sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 22 แรงชัง




กลิ่นหอมของมวลดอกไม้ที่ส่งกลิ่นยามค่ำคืน ฟุ้งกระจายแผ่ความสดชื่นไปทั่วทั้งบริเวณ ที่เรือนไม้หลังใหญ่มีแสงไฟส่องสว่างจากไต้และแสงตะเกียงที่จุดอยู่โดยทั่ว เสียงเครื่องดนตรียังคงดังขับขานรับกับสายลมที่พัดโชยมาบางเบา ที่กลางลานเหล่านางรำกำลังกรีดกรายร่ายรำด้วยท่วงท่าอันอ่อนช้อยงดงามอย่างตั้งอกตั้งใจ

“หากวันนี้ไหมงามกลับมามิทันน้องคงเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลนางรำเหล่านี้” เจ้าหนุ่มเอ่ยขึ้น

“แค่ซ้อมเล็กน้อยน้องมิเหนื่อยดอกอีกอย่างช่างฟ้อนส่วนใหญ่ฟ้อนได้ชำนาญอยู่แล้ว แต่พี่งามกลับมาเช่นนี้ก็เป็นเรื่องดีการให้ช่างฟ้อนที่มีชื่อฟ้อนต้อนรับท่านย่อมดีกว่าปล่อยให้เหล่านางรำฟ้อนกันเอง

“น่าเสียดายที่ไหมแก้วขึ้นฟ้อนมิได้ มิเช่นนั้นเจ้าพ่อกับเจ้าแม่คงได้เห็นการฟ้อนที่งดงามของไหมแก้ว”

“หากเจ้าพี่ประสงค์ไหมแก้วยินดีขึ้นฟ้อนเจ้า”

“มิได้ดอกไหมแก้วเป็นเมียพี่จะขึ้นฟ้อนอีกมิได้”

“ไหมแก้วถนัดแต่การฟ้อนหากเจ้าพี่มิไห้ไหมแก้วฟ้อนแล้วต่อไปไหมแก้วมิต้องเป็นง่อยเพราะอยู่ว่างๆ หรอกหรือ หากเจ้าพี่มิประสงค์ให้ฟ้อนขอไหมแก้วเป็นครูเช่นเดิมจะได้ไหม” หันไปจ้องสีหน้าร้องขอ

“ในวันหน้าน้องต้องมีทายาทให้พี่ ถ้ามีลูกวันๆ น้องคงยุ่งอยู่กับการเลี้ยงดูลูกของเราแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปว่าง เอ....เราอยู่กินกันมาก็นานนมแต่ทำไมไหมแก้วไม่มีทายาทซักทีทั้งๆ ที่พี่ก็ทำการบ้านมิเคยขาด” เจ้าหนุ่มเปลี่ยนเรื่องหรี่ตามองเมียรักสีหน้ากรุ้มกริ่ม

“เจ้าพี่มิเบื่อบ้างเลยหรือตกค่ำเป็นไม่ได้คิดแต่จะสร้างอาณาจักรอยู่ร่ำไป” เมินหลบตาใบหน้าง้ำงอ

“โธ่....ไหมแก้วตกเย็นฟ้าก็มืดจะไปไหนทำอันใดก็ไม่สะดวก ยามค่ำหากมิเข้านอนจะให้พี่ทำอันใด หากจะนอนมันก็หาข่มตาหลับได้ พี่หาการงานทำยามค่ำมันผิดตรงไหน” มือหนาเชยคางมนขึ้นสบตาแล้วยิ้มบางๆ

“หากมิรู้จะทำอันใดเจ้าพี่มานั่งตากน้ำค้างตบยุงเล่นก็ได้ เหนื่อยแล้วค่อยไปนอน”

“ฮ่าๆ น้องก็ช่างคิด พี่จะมานั่งตากน้ำค้างทำไมให้เหน็บหนาว ในเมื่อมีอย่างอื่นให้ทำดีกว่าตั้งเยอะ หนำซ้ำยังดีกว่ามานั่งตบยุงเปาะแปะเสียอีก”

เจ้าหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงเมื่อเห็นใบหน้างดงามของเมียสาวกระเง้ากระงอดจนน่าเอ็นดู

“เจ้าพี่ก็เป็นเสียอย่างนี้เห็นอันใดก็เป็นเรื่องขบขันไปเสียหมด”

“จะมิให้พี่ขบขันได้อย่างไรก็ดูน้องสิคิดมาได้”

