|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Tae Gu Dak เลือดเนื้อ เพื่อฉัน วันกินเกาเหลา
คิดได้ไง เท กู แดก เลือดเนื้อ เพื่อฉัน วันกินเกาเหลา เอามาดัดแปลงเอง ชื่อจริงๆ มาจากชื่อไทยของภาพยนตร์เรื่อง Tae Guk Ki (เท กึก กี คนพากย์อ่านชื่อได้ลาวมาก) เลือดเนื้อ เพื่อฝัน วันสิ้นสงคราม ฮ่าๆ ก็...นะ คืองี้ ไปเช่าหนังเรื่องนี้มา ก็สนุกดีนะ ทำดี ไปอ่านในวิกิพีเดียมา เค้าบอกว่าลงทุนไปประมาณ $12.8 ล้านดอลล่า เป็นเงินไทยก็ประมาณเกือบห้าร้อยล้านบาทมั้ง เกือบเท่ากับเงินลงทุนภาพยนตร์เรื่อง สุริโยทัย ของท่านมุ้ยเลย แต่ในส่วนของข้าน้อย ข้าน้อยชอบสุริโยทัยมากกว่า ในวิกิพีเดียบอกว่า ชื่อเทกึกกีแปลว่า ธงแห่งเกาหลี ถ้าแปลผิดข้าน้อยขออภัยด้วยนะขอรับ แล้วยังบอกอีกว่ามีคนเกาหลีใต้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึง 12 ล้านคน หรือประมาณว่า 1 ใน 4 ของประชาชนทั้งหมดของเกาหลีใต้ เท่ากับว่า ถ้าเดินไปถามคนเกาหลีใต้ว่า ดูเทกึกกีหรือยัง ทุกๆ 4 คน จะต้องมี 1 คนที่บอกว่าเคยแล้ว แต่สถิตินี้ เพิ่งถูกทำลายลงจากภาพยนตร์เรื่อง King and the Clown (พระราชาและตัวตลก อิอิ) ในปี 2006 ที่ว่าสนุกดี ก็เพราะเมื่อรับชมแล้วรู้สึกว่า เอ่อ... อะไรเนี่ย เนื้อหายืดเยื้อดี ตอนกำลังนั่งดู ตกใจมาก นึกว่ามีแผ่นหนังเกินมา ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะหนังมันมีสามแผ่น โอ้ God Enelu ก็ส่วนมากหนังทั่วไปยาวแค่ 2 แผ่นไง เรื่องราวก็แบบว่า เกี่ยวกับเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองในสมัย 1950 ระหว่างคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยก็ค่อนข้างหัวรุนแรงนะ หัวรุนแรงจนข้าน้อยรับไม่ค่อยได้ ทำไมข้าน้อยรับไม่ได้ ลองไปหามารับชมดูนะขอรับ เพราะหากเปิดเผย จะทำให้หนังหมดความตื่นเต้น เอาเป็นว่าถ้าเช่ามาดู ก็ไม่เสียดายตังค์เลย แม้แต่นิดเดียว คุ้ม แต่ถ้าจะให้ดูอีกรอบ ก็คงต้องขอคิดดูก่อน แล้วก็คงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่แบบว่าดูแก้เซ็งเวลาจะกินข้าว เพราะเวลากินข้าว มันต้องดูหนังที่เคยดูแล้ว ไม่ใช่ดูหนังที่ไม่เคยดูมาก่อน แล้วหนังเรื่องนี้ จะให้ดูอีกรอบ ก็คงไม่ไหว ยาวเกิน แต่ขอยืนยันว่า ดูรอบแรก ดีมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนสุดท้ายนะ อื้อหือ แทบจะร้องไห้จริงๆ อ่ะ เพราะมันเป็นเรื่องราวของครอบครัว แม่ลูก พี่ชายน้องชาย คู่รักหนุ่มสาวที่กำลังจะได้แต่งงานกัน แล้วก็มีระหว่างคนกับสุนัขด้วย แบบว่า โคตรดีอ่ะ เวลารบกันก็เกิดขึ้นในสถานที่ที่เรียกกันว่า เส้นรุ้งที่ 38 ที่เป็นเส้นแบ่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ในส่วนของเครดิท ข้าน้อยไม่ขอเอ่ยถึงผู้กำกับ เพราะผลงานอื่นของเค้า ข้าน้อยไม่เคยได้รับชม แล้วก็ไม่เคยมีข้อมูล จะขอกล่าวถึงนักแสดงนำสองคนละกัน เริ่มกันที่นาย วอน บิน สุดหล่อ ข้าน้อยชอบเค้านะ ถ้าใครได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่อง My Brother จะรู้สึกเลยว่า นายวอนบินเนี่ย แสดงบทลึกซึ้งได้ดีมาก เข้าถึงอารมณ์จริงๆ แบบว่าใน My Brother วอนบินก็รับบทเป็นน้องชายเหมือนกันกับในเทกึกกี แต่รู้สึกได้เลยว่า มันคนละคนกัน เหมือนเค้าเกิดใหม่ เป็นอีกคนเลย เว่อป่าวเนี่ย ส่วนอีกคน คือ นาย แจง ดอง กัน ผลงานที่น่าจะรู้จักของเขาก็คือ The Promise หรือ คนม้าบิน ปี 2005 , Typhoon หรือ 2 คม 2 พายุ ปี 2005 เหมือนกัน แต่ไม่รู้เรื่องไหนมาก่อนกัน สำหรับนายแจงดองกัน ข้าน้อยคงไม่แจกแจงอะไรมาก เพราะไม่ค่อยชอบหน้าตาเค้าในเทกึกกี แต่ถ้าในคนม้าบินก็หน้าตาดีอยู่ ในเทกึกกีเหมือนคนบ้าไปหน่อย จริงๆ แล้วก็คือ ข้าน้อยชอบนายวอนบินเป็นการส่วนตัว เพราะชอบตัวหนังเรื่อง My Brother แล้วหน้าตาเค้าก็ดูดีด้วย (ไม่ใช่เกย์นะขอรับ ข้าน้อยแค่ก้าวข้ามพรมแดนระหว่างเพศไปแล้วในการณ์นี้) อีกอย่างหนึ่งที่ข้าน้อยรู้สึกเป็นยิ่งนักคือ เทกึกกีให้ความรู้สึกแก่ข้าน้อย คล้ายๆ กับเมื่อครั้งได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Pianist หรือชื่อไทยก็คือ สงคราม ความหวัง บัลลังค์เกียรติยศ ของผู้กำกับ โรแมน โพแลนสกี นำแสดงโดยเอเดรียน โบรดี้ The Pianist เป็นหนังเกี่ยวกับช่วงเวลาในสงครามโลกครั้งที่ 2 ความรู้สึกที่ว่าคล้ายกันนั้น ก็คือรู้สึก คล้ายๆ กับเรากำลังเรียนประวัติศาสตร์ที่เราอยากรู้มากๆ เป็นความรู้สึกที่ดีขอรับ สรุปว่า Tae Guk Gi น่าดูมากขอรับ ถ้ามีโอกาสก็ขอเชิญรับชม
Create Date : 27 เมษายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 27 เมษายน 2550 9:04:28 น. |
Counter : 1387 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|