Bloggang.com : weblog for you and your gang
สโลแกน แทนใจ ไว้ให้คิด แม้มิ่งมิตร ผู้อยู่ห่าง กลางความฝัน ไม่เห็นหน้า แต่วาจา พาทีนั้น คละเคล้ากัน ปันสุขทุกข์ ทุกวี่วัน
Group Blog
ข้อคิด ...สะกิดใจ
สัพเพ - เฮฮา
กลอนถูกใจ
สาระธรรม
สัพเพ ...เหระ
รวมพล...คนมีสายสัมพันธ์
ภาพงานประชุมเพลิงลพ.ประสิทธิ์ ถาวโร วัดถ้ำยายปริก
สารพัด...สารพัน...สรรสาระ
Savika's .. Siries
<<
พฤษภาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 พฤษภาคม 2551
อ่านแล้ว (จะ) รู้สึกดี
All Blogs
คุณเคยทำผิดไหม?
กอด
"คุณอ่านได้มั้ย"
ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร?
...เพียงแค่พอ...
ใครมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่ากัน
อ่านแล้ว ... ย้อนดูใจตนเอง
เวลา...สิ่งมีค่าที่ทุกคนมี
สิ่งที่ตนมี และตนเป็น
นัยอันลึกล้ำของคำ ขอบคุณ
... สิ่งสำคัญที่สุด ...
ง่ายกับยาก .... What do you think??
นิยาม
กระแสลมสี่สาย โดย ริช เดอโวส
สำรวจ ... ใจ
เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน!!
น้ำแข็งก้อนใหญ่ กับ นาฬิกาทรายเรือนยักษ์
คำสอนของแม่
!!..Being..!!
สิ่งที่ได้มา และสิ่งที่เสียไป...
ความผูกพันกับอดีตดี ๆ
ยังมีแสงสว่าง บนเส้นทางชีวิตเสมอ
ไม่รู้สึกด้อยกว่าใคร ไม่ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น
ยิ้ม....มหานิยม
10 ปีที่ผ่านไป ไม่มีค่าเท่ากับ 1 วันที่เหลืออยู่
เพียงอยากเห็นดอกไม้บาน ... (จงหัดปฏิเสธตัวเองให้เป็น)
ฉันได้เรียนรู้ว่า ...
วันเวลากับชีวิต และปัญหา
The end of the day (วินทร์ เลียววาริณ)
เงิน 10 บาท
ถ้าเราแคร์คำพูดแย่ๆ...ก็เท่ากับแพ้ใจตัวเอง
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...
นิยาม..ของคำว่า "เพื่อน"
ข้อคิดดี ๆ ... ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า
เคล็ดลับ ... ความสามัคคี
วิธีอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบ
ถ้าท้อถอยเป็นเพียงถ่าน...ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร
คำคม ...จากขงเบ้ง
อ่านแล้ว (จะ) รู้สึกดี
ไฟ...น้ำ และความไว้ใจ
อะไรๆ มันก็ไม่แน่ อย่าดีใจ อย่าเสียใจ
what is happiness?
คุณ "กำ" อะไรอยู่
คนที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา...
เพื่อนแนะนำให้ฉันไปทำ......"เสน่ห์ยาแฝด".......
ความผิดหวัง...สอนให้เราอดทน
สิ่งเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่
ข้อคิดจากรวงข้าว
บนถนนสายนั้น ... มีฉันอยู่
ชีวิต ...กับ...วันเวลา
จุดจบ...ทำให้เกิด...การเริ่มต้น
เหตุผลดีๆ ที่คุณควรยิ้ม
ข้อคิดจากคนตัดต้นไม้
หากชีวิตกำลังแย่ต้อง..เข็มแข็ง อดทน
เสียงสะท้อน...ของชีวิต
โทรศัพท์มือถือทำให้ "เครียด"
"ลดบางอย่าง เพื่อ เพิ่มบางสิ่ง"
เรื่องของ "นิ้ว" ที่คุณไม่เคยรู้
ทุกสิ่งที่ฉันมี ไม่ใช่เพียงแค่. . .
