การดูแลรักษายางรถยนต์
ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของรถยนต์ ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนไปในทิศทางต่าง ๆ และให้ประสิทธิภาพในการยืดเกาะถนน ความนุ่มนวลในการขับขี่ดังนั้น ยางรถยนต์ เมื่อถูกใช้งานก็ย่อมสึกหรอไปตามระยะทาง และระยะเวลา
การดูแลรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยให้การใช้ยางรถยนต์เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน ในทางกลับกันหากขาดการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและใช้อย่างขาดความระมัดระวังยางรถยนต์ก็อาจได้รับความเสียหายไปก่อนที่ยางจะหมดอายุดการใช้งานตามปกติ ถึงแม้ผู้ผลิตจะผลิตออกมาให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพดีเพียงใดก็ตาม หากผู้ใช้ยางไม่ถูกต้องแล้วจะทำให้ได้รับประสิทธิภาพยางไม่เต็มที่และทำให้ยางเสียหายก่อนกำหนด
ดังนั้นยางรถยนต์จะให้ประโยชน์คุ้มค่าทุกด้านอย่างเต็มที่ขึ้นอยู่กับการใช้ยางที่ถูกต้องมีข้อแนะนำดังนี้ เติมลมยางให้ได้อัตราที่ถูกต้อง ตามที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้ โดยปกติแล้วอัตราสูบลมที่ถูกต้อง และเหมาะสมสำหรับรถแต่ละชนิด ที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้นั้น จะระบุไว้ในแผ่นโลหะ หรือสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้บริเวณสันประตู หรือเสากลางข้างตัวรถ หรือติดไว้ในช่องเก็บของภายในรถ นอกจากนั้น ยังมีระบุไว้ในหนังสือคู่มือการใช้รถอีกด้วย
การใช้ยางที่สูบลมไว้ต่ำกว่าอัตราที่เหมาะสมถูกต้อง หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า ลมอ่อนเกินไปนั้น นับเป็นศัตรูตัวสำคัญต่ออายุการใช้งานของยางทีเดียว อีกทั้งยังจะส่งผลเสียอย่างมากต่อยางที่ใช้อยู่ กล่าวคือในขณะรถวิ่ง ยางจะเกิดความร้อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมากกว่าที่ควรจะเป็น ความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักจะลดน้อยลงกว่ามาตราฐาน และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
ควรตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอประมาณอาทิตย์ละครั้ง หรือทุกครั้งก่อนเดินทางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ และต้องมีการสลับยางบ้างเมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ก็เพื่อให้ยางทุกเส้นมีการสึกที่เท่ากัน หรือ ควรสลับยางทุกๆ 9,000 13,000 กิโลเมตร หากรถของท่านเป็นรถใหม่ ท่านควรจะสลับยางในทันทีที่ท่านใช้รถครบ 10,000 กิโลเมตรแรก
หากยางเกิดการสึกที่ไม่สม่ำเสมอ ท่านควรรีบปรึกษากับร้านผู้ชำนาญงาน เพื่อตรวจเช็คศูนย์ล้อ ถ่วงล้อ ตลอดจนระบบช่วงล่างโดยทันที เมื่อเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นขณะที่รถวิ่ง อันจะมีผลเสียต่ออายุการใช้งานของยาง ระบบช่วงล่างของรถ ตลอดจนความสะดวกสบายในการขับขี่.