ไม้ดอกสีเหลืองที่กำลังบานสะพรั่งรับลมร้อนอยู่ในตอนนี้อีกชนิดหนึ่งก็คือ ดอกราชพฤกษ์ หรือที่เรียกกันว่า ดอกคูน ด้วยลักษณะช่อดอกสีเหลืองสดที่ห้อยระย้าเป็นพวงพุ่มประกอบด้วยดอกตูมดอกบานไล่เรียงกัน ยิ่งเมื่อยามลมพัดสะบัดกิ่งก้านช่อราชพฤกษ์ปลิวไสวไปตามสายลมยิ่งดูสวยงาม ว่ากันว่าเมื่อช่อดอกคูนบานเหลืองอร่ามบ่งบอกได้ว่าช่วงเวลาของหน้าร้อนแห่งปีมาถึงอีกแล้ว
ช่วงนี้ผ่านไปที่ไหนๆจะได้เห็นดอกราชพฤกษ์ปลิวไสวล้อลมตามริมถนนหนทางต่างๆ ต้นราชพฤกษ์มีชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเรียก ต้นคูน เป็นชื่อสั้นๆจำได้ง่าย
ชื่อสามัญ Pudding pipe tree, Purging cassia,
Indian laburnum , Golden shower
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula Linn.
วงศ์ LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่ออื่น คูน ลมแล้ง ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียเขตร้อน เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียใต้ ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดีย พม่า และศรีลังกา นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
:: ราชพฤกษ์เป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำชาติไทย ::
ตามที่กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุม
เรื่องการกำหนดต้นไม้และสัตว์ประจำชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๐๖ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๐๖ มีมติ
เป็นเอกฉันท์กำหนดให้ต้นราชพฤกษ์หรือคูน เป็นต้นไม้
ประจำชาติ
และตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติไทย ๓ สิ่ง เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๔ กำหนดให้ดอกไม้ประจำชาติ คือ ดอกราชพฤกษ์ (คูน) Rachaphruek (Cassia fistula Linn.)
ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ มีความสูง 8-15 เมตร ลำต้นมีผิวเปลือกสีขาวปนเทา ผิวเรียบมีรอยเส้นรอบต้น และรอยปมบริเวณที่เกิดของกิ่งอยู่เป็นบางจุดของลำต้น
ใบมีสีเขียว ขอบเรียบ โคนใบมน
ปลายใบแหลม
ขนาดใบกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร
ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร
จะทิ้งใบก่อนออกดอก โดยจะผลัดใบจน
หมดต้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆระหว่าง
เดือนมีนาคม-เมษายน
และจะผลิใบใหม่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ดอกมีสีเหลือง ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือตามกิ่ง ช่อดอกห้อยลงล่างช่อยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีกลีบสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ การออกดอกจะออกพร้อมกันทั้งต้นพร้อมกับการผลัดใบคือระหว่างเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ผลมีลักษณะเป็นฝักยาวกลม ทรงกระบอก
ฝักมีสีเขียวเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ
ผิวเปลือกแข็งเรียบ ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก
ความยาวของฝักประมาณ 30-50 เซนติเมตร
การออกฝักจะเริ่มราวเดือนพฤษภาคม
และฝักจะแก่ราวเดือนมกราคม-เมษายน
ฝักแก่จะห้อยติดอยู่กับต้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้นจะเริ่มร่วงราวเดือนเมษายนไปจนหมดต้น
ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับฤดูกาลออกดอกรุ่นใหม่
คนไทยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งตามความเป็นจริงนั้นคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย
ราชพฤกษ์เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ต้องการแสงแดดจัด ปลูกได้ทั้งดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ที่มาของข้อมูล:
www.maipradabonline.com //www.dnp.go.th เกร็ดพรรณไม้ ฐานข้อมูลพรรณไม้ที่ใช้ในงานภูมิสถาปัตยกรรม