ชีวิตที่ดี ... โลกนี้สวยงาม
ผูกพัน หรือ คุ้นเคย
เรื่องของ "ใจ"
กำลังใจ...ให้ตนเอง
พระธรรมเทศนา - หลวงปู่มั่น
คนที่มีความสุขที่สุดในโลก
น้ำใจ
จากปรัชญาเต๋า
เพลงกรรม โดยโจโฉ
เพื่อนแท้เหมือน...หิ่งห้อย
อุปสรรคมีไว้ให้ก้าวข้ามไป
มองแต่แง่ดีเถิด
อ่านแล้ว (จะ) รู้สึกดี
ความสุขอยู่ที่ใด
(ยาวมากนะ แต่อยากให้ค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ)
... ฉันไม่มีความสุข
... ฉันไม่ชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันน่าเบื่อและไม่มีที่สิ้นสุด
... ฉันไม่ชอบเจ้านาย เพราะเขาไม่เคยคิดหรือทำอะไรเองนอกจากชี้นิ้วสั่งกับดุด่าฉันเท่านั้น
...
ฉันไม่ชอบเช้าวันจันทร์
เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ตื่นขึ้นมาเผชิญโลกที่โหดร้าย แต่ละสัปดาห์ของการทำงาน ดูราวกับการคืบคลานไปท่ามกลางสนามรบ
... ฉันไม่ชอบเช้าวันอังคาร
เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งทำงานไปได้วันเดียวยังมีอีกหลายวันที่โหดร้ายรออยู่
... ฉันไม่ชอบเช้าวันพุธ
เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกับความล้าและพบว่าเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งทางเท่านั้น
... ฉันไม่ชอบเช้าวันพฤหัสบดี
เพราะเป็นวันที่ฉันเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดหลายวัน แต่ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป พรุ่งนี้ก็ยังต้องทำงาน
... ฉันไม่ชอบเช้าวันศุกร์
เพราะฉันเหนื่อยจนแทบลุกจากเตียงไม่ไหวแล้วแต่ก็ยังต้องลุกไปทำงาน
... ฉันไม่ชอบเช้าวันเสาร์
เพราะฉันอยากตื่นสายๆ แต่กลับมีเด็กบ้านใกล้ๆ วิ่งเล่นเสียงดังจนต้องตื่นแต่เช้า
... ฉันไม่ชอบเช้าวันอาทิตย์
เพราะฉันจะถูกปลุกแต่เช้าเช่นกัน ด้วยเสียงเครื่องดูดฝุ่นกับเสียงตัดต้นไม้และเครื่องตัดหญ้าชองเพื่อนบ้าน
... ฉันไม่ชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์
เพราะมันทำให้ร้านรวงในกรุงเทพฯปิด จะซื้อหาอะไรก็ยาก จะออกไปต่างจังหวัดคนก็มาก ฉันเคยเห็นรถติดบนยอดเขาห่างไกลในวันสิ้นปีมาแล้ว
>
... ฉันไม่ชอบรถติด
เพราะมันทำให้ฉันถึงที่ทำงานช้า
... ฉันไม่ชอบรถเมล์
เพราะฉันต้องยืนเบียดกับคนแปลกหน้าและร้อนอบอ้าว
... ฉันไม่ชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่
เพราะมันคับแคบแออัด เปิดหน้าต่างออกไปเห็นแต่ตึกบังท้องฟ้า
... ฉันไม่ชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหวัด
เพราะมันห่างไกลมากและมีแต่ความกันดาร
... ฉันไม่ชอบนิยายน้ำเน่า
เพราะมันไม่เคยให้แง่คิดหรือช่วยพัฒนาจิตใจของเราให้ดีขึ้นเลย
... ฉันไม่ชอบหน้าร้อน
เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอบอ้าวและหงุดหงิดทั้งวัน
... ฉันไม่ชอบหน้าฝน
เพราะมันทำให้ฉันเปียกแฉะ เดินทางลำบาก ตากผ้าก็ไม่แห้ง
... ฉันไม่ชอบหน้าหนาว
เพราะมันทำให้ฉันเป็นหวัดและไม่มีชีวิตชีวา
... ฉันไม่ชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนจบมา
เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง ทำให้ฉันหางานทำลำบาก
... ฉันไม่ชอบคนรักของฉัน
เพราะเขาเป็นคนขวานผ่าซาก ไม่โรแมนติก ไม่เอาอกเอาใจฉันเลย
... ฉันไม่ชอบกรุงเทพ
เพราะที่นี่มีแต่ความเบียดเสียด ทุกอย่างเร่งรีบและดิ้นรนผู้คนเห็นแก่ตัว
ฉันไม่มีความสุข...
