สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
29
30
31
 
 
28 สิงหาคม 2550
All Blog
แห่งการผจญภัย
คนเรากำลังผจญภัย
หากว่าเขาเผชิญหน้ากับชีวิตเยี่ยงวีรบุรุษ
หากเขาคิดเหมือนแฟรงค์ เครนที่ว่า
“วิญญาณของฉันคือ โคลัมบัส ซึ่งแม่น้ำอันตรายหรือความลึกลับอันมืดมนนั้น
ไม่สามารถทำให้ฉันเปลี่ยนใจถอยหลังหรือหยุดยั้งฉันได้”

เมื่อเขามีความกล้าที่จะพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ
และเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
เพื่อที่จะค้นพบและรู้จักอาณาจักรใหม่ ๆ แห่งชีวิต
------------------**------------------

ถอดความ (บางตอน) จาก : THE ART OF LIVING ของ WILFRED A PETERSON
ผู้แปลและเรียบเรียง : โสรีย์ โพธิแก้ว


------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------

โครงการป่าเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า

ค่ำวันเสาร์
แก๊งสาวบ้านนอก ณ ภาคอีสาน (6 ชีวิต) ดั้นด้นค้นหาทางเข้า “ป่าเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า” ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อเพลาพลบค่ำหลังเพลงชาติผ่านไป 1 ชม.

เมื่อขับรถยนต์มาถึงบริเวณบ้านพัก พวกเราพบแสงไฟฉายส่องนำทาง จากชายคนหนึ่ง เขาคือ “พี่โต” มารอคอยพวกเราตั้งแต่บ่ายแล้ว

หลังจากทักทายสวัสดีและแนะนำตัวทั้งหมดทุกคน ได้เวลาอาหารมื้อค่ำพอดี เพราะมีแม่ครัวที่พี่โตหนีบมาด้วยคือ น้องตาล (รหัส 21) กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่หน้าเตา และน้องแหม่ม (รหัส 14) ช่วยเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ พร้อมลูกสาวน่ารักของเธอ 2 คน น้องไข่มุกและน้องเบ่เบ๋

“อาหารมื้อค่ำ”

อิ่มท้องสบายกายมาก ๆ เพราะไม่ต้องทำอะไร มีหน้าที่กิน กินและพูดคุยทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่

ท้องฟ้าคืนนี้ไม่ปลอดโปร่ง เมฆหมอกสลัวทั่วฟ้า ดวงจันทร์ส่องแสงรำไรไร้ดวงดาว อาจจะผิดหวังกับบรรยากาศในค่ำคืนที่มืดมิด แต่หัวใจเบิกบานแจ่มใส กับมิตรภาพงอกงามกลางป่าเขา ธรรมชาติหล่อหลอมให้ความอบอุ่นใจ แม้อากาศจะเริ่มหนาวเย็น

ได้ยินเสียงหรีดหริ่งเรไร ร้องเสียงใสในยามดึก กลิ่นป่าโชยมากับสายลมเย็น ชวนให้อารมณ์เคลิ้มไปกับจินตนาการ

พี่โตดีดกีตาร์เล่นเพลงเพื่อชีวิตซึ้ง ๆ เพลงแรกที่ร้อง “ทะเลใจ” อาจไม่เข้ากับบรรยากาศ แต่เนื้อหาในบทเพลงสอนใจได้เป็นอย่างดี ฉันนั่งเขียนบันทึกและฟังเสียงเพลงคลอเบา ๆ ขณะที่น้องตาลเสียบหูฟังทำซึ้งกับเพลงเพราะๆ จาก MP3 เหอ ๆ และอีกหลายคนทยอยไปอาบน้ำและขอตัวนอน

เมฆสีเทาทมึนลอยต่ำ เริ่มกระจายตัวเป็นเม็ดฝนโปรยปราย สายลมพัดพาความเย็นมาสัมผัสผิว แทรกซึมทะลุผ่านหนังกำพร้า บรรยากาศเย็นจับจิต สะกิดให้พวกเราที่นั่งเล่นอยู่บริเวณระเบียงหน้าบ้านต้องสลายตัว หลบเข้าหาความอบอุ่นในบ้านดีกว่า

(( มีคนหนึ่ง ทำตัวได้เปรี้ยวมาก คือไม่ยอมอาบน้ำ เข้านอนแบบซักแห้ง หลับไปได้ไงไม่อายจิ้งจก มีตุ๊กแก 2 ตัว ที่เกาะข้างฝาบ้านเป็นพยานได้ ))

