เกี่ยวกับกาแฟ เอากันแบบมาตรฐานสากลเลย ประสบการ์ณนานปี และเรื่องเที่ยวๆแบบ ถูกๆประหยัดๆ แต่ไม่ถึงกับ อดๆอยากๆ
Group Blog
 
 
มกราคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

อินทนนท์ 2 คืน 3,000 ฿- ยังเหลือ

แต่ขอบอก ก่อนนะครับว่า เรื่องนี้ มันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
จำไม่ได้ว่า ออกเดินทางจาก กทม. เวลาเท่าใด แต่ จำได้ว่าดึกมากแล้วครับ ประมาณ เที่ยงคืนตี 1 ประมาณนั้น เรา ก็ผมกับแฟน(ตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว)ก็ขับไปเรื่อยๆ คือหมดแรงก็จอด นอนตาม ปั๊มน้ำมันบ้างเป็นครั้งคราว ครั้งละ ครึ่ง-1ชม. ใช้ความเร็วประมาณ 90-120 ไปแบบประหยัด (ก็เที่ยวแบบประหยัด)และแล้ว เราก็ถึงลำพูนประมาณ บ่าย 2 โมง เราก็ตระเวณ เข้าปั๊มโน้น ปั๊มนี้ ไปเรื่อยๆ(หาที่อาบน้ำครับ) จนมาเจอ ปั๊ม Esso ก่อนจะเข้าเมือง เชียงใหม่ ที่จริงแล้วมันมีหลายๆปั๊มครับ ไอ้ที่มีห้องอาบน้ำน่ะ แต่เราก็ค่อยๆเลือก(ขนาดฟรีนะเนี่ย) เอาที่มันสอาดสะอ้าน จอดรถสบายหน่อยน่ะครับ
บางที่ มีที่วางสัมภาระ มีราวแขวน อย่างดีเลยครับ อย่างแถวๆภาคใต้ ปั๊มบางจาก สอาด มากครับ มีเค้านท์เตอร์วางของและราวแขวนผ้าอย่างดี แต่ บางแห่งแม้แต่ ตะปูสักตัวเพื่อจะแขวนยังไม่มีเลยครับ
เอาเข้าเรื่องดีกว่า อาบน้ำชำระร่างกาย ดื่มกาแฟ ร้อนแล้วก็ปลดทุกข์เรียบร้อย ก็ประมาณ 3 โมงกว่าๆ เราก็เคลื่อนที่มุ่งหน้า ขึ้นดอย อินทนนท์ ระหว่างทางก็แวะ ห้าง Lotus เพื่อซื้อเครื่องดื่มและสิ่งของที่ต้องการ จากนั้นเราก็แวะตลาด หางดง เพื่อซื้อ เนื้อหมู/ไก่ และผักสด เพราะเราเอาเตาถ่านและ กะทะย่างเกาหลีมาด้วย ครับ อย่าลืมน้ำแข็งล่ะครับ เอาลังโฟมติดไปด้วย แต่ไม่ต้องซื้อเยอะนะครับ เพราะอยู่ ข้างบนน่ะ น้ำแข็งไม่เปลืองครับ ใส่ลังไว้อยู่ได้อย่างน้อย 3 วัน ครับ และมันก็อยู่ในแก้วของเราได้นานเท่านาน
เราถึงด่านเก็บค่า ธรรมเนียม ก็ประมาณ 5 โมง ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชม. เราก็ถึง ที่ทำการอุทยาน ลานกางเต็นท์ จากนั้นเราก็ลงมือ สร้างบ้าน(กางเต็นท์) ยกสัมภาระลงจากรถจัดที่จัดทาง ขณะนั้น อากาศกำลังสบาย ครับ ประมาณ15 องศา ลืมบอกไปครับว่า ผมไม่นิยมเที่ยวตรงกับวันหยุด หรือเทศกาล สำคัญต่างๆครับ ดังนั้น เราจึงเลือกได้ทุกอย่าง มุมที่เรากางเต็นท์ คือหน้าบ้านของเราเห็นสายน้ำตกไหลอยู่ลิบๆ แถมมีเสียงให้เราได้ยิน ช่วงดึกๆ และรายล้อมไปด้วย สน 3 ใบ และถัดจากหลังบ้านของเราไปประมาณ 50 เมตร ก็เป็นห้อง สุขาและอาบน้ำครับ แต่ตั้งอยู่ระดับต่ำกว่าบ้านของเราครับ อ้อลืมบอกครับ ถ่านครับถ่าน อย่าลืมซื้อถ่านหุงข้าวไปด้วยครับ และบอกคนขายด้วยว่า ขอไม้!