ความสุขอยู่ที่ไหนกัน...
>
Create Date : 08 พฤษภาคม 2551
Last Update : 8 พฤษภาคม 2551 13:17:50 น.
5 comments
Counter : 1637 Pageviews.
Share
Tweet
... วันหนึ่งฉันยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ แม่ลูกคู่หนึ่งนั่งรอรถอยู่ใกล้ๆ ผ่านไปสักพัก อยู่ๆ ลูกชายวัยซนของหญิงคนนั้นก็ชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าและบอกกับแม่ แม่หมาอยู่บนฟ้า
ไหนลูก แม่ขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวมองตามลูก อ๋อ เมฆน่ะเหรอลูก ดูเป็นหมายังไงนะ
นี่ไงแม่ ตรงที่ยื่นๆ ออกมานี่เป็นหัวหมา นี่หูมัน มีขาหน้าด้วย
แล้วขาหลังล่ะลูกไม่เห็นมีเลย
มันกระโดดออกจากปุยนุ่น ขาหลังมันเลยจมในปุยนุ่น เด็กชายว่า
ฉันหันไปมองเมฆก้อนนั้นตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมันเป็นแค่ก้อนเมฆสีขาวไร้รูปทรงธรรมดารูปหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความเหมือนกับหมาตรงไหนเลย ฉันยักไหล่แล้วหันไปชะเง้อมองรถเมล์บนถนนตามเดิม เสียเวลาฟังเจ้าเด็กฟุ้งซ่านจริงๆ
เหรอ...แต่แม่ว่ามันดูเหมือนกับยีราฟนะลูก เห็นมั้ย คอมันยาวเป็นยีราฟเลย หูชี้ด้วย
ไม่ใช่นะแม่ ยังเป็นหมาอยู่ หมาคอยาวๆโอ๊ยๆๆทำไมขามันหายไปแล้วล่ะ
ข้างบนลมคงพัดแรงน่ะลูก เมฆมันเป็นแค่ไอน้ำที่ลอยในอากาศและจับตัวกันเป็นก้อน พอลมพัดมันก็เปลี่ยนรูปร่างเหมือนกันตอนที่ลูกเป่าควันในชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ไงจ๊ะ
ฉันเงยหน้ามองก้อนเมฆไอน้ำสีขาวบนทั้งฟ้าอีกครั้ง ฉันมองอย่างไรก็เห็นเป็นเพียงแต่เมฆธรรมดาๆ
ก้อนหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่แม่ลูกคู่นั้นเห็นเป็นสัตว์ต่างๆ มากมาย
ทำไมของสิ่งเดียวกันแต่คนสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันกลับมองไม่เหมือนกัน หรือว่ามาลูกคู่นี้เห็นในสิ่งที่ฉันไม่เห็น...
...........................................................
... บนรถเมล์ที่ฉันโหนไปทำงาน เด็กนักเรียนสองคนใกล้ๆ กำลังพูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทำไมแกรีบอ่านหนังสือคร่ำเคร่งนัก กว่าจะสอบก็ปีหน้าไม่ใช่เหรอ
ต้องรีบอ่านสิ อีกแค่ปีเดียวพวกเราต้องสอบแล้วนะ นี่อ่านแทบไม่ได้นอนมาหลายเดือนแล้ว
เหรอ...
