งาสาร ฤาห่อนเหี้ยน หดคืน คำกล่าว สาธุชนยืน อย่างนั้น
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
อาณาจักร ภูกามยาว

อาณาจักรภูกามยาว

                  "อาณาจักรภูกามยาว" ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.๑๖๓๘ โดยขุนศรีจอมธรรม ราชบุตรขุนลาวเงินหรือ ขุนเงินเจ้าผู้ครองเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน ซึ่งขุนลาวเงินมีราชโอรส ๒ องค์คือขุนชินและขุนศรีจอมธรรม เมื่อพระโอรสทั้งสององค์ทรงเจริญวัย ได้โปรดให้โอรสองค์แรกครองเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสนส่วนองค์ที่สองคือขุนศรีจอมธรรมได้ทรงแบ่งพระราชทรัพย์และกำลังไพล่พลส่วนหนึ่งให้ไปสร้างเมืองใหม่ขุนศรีจอมธรรมซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ ๒๕ พรรษา จึงได้นำกำลังพล ช้าง ม้า เดินทางจากเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสนมาทางทิศใต้ รอนแรมมาถึง ๗ คืน ได้พบเมืองร้างแห่งหนึ่งปลายเทือกเขาด้วนทรงเห็นมีชัยภูมิเหมาะที่จะสร้างบ้านสร้างเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเมืองหนึ่ง นามว่า “สีหราช”อยู่เชิงเขาชมภูหางดอยด้วน ลงไปจรดฝั่งแม่น้ำ มีสัณฐานคล้ายลูกน้ำเต้ามีหนองน้ำใหญ่อยู่ทางตะวันตก อันหมายถึงกว๊านพะเยา และทางทิศอีสานคือหนองหวีและหนองแว่น ต่อมารวมไพร่พลหัวเมืองต่างๆ ได้ 80,000 คนจัดแบ่งได้ 36 พันนา นาละ 500 คน มีเขตแคว้นแดนเมืองในครั้งกระโน้นดังนี้
                    ทิศบูรพา จรดขุนผากาดจำบอนตาดม้าน บางสีถ้ำ ไทรสามต้น สบห้วยปู น้ำพุง สบปั๋ง ห้วยบ่อทอง ตาดซาววา กิ่วแก้วกิ่วสามช่อง มีหลักหินสามก้อนฝังไว้กิ่วฤาษี แม่น้ำสายตา กิ่วช้าง กิ่วง้มกิ่วเปี้ย ดอยปางแม่นาค
                    ทิศตะวันตก โป่งปูดห้วยแก้วดอยปุยแม่คาว ไปทางทิศใต้กิ่วรุหลาว ดอกจิกจ้อง ขุนถ้ำ ดอยตั่ง ดอยหนอก ผาดอกวัว แซ่ม่านไปจรดเอาดอยผาหลักไก่ทาง

                    ทิศหรดีมีเมืองในอำนาจปกครอง คือ เมืองงาว เมืองกาว สะเอียบ เชียงม่วน เมืองเทิง เมืองสระเมืองออย สะสาว เมืองดอบ เชียงคำ เมืองลอ เมืองเชียงแลง เมืองหงาว แซ่เหียง แซ่ลุลปากบ่อง เมืองป่าเป้า เมืองวัง แซ่ซ้อง เมืองปราบ แซ่ห่ม
                    ทิศใต้ สุดจรดนครเขลางค์และนครหริภุญชัยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อแดนขรนคร(เชียงของ)
ขุนจอมธรรมปกครองไพร่ฟ้าประชาชนโดยตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม และยึดมั่นในบวรพุทธศาสนาบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองด้วยโภคสมบัติ ฟ้าฝนตกตามฤดูกาล ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีปราศจากโรคภัยเบียดเบียน ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน ไม่มีสงคราม เจ้าประเทศราชต่าง ๆ ก็มีสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน

                    ขุนจอมธรรมครองเมืองพะเยาได้ ๒ ปี มีโอรส ๑ พระองค์ ให้พระนามว่า “ขุนเจื๋อง” ต่อมาอีก ๓ ปี ได้ โอรสอีก ๑องค์ พระนามว่า “ขุนจอง”หรือ “ชิง” ขุนจอมธรรมปกครองเมืองพะเยาได้ ๒๔ปีพระชนมายุได้ ๔๙ พรรษา