เกี๊ยะ! ด้วยไม่รู้ว่าออกเสียงถูกหรือเปล่านะครับ ไอ้ไม้ที่ว่านี้มันก็คือ ไม้สน 3 ไบที่มีอยู่ทั่วๆไปตามดอยสูงๆแหละครับ คุณสมบัติ คือ ติดไฟง่ายให้ความร้อนสูง ถ้าไม่มีเจ้าไม้ที่ว่านี้ อย่าหวังที่จะจุดเตาถ่านบนดอยที่มีอากาศหนาวๆได้เลยครับ หน้าตาสน 3 ใบอย่างเป็นนี้น่ะครับ
เดี๋ยวไว้เล่าต่อ ภาค 2 ละกัน ครับ เมื่อยมือแล้ว
เอา มาต่อกัน ครับ
เราก็ลำเลียง เตา กระทะหม้อไห ถ้วยโถโอชาม อันที่จริงแล้ว มันก็มีแต่ถ้วยกับชามเท่านั้นแหละครับ แถมยังเป็นพลาสติกด้วย ส่วน เจ้าโถกับโอน่ะไม่ได้เอามา ครับ เกะกะเปล่าๆน่ะ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม ตื่นเช้าก็จับมันโยนลงกองไฟสักพัก ได้รสชาดและกลิ่นหอมๆไม่น้อยเชียวล่ะ
จัดการ ปูที่นอน ผมได้นำผ้ากันร้อน(ภาษาร้านหุ้มเบาะเค้าเรียกกันครับ) มันก็เป็นผ้าหนาประมาณ 1 นิ้ว มีลักษณะเหมือนใยฝ้ายหรือสำลีจำพวกนั้น นำมาอัดเป็นผืน หาซื้อได้ตามร้านหุ้มเบาะรถยนต์ ทั่วๆไปครับ เค้าเอาไว้รองใต้พรมพื้นรถสำหรับเก็บเสียง ผมเลยนำมาดัดแปลงเป็นผ้าปูนอน นุ่มดีครับ แถมอุ่นด้วย พับเก็บก็สะดวก ไม่เปลืองเนื้อที่ ราคาก็ เมตรละแค่ 80 ฿ เองครับ หน้ากว้าง 1.2 เมตร เราก็ซื้อสัก 2 เมตร ผมใช้ปูนอนเวลากางเต็นท์มา เกือบ 10 ปี คุ้มเกินคุ้มแล้วครับ แล้วเราก็เอาผ้าคลุมเตียงปูทับ แถมด้วย ผ้านวมนุ่มหนา ผ้าค้อททอน อยางดี นอนไปแล้วลืมเลยครับ ว่ากำลังซุกหัวอยู่ในเต็นท์
อ้อ !! ที่สำคัญ การใช้เต็นท์ สำหรับเมืองหนาว คือ เต็นท์ มันมีหลายชนิด นะครับ อุณหภูมิที่นี่ หลังเที่ยงคืน มันจะลดลงไปเรื่อยๆจนประมาณ ตี 4-ตี 5 ต่ำกว่า 10 องศานะครับ เพราะ ฉนั้น ต้องใช้เต็นท์สำหรับ เมืองหนาว ประเภท เต็นท์ 3เหลี่ยม / โดมป่าเขตร้อน / โดมชายทะเล (คือพวกนี้จะมีช่องระบายอากาศเยอะ) รับรอง คุณต้องลุกขึ้นมา ผิงไฟทั้งคืน แทนที่จะได้หลับอย่างมีความสุข กับอากาศบริษุทธิ์ แต่ต้องมานั่งถ่างตาผิงไฟ เวรครับ เวรจริงๆ ผ้าห่ม กี่ผืนก็เอาไม่อยู่ ครับ เพราะ ลมจะหอบเอาความเย็น สะสมอยู่ในเต็นท็ เรื่อยๆ ทรมาน จริงๆครับ ผมเคยมาแล้ว ตอนเที่ยงใหม่ๆ เมื่อ เกือบ 20 ปีก่อน ขนผ้าห่มไปแจก ชาวดอย ในป่าลึกๆ 80 ผืน ที่ไหนได้ ตอนนอน ลากมาปูพื้น 20 ผืน ห่มอีก 20 ผืน แต่ก็ยังหานอนหลับไม่ ครับ
!!**!! เพราะฉนั้น เที่ยวเมืองหนาว ต้องใช้เต็นท์เมืองหนาว ครับ