แล้วแกล่ะ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่อ่านหนังสือสักที
ไม่ต้องรีบหรอก อีกตั้งปีกว่าจะถึงวันสอบ
ฉันมองตามหลังเด็กทั้งสองขณะที่พวกเขาเดินลงจากรถหน้าโรงเรียน นับว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนสองคนที่มองสิ่งเดียวกันต่างออกไป คนหนึ่งมองอย่างเป็นทุกข์ อีกคนมองอย่างไม่ทุกข์ หรือว่าทุกสิ่งรอบตัวสามารถมองได้สองแบบจริงๆ
แบบเดียวกับที่ฉันมองสองด้านของเหรียญหรือมองแก้วน้ำที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว
แล้วที่ฉันไม่มีความสุขอยู่ทุกวันนี้เกิดจากการมองของฉันใช่หรือไม่...
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านมานั่งพักที่ระเบียง แมวดำตัวหนึ่งกำลังพยายามจะมาคุ้ยหาขยะในถุงดำที่มัดกองไว้หน้าบ้าน
แต่แรกฉันทำท่าจะถอดรองเท้าขว้างใส่แบบที่เคยทำมา
แต่พอคิดไปอีกทางว่า การเกิดเป็นแมวจรจัดไร้เจ้าของและที่ซุกหัวนอนนั้นก็แย่พออยู่แล้ว ยังต้องมาคุ้ยขยะหาอาหารประทังชีวิตให้รอดแล้ว ยังถูกคนขับไล่อีกไปที่ไหนก็มีแต่คนไม่ต้อนรับเอ็นดู
ฉันลองเปลี่ยนความคิดดู หันหลังเดินเข้าครัว หยิบไส้กรอกอีสานและแฮมในตู้เย็นออกมาอุ่นเล็กน้อย
จากนั้นก็เปิดประตูบ้านออกไป แมวดำยังอยู่ที่กองขยะหน้าบ้าน แสงจากเสาไฟฟ้าที่ส่องสลัวลงมาถึงตัวของมัน ทำให้มองดูเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ฉันส่งเสียงเลียนแบบแมวดังเมี้ยวๆ
จนมันหันมามอง
กินซะนะ อยู่ด้วยกันมานานฉันเพิ่งจะมาใจดีวันนี้แหละ
แมวตัวนั้นค่อยๆ เดินมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมาหยุดใกล้ๆ ฉันจึงวางไส้กรอกอีสานกับหมูแฮมลงบนพื้น
แมวจรจัดส่งเสียงร้องเหมียวๆ ขณะก้มลงดมอาหารมื้อพิเศษนั้น ในที่สุดมันก็กินอย่างเอร็ดอร่อยทีเดียว
ฉันยืนกอดอกมองภาพแมวที่กำลังกินอาหารที่ฉันหามาให้อย่างมีความสุข เพิ่งได้รู้กับตัวเองว่า การไล่แมวกับการให้อาหารแมวนั้น มันให้ความสุขทางใจที่แตกต่างกันมากกขนาดนี้เอง
ต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุข...
โดย:
สาวิกา
วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:18:10 น.
>
... ฉันชอบงานที่ฉันทำ
เพราะมันให้โอกาสฉันได้แสดงฝีมือทำงานเพื่อส่วนรวมและมีรายได้มาเลี้ยงตัวเอง งานทั้งหลายนั้นดูช่างท้าทายฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
... ฉันชอบเจ้านาย
เพราะเขาให้โอกาสฉันคิดและตัดสินใจลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองโดยพยายามตักเตือนแนะนำเมื่อฉันทำงานผิดพลาด
... ฉันชอบเช้าวันจันทร์
เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งสัปดาห์นี้จะต้องดีกว่าสัปดาห์ที่แล้ว
... ฉันชอบเช้าวันอังคาร
เพราะเป็นวันที่ฉันเพิ่งทำงานไปได้วันเดียว ยังมีอีกหลายวันที่สนุกสนานรออยู่ เพื่อนที่ทำงานยังรอฉันอยู่
... ฉันชอบเช้าวันพุธ
เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่นขึ้นมาพร้อมความล้าเล็กน้อย และพบว่าเวลาผ่านไปครึ่งทางแล้ว
ฉันจะรีบทำงานในเวลาที่เหลือให้ดีที่สุด อีกไม่นานฉันจะได้พักผ่อนวันหยุดแล้ว
... ฉันชอบเช้าวันพฤหัสบดี
เพราะเป็นวันที่ฉันเห็นความคืบหน้าของงานในสัปดาห์นี้มากมาย หากฉันไม่จัดการงานพวกนี้ บริษัทและทุกคนในบริษัทคงลำบากมาก ฉันรู้ว่าฉันมีส่วนร่วมในการผลักดันบริษัทของฉัน