ข้อความในวงเล็บ ยัยเบื๊อกคิดในใจนะ อะคึ่ ๆ



เช้าวันอาทิตย์
ฉันกับพี่อ้อ ลุกขึ้นไปเดินทอดน่องชมบรรยากาศเช้า ๆ ตั้งแต่บ้านพักไปจนถึงอ่างเก็บน้ำ(ชลประทานขนาดเล็ก) เห็นหมอกขาวโพลนลอยต่ำอยู่เหนือยอดต้นไม้บนเนินเขา อารมณ์สดชื่น ปอดชุ่มฉ่ำ หัวใจพองโต เม็ดเลือดแดงวิ่งพล่านทั่วร่างกาย ธรรมชาติมีแต่สิ่งดีดีให้กับโลกสีน้ำเงินใบนี้

น้องตาลโชว์ฝีมือทำข้าวต้มข้าวกล้อง เป็นอาหารมื้อเช้าให้พวกเราได้กินอิ่มอุ่นท้อง พี่โตโชว์กล้ามแขน เอ้ย! โชว์ทีเด็ดชงกาแฟจากดอยช้าง โชยกลิ่นหอมยั่วยวนชวนดมไปทั่วบริเวณบ้านพัก สำหรับเด็ก ๆ มีนมกล่องขนมปังให้กิน หลังจากตื่นนอนกันพร้อมหน้า

การผจญภัยเริ่มต้น
เมื่อสองแก๊ง แห่งภาคกลางและภาคอีสาน หล่อหลอมเป็นก๊วนเดียวกันอย่างกลมกลืน มีการบันทึกภาพหมู่บริเวณเสาธงชาติด้านหน้าศูนย์ฯ

การเดินทางเริ่มต้นด้วยความราบรื่นจนเกือบลื่น เพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก ทิ้งรอยความชื้นแฉะทั่วพื้นดิน

“น้ำตกเจ็ดคดเหนือ”
คือจุดหมายแรก ระยะทางประมาณ 1.2 กม. แค่นี้เอง กลิ่นตดของมดตะนอยไม่ทันหายเหม็นก็ไปถึงแล้ว (ใครกันนะคิดเปรียบเทียบ) แต่ไม่น่าเชื่อระยะทางสั้น ๆ กับทางเดินที่คดเคี้ยว และบางช่วงที่สูงชันเล็กน้อย ทำให้ปอดของน้องแหม่ม บ่นเป็นเสียงหอบเบา ๆ ให้ได้ยินว่า “เหนื่อยแล้ว” มันเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหญิงไทยใจแกร่ง ซึ่งฉันไม่กล้าถามน้ำหนักตัวของน้องแหม่มกับน้องตาล แต่พอจะเปรียบเทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์ง่าย ๆ ได้ดังนี้ คือ พี่อ้อ + น้องอีฟ + น้องพิช + ฉัน = น้องแหม่ม + น้องตาล คงมองเห็นภาพลาง ๆ นะ อะคึ่ ๆ

ในที่สุดก๊วนกวนTeen (ศัพท์วัยรุ่น วัยเด็กผสมผสานกับวัยผู้ใหญ่) มาถึงเป้าหมายแรกใช้เวลาเกือบ 1 ชม. ชีวิตไม่ได้รีบเร่ง ระหว่างทางพวกเราช่วยกันเก็บเห็ด เก็บหอยและหน่อไม้ ไว้แกงกินตอนมื้อค่ำ อะกึ๊ย! (วอนโดนเจ้าป่าเจ้าเขาเขกกะบาลซะเนี่ย) พวกเราเก็บเป็นภาพถ่ายเท่านั้น พี่โตบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอลแบบมืออาชีพ (งามมั่กม๊ากกก) น้องตาลใช้กล้องประมาณน้องมืออาชีพ ส่วนฉันขอเป็นมือสมัครเล่นก็พอแล้ว

เด็ก ๆ เห็นน้ำตกออกอาการระริกระรี้ เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ โดยเฉพาะน้องเบ่เบ๋ สงบสติอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อถูกแม่แหม่มร้องห้าม ไม่ให้เธอเดินไต่โขดหินตามลุงป้าน้าและพี่ ๆ ลงไปข้างล่าง เธอจึงสร้างแรงกดดันโดยการส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น บีบน้ำตาไหลพรากแข่งกับสายน้ำตกที่ไหลเรื่อย ๆ

