งาสาร ฤาห่อนเหี้ยน หดคืน คำกล่าว สาธุชนยืน อย่างนั้น
Group Blog
ประวัติศาตร์ไทย
รวมมิตร
การเมือง
พระมหากษัตริย์
การทหาร
สังคมจิตวิทยา
ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
กลอนประตู
<<
พฤษภาคม 2553
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
3 พฤษภาคม 2553
สงครามประชาชน-สงครามปฏิวัติ สงครามยกกำลังสอง
All Blogs
ทหารพราน นักรบประชาชน
สงครามประชาชน-สงครามปฏิวัติ สงครามยกกำลังสอง
เตรียมพื้นที่ สงครามประชาชน
จะอยู่อย่างนี้หรือ
สงครามประชาชน-สงครามปฏิวัติ สงครามยกกำลังสอง
หลักการสงครามยืดเยื้อของ เหมา เจ๋อตุง ถือว่า สงครามคือการต่อเนื่องของการเมือง สงครามก็คือการเมืองและตัวสงครามเองก็คือการปฏิบัติการที่มีลักษณะการเมือง ตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา ไม่มีสงครามใดๆเลยที่ไม่มีลักษณะการเมืองติดอยู่ เมื่ออุปสรรคถูกขจัดไป ความมุ่งหมายทางการเมืองบรรลุผล สงครามก็ยุติ ถ้าอุปสรรคยังขจัดไม่หมดสิ้น สงครามก็จะต้องดำเนินต่อไปเพื่อบรรลุผลให้ตลอด ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การ เมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด และสงครามคือการเมืองที่หลั่งเลือด
บทบาทของกองทัพไทยในการเป็นผู้พิทักษ์ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับ ฝ่ายผู้ก่อการร้ายที่ต้องการล้มล้างอำนาจรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลง ระบอบการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ด้วยการปฏิบัติการสงครามประชาชน
ซึ่งในการปฏิบัติการฝ่ายผู้ก่อการร้ายถูกกดดันด้วยการปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรง ผสมผสานด้วยการดำเนินนโยบายทางด้านการเมืองเปิดโอกาสให้วางอาวุธ และมาต่อสู้ทางการเมืองในรัฐสภา ด้วยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๖๖/๒๓ และ ๖๕/๒๕ แต่กองทัพได้ถูกจำกัดบทบาทอยู่นอกวง ของการต่อสู้ทางการเมือง ด้วยวลีที่ว่าทหารต้องไม่ยุ่งกับการเมือง ทำให้การเมืองที่ต่อเนื่องมาจากสงครามประชาชน ต้องมีรูปแบบในการต่อสู้ที่แปลกไป
สงครามประชาชนไม่เคยยุติ แต่ฝ่ายความมั่นคง ที่เป็นคู่สงครามแทบจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมในการต่อสู้
ในขณะที่ ความมุ่งหมายของสงครามประชาชน โดยผ่านรัฐสภา อาจจะไม่ได้อยู่ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ แต่ความมุ่งหมายก็ยังคงอยู่ที่ต้องการอำนาจรัฐยังมี การต่อสู้ ที่ดุเดือดแสนสาหัส ยืดเยื้อ ยาวนาน
ขณะเดียวกัน สงครามประชาชนด้วยเงื่อนไข เชื้อชาติ ศาสนา และดินแดน ก็สามารถขยายตัว ยกระดับการปฏิบัติการ ท้าทาย อำนาจรัฐ อย่างรุนแรง จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราต้องพยายามทำความเข้าใจในยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี ของสงครามประชาชน และสงครามยืดเยื้อตามแนวคิด ของโลกตะวันออก
ภาพการปฏิบัติการทางทหารของชาติตะวันตก ที่ปรากฏอยู่ทั้งในอดีตและในปัจจุบันมักจะเป็นไปในรูปแบบ การรุกเข้าไปในประเทศอื่นๆด้วยเหตุผล เงื่อนไข ต่างๆตามสถานการณ์ เพื่อรวบรวบรวมทรัพยากร จากประเทศอื่นๆไปบำรุงประเทศของตน เป็นการใช้อำนาจเพื่อครอบครองดินแดนในห้วงเวลาสั้นๆ แล้วถอนตัวออกไป เนื่องจากถูกต่อต้าน กดดันจากประชาชนของประเทศที่ถูกยึดครอง
แต่การปฏิบัติการทางทหารของชาติตะวันออกส่วนใหญ่ มักจะเป็นไปในรูปแบบเพื่อสนองความเชื่อ อุดมการณ์ การปกป้องดินแดนจากการถูกรุกราน การต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยจากการถูกยึดครอง
ดังนั้นถ้าเราใช้แนวคิดทางการทหารของชาติตะวันตกมาใช้ในการปฏิบัติการกับประชาชนที่มีทัศนคติ ความเชื่อ อุดมการณ์แบบชาติตะวันออก โอกาสที่จะได้รับชัยชนะก็อาจจะมี แต่ความสำเร็จในการสร้างความสงบสุขอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก
เราลองมารับทราบแนวคิดของกลุ่มต่อต้านหรือ กลุ่มปฎิวัติ ที่เราอาจจะเรียกว่าเป็น กลุ่มก่อการร้าย หรืออะไรก็แล้วแต่ ของโลกตะวันออก แต่ที่ต้องยอมรับคือพวกเขามีความเข้มแข็งในอุดมการณ์การต่อสู้ อาจจะก่อให้เกิดแนวความคิดในการสร้างความสงบสุขที่ถาวรขึ้นได้
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างแนวความคิดในการปฏิวัติของเหมาเจ๋อตุง ที่มีอิทธิพลเหนือจิตใจของนักปฏิวัติกลุ่มต่างๆเสมอมา ในการทำสงครามประชาชน
- สงครามปฏิวัติคือสงครามประชาชน มีแต่ระดมมวลชนเท่านั้นจึงจะสามารถดำเนินสงครามได้ ผนังทองแดง กำแพงเหล็กที่แท้จริงคือมวลชน แหล่งที่มาอันอุดมที่สุดคือของพลังที่ยิ่งใหญ่ แห่งสงคราม อยู่ที่มวลชน
กลุ่มต่อต้าน หรือนักปฏิวัติ ให้ความสำคัญกับการสร้างมวลชนอย่างสูงสุด ถ้าไม่มีมวลชนก็ไม่สามารถที่จะดำเนินสงครามได้
- ปัญหาประการแรกของการปฏิวัติคือ ต้องแยกให้ได้ชัดเจนว่าใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ความขัดแย้งทางสังคมมีอยู่ สองประเภท คือความขัดแย้งระหว่างเรากับศัตรู และความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ประชาชนที่ไม่ใช่ฝ่ายเราถือว่าเป็นศัตรูด้วย
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อมีการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ เพราะฝ่ายกลุ่มต่อต้านพิจารณาแล้วว่าประชาชนเหล่านั้นไม่ใช่พวกเขาแต่เป็นศัตรูของเขา
- การปฏิวัติ ไม่ใช่การเชิญแขกมากินเลี้ยง ไม่ใช่แต่งความเรียง ไม่ใช่วาดภาพหรือเย็บปักถักร้อย จะทำอย่างประณีต ไม่รีบร้อน สุภาพเรียบร้อย หรือละมุนละม่อม เมตตากรุณา พินอบพิเทา เสงี่ยมเจียมตัว และอารีอารอบไม่ได้ การปฏิวัติคือการลุกฮือขึ้นสู้ คือการปฏิบัติการอันดุเดือด รุนแรง ที่ชนชั้นหนึ่งโค่นล้มอีกชนชั้นหนึ่ง
จะเห็นว่าฝ่ายปฏิวัติ หรือกลุ่มต่อต้านหรือกลุ่มผู้ก่อการร้าย ต้องการใช้ความรุนแรงและเชื่อว่าต้องใช้ความรุนแรงเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลง
- คน คนหนึ่ง พรรคพรรคหนึ่ง กองทัพ กองทัพหนึ่ง หรือโรงเรียน โรงเรียนหนึ่ง ถ้าหากไม่ถูกศัตรูคัดค้าน ก็เป็นเรื่องไม่ดี นั่นย่อมหมายความว่าร่วมประกอบกรรมชั่วกับศัตรูแล้ว อย่างแน่นอน ถ้าหากถูกศัตรูคัดค้านก็เป็นเรื่องดี นั่นพิสูจน์ว่าเราขีดเส้นแบ่งกับศัตรูได้อย่างชัดเจนแล้ว ถ้าหากศัตรูคัดค้านเราอย่างสุดเหวี่ยง กล่าวหาเราอย่างสาดเสีย เทเสีย หาดีไม่ได้ก็ยิ่งดี นั่นพิสูจน์ว่าเราไม่เพียงแต่ได้ขีดเส้นแบ่งกับศัตรู อย่างชัดแจ้ง หากยังพิสูจน์ว่างานของเราได้ผลมากทีเดียว