... ฉันชอบเช้าวันศุกร์
เพราะฉันจะให้กำลังใจตัวเองว่านี่คือวันทำงานวันสุดท้ายแล้ว ฉันจะจัดการทุกสิ่งไม่ให้คั่งค้างเพื่อให้พรุ่งนี้และมะรืนนี้เป็นวันหยุดที่แสนสบาย
... ฉันชอบเช้าวันเสาร์
เพราะฉันจะตื่นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของเด็กบ้านใกล้ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ฟังดูสดชื่นมีชีวิตชีวา จากนั้นฉันจะเริ่มทำความสะอาดบ้านและมองดูบ้านที่สะอาดขึ้นทีละน้อยอย่างภูมิใจ
... ฉันชอบเช้าวันอาทิตย์
เพราะฉันจะตื่นแต่เช้าเช่นกัน เพื่อเตรียมหุงหาอาหารใส่บาตรพระที่ผ่านมาหน้าหมู่บ้าน จากนั้นฉันจะไปซื้อของและกลับมาพักผ่อนที่บ้าน รอคอยสัปดาห์ใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น
... ฉันชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์
เพราะมันทำให้ฉันมีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น
... ฉันชอบรถติด
เพราะมันทำให้ฉันเพลิดเพลินกับการฟังเพลงวิทยุช่องโปรดและเหม่อมองสิ่งต่างๆ รอบตัวนานขึ้น
... ฉันชอบรถเมล์
เพราะฉันมองเห็นคนมากมายที่กำลังร่วมทางกันอยู่บนรถคันเดียวกัน แต่ละวันที่ได้พบกับผู้คนบนรถเมล์ฉันมักจะได้แง่คิดดีๆ จากการเงี่ยหูฟังพวกเขาคุยกันอยู่เสมอ
... ฉันชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่
เพราะมันดูกะทัดรัดดูแลทำความสะอาดได้ง่าย มีเพื่อนบ้านมากมายคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้
... ฉันชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหวัด
เพราะมันห่างไกลจากความวุ่นวายในเมืองหลวง และฉันมักจะกลับไปพักผ่อนเติมพลังอยู่เสมอ เมื่อเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตในเมือง
... ฉันชอบนิยายน้ำเน่า
เพราะมันทำให้ฉันผ่อนคลายและได้ล่องลอยไปในโลกความฝันบ้าง หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
... ฉันชอบหน้าร้อน
เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกถึงชีวิตชีวารอบข้าง เสียงแมลงต่างพากันร้อง นกต่างพากันบินออกหากิน
ดอกไม้เบ่งบาน
... ฉันชอบหน้าฝน
เพราะมันช่างดูอบอุ่นชุ่มเย็น การเฝ้ามองต้นไม้เขียวขจีต้องลมฝนจากใต้ชายคาบ้านฉันเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
... ฉันชอบหน้าหนาว
เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเย็นสบาย ได้หยิบเสื้อหนาวสวยๆ ในตู้ออกมาใส่จะเดินออกไปไหนมาไหนก็กระชุ่มกระชวย นอนหลับก็สบายไม่ต้องเปิดพัดลม
... ฉันชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนจบมา
เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง หากฉันทำงานของฉันจนประสบความสำเร็จ ฉันจะกลายเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยของฉันจะเป็นที่ยอมรับของทุกคน
... ฉันชอบคนรักของฉัน
เพราะเขาเป็นคนจริงใจพูดตรงไปตรงมา ไม่มีมารยา และทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะเอาอกเอาใจเธอ
...ฉันชอบกรุงเทพ
เพราะที่นี่มีผู้คนมากมาย และมีบทเรียนใหม่ๆ ที่จะคอยสอนใจฉันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น เหมือนกับที่มันเคยสอนฉันให้มองโลกอย่างมีความสุขมาแล้ว
>
...ฉันมีความสุข...