พี่อ้อเห็นน้ำตาเด็กแล้วปวดใจ รับอาสาจะดูแลน้องเบ่เบ๋ เพราะน้องแหม่มไม่ขอเสี่ยงกับข้อเข่า ถ้าต้องไต่โขดหินพาเด็ก ๆ ลงไปเล่นน้ำตกที่ด้านล่าง เพราะความชื้นและความชัน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

ความร่มเย็นใต้เงาของต้นไม้สูงใหญ่ ชวนให้น้องตาล ล้มตัวแผ่หลานอนบนลานหิน พูดคุยกับพี่อ้อเรื่องค้าขายอย่างสบายใจ หลังจากที่น้องเบ่เบ๋ตกมาอยู่ในความดูแลของฉัน เด็ก ๆ เล่นน้ำกันสนุกสนานจนหน่ำใจ ไม่เปียกปอนกันเท่าไร เพราะไม่ได้เอาตูดแช่น้ำ

ได้เวลาเดินทางต่อ ขณะพาเด็ก ๆ ปีนโขดหินกลับขึ้นไปด้านบน ฉันจูงน้องเบ่เบ๋และดันตัวเธอขึ้น บริเวณที่ฉันยืนมีความสูงเล็กน้อย น้องเบ่เบ๋ก้าวขาไม่ทันพ้นโขดหินเกิดเสียจังหวะ ฉันพลอยเสียการทรงตัว เพราะมือข้างซ้ายฉันหอบเสื้อผ้าของเด็ก ๆ ด้วย พี่อ้อรีบคว้าตัวน้องเบ่เบ๋ทันที ขณะที่ฉันลื่นไถลเรียบร้อยเป็นแม่พลอยโจงกระเบนหลุดลุ่ย

ฉันได้แผลถลอกที่แขนซ้ายและหน้าแข้ง เลือดไหลซึมเล็กน้อย แต่ไม่ไหลย้อนกลับ เพราะไม่ใช่วันนั้นของเดือน มันเกี่ยวกันตรงไหนละเนี่ย! อะคึ่ ๆ

พี่โตขอโหวตเสียงเพื่อลงประชามติรับร่างรัฐธรรม ไม่ใช่! มันผ่านแล้วตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2550 คือว่า ใจหนึ่งอยากเดินหน้าไปชมน้ำตกเจ็ดคดเหนือ-กลาง-ใต้ไปจนถึงน้ำตกเจ็ดคดใหญ่ แต่อีกหลายใจ (เสียงส่วนใหญ่) ขอเดินป่าระยะทางสั้น ๆ ไม่ต้องบุกป่าฝ่าฟันอุปสรรคมากนัก จึงเลือกมุ่งหน้าไปที่ “น้ำตกหินตาด” เส้นทางน่าจะง่ายกว่า และเป็นห่วงเป็นใยความปลอดภัยของลูกลิง เอ้ย! เด็กเล็ก ๆ ที่แสนน่ารักเรียบร้อย (น้องไข่มุกและน้องโมเม) สาวน้อยที่น่ารักแสนซน (น้องเบ่เบ๋)
เด็กอะไรซนจนลิงอายขายขี้หน้าเลยนะ

ได้ข้อสรุปจากมติที่ประชุม จึงก้าวเท้าเดินทางต่อไปยัง “น้ำตกหินตาด” พี่โตอาสานำทางและรับผิดชอบดูแลลิงน้อยน่ารัก แต่แล้วต้องมาเจอทางปิดไปต่อไม่ได้ พวกเราหันหลังเดินกลับทางเดิม เมื่อสถานการณ์และเส้นทางที่จะไปข้างหน้ารกชัดและชื้นแฉะ ทางเดินป่าเส้นนี้คงไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ จึงไม่มีร่องรอยของทางเดินที่ชัดเจน แม้จะมีป้ายลูกศรชี้บอกทางไว้แค่ 0.6 กม.และ 1.4 กม. ก็จะถึง “น้ำตกคลองผักหนาม” ตามลำดับ

ไม่มีการโหวตเสียงขอความคิดเห็นใด ๆ ทุกคนมองหน้ากันแล้วสรุป “กลับที่พักดีกว่า” โดยเฉพาะน้องตาล ยืดอกพูดอย่างไม่แยแส “ใครจะไปต่อก็ไปนะ ตาลไม่ไปด้วย ไม่ไหวแล้ว” น้องแหม่มคุณแม่ยังสาว ก็ขอกลับที่พักเช่นกัน “ไม่เอาแล้วน้ำตก กลับไปกินลาบก้อยดีกว่า” (ฉันคิดแทน) ความจริงเธอเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กที่น่ารัก เกรงว่าสาวน้อยจะมีรอยแผลฟกช้ำดำเขียวปั๊ดไปมากกว่านี้

ขากลับน้องเบ่เบ๋ เธอเดินนำหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน แม้ทางจะชื้นแฉะและคดลดเลี้ยว เธอก้าวเดินนำลิ่ว ทิ้งระยะห่างเกือบ 10 เมตร ได้ยินเสียงน้องแหม่มร้องเรียกหาลูกสุดที่รักสุดห่วงตลอดทางเดิน

ความอ่อนเยาว์ในวัยเด็ก ยังไม่เกิดการเรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาอุปสรรค
ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอในขณะนี้
เป็นความกล้าหาญอย่างไม่กลัวอันตรายในวัยเยาว์
ซึ่งทำให้ผู้ใหญ่ห่วงใยสมอ


พวกเราเดินชมบรรยากาศรอบอ่างเก็บน้ำชลประทาน แวะพักเหนื่อยที่ศาลาเอนกประสงค์ ดูปลาแหวกว่ายน้ำใส ฉันคิดว่าปลาที่มีชีวิตอยู่ในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ต้องมีบุญมากเลยนะ เพราะมันจะมีชีวิตที่ยืนยาวตามอายุไขของมัน โดยไม่มีคนใจร้าย เอาเบ็ดใส่เหยื่อมาล่อจนตายใจ และสิ้นชีวิตทันทีที่ถูกจับได้เมื่อหลงมาติดกับดัก

น้องตาลเป็นกุ๊กนำเที่ยว (ไม่ได้เขียนผิดนะ) ให้ความรู้กับพวกเราเกี่ยวกับการทำอาหารโดยเฉพาะน้ำพริก น้องติ๋วซักถามกลเม็ดเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับเทคนิค อาชีวะ พาณิชย์ คหกรรม อ้าว! คนละเรื่องเหรอ อ๋อ! ขอสูตรตำน้ำพริกปลาร้าสับ ซึ่งพวกเรากินเมื่อคืนแล้วติดใจ น้องตาลเลยจะเอาน้ำพริก (ยังเหลือ) ใส่กระปุกให้น้องติ๋วติดกระเป๋ากลับบ้านไปโนนสูงด้วย

พี่โตเป็นพี่ชายที่น่ารักน่ากอดน่าหอมแก้มมาก ๆ (อย่าเพิ่งอาเจียน ทนอ่านต่อให้จบนะ) ที่ชวนน้องตาลกับน้องแหม่มและลูก ๆ มาเที่ยวด้วยกันในทริปนี้ เป็นความประทับใจที่ประทับใจจริง ๆ ขอบอก

ถ้าน้องตาลไม่มา น้องแหม่มกับลูก ๆ คงไม่ได้มาด้วยเช่นกัน พวกเราอาจจะไม่ได้กินอาหารฝีมือน้องตาล ที่ใส่เสน่ห์มาเต็มจวัก ปราศจากผงชูรส พร้อมอุปกรณ์ทำครัวมาเต็มรถยนต์ ((พี่โตบอกว่า โดยอาชีพของพวกเขาต้องเดินทางตลอดและพร้อมท่องเที่ยว จึงใช้รถยนต์เป็นบ้านหลังที่ 2 ส่วนบ้านหลังที่ 1 ไว้เก็บสมบัติและมรดกเจ้าคุณปู่ อะคึ่ ๆ))

น้องแหม่มถ้าไม่พาลูกสาวมาด้วย พวกเราคงไม่ได้รื้อฟื้นความหลังเมื่อครั้งเรียนวิชาประวัติศาสตร์ชาติเผ่าพันธุ์ ซึ่งมนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิงและมีบรรพบุรุษเป็น “มนุษย์วานร” มาก่อน เพราะพฤติกรรมแสดงออกอย่างชัดเจนจากน้องเบ่เบ๋ ลูกสาวคนเล็กของเธอ ซึ่งอยู่นิ่งไม่เกิน 10 วินาที ไม่เชื่อถามน้องพิช (ลูกสาวคนเล็กพี่อ้อ) เพราะทันทีที่ 2 คนนี้เจอกัน สัญชาตญาณออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น คือ กอดคอเกาะติดเป็นลูกลิง หยอกล้อเล่นกันเหมือนรู้จักกันมานานแต่ชาติปางก่อน ทั้งที่เพิ่งเห็นและรู้จัก ตอนช่วยกันทำอาหารมื้อค่ำในวันแรกที่สบตา ปิ๊ง ๆ

ฉันเป็นลูกคนเล็กเหมือนกัน จึงเข้าใจพฤติกรรมของน้องเบ่เบ๋และน้องพิช ที่แสนเรียบร้อยเหมือนผ้ายับ ๆ จับยัดใส่ตะกร้า
เอ! รู้สึกเหมือนได้กลิ่นไหม้ใกล้ตัวจังเลย อะคึ่ ๆ


ขอจบการเผา เอ้ย! เม้าธ์มันส์ ๆ เพียงเท่านี้ก่อน
โอกาสหน้าถ้ามีเวลาและมีสตางค์ จะชวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง มาเจอกันใหม่
คงได้พบกับความสนุกสนานอีกแน่นอน



เต้นท์ริมอ่างเก็บน้ำฯ

อ่างเก็บน้ำ

ยืนเรียงแถวหน้าเสาธงชาติ

เห็ดถ้วยสีสวยสดใส

หอยป่าในฝ่ามือ

หน่อไม้ในดง

ทางเดินป่า...เห็นก้นน้องเบ่เบ๋กับป้าอ้อ นำหน้าลิ่ว ๆ

ศาลาหลังคาแดง....นั่งพักเหนื่อยเมื่อออกมาจากป่า

ป่าเจ็ดคด...มุมมองจากจุดชมวิว

บ้านพักหลังที่ 1 ในป่าเจ็ดคด

ลิงน้อยแสนซน เอ้ย! น้องเบ่เบ๋จอมแก่น



โค้ดเดอร์เพลง : น้องหน่อย (กกซ.)






Create Date : 28 สิงหาคม 2550
Last Update : 28 ตุลาคม 2551 9:29:50 น.
Counter : 2869 Pageviews.

17 comments
  
สนุกสนานกันถ้วนหน้า

ขอสูตรนำพริกปล้าร้าสับด้วยนะ
โดย: แพรจารุ IP: 203.113.50.14 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:15:45:33 น.
  


สนุกค่ะ พี่สาวฯบรรยายจนนกมองเห็นภาพ เหมือนกับเดินตามไปด้วยเลยนะคะ

อยากไปบรรยากาศแบบนี้มั่งค่ะ
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:20:25:39 น.
  
เรื่องเล่าเคล้ามุขตลก
อ่านเพลินจ้ะ แถมอิจฉาด้วยค่ะ
ชอบเห็ดถ้วยจัง
โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:10:13:33 น.
  
อืม น่าอิจฉาเนอะ เราอยู่กทม ปอดเป็นสีน้ำในคลองแสนแสบแว้ว อยากไปฟอกใหม่มั้งฮ่ะ
โดย: สาวปักษ์ใต้ IP: 58.137.115.100 วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:17:02:33 น.
  
แวะมาเยี่ยมครับ
วันนี้ภูเก็ตฝนตกเกือบทั้งวันเลยครับ
โดย: sak (psak28 ) วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:18:05:17 น.
  
แวะมากินมื้อค่ำจ้า....

ก่อนเที่ยวต้องกินนิ

กวาดบ้านเสร็จแล้วเลยแวะมาบอก....
ถูบ้านไม่ได้ ฝนตกหนัก..เตรียมล้างบ้านเลยท่าจะดี

เที่ยวมากๆระวังหัวใจชำรุดนะ...
เหอ...เหอ..หัวใจใฝ่งานงัย
มันร่ำๆแต่จะหาเรื่องเที่ยวอย่างเดียวนิ

รอบหน้า....บนโต๊ะมือค่ะขอน้ำสีๆหน่อยนะ...ไม่มีอะไรล้างปาก
โดย: ปลายแปรง วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:11:09:07 น.
  