“มิคิดได้อย่างไรเจ้าพี่เล่นเร่งเร้าไหมแก้วสร้างทายาทจนไหมแก้วจวนเจียนจะตายอยู่รำไร หากเจ้าพี่ยังมิเห็นใจไหมแก้วมิต้องตายจริงๆ หรือกระไร” ต่อว่าพลางค้อนควับ

“โถ....เมียรักของพี่เรื่องแค่นี้มันมิถึงตายดอก หากน้องมิเชื่อประเดี๋ยวพี่จะพิสูจน์ให้ดูว่าความรักจากพี่มันหาได้เลวร้ายจนทำให้น้องแดดิ้นสิ้นชีวา” ดวงตาคมเข้มหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์

“เจ้าพี่! หากคืนนี้เจ้าพี่มิเหลือเวลาให้น้องพัก น้องจักกลับเรือนพร้อมพี่ไหมงาม” หญิงสาวชี้มือปรามสีหน้าเอาจริง

“ก็ได้ๆ พี่จักยอมตามใจน้องซักครา แต่แค่คืนนี้เท่านั้นนะไหมแก้วที่พี่จะให้น้องพัก”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดออกมาจากมุมปากสีเข้ม วงแขนแกร่งโอบเอวคอดไว้หลวมๆ แล้วนิ่งคิดความสุขที่เขามีดังเช่นวันนี้ยังอีกยาวไกล ให้นางได้พักบ้างจะเป็นไรไป

******************

ช่วงสายของอีกวันขบวนของเจ้าหลวงเวียงครามก็เดินทางมาถึง เจ้าฟ้าครามยืนรอรับเจ้าพ่อเจ้าแม่อยู่ตรงเชิงบันไดเรือนหลวงด้วยใบหน้าแย้มยิ้มอย่างยินดี ส่วนไหมแก้วนั่งพับเพียบอยู่ข้างกายสามีสีหน้าหวาดหวั่น ด้านหลังมีบ่าวไพร่อีกนับสามสิบนั่งพับเพียบรอต้อนรับประมุขสูงสุดด้วยความตื่นเต้นยินดี

”เจ้าพ่อ”

พอเจ้าหลวงเวียงครามลงจากรถรางที่ใช้ม้าลากจูง เจ้าฟ้าครามจึงเดินเข้าไปต้อนรับและก้มกราบลงบนอกของท่าน

“เป็นอย่างไรบ้างฟ้าคราม ดูเจ้าซูบไปมิน้อย หึหึ” เจ้าหลวงร่างท้วมหรี่ตามองบุตรชายสีหน้ารู้ทัน ขณะตบไหล่บุตรชายอย่างรักใคร่

“ที่ซูบไปเป็นเพราะลูกตั้งหน้าตั้งตาก่อร่างสร้างเจ้าตัวเล็กให้เจ้าพ่ออย่างไรเล่า” เจ้าหนุ่มกระซิบบอก

“บ๊ะ....เจ้าคนทะเล้นทำเยี่ยงนี้สะใภ้พ่อมิย่ำแย่รึ”

ปากต่อว่าบุตรชายแต่สายตากลับจับจ้องไปยังหญิงสาวร่างบางที่นั่งพับเพียบอยู่ถัดออกไป

“ฮึ....พอได้เมียแม่ก็ไม่มีความหมายเสียอย่างนั้น” เสียงห้วนตัดพ้อขึ้น

“ใครจะลืมเจ้าแม่ผู้ประเสริฐเล่า เจ้าแม่เดินทางมาไกลเหน็ดเหนื่อยปานใดบอกลูกจักได้ไหม” พอได้ยินน้ำเสียงตัดพ้อแว่วมาเจ้าหนุ่มจึงรีบเดินเข้าไปสวมกอดร่างอวบอิ่มของมารดาแม่แล้วเอื้อนเอ่ยวาจาออดอ้อนเอาใจ

“หากแม่มิเอ่ยคำเจ้าคงจักเมินเฉยมิเหลียวแล” จิกตาต่อว่าแล้วสะบัดไปอีกทางอย่างแสนงอน

“โธ่......เจ้าแม่อย่าง้ำงอนไปเลยใครกันจักเมินเฉย เจ้าแม่เดินทางมาเหน็ดเหนื่อยขึ้นไปพักบนเรือนเถิดประเดี๋ยวลูกจักบีบนวดเอาใจให้คลายความเมื่อยล้า”

ใบหน้าคมคายแย้มยิ้มหวังใช้ความอ่อนโยนที่มีเอาอกเอาใจเพื่อให้เจ้านางผู้เด็ดขาดอ่อนลง

“มิต้องมาเอาใจแม่ดอกเจ้าฟ้าคราม ”

แต่ดูท่าความอ่อนโยนที่มีจะไม่เพียงพอเพราะเจ้านางดวงรัศมีหาได้อ่อนข้อจนเงียบเฉย เจ้านางผู้เด็ดขาดปรายตาไปมองหญิงสาวร่างบางที่นั่งนิ่งๆ แววตารังเกียจจนเจ้าหนุ่มเริ่มหวั่นใจกับความเย็นชาจากสายตาของมารดาในยามจ้องมองอีกคน

เมื่อเห็นสายตาของเจ้าแม่แสดงความขัดเคืองชัดเจนเจ้าฟ้าครามจึงรีบเดินไปทางไหมแก้ว ร่างสูงโน้มลงฉุดดึงเมียรักขึ้นมายืนอยู่เคียงกาย แล้วพาเดินเข้าไปหาเจ้าหลวงเวียงคราม

“ไหมแก้วท่านนี้คือเจ้าพ่อของพี่”

“กราบเจ้าพ่อเจ้า”

หญิงสาวค่อยๆ ยอบกายลงนั่งพับเพียบแล้วก้มลงกราบแทบเท้า ก่อนจะเอ่ยฝากฝังตัวเอง “ไหมแก้วขอฝากตัวเป็นลูกซักคนขอเจ้าพ่อโปรดเมตตาด้วยเจ้า”

“มิต้องพิธีดอกคนในครอบครัวทั้งนั้น เจ้าคงเป็นไหมแก้วล่ะสิ หึ..หึ..เพราะสวยหวานอย่างนี้เล่าเจ้าฟ้าครามถึงมิยอมกลับสยาม จนพ่อต้องย้ายคุ้มย้ายเรือนมาอยู่เชียงใหม่ พ่อเคยได้ยินแต่ชื่อวันนี้ได้พบมิแปลกใจเลยว่าเจ้าลูกชายตัวดีใยจึงหวงเจ้านัก”

เจ้าหลวงร่างท้วมบอกอย่างอารีเมื่อเห็นกิริยาและใบหน้าอันงดงามของสะใภ้สาว “ลุกขึ้นเถิดประเดี๋ยวค่อยคุยกัน”

“ขอบคุณเจ้าพ่อที่เมตตาเจ้า”

หญิงสาวหยัดกายขึ้นเดินเข่าไปก้มกราบเจ้านางดวงรัศมีที่ยืนอยู่อีกด้าน “กราบเจ้าแม่เจ้า” ไหมแก้วก้มลงกราบแทบเท้าเจ้านางผู้เด็ดขาด

“เรามิยินดีกับเรื่องอันใดทั้งสิ้น”

เสียงห้วนแหบพร่าโพล่งออกมาอย่างไม่คิดไว้หน้าใคร ก่อนจะก้าวผ่านร่างบอบบางที่ก้มหน้านิ่งเดินขึ้นเรือนไปด้วยท่วงท่าที่หาได้ใส่ใจกับความนอบน้อบของหญิงสาว

“ดวงรัศมี!....” เจ้าหลวงเวียงครามเรียกขานชายาน้ำเสียงตำหนิ

ร่างอวบอิ่มย่างขึ้นเรือนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองหน้าสวามีหรือใคร ความขัดเคืองใจที่จุกแน่นไปทั้งอกปิดกั้นถูกผิดจนมิคิดเกรงสิ่งใด

เจ้าฟ้าครามมองตามร่างอวบอิ่มของมารดาสีหน้ากังวล ใบหน้าคมคายสลดวูบเมื่อหันกลับไปมองร่างบอบบางของเมียสาว หัวใจแกร่งกระตุกวูบนึกสงสารนางจับใจ

“ไหมแก้วน้องอย่าคิดมากวันนี้เจ้าแม่อาจจะยังทำใจมิได้ เราคงต้องให้เวลาท่านอีกสักหน่อย”

มือหนาดึงร่างบอบบางขึ้นยืนเคียงกายอย่างเห็นใจ

“ไหมแก้วเจ้าอย่าไปใส่ใจกับนางเลย นางก็เป็นเสียอย่างนี้เวลาใครทำอะไรมิถูกใจก็พาลไม่เลือกที่ ขึ้นเรือนเถิดลูกใครมิยินดีก็ช่างเขา พ่อพอใจเสียอย่างใครหน้าไหนจะหาญกล้ามากีดกัน”

เจ้าหลวงเวียงครามเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจในความรักของบุตรชาย ใบหน้าอวบอูมส่ายไปมาเมื่อเห็นกิริยาอันไม่งามของชายาที่แสดงออกมาชนิดไม่คิดไว้หน้าใคร เจ้าหลวงผู้อารีหันกลับไปจ้องมองลูกสะใภ้ที่ยืนหน้าซีดหน้าเซียวอยู่ข้างกายบุตรชายแววตาอ่อนลง เพราะอคติโดยแท้จึงทำให้เจ้านางดวงรัศมีมิยอมลดทิฐิที่มี

“เออ...ฟ้าครามพ่อว่าลูกพาเมียกลับเรือนไปก่อนจักดีกว่า เอาไว้เย็นๆ ค่อยพานางมาพบพ่อ ส่วนแม่เจ้าประเดี๋ยวพ่อจักไปพูดให้นางเข้าใจอย่างไรเสียพ่อก็พอใจกับการออกเรือนของเจ้า”

“ขอรับเจ้าพ่อ” เจ้าหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ไหมแก้วเย็นนี้พ่อจะทำพิธีรับขวัญให้นะลูก อย่าน้อยใจหากเจ้านางท่านมิดูดำดูดี นางก็เป็นอย่างนี้มานมนานหากมิใส่ใจทุกอย่างก็มิใช่ปัญหา” มือหนาอวบอูมวางลงบนศรีษะกลมมนอย่างเอ็นดู

“ไหมแก้วซาบซึ้งใจกับความเมตตาของเจ้าพ่อเหลือเกินเจ้า”

ร่างบางยอบลงน้อมรับกับความเมตตาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ

“เจ้าพ่อขอบคุณเหลือเกินที่เมตตาพวกเรา”

เจ้าฟ้าครามเดินเข้าไปกราบลงบนอกบิดาด้วยความซาบซึ้ง เจ้าหนุ่มหันไปยิ้มน้อยๆ ให้กับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ มือหนาคว้ามือเรียวขึ้นมาบีบกระชับเบาๆ เป็นกำลังใจแล้วจูงเธอเดินกลับเรือนไปเงียบๆ

******************

“ดวงรัศมีใยน้องจึงทำการหักหาญน้ำใจลูกเช่นนั้น”

พอขึ้นมาบนเรือนเจ้าหลวงเวียงครามก็เท้าความเอาเรื่องกับชายา

“น้องมิยินดีน้องก็บอกว่าหาพอใจ เจ้าพี่จะมาหาความอันใดกับน้องอีก” ใบหน้างามตามวัยปรายมองสวามีสีหน้ามึนตึง

“เจ้าทำมิถูกมิควร ดวงรัศมีไหมแก้วมีศักดิ์เป็นเมียฟ้าครามพอใจมิพอใจก็น่าจักเกรงใจลูกบ้าง กระทำการหักหาญลูกต่อหน้าบ่าวไพร่เช่นนั้นมันมิใช่การดี ไหมแก้วก็หาได้เลวร้ายอันใดนางทั้งงดงามและนอบน้อมลูกเห็นว่านางเหมาะสมถึงได้ยกย่องเชิดชูเราเป็นพ่อแม่ใยจึงตั้งแง่ให้มากความ”

“มากความอันใด น้องบอกเจ้าพี่แล้วมิใช่หรือว่าอย่างไรเสียน้องก็มิพึงใจกับการออกเรือนของลูกในครานี้”

“พอใจมิพอใจลูกก็ตบแต่งออกเรือนไปตามประเพณีแล้ว เจ้าจักมาเคืองใจให้มันเกิดข้อบาดหมางทำไมกัน ในคราที่ลูกตบแต่งพี่ก็ให้เจ้าฤาชัยที่มีศักดิ์เป็นเจ้าลุงมาเป็นสักขี ลูกหาได้กระทำการอันใดโดยลำพังไม่ พี่ขอเถิดถอยซักครั้งเพื่อความสุขลูกมิได้หรือ” ใบหน้าอวบอูมเคร่งขรึมเมื่อร้องขอความถูกต้อง

“เจ้าพี่ก็พูดได้สิเจ้าพี่มิได้มาเป็นน้องนี่ เห็นหน้ามันมิทันไรก็เข้าข้างจนเห็นผิดเป็นถูกไปแล้วหรือกระไร” ปรายตามองสวามีสีหน้าขุ่นเคือง

“พี่หาได้เห็นว่าใครถูกหรือผิด ไหมแก้วก็ดูเป็นคนดีมิเช่นนั้นฟ้าครามก็คงมิเลือกนางเป็นเมียดอก”

“จะดีอย่างไรแม่นั่นก็ไพร่อยู่ดี เจ้าพี่จะยอมรับแม่นางรำนั่นเป็นสะใภ้งั้นรึ พวกเต้นกินรำกินมันต่างชั้นต่างฐานันดร จะให้น้องเกี่ยวดองคงมิได้ อีกประการเรื่องคู่หมั้นคู่หมายน้องก็จับจองไว้ให้ลูกแล้ว ในครานั้นเจ้าพี่ก็เห็นดีเห็นงามมิใช่หรือ แล้วเวลานี้ใยเจ้าพี่ถึงกลับคำเสียอย่างนั้น”

“เรื่องคู่หมายหากมันมิได้เป็นไปตามความต้องการของลูกเราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องตามใจ คำโบราณบอกกล่าวแต่ไหนแต่ไรมาว่าปลูกเรือนมันต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ก็ต้องตามใจผู้นอนหากเราไปบังคับเจาะจงไหนเลยคนที่อยู่จักสุขใจ” เจ้าเวียงครามพยายามยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง

“เรื่องการครองเรือนหาใช่การปลูกเรือนหรือผูกอู่ไม่ แม่นั่นเป็นนางรำต่ำชั้นเยี่ยงนั้นในภายหน้าจักเป็นที่เชิดหน้าชูตาของลูกได้อย่างไร”

“เมียดีเป็นศรีแก่ผัว ฐานันดรหาใช่ตัวกำหนดความรุ่งเรืองของชีวิตไม่ ดวงรัศมีลองหันมามองความจริงซักนิด หากว่าน้องเป็นดังเช่นไหมแก้วแล้วพี่พึงใจ น้องยังจักรักและอยู่เคียงกายพี่หรือไม่”

“เจ้าพี่! เจ้าพี่กล้าเอาแม่นางรำนังต่ำศักดิ์นั่นมาเปรียบกับน้องกระนั้นหรือ พุทโธ่เอ๋ยเห็นหน้ามันมิถึงครึ่งวันก็หลงมันจนมิรู้ถูกผิด ฤาว่านังนั่นมันจะเล่นเสน่หายาแฝดจึงทำให้พวกผู้ชายลุ่มหลง” หันไปจ้องหน้าสวามีอย่างพินิจ

“นางหาได้ใช้เวทย์ศาสตร์มนต์ดำไม่ หากแต่พี่เห็นใจในความสุขของลูก
ดวงรัศมีอย่างไรเสียเวลานี้ลูกก็เลือกแล้ว เราทำอันใดมิได้ดอก ความสุขของลูกก็คือความสุขของพ่อแม่น้องจะมิเห็นใจมอบความสุขให้ลูกเพื่อเพิ่มความสุขให้ตัวเองเลยหรือ?”

ดวงตาสีหม่นจ้องผ่านแววตากร้าวแกร่งของชายาอย่างมีหวังว่านางจักยอมเห็นแก่ความสุขของลูกบ้าง

แต่ดูเหมือนคำร้องขอของเจ้าหลวงเวียงครามกลับเป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่กำลังก่อเปลวเพลิงแห่งความเกลียดชังให้โชติช่วง เจ้านางดวงรัศมีผุดลุกขึ้นจากตั่งไม้ขัดเงาอย่างดีด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว

ใบหน้าอวบอูมเครียดขรึม ลองเจ้านางผู้เด็ดขายมิยอมอ่อนให้เยี่ยงนี้ดูท่าไหมแก้วคงจักลำบาก เจ้าหลวงผู้อารีถอนหายใจส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับความเด็ดขาดของชายาที่หากมิพอใจนางก็จักขวางลำจนถึงที่สุด

********************

ยามค่ำที่เรือนหลวงกำลังมีพิธีต้อนรับเจ้าหลวงเวียงครามและชายาอย่างสมเกียรติ นอกจากพิธีต้อนรับประมุขทั้งสองแล้ว ด้วยเมตตาของเจ้าหลวงเวียงครามท่านจึงจัดพิธีรับขวัญสะใภ้เพื่อเป็นเกียรติแก่นางและเพื่อเป็นการรับรองว่าไหมแก้วคือสะใภ้ที่ถูกต้องตามประเพณี ถึงแม้พิธีอันทรงเกียรตินี้เจ้าดวงรัศมีจะมิเห็นดีเห็นงาม แต่ก็หาได้เป็นอุปสรรคที่จักยุติการดำเนินไปตามขนบธรรมเนียมแต่อย่างใด

พ่อครูจำเริญอยู่ร่วมพิธีด้วยสีหน้าที่เต็มล้นไปด้วยความปีติยิ่ง ครูเพลงผู้โด่งดังถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเมื่อเห็นบุตรสาวได้รับความเมตตาจนหาที่สุดมิได้
แต่.....ในยามที่จ้องผ่านไปยังเจ้านางผู้สูงศักดิ์พ่อครูถึงกับสะท้านเยือก ใบหน้ากร้านแดดกร้านฝนหม่นลงด้วยความหวาดหวั่น ใยความเกลียดชังในดวงตานั่นถึงมีฤทธาของการทำลายล้างเด่นชัดถึงปานนั้น

เมื่อทุกอย่างดำเนินการไปจนแล้วเสร็จ เหล่านางรำต่างขึ้นมาร่ายรำต้อนรับด้วยท่วงท่าอันอ่อนช้อยงดงาม เจ้าเวียงครามพึงใจกับการแสดงที่อยู่บนเวทีจนลืมความขุ่นใจไปหมดสิ้น ซึ่งต่างจากเจ้านางดวงรัศมีลิบลับ พอเห็นนางรำย่างกรายออกมาใบหน้าบูดบึ้งของเจ้านางยิ่งเคร่งขรึม

‘พวกนางรำมันก็พวกต่ำศักดิ์ที่เต้นกินรำกินเพื่อเอาชีวิตรอด ไหนเลยจักมาเคียงคู่ลูกชายของเรา’ ใบหน้าอวบอิ่มเหลือบเลยไปทางไหมแก้วที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างกายเจ้าฟ้าคราม ริมฝีปากสีแดงเข้มเม้มแน่นเมื่อสุดที่จะยอมรับได้กับการที่จะเกี่ยวดอกกับคนต่างชั้นวรรณะ

กว่าทุกอย่างจะยุติก็ล่วงเลยไปเกือบสามทุ่ม เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาเจ้าหลวงเวียงครามจึงชวนชายาเข้าไปพักผ่อน พอเจ้าหลวงประจำคุ้มเข้าไปยังห้องพัก คนอื่นๆ จึงเก็บข้าวของแล้วแยกย้ายกลับไปยังเรือนของตน.....

บรรยากาศยามค่ำมืดครึ้มจนน่าสะพรึง สองข้างทางมีเงาตะคุ่มของแนวไม้ส่ายไหวไปมาดูน่ากลัวนัก ในความมืดสลัวมีเงารางๆ ของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ เสียงย่ำลงบนทางเดินหนักบ้างเบาบ้างสับเปลี่ยนกันไป ตลอดทางมีเพียงความเงียบงัน เพราะนอกจากเสียงหรีดหริ่งที่ดังขับขานเป็นระยะๆ ก็มีเพียงเสียงจังหวะการย่างก้าวที่สม่ำเสมอของคนทั้งคู่ เมื่อเดินมาได้ซักครึ่งทางเสียงหวานก็แว่วขึ้น

“พ่อครูงามว่าเห็นท่ามันจะมิสู้ดี”

หญิงสาวร่างบางที่เดินเนิบนาบอยู่ข้างกายผู้เป็นอาเอ่ยขึ้นเมื่อสุดที่จะระงับความอัดอั้นไว้ได้

“ใยงามจึงพูดเช่นนั้น”

ผู้เป็นอาถามคล้ายกระซิบทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าหลานสาวกำลังจะเอ่ยถึงเรื่องใด

“งามเห็นเจ้านางท่านจ้องไหมแก้วเหมือนเกลียดชังเป็นนักหนา สีหน้าท่านมิน่าวางใจเลยพ่อครู”

“งามอย่าพูดส่งเดช” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยปราม

“งามหาได้พูดส่งเดชพ่อครูมิเห็นหรือว่าเจ้านางท่านจ้องไหมแก้วด้วยแววตาชนิดใด”

“พูดหาความท่านเช่นนั้นหากคนอื่นมาได้ยินมันจักมิเป็นการดี เจ้านางท่านคงมิได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดดอก อีกอย่างกิตติศัพท์ของท่านเป็นคนดุแลเด็ดขาดเจ้าก็คงพาลคิดว่าท่านนั้นเกลียดชังน้องล่ะสิ” ปากบอกว่าหลานสาวกำลังคิดมากแต่หากความเป็นจริงเขาหาได้วางใจกับความเกลียดชังในดวงตาคู่นั้นไม่

“พ่อครูอย่ามองในแง่ดีนัก เจ้านางท่านมิเห็นดีเห็นงามกับการออกเรือนของเจ้าฟ้าครามใครๆ ก็รู้เมื่อสายแม่คำกองก็บอกเล่าว่าเจ้านางท่านถึงกับลั่นวาจาว่าหาได้ยินดีจนย่างผ่านน้องไหมไปเสียอย่างนั้น ขนาดต่อหน้าท่านเจ้าหลวงนางยังสำแดงปฏิปักษ์ปานนั้นแล้วลับหลังเล่านางจักเดือดดาลสักปานใด”

คิ้วเรียวขมวดยุ่งเมื่อนึกถึงความเกรี้ยวกราดของเจ้านางผู้เด็ดขาด

“เจ้าคิดมากไปเองมิมีอันใดดอก คืนนี้ท่านเจ้าหลวงทำพิธีรับขวัญไหมแก้วแล้ว อย่างไรเสียท่านก็เป็นใหญ่ในคุ้ม ในเมื่อท่านรับรองทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่งามก็หมั่นไปดูน้องบ้างเน้อ ไหมแก้วหัวอ่อนจิตใจนางนั้นยิ่งเปราะบาง เจ้าสองคนอย่างไรเสียก็เป็นพี่เป็นน้องมีเรื่องอันใดอย่าละทิ้งกันนะลูก....”

“พ่อครูโปรดวางใจงามจะดูแลน้อง หากวันใดน้องไหมประสบกับความทุกข์ยาก ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตงามก็ยินดีตายเพื่อน้อง”

หญิงสาวหยุดเดินหันไปจ้องหน้าอาเพื่อยืนยันคำพูดที่โพล่งออกไป

“งามมิต้องทำถึงขนาดนั้นดอก แค่ไม่ทิ้งกันในยามทุกข์ยากเท่านั้นอาก็พอใจ เจ้าสองคนถึงมิใช่พี่น้องที่คลานตามกันมาแต่อย่างไรเจ้าก็มีสายเลือดที่เหมือนกันอยู่คนละครึ่ง แต่เคราะห์ใครกรรมใครผู้นั่นย่อมต้องรับไป อย่าเสียสละชีวิตที่มีค่าของตัวเองเพื่อคนอื่นมิเช่นนั้นเจ้าจักต้องทุกข์ทนกับเคราะห์กรรมที่มิใช่ของตนเอง จำคำอาไว้ให้มั่นเน้อไหมงาม”

“เจ้า”

พ่อครูยิ้มน้อยๆ แล้วค่อยๆ เอื้อมมือลูบเรือนผมของหลานสาวอย่างรักใคร่ ไหมงามเป็นเช่นนี้เสมออ่อนหวานและห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะกาลก่อนในยามไหมแก้วทำผิดนางก็มักจะยอมรับผิดแทนน้องจนต้องถูกทำโทษอยู่เสมอ แต่หากวันหน้าไหมแก้วประสบเคราะห์กรรมมันก็ควรเป็นตัวไหมแก้วที่จักรับผลแห่งกรรมนั้น......





Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 14:06:46 น. 2 comments
Counter : 529 Pageviews.

 
เมื่อไหร่จะกลับมาตอนปัจจุบันค่ะ

ช่วงนี้งานเยอะมากค่ะ แต่ก็มีเวลามาแอบบบบ

อ่านนิยายค้าๆๆๆๆ


โดย: น้องเอ๋ IP: 192.168.0.4, 61.47.26.146 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:59:37 น.  

 
ไหมงามเป็นพี่ที่น่ารักมากค่ะ


โดย: karaked IP: 68.105.5.210 วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:2:04:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.