ความสุขอยู่ในทุกหนแห่งและอยู่ที่ตัวฉันเอง...อยู่ที่ฉันจะตั้งใจมองหามันในทุกสิ่งรอบข้างเองหรือไม่เท่านั้น...
โดย:
สาวิกา
วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:30:58 น.
นั่นซิ สุขทุกข์อยู่ที่เรามองค่ะ พยายามให้ได้มากที่สุดที่จะมีความสุขในทุกๆๆวัน
โดย: Gigg (
Gigg_Pat
) วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:37:50 น.
เป็นคนง่ายเลยไม่ค่อยทุกข์ค่ะ พอไม่มีทุกข์ทุกอย่างก็ดูสดใสไปหมด
โดย:
สร้อยหมาก
วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:02:54 น.
อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ `^^
โดย:
Geerorogunso
วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:23:58 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สาวิกา
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
ป้ามด
ระเบียงดอกไม้
พ่อพเยีย
สเลเต
AUN_SAP
คนรักต้นไม้
ดา ดา
ปะการังหอม
หนุ่มร้อยปี
ทูน่าค่ะ
SevenDaffodils
รำเพย
ดอกหญ้าเมืองเลย
KungGuenter
aston27
Geerorogunso
Little_Lek
เยี่ยมรุ้ง
อ้องเขาค้อ
N_BEE810
นอกลู่นอกทาง
นายกุหลาบ
VA_Dolphin
ตั้งสติ
แม่อบ
Pormaid
psak28
กะว่าก๋า
ชีวประภา
dtredwing
saifan
vaay
นมสิการ
gajidrid
Webmaster - BlogGang
[Add สาวิกา's blog to your web]
Links
ลานธรรมเสวนา
บุจเพจ
เรือนธรรม.คอม
ดังตฤณดอทคอม
วัดถ้ำยายปริก
ท่านวิโมกข์
ไหว้พระหน้าคอม
Color Codes ป้ามด
สันติธรรม
เว็ปวิมุตติ
ธรรมะใกล้ตัว
แสงดาวส่องทาง
สู่ธรรม ...สู่อิสระ
Nirvana
โค้ดสี ... ป้ามด
บุหงาส่าหรี
kaew
ธรรมะใสใส...ใกล้ตัวคุณ
มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
คุณวิธ
ป้าธิดา
ปอ - แอร์
นายโอ
ชมพู
บีบี
ธีรนันท์..เต้ย
โจโจ้
อลิสา ..แต้ว
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ไหนลูก แม่ขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวมองตามลูก อ๋อ เมฆน่ะเหรอลูก ดูเป็นหมายังไงนะ
นี่ไงแม่ ตรงที่ยื่นๆ ออกมานี่เป็นหัวหมา นี่หูมัน มีขาหน้าด้วย
แล้วขาหลังล่ะลูกไม่เห็นมีเลย
มันกระโดดออกจากปุยนุ่น ขาหลังมันเลยจมในปุยนุ่น เด็กชายว่า
ฉันหันไปมองเมฆก้อนนั้นตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมันเป็นแค่ก้อนเมฆสีขาวไร้รูปทรงธรรมดารูปหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความเหมือนกับหมาตรงไหนเลย ฉันยักไหล่แล้วหันไปชะเง้อมองรถเมล์บนถนนตามเดิม เสียเวลาฟังเจ้าเด็กฟุ้งซ่านจริงๆ
เหรอ...แต่แม่ว่ามันดูเหมือนกับยีราฟนะลูก เห็นมั้ย คอมันยาวเป็นยีราฟเลย หูชี้ด้วย
ไม่ใช่นะแม่ ยังเป็นหมาอยู่ หมาคอยาวๆโอ๊ยๆๆทำไมขามันหายไปแล้วล่ะ
ข้างบนลมคงพัดแรงน่ะลูก เมฆมันเป็นแค่ไอน้ำที่ลอยในอากาศและจับตัวกันเป็นก้อน พอลมพัดมันก็เปลี่ยนรูปร่างเหมือนกันตอนที่ลูกเป่าควันในชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ไงจ๊ะ
ฉันเงยหน้ามองก้อนเมฆไอน้ำสีขาวบนทั้งฟ้าอีกครั้ง ฉันมองอย่างไรก็เห็นเป็นเพียงแต่เมฆธรรมดาๆ
ก้อนหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่แม่ลูกคู่นั้นเห็นเป็นสัตว์ต่างๆ มากมาย
ทำไมของสิ่งเดียวกันแต่คนสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันกลับมองไม่เหมือนกัน หรือว่ามาลูกคู่นี้เห็นในสิ่งที่ฉันไม่เห็น...