น่าไปเที่ยวด้วยจังเลยค่ะ
โดย: สเลเต วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:19:32:46 น.
  
อรุณสวัสดีค่ะมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
-----------------------------------------------

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย และไปเที่ยวกับสาวฯ
ไว้ครั้งหน้า จะชวนทุกท่านไปเดินป่าและนอนหาวดูดาวเดือน
"ณ อช. น้ำหนาว" เพชรบูรณ์
เตรียมตัวให้พร้อม ไปผจญภัยด้วยกันนะค๊า

"ไปเที่ยวป่าสนุกเหรอ หาอะไรกินก็ลำบาก เหนื่อยก็เหนื่อย" เพื่อน ๆ ชอบต่อว่า
สาวฯ อมยิ้ม ก่อนพูดว่า
"ถ้าชวนไปเที่ยวป่าขึ้นเขา เราตัดสินใจไปทันทีที่ว่าง แต่..ชวนไปช้อปปิ้ง ขอคิดนานหน่อยนะ"
ฉันจะตอบเพื่อน ๆ พี่ ๆ เสมอ และทุกครั้งที่ไปผจญภัย
จะชวนพวกเขาทุกครั้ง แต่ไม่คาดหวังว่า...ใครจะไปด้วยกัน

เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก เพื่อนเที่ยวก็หายากเหมือนกัน อะคึ่ ๆ


การเดินทางไปที่ไหน เราต้องใช้จ่ายเงินเหมือนกัน
ฉันขอเลือกที่จะจ่าย เพื่อแลกกับเรียนรู้ชีวิตจากธรรมชาติมากกว่า
และปัจจัย 4 ที่จำเป็นนั้น หาได้ง่ายจากสิ่งที่อำนวยความสะดวกในยุคโลกาภิวัตน์
แต่ความบริสุทธิ์ ความสดใส ความปลอดโปร่งในหัวใจ
เราต้องค้นหาจากธรรมชาติเท่านั้น เพื่อเป็นของขวัญให้ชีวิตค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:9:33:11 น.
  
ฝากไว้ก่อนเหอะ งวดหน้าไม่พลาดแน่ๆ
โดย: พ่อน้องMax IP: 161.246.1.33 วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:15:33:59 น.
  
สวัสดีจ้ะสายนางบ้านนอก


ชอบถ้อยคำแปลความที่ยกมาปะไว้ข้างบนหัวบล็อกโน่น
มีความหมาย อ่านแล้วได้กำลังใจฮึกเหิมดดยไม่ต้องไปยืนอยู่ที่หน้าผา

เป็นไงวันนี้เห็นแง่ดีของการเป็นสาวโสดหรือยังล่ะ ?
ถ้าแต่งงานแล้วไม่ได้ไปเที่ยวไหนมาไหนอย่างนี้หรอกนะจะ..สิบอกไห่
โดย: พ่อพเยีย วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:19:36:32 น.
  
^
^
^
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ

แวะมาทักคนบ้านเดียวกัน หวัดดีจ้ะ
โดย: filmgus วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:20:14:46 น.
  
รูปสวยจัง
อ่านเพลินด้วย

สบายๆ
โดย: พ่อหนูหอม (big onion ) วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:2:23:16 น.
  
มาชมภาพสวยๆ ค่ะเจ้าบ้านสบายดีเน๊าะ..
เห็นแล้วอยากไปอ่ะ....

ช่วงนี้กำลังอยู่ในอารมณ์ "อยากหนีออกจากบ้าน" อีกแล้ว

ฮี่ฮี่
โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:3:08:50 น.
  
โปรดทราบๆ ท่านเป็นผู้โชคดีที่โดน tag จากเรากรุณาไปรับ tag ด้วยค่ะ
โดย: mytent วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:1:27:38 น.
  
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:20:32:14 น.
  
เอ๊าลืมคำเว่า
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:20:32:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ลูกคนสุดท้องน้องสาวคนเล็ก
เด็ก ๆ ชอบเอาตัวไปปลายนา
เอาขาไปวิ่งเล่นที่ทุ่งหญ้า
โตเป็นสาว..ชอบอยู่บ้านนอก
อนาคต..ได้ไปที่ชอบ..ที่ชอบ
อะคึ่ ๆ


Friends Blog
[Add สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น's blog to your weblog]