โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ
https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สรุปความรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย2540
สรุปรัฐธรรมนูญ 2540 ตราไว้ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2540 มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมีจำวน 99 คน เป็นฉบับที่ 16 มี 12 หมวด 336 มาตรา หมวดที่ 1 ทั่วไป ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว แบ่งแยกมิได้ ปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีอำนาจอธิปไตยเป็นของชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจผ่าน รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล หมวดที่ 2 พระมหากษัตริย์ องคมนตรีมีประธาน 1 คน และองคมนตรีอื่นอีก 18 คน ให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้สนองราชโองการแต่งตั้งและให้พ้นจากตำแหน่ง แต่ถ้าแต่งตั้งองคมนตรีอื่นให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สนองราชโองการ หมวดที่ 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย บุคคลมีสิทธิและเสรีภาพในตนเอง โดยมิต้องละเมิดสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญและไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน การจำกัดสิทธิจะทำไม่ได้ ชายหญิงเท่าเทียมกัน บุคคลย่อมมีสิทธิในร่างกาย เคหสถาน การเดินทาง การแสดงความคิดเห็น จะเนรเทศบุคคลที่มีสัญชาติไทย ออกจากราชอาณาจักรหรือห้ามเข้าราชอาณาจักรไม่ได้ คดีอาญา ต้องสันนิษฐานก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด บุคคลต้องได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ บุคคลอายุเกิน 60 ปี มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ หมวดที่ 4 หน้าที่ของชนชาวไทย บุคคลมีหน้าที่เสียภาษี ป้องกันประเทศ รับราชการ ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิทักษ์ ป้องกัน และสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิท้องถิ่น หมวดที่ 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐต้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ มีทหารไว้ดูแลเอกราช อุปถัมถ์และคุ้มครองศาสนา ส่งเสริมไมตรีกับนานาชาติ ออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น คุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ หมวดที่ 6 รัฐสภา 1. รัฐสภาประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คน และวุฒิสภาอีก 200 คน 2. ร่างพระราชบัญญัติ ได้รับความเห็นชอบจากสภาแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 20 วัน 3. ส.ส. 500 คนมาจาก บัญชีรายชื่อ 100 คน และแบบแบ่งเขตอีก 400 คน 4. แบบบัญชีรายชื่อให้มีเพียงบัญชีเดียว ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง ถ้าได้คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 5 ให้ถือว่าบัญชีนั้นไม่ได้ ส.ส. 5. ส.ส.แบบแบ่งเขตให้เลือกตั้งได้เขตละ 1 คน จังหวัดใดมี ส.ส.ไม่เกิน 1 คน ให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง แต่ถ้ามีเกิน 1 คน ให้แบ่งเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ให้มี ส.ส.ได้ 1 คน 6. ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี สัญชาติไทย มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน ไม่เป็นคนวิกลจริต พระ ต้องโทษคุมขัง หรืออยู่ระหว่างเพิกถอนสิทธิ 7. ผู้สมัครเลือกตั้ง สัญชาติไทยโดยกำเนิด อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีในวันเลือกตั้ง จบไม่ต่ำกว่าปริญญาตรเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน อยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี เคยเป็นสมาชิกท้องถิ่น เคยศึกษาอยู่ในจังหวัดนั้นไม่น้อยกว่า 2 ปี เคยรับราชการหรือเคยอยู่ในจังหวัดนั้นอย่างน้อย 2 ปี เกิดในจังหวัดที่จะสมัครรับเลือกตั้ง 8. พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ส.ส.แบ่งเขตได้เขตละ 1 คน 9. .ส.ส.มีอายุวาระคราวละ 4 ปี 10. ถ้าอายุ ส.ส..สิ้นสุด ให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ถ้ายุบสภาให้เลือกตั้งภายใน 60 วัน วันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร 11. สมาชิกภาพสิ้นสุดลงเมื่อตาย ลาออก ยุบสภา ได้รับการการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ลาออกจากพรรคการเมือง พ้นจากพรรคการเมือง เว้นแต่ได้อุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วัน ผู้นั้นอาจเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองและไม่อาจหาพรรคอยู่ได้ภายใน 60 วัน วุฒิสภามีมติให้ถอดถอน ขาดประชุมเกิน 1 ใน 4 ไม่น้อยกว่า 120 วัน 12. วุฒิสภามีจำนวน 200 คน ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง 13. ผู้สมัครเป็น ส.ว.ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ในวันเลือกตั้ง จบปริญญาตรี 14. อายุของ ส.ว.มีกำหนด 6 ปี เมื่ออายุของ ส.ว.สิ้นสุดลงให้มีการเลือกตั้งภายใน 30 วัน แต่ถ้าว่างลงด้วยเหตุอื่นใดให้เลือกตั้งภายใน 45 วัน 15. คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีประธาน 1 คน กรรมการ 4 คน แต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา อยู่ในวาระ 7 ปีเป็นได้วาระเดียว อายุอย่างต่ำ 40 ปีในวันเลือกตั้ง 16. ส.ส. และ ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภาให้กรรมการขาดคุณสมบัติ 17. ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานรัฐสภา มีอายุดำรงตำแหน่งจนสิ้นอายุของสภาหรือยุบสภา การประชุมสภาต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ภายใน 30 วัน นับจากเลือกตั้ง ให้มีการเรียกประชุมสภา 18. สมัยประชุมสามัญของรัฐสภาให้มีกำหนดเวลา 120 วันในสมัยหนึ่งๆ 19. ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับหรือคุมขัง ส.ส. และ ส.ว. แต่ถ้าอยู่ระหว่างสอบสวนหรือคุมขังอยู่ก่อนสมัยประชุมต้องปล่อยทันทีถ้าประธานสภาร้องขอ 20. การเสนอร่างพระราชบัญญัติ จะกระทำได้เมื่อมี ส.ส. รับรองไม่น้อยกว่า 20 คนต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน 21. ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน ถ้าไม่เสร็จให้ถือว่ารับร่างฯ ละ ส.ว. จะต้องพิจารณาเห็นชอบภายใน 20 วัน 22. ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอขอเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 23. ส.ส.ไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 มีสิทธิเข้าชื่อเสนอขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ 24. ส.ว. ไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 มีสิทธิเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง โดยไม่มีการลงมติ 25. ผู้ตรวจเงินแผ่นดินรัฐสภา มีจำนวนไม่เกิน 3 คน มีวาระ 6 ปี หมวดที่ 7 รัฐมนตรี 1. คณะรัฐมนตรีประกอบด้วย นายกฯ 1 คน และรัฐมนตรีอีก 35 คน ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งนายกให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก 2. เสนอชื่อนายกต้องมี ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 รับรอง ต้องมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่ง 3. รัฐมนตรีต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี 4. ให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้ารับหน้าที่ 5. ในการออกเสียงประชามติจากประชาชนต้องไม่ก่อน 90 วัน แต่ไม่ช้ากว่า 120 วัน ออกเสียงวันเดียวทั่วราชอาณาจักร 6. การจัดตั้งกระทรวง ทบวง กรม ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ ส่วนการรวมหรือการโอนกระทรวง ทบวง กรม ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา หมวดที่ 8 ศาล 1. ผู้ถูกจับให้ถูกควบคุมและนำไปศาลภายใน 48 ชั่วโมง ศาลมี 4 ศาลคือ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลทหาร ศาลยุติธรรม และศาลปกครอง 2. ศาลรัฐธรรมนูญ มีประธาน คน และตุลาการอีก 14 คน ประกอบไปด้วยผู้พิพากษา 5 คน ตุลาการศาลปกครองสูงสุด 2 คน ผู้ทรงคุณวุฒินิติศาสตร์ 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิรัฐศาสตร์ 3 คน 3. มีวาระ 9 ปี ดำรงตำแหน่งวาระเดียว ในการพิจารณาคดี ต้องมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่า 9 คน ในการวินิจฉัย 4. ศาลยุติธรรมมี 3 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา 5. ให้ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 14 คน 6. ศาลปกครอง ให้ประธานศาลสูงสุดเป็นประธาน มีกรรมการจำนวน 9 คน โดยเลือกจากตุลาการในศาลปกครองและกรรมการจากวุฒิสภา 2 คน และรัฐมนตรีอีก 1 คน หมวดที่ 9 การปกครองส่วนท้องถิ่น 1. รัฐจะต้องให้อิสระแก่ท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น 2. อปท.ทั้งหลายย่อมมีความเป็นอิสระในการกำหนดนโยบาย การปกครอง การบริหาร การบริหารงานบุคคล การเงิน และการคลัง และมีอำนาจหน้าที่เฉพาะตนเองโดยเฉพาะ 3. อบจ.ทั่วประเทศมี 75 แห่ง ไม่รวกกรุงเทพฯ อบจ. แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ 4. เทศบาล มีครั้งแรกเมื่อ 2476 สมัยรัชการที่ 7 มี 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ 5. สุขาภิบาล เกิดขึ้นเมื่อ 2495 ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว 6. อบต. มีครั้งแรกเมื่อ 2538 มี 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ หมวดที่ 10 การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ 1. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ รัฐมนตรี นายกฯ ส.ส. ส.ว. ข้าราชการการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น ให้ยื่นรายการทรัพย์สินภายใน 30 วัน ก่อนรับตำแหน่งและพ้นตำแหน่ง ถ้าตายให้ยื่นภายใน 90 วัน 2. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ประกอบด้วยประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอีก 8 คน มีวาระ 9 ปี เป็นได้ครั้งเดียว 3. มติของ ส.ว. ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ถึงจะทำให้ ปปช.หมดหน้าที่ 4. วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ในการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 5. ประชาชนผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 50,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อถอดถอนได้ 6. การลงคะแนนเสียงถอดถอนของ ส.ว. อย่างน้อย 3 ใน 5 7. การดำเนินคดีอาญากับผ้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีอำนาจพิจารณาพิพากษา หมวดที่ 11 การตรวจเงินแผ่นดิน 1. ให้มีประธารกรรมการ 1 คน และกรรมการอื่นอีก 9 คน มีวาระ 6 ปี เป็นได้วาระเดียว หมวดที่ 12 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 1. การแก้ไขให้ ส.ส. จำนวน 1 ใน 5 หรือ ส.ส. + ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 2. ให้มี 3 วาระ คือ ขั้นรับหลักการ /ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา / และขั้นสุดท้าย
Create Date : 01 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 1 ธันวาคม 2548 18:10:31 น. |
|
12 comments
|
Counter : 11420 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เต้ IP: 125.27.129.170 วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:21:33:49 น. |
|
|
|
โดย: จัส IP: 203.113.80.16 วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:21:38:02 น. |
|
|
|
โดย: กัป IP: 125.27.235.9 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:33:28 น. |
|
|
|
โดย: กก IP: 125.27.235.9 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:34:11 น. |
|
|
|
โดย: ออ IP: 125.27.235.9 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:10:34:40 น. |
|
|
|
โดย: G girl IP: 124.157.162.157 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:13:13 น. |
|
|
|
โดย: คิกๆ IP: 58.9.99.105 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:53:58 น. |
|
|
|
โดย: *-* IP: 58.9.99.105 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:55:50 น. |
|
|
|
โดย: G gril IP: 58.9.99.105 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:00:00 น. |
|
|
|
โดย: นัย IP: 125.24.244.40 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:57:14 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณ มากมาย IP: 61.19.238.18 วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:13:40:28 น. |
|
|
|
โดย: กลุ่มเพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.4 วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:22:02:13 น. |
|
|
|
|
|
|
ดี