...........................................................
... บนรถเมล์ที่ฉันโหนไปทำงาน เด็กนักเรียนสองคนใกล้ๆ กำลังพูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทำไมแกรีบอ่านหนังสือคร่ำเคร่งนัก กว่าจะสอบก็ปีหน้าไม่ใช่เหรอ
ต้องรีบอ่านสิ อีกแค่ปีเดียวพวกเราต้องสอบแล้วนะ นี่อ่านแทบไม่ได้นอนมาหลายเดือนแล้ว
เหรอ...
แล้วแกล่ะ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่อ่านหนังสือสักที
ไม่ต้องรีบหรอก อีกตั้งปีกว่าจะถึงวันสอบ
ฉันมองตามหลังเด็กทั้งสองขณะที่พวกเขาเดินลงจากรถหน้าโรงเรียน นับว่าเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนสองคนที่มองสิ่งเดียวกันต่างออกไป คนหนึ่งมองอย่างเป็นทุกข์ อีกคนมองอย่างไม่ทุกข์ หรือว่าทุกสิ่งรอบตัวสามารถมองได้สองแบบจริงๆ
แบบเดียวกับที่ฉันมองสองด้านของเหรียญหรือมองแก้วน้ำที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว
แล้วที่ฉันไม่มีความสุขอยู่ทุกวันนี้เกิดจากการมองของฉันใช่หรือไม่...
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านมานั่งพักที่ระเบียง แมวดำตัวหนึ่งกำลังพยายามจะมาคุ้ยหาขยะในถุงดำที่มัดกองไว้หน้าบ้าน
แต่แรกฉันทำท่าจะถอดรองเท้าขว้างใส่แบบที่เคยทำมา
แต่พอคิดไปอีกทางว่า การเกิดเป็นแมวจรจัดไร้เจ้าของและที่ซุกหัวนอนนั้นก็แย่พออยู่แล้ว ยังต้องมาคุ้ยขยะหาอาหารประทังชีวิตให้รอดแล้ว ยังถูกคนขับไล่อีกไปที่ไหนก็มีแต่คนไม่ต้อนรับเอ็นดู
ฉันลองเปลี่ยนความคิดดู หันหลังเดินเข้าครัว หยิบไส้กรอกอีสานและแฮมในตู้เย็นออกมาอุ่นเล็กน้อย
จากนั้นก็เปิดประตูบ้านออกไป แมวดำยังอยู่ที่กองขยะหน้าบ้าน แสงจากเสาไฟฟ้าที่ส่องสลัวลงมาถึงตัวของมัน ทำให้มองดูเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ฉันส่งเสียงเลียนแบบแมวดังเมี้ยวๆ
จนมันหันมามอง
กินซะนะ อยู่ด้วยกันมานานฉันเพิ่งจะมาใจดีวันนี้แหละ
แมวตัวนั้นค่อยๆ เดินมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมาหยุดใกล้ๆ ฉันจึงวางไส้กรอกอีสานกับหมูแฮมลงบนพื้น
แมวจรจัดส่งเสียงร้องเหมียวๆ ขณะก้มลงดมอาหารมื้อพิเศษนั้น ในที่สุดมันก็กินอย่างเอร็ดอร่อยทีเดียว
ฉันยืนกอดอกมองภาพแมวที่กำลังกินอาหารที่ฉันหามาให้อย่างมีความสุข เพิ่งได้รู้กับตัวเองว่า การไล่แมวกับการให้อาหารแมวนั้น มันให้ความสุขทางใจที่แตกต่างกันมากกขนาดนี้เอง
ต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุข...