผ่านหวานหอมเข้าล้อมลน O งามจริตรูปละม่อมพรั่งพร้อมค่า ยิ่งช่อชั้นพวงผกา .. แห่งป่าฝน ที่เสียดยอดพลอดยามให้ตามยล ตราบดิ้นรนด้วยใจ .. คอยไขว่คว้า O นับการก้าวยกย่าง .. บนทางฝัน ช่างเต็มเปี่ยมมุ่งมั่น .. การฟันฝ่า- อุปสรรคทั้งปวง .. ให้ร่วงคา- อยู่ใต้ฝ่าเท้าย่ำ .. ที่ดำเนิน O นับสิบร้อยพันหมื่นการตื่นหลับ ล้วนลำดับรอยอุทธัจ .. ความขัดเขิน ที่ค่อยโหมหวนระลอกเข้าหยอกเอิน ด้วยท่าทีสะทกสะเทิ้น.. ทั้งเมิน-เมียง O ละเมียดรส .. ผกากรองละล่องกลิ่น หอมตรึงจินตนาการนั้น-ปานเสียง- กระซิบแผ่วผ่านถ้อยมาร้อยเรียง- ความซาบซึ้งให้ประเดียงประดังใจ O กลีบเรียวบางดอกดวง .. บ้างร่วงหล่น พร้อมกับห้วงใจคน .. ที่วนไหว ละครั้งที่งดงามของความนัย ผ่านโลมไล้ลูบอก .. พาวกย้อน O หยาดน้ำค้างเคยเห็น .. ก็เร้นหาย ยังแต่สายสวาดิชู้สุดรู้ผ่อน ในคำนึงเงียบเหงา .. เหมือนเว้าวอน- ความออดอ้อนพร้องพร่ำ .. อยู่ค่ำเช้า O รูปชาติภพอบร่ำในคำนึง คล้ายภาพซึ่งสาบสูญแต่พู้นเก่า ย้อนเผยรูปรอยยิ้ม .. อันพริ้มเพรา จำหลักเงาเรียวรูป .. โลมลูบทรวง O นับแต่วันเดือนปีเท่าที่เห็น ก็ยากเร้นรูปงามที่ลามล่วง ราวอดีตบุญบาป .. มาทาบทวง- ผ่านฤทธิ์หน่วงเหนี่ยวเร้า .. ให้เฝ้ารอ O ถ้วนปวงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน ต่างฤๅเมื่อดอกมาลย์ .. เบ่งบานช่อ ? ทั้งลามล่วงรุมเร้าพะเน้าพะนอ เช่นรูปเยาว์แอบออ .. ร่ำรอทรวง O ถ้วนสิ้นความอ่อนโยนและอ่อนหวาน จึงค่อยซ่านซึ้งให้ .. อาลัย-หวง- เข้าโอบล้อมห้อมห่มอารมณ์ปวง ด้วยความห่วงใยล้ำ .. อยู่ค่ำเช้า O น้ำค้างเร้นหยาดหยด .. ไปหมดแล้ว เหลือลมแผ่วกอดเกี่ยวความเปลี่ยวเปล่า ประหนึ่งเพชร-แสงปลาบ .. นั้นวาบเงา เมื่อรูปเยาว์หล่นคว้าง .. ลงกลางใจ O น้ำค้างสิ้นรูปรอย .. รูปรอยเจ้า- ก็ผ่านเร้ารุมขวัญจนสั่นไหว วงรอบความเสน่หา .. แรงอาลัย- ก็โอบล้อมเอาไว้ .. สุดคลายคลอน O ถ้วนสิ้นความคำนึง.. ส่งถึงอยู่ กอปรแรงชู้อาลัยเกินไถ่ถอน เหมือนคำบวงพระเจ้า .. เคยเฝ้าวอน- ค่อยผ่านตอนย้อนดังอีกครั้งแล้ว
๔ O จงกลกรรณิเกศแก้ว - - - กรองมาลย์ ตามประทีปอธิษฐาน - - - ประเทียบถ้อย จนรอบสุริยะกาล - - - เคลื่อนผ่าน นั้นแม่ อ้อมอกอุ่นจักคล้อย - - - เคลื่อนห้อมโอบขวัญ ฯ
O บูชาอัญชลิตเบื้อง - - - สรวงบน สวมสอดบุษบาดล - - - ดอกสร้อย หอมรูปรสเสาวคนธ์ - - - ควรอบ ร่ำแม่ ควร-ศัพท์เสียงร่ำร้อย - - - ผ่านรู้ปรารมภ์ ฯ
O โคมทองประทีปแก้ว - - - ชัชวาล แต่งกอปรกรองอธิษฐาน - - - ทิพไท้ พึงดลจิตรูปคราญ - - - ครวญแต่ ถวิลนา ถวิลแต่อกเรียมให้ - - - โอบเนื้อพะนอถนอม
Create Date : 28 มีนาคม 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2566 6:48:26 น. |
Counter : 4045 Pageviews. |
|
|
|