กรณีตัวอย่างที่เป็นจริง สอดรับกับ หลักการนี้ปรากฏชัดเจนในสถานการณ์ในบ้านเมืองเรา การที่เราไม่เข้าใจหลักการของเขาอย่างแท้จริง ทำให้ฝ่ายเรา ไม่มีโอกาส ที่จะสัมผัสกับความสำเร็จได้เลย เพราะความสำเร็จของฝ่ายเราคือ คำสาปแช่งด่าทอของฝ่ายตรงข้าม ที่ทำให้ฝ่ายเราต้องหวั่นไหวจนต้องเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติ
- สงครามปฏิวัติเป็นยาต้านพิษ ชนิดหนึ่ง ที่ไม่เพียงแต่จะขับพิษร้ายของศัตรูออกไป แต่ยังชำระล้างสิ่งโสโครกในตัวเราด้วย ทุกคนจะต้องเข้าใจสัจธรรมคือ อำนาจรัฐมาจากปากกระบอกปืน
สัจธรรมนี้จะพยายามถูก จำกัด และทำลาย ด้วยการอ้างอิงประชาธิปไตยที่ไร้ขอบเขต ผสมผสานกับสิทธิมนุษยชนที่ไม่ต้องการยอมรับ กติกาใดๆ จนบางครั้งผู้ถืออำนาจที่แท้จริงก็ไม่อยู่ในภาวะที่จะใช้ อำนาจที่มีอยู่ในมือ
ถ้าไม่มีกองทัพของประชาชน ก็ไม่มีทุกสิ่งทุกอย่างของประชาชน การที่กองทัพนี้มีกำลัง ก็เพราะทุกคนที่เข้าร่วมกองทัพนี้ ต่างมีวินัยด้วยความสำนึก พวกเขามาผนึกอยู่ด้วยกันและทำการสู้รบ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของคนส่วนน้อยหรือของกลุ่มแคบๆ แต่เพื่อผลประโยชน์ของมวลชนอันไพศาล และเพื่อผลประโยชน์ของทั้งประชาชาติ วัตถุประสงค์แต่เพียงประการเดียวของกองทัพนี้ก็คือ ยืนอยู่ด้วยกันกับ ประชาชนอย่างแนบแน่น และรับใช้ประชาชนด้วยชีวิตจิตใจ
เป็นการตอกย้ำยืนยันแนวคิดว่ากองทัพต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนต้องให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพเป็นของประชาชน และทำงานเพื่อประชาชน
สงครามคือการต่อเนื่องของการเมือง เมื่ออุปสรรคถูกขจัดไป ความมุ่งหมายทางการเมืองบรรลุผล สงครามก็ยุติ ถ้าอุปสรรคยังขจัดไม่หมดสิ้น สงครามก็จะต้องดำเนินต่อไปเพื่อบรรลุผลให้ตลอด
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การ เมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด และสงครามคือการเมืองที่หลั่งเลือด
สงคราม จะไม่มีทางยุติลงได้ถ้าหากยังไม่บรรลุความมุ่งหมายทางการเมือง
- - - - - - - -พ.อ.สาธิต ศรีสุวรรณ / ๒๗ก.ค.๕๒ - - - - - - -
Create Date : 03 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 11:38:04 น.
0 comments
Counter : 819 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
sathit 1
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
Friends' blogs
สุริยาอัสดง
ต้นกล้า อาราดิน
รอยคำ
ซาตานเกรท
Webmaster - BlogGang
[Add sathit 1's blog to your web]
Links
ศิษย์ทูลกระหม่อมอาจารย์
เดลินิวส์
ไทยโพสต์
ไทยรัฐ
คมชัดลึก
ผู้จัดการ
The Nation
Bangkok Post
CNN
My facebook
HOTMAIL
ตรวจไวรัส
GOOGLE
BBC
ALJAZEERA
TIME
CHINA DAILY
ลาวโพสต์
LAOSNEWS
NEWLIGHT OF MYANMAR
IRRAWADDY
MALAYSIA NEWS
SINGAPORE NEWS
VIEATNAMNEWS 1
VIEATNAMNEWS 2
ตารางบิน
จองตั๋วเครื่องบิน
ลมฟ้า อากาศ
หาเบอร์โทรศัพท์
ดูที.วี.
WORLD CUP 2010
โครงการเทคโนโลยี่สารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ
CAMBODIA
CAMBODIA2
สถานที่ท่องเที่ยว
The Brunei Times
Philippine News
Indonesia News 1
Indonesia News 2
Indonesia 3
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
วปอ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.