                    ขุนเจื๋อง ประสูติเมื่อปีพุทธศักราช ๑๖๔๑ เป็นโอรสองค์ที่ ๑ ของขุนจอมธรรมเมื่อขุนเจื๋องเจริญวัยขึ้น ทรงศึกษาวิชาการต่อสู้ เช่น วิชาดาบ มวยปล้ำ เพลงชัย จับช้าง จับม้าและเพลงอาวุธต่างๆ พระชนมายุได้ ๑๖ ปี พาบริวารไปคล้องช้างที่เมืองน่านเจ้าผู้ครองเมืองน่านเห็นความสามารถแล้วพอพระทัยยกธิดาชื่อ “จันทร์เทวี” ให้เป็นชายาขุนเจื๋องพระชนมายุได้ ๑๗ ปี พาบริวารไปคล้องช้างที่เมืองแพร่ เจ้าผู้ครองเมืองแพร่พอพระทัยจึงยกธิดาชื่อ “นางแก้วกษัตริย์” ให้เป็นชายาพระราชทานช้าง ๒๐๐ เชือก
                    ภายหลังขุนจอมธรรมสิ้นพระชนม์ขุนเจื๋องได้ครองราชสืบแทนเมื่อพระชนมายุ๒๔ ปี ครองเมืองได้ ๖ ปี มีข้าศึกแกว (ญวน) ยกทัพมาประชิดนครหิรัญเงินยางเชียงแสน ขุนชินผู้เป็นลุงได้ส่งสาส์นขอให้ส่งไพร่พลไปช่วย ขุนเจื๋องได้รวบรวบรี้พลเคลื่อนทัพเข้าตีข้าศึกแตกกระจัดกระจายไป เมื่อขุนชินทราบเรื่องก็เลื่อมใสโสมนัสยิ่งนักทรงยกธิดาชื่อ “พระนางอั๊วคำคอน” ให้ และสละราชสมบัตินครหิรัญเงินยางเชียงแสนให้ขุนเจื๋องครองแทนเมื่อขุนเจื๋องได้ครองราชเมืองเงินยางแล้วทรงพระนามว่า “พระยาเจื๋องธรรมมิกราช” ได้มอบสมบัติให้โอรสชื่อ“ลาวเงินเรือง” ครองเมืองพะเยาแทนหัวเมืองใหญ่น้อยเหนือใต้ยอมอ่อนน้อม ได้ราชธิดาแกวมาเป็นชายานามว่า “นางอู่แก้ว” มีโอรส ๓ พระองค์คือ ท้าวผาเรืองยี่คำห้าวท้าวสามชุมแสง ต่อมายกราชสมบัติเมืองแกวให้ท้าวผาเรือง ให้ท้าวคำห้าวไปครองเมืองล้านช้างท้าวสามชุมแสงไปครองเมืองน่าน

                   ขุนเจื๋องได้ปราบเมืองต่างๆ ที่ยังไม่ยอมสวามิภักดิ์ ทรงชนช้างกับศัตรูเสียทีข้าศึกเพราะชราภาพจึงถูกฟันคอขาดและสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง พวกทหารจึงนำพระเศียรไปบรรจุไว้ที่พระเจดีย์เมืองหิรัญนครเชียงแสนขุนเจื๋อง ครองราชย์สมบัติครองแคว้นล้านนาไทยได้ ๒๔ ปี ครองเมืองแกวได้ ๑๗ ปี รวมพระชนมายุได้ ๖๗ ปี

                    เมื่อขุนเจืองได้ครองเมืองหิรัญนครเงินยางแล้ว ได้ให้โอรสชื่อว่า"ลาวเงินเรือง" ขึ้นครองเมืองพะเยาแทน ท้าวลาวเงินเรืองครองเมืองพะเยาได้ ๑๗ ปี ก็สิ้นพระชนม์ ขุนแดงโอรสครองราชย์ต่อมาเป็น เวลา ๗ ปีขุนจอง ซึ่งเป็นน้องของขุนเจือง แย่งราชสมบัติ และ ได้ครองเมืองพะเยาประมาณ ๒๐ ปีและมีผู้ครองราชย์สืบต่อมาจนถึงพระยางำเมืองกษัตริย์เมืองพะเยา องค์ที่ ๙ ซึ่งเป็นราชบุตรของพ่อขุนมิ่งเมืองเมื่อพระชนมายุได้ ๑๖ ชันษาพระบิดาส่งไปศึกษา ที่สำนักสุกันตฤาษี เมืองลพบุรีจึงได้รู้จักกับพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย โดยได้ศึกษาศิลปศาสตร์จากอาจารย์เดียวกันและทรงเป็นสหายกันตั้งแต่นั้นมา เมื่อเรียนจบก็เสด็จกลับเมืองพะเยา
                    ปีพุทธศักราช ๑๘๑๐ พ่อขุนมิ่งเมืองพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ จึงได้ขึ้นครองราชย์แทน พ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เช่นเดียวกับพระร่วงเจ้าตำนานกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ไม่ชอบสงคราม ปกครองบ้านเมืองด้วยความเที่ยงธรรมผูกไมตรีจิตต่อประเทศราชและเพื่อนบ้าน ขุนเม็งรายเคยคิดยกทัพเข้าตีเมืองภูกามยาว พ่อขุนงำเมืองล่วงรู้เหตุการณ์ก่อนแทนที่จะยกทัพเข้าต่อต้านได้สั่งไพร่พลให้อยู่ในความสงบ สั่งให้เสนาอำมาตย์ออกต้อนรับโดยดี เชิญขุนเม็งรายเสวยพระกระยาหารและเลี้ยงกองทัพให้อิ่มขุนเม็งรายจึงเลิกการทำสงคราม แต่นั้นมาพ่อขุนงำเมืองจึงยกเมืองปลายแดนซึ่งมีเมืองพาน เมืองเชี่ยงเคี่ยน เมืองเทิง และเมืองเชียงของ ให้แก่ขุนเม็งราย และทำสัญญาปฏิญาณต่อกันจะเป็นมิตรต่อกันตลอดไปฝ่ายพระร่วงซึ่งเป็นสหายคนสนิทก็ได้ถือโอกาสเยี่ยมพ่อขุนงำเมืองปีละ ๑ ครั้ง ส่วนใหญ่เสด็จในฤดูเทศกาลสงกรานต์ได้มีโอกาสรู้จักขุนเม็งราย ทั้ง ๓พระองค์ ได้ชอบพอเป็นสหายกัน กระทำสัตย์ปฏิญาณแก่กันณ ริมฝั่งแม่น้ำขุนภู ว่าจะไม่ผูกเวรแก่กัน จะเป็นมิตรสหายกัน กรีดโลหิตออกรวมกันขันผสมน้ำทรงดื่มพร้อมกัน (ภายหลังแม่น้ำนี้ได้ชื่อว่า แม่น้ำอิง)
                    ระหว่างครองราชย์ในเมืองภูกามยาว พ่อขุนงำเมือง เป็นผู้ทรงอุปถัมภ์พระธาตุจอมทองซึ่งตั้งอยู่บนดอยจอมทองซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองพะเยา ที่ประชาชนสักการะบูชามาจนตราบเท่าทุกวันนี้

                   เมื่อปีพุทธศักราช ๑๘๑๖ พ่อขุนงำเมืองสิ้นพระชนม์ลงขุนคำแดงและขุนคำลือได้สืบราชสมบัติ ต่อมาตามลำดับ ในสมัยขุนคำลือนี้เองที่เมืองพะเยาต้องเสียเอกราชไปคือพญาคำฟู ราชวงศ์มังรายแห่งเมืองไชยนารายณ์(เชียงราย) ได้ชักชวนพญากาวแห่งเมืองนันทบุรี(น่าน)ยกกองทัพเข้าตีเมืองภูกามยาว จนพังพินาศ หลังจากนั้นอาณาจักรภูกามยาวหรือพยาว ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรไชยนารายณ์(เชียงราย) เรื่อยมา

- - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - 




Create Date : 09 สิงหาคม 2558
Last Update : 9 สิงหาคม 2558 12:41:59 น. 1 comments
Counter : 3670 Pageviews.

 
ดีมากครับ


โดย: พลสัญ จี้อุด IP: 58.8.45.14 วันที่: 14 มีนาคม 2566 เวลา:13:19:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sathit 1
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add sathit 1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.