ผ้าจะหนากว่า และไม่มีหน้าต่าง หรือช่องลมสักข้าง ยกเว้น ทางเข้า ครับ
ชักหิวแล้วสิ ว่าแล้วก็ ยกไห เบอร์กันดี้ ออกมา รินลงกระบอก พลาสติกที่เตรียมไป แล้วก็สาดลงคอไปเลย ครับ ไม่ต้องเหวี่ยง กระบอกเพื่อจะดู ขาไวน์ หรือน้ำตาของมันหรอกครับ ไวน์หวานๆกับ อณหภูมิ 10องศาต้นๆ สุดยอดครับ กระเดือกลงคอเหมือน เฮลบลูบอยส์ เลย ครับ
จากนั้นก็เอาหมู/ไก่ที่หมัก กับซ๊อส หอยนางรม+ซีอิ๋วขาว กับ ไอ้เจ้า เบอร์กันดี้ ไหที่เตรียมไป ก็จัดการ ย่างกับ กระทะเกาหลี น้ำซุป ก็ ซุปก้อนละลายใน น้ำดื่มตราสิงห์
ผักกาด กระหล่ำ สดๆจากตลาด ทั้งหมดที่ว่านี้ จ่ายไป ประมาณ 200 ฿ รับประทานได้ 2 วัน



คือ วัตถุ ประสงค์ของ ทริปนี้ คือ ขับรถไป ดอย อินทนนท์ เพื่อ กิน/นอน/กิน/นอน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ครับ



นี่แหละ ครับ ประมาณ ตี 2 สั่นเป็น เจ้าเข้า ผมว่าประเทศเรา แค่ 5-6 องศา แต่มันหนาวกว่าที่ ยุโรป 0-1 องศา อีกครับ ผมน่ะ ใส่เสื้อยืดแขนยาว ตัวเดียว ทั้งๆที่ หิมะขาวโพลน ไม่หนาวครับ ไม่หนาวจริงๆ แต่อย่าให้ลมโชยมานะ ครับ จมูกเลือดออกเลย แต่บ้านเรา 8 องศา แต่มันเย็นเยือก เลยครับ บ้านเราความชื้น สูงกว่าเมืองนอกน่ะ ครับ น้ำค้างก็แรง ก็เลยเกิด อาการ สั่นแบบนี้
สรุป ค่าใช้จ่าย ทริปนี้ เหลือเชื่อ ครับ
ระยะทาง ไป-กลับ บางกะปิ-ดอยอินทนนท์ 1600 กม.
น้ำมัน ดีเซล ลิตรละ 8.20 ฿
อัตรา บริโภค 12.5 กม./ลิตร (Isuzu Adventure4*4)
รวน้ำมันที่ใช้ 128 ลิตร = 1,049.60 ฿
Burgundi Wine (ไห) = 680 ฿ เมื่อก่อนแค่ 380 ฿ เอง
น้ำ/ใส้กรอก/แคบหมู/บะหมี่กึ่งสำเร็จ/เครื่องกระป๋อง (LOTUS) = 388.50 ฿
หมู+ไก่+ผัก+น้ำแข็ง 200 ฿
ถ่าน 20 ค่าธรรมเนียม 80 = 100 ฿
ทางด่วนไม่ขึ้น โทลเวย์ไม่ได้ใช้ มีค่าใช้จ่าย เบ็ดเตล็ดตอนแวะ ปั๊มน้ำมัน อีกประมาณ 250 ฿
รวมดูสิ ครับเท่าไหร่ = 2,668.10 ฿
ไปก่อนนะ ครับ คราวหน้าจะ พาไป อ.ปาย แบบประหยัด




เอาดอก บัวตอง มาฝากด้วย ครับ



ทิวทัศน์ จาก พระธาติ ครับ




 

Create Date : 02 มกราคม 2549
5 comments
Last Update : 25 กรกฎาคม 2550 1:47:06 น.
Counter : 959 Pageviews.

 

น่าไปจังเลย

 

โดย: o_and_pum (o_and_pum ) 31 มกราคม 2549 10:37:41 น.  

 

เข้ามาเพราะกระทู้ ห้องดำเนิน

 

โดย: grosse_erwartungen IP: 213.3.71.115 4 มีนาคม 2549 3:36:34 น.  

 

พี่ครับพี่ไปมาช่วงใหนครับ ดีเซล อย่างลิตรละ 8 บาทเองเหรอพี่........สงสัยพี่จะไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วมั้ง ....หรือว่าพี่ลงผิดครับ ถ้าไปตอนนี้ลิตรละ 28 บาทแล้วน่ะครับ............

 

โดย: livercoke IP: 58.64.127.112 17 กันยายน 2549 8:01:00 น.  

 

ไม่ผิดหรอกครับ เมื่อปี 2542 ปลายๆปี สถาณีจ่ายน้ำมันมาตรฐาน 8 บาทกว่าๆ แต่ถ้าปั๊ม noname ปั๊มลอย ไม่ถึง 8 บาทด้วยครับ ช่วงเวลา 6-7ปี มันเล่นขึ้นกัน 300 กว่า%เลยครับ แต่ถ้าเมื่อ 20 กว่าปีน่ะ แค่ลิตรละ 3 บาทเองครับ
^
^

เดี๋ยวจะหาพวงกุญแจที่ปั๊ม JET แจกนำมาลงให้ดูเป็นหลักฐานครับ

 

โดย: ปัน.. IP: 58.9.187.157 26 กันยายน 2549 19:41:05 น.  

 

แนะนำเว็บท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม

 

โดย: attractions (loveyoupantip ) 7 สิงหาคม 2554 11:43:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sarapan
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สัตว์โลก ย่อมมีกรรม เป็นของตน
ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา
พอเริ่มมีลมหายใจ.. ก็เริ่มมีปัญหา
พอหมดลมหายใจ...ก็ไม่รู้ว่าปัญหามันจะจบ?
สมบัติน่ะ..มันเป็นเรื่องสมมุติ
ปล่อยวาง. แบ่งปัน.
แนะนำ รานกาแฟต่างๆ ใน กทม.และจังหวัดต่างๆที่ไปสัมผัสมา เพื่อเป็นแนวทาง ในการตกแต่งร้านกาแฟในฝันของท่านที่กำลัง อยากที่จะเป็น เจ้าของ ธุรกิจ ร้านกาแฟ ที่มีกระแสแรงสุดๆมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน กระแสนี้ก็ยังคงมีแรงส่งอย่างต่ดเนื่อง ยังไม่สายสำหรับที่จะเริ่มครับ แต่ ก็อย่าช้าให้มากนัก เดี๋ยวมันจะเกิด อาการกระแสตกเสียก่อน นะครับ
Friends' blogs
[Add sarapan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.