Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
สื่อมวลชนบันเทิง กับ ความรับผิดชอบสังคม

เขียนโดย : kamit

*
มักได้ยินข่าวอยู่เสมอว่า ดารา หรือผู้คนบางคน ต้องเสียหาย จาก การตกเป็นข่าว ซุบซิบในวงการบันเทิง เช่น ตกเป็นข่าวเรื่องเตียงหัก มือที่สาม ค้ายา หรือ กุ๊กกิ๊ก หรือกรณี เบิร์ด ธงชัยฯ เป็น ตุ๊ด ดาราหญิงคนนี้ เป็น เลสเบียนบ้างหละ อะไรต่อมิอะไรที่ไม่เป็นความจริง กว่าที่เจ้าตัวจะแก้ข่าว สร้างความจริงให้ปรากฏ ก็อ่วมอรทัยไปแล้ว

     เหล่านี้ ได้สร้างความเดือดร้อน แก่ผู้ที่ตกเป็นข่าวขนาดไหน บางรายอาจต้องเลิกร้างกันไป บางรายเสียผู้เสียคนไปก็มีหลายราย
     เหตุผลของเหล่ากระจอกข่าวพวกนี้อาจจะบอกว่าก็เป็นอาชีพบ้างหละ มันเป็นหน้าที่บ้างหละ ส่วนพวกดารา พวกนักร้องนักแสดง ใครต่อใคร ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ จะต้องยอมให้สื่อสอดรู้สอดเห็น ขุดคุ้ย ซอกแซก พูดเสียดสี ถากถาง นินทากาเล ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ

ข่าวเหล่านี้ สังคมได้อะไร?
ใครได้ ใครเสีย?


แต่ทีแน่ๆ เจ้าตัว ญาติโยม เสียหายป่นปี้ ไปแล้ว
สำหรับคนที่ได้ แน่นอน คือ คนเขียน และ หนังสือพิมพ์ ขายดี
แล้ว ใคร? สถาบันไหน? ที่เป็นผู้บอก ว่าหากเป็นนักข่าว สื่อบันเทิงสามารถที่จะกระทำแบบนี้ได้
ถามว่า แล้ว จรรยาบรรณของนักข่าว ของสื่อ อยู่ที่ไหน?

อย่าสักแต่ว่า มีปากกา มีสื่อ อยากเขียนอะไรก็เขียน ไม่ต้องรับผิดชอบ อย่างนั้น หรือ ลองย้อนถามตัวเองบ้างว่า หาก เป็น คนเขียนเอง ใครอยากจะ โพนทะนา ว่า ค้ายา เป็นชู้กับ ใครต่อใคร ไป ทำเลวระยำ บ้าบอ อย่างนั้นอย่างนี้ โดย ไม่เป็นอย่างนั้นจริง บ้าง จะว่า อย่าง ไร คง นั่ง หัว ร่อ ชอบใจ อยากให้ ใครต่อใคร เอาเรื่อง ที่เสื่อมเสียส่วนตัวของตน ไป เขียน ให้มันๆสนุก ปาก ทั่วบ้านทั่วเมือง ละซี มีไหม กรองข่าว ตรวจสอบข่าวก่อน ลง น๊ะ

หากจะบอกว่าสื่อมวลชนยังมีอภิสิทธิ์ ในการใช้สิทธิเสรีภาพ ใช้ความเป็นฐานันดรสี ๔ ทำแบบนี้ได้ผมว่าถ้าแบบนี้ ปิดกั้นเสรีภาพสื่อจะดีไหม? ใครก็ได้ ช่วยตอบแทนที อย่าบอกว่า ขอโทษ ตน เข้าใจผิด ง่ายๆ พล่อยๆ สื่อที่มีจรรยาบรรณ สื่อที่ดีดี อย่า เข้าข้างพฤติกรรมเลวๆ แบบนี้ แล้วกัน.


*

นี่ ก็มาอีก ข่าว

"ไก่ วรายุฑ" บุกนิตยสารมายาแชนแนล หลังถูกเขียนพาดพิง "นก ฉัตรชัย" ขนย้ายข้าวของมาอยู่ที่บ้านตนเอง เจ้าตัวสุดยัวะบอกรับไม่ได้ ออกอาการปรี๊ดแตกบอกอยากจะฉี่รดหนังสือพิมพ์ทีเดียว"


เป็น อย่างนี้ เสมอ แต่ สื่อก็มักอ้าง ว่า เป็นหน้าที่และเป็นอภิสิทธิ์ของสื่อ
ผมถามจริงๆ เหอะ ว่ามีกฏหมายประเทศไหนในโลกบ้าง ที่อนุญาตให้สื่อฯ สามารถ ใช้ เครื่องมือ ที่สังคมมอบให้ สร้างความระยำ ด้วยการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จาบจ้วงล่วงเกิน พูดเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงต่อใครๆอย่างเสรีได้
หรือในวงการจะมีเหตุผลแห่งการกระทำว่า มันเป็นวิถีเพื่อความอยู่รอดของนักข่าว ใครๆเขาก็ทำกัน ถ้าแบบนี้ ที่โจรมันปล้น ข้าราชการ นักการเมืองก็จะบอกว่า ขอใช้อภิสิทธิ์ในการโกงกิน ปาหินใส่รถใครต่อใคร ค้ายา ปล้นทรัพย์ ฆ่า ข่มขืน และอะไรต่อมิอะไร โดยบอกว่า ตนมีสิทธิ เสรีภาพแบบสื่อ เพื่อความอยู่รอด ของตนบ้าง สื่อจะว่าอย่างไร
ใคร เรียน สื่อสารมวลชนช่วยตอบที อาจารย์ และตำรา เขาสอนให้ หนังสือพิมพ์ ทำอย่างนี้ ได้หรือ? ถ้าสอนแบบนี้ ผมว่า เลิกสอน เลิกเรียน กัน เหอะ ผมขอร้อง

H O M E




Create Date : 19 ธันวาคม 2550
Last Update : 22 กันยายน 2551 18:43:33 น. 3 comments
Counter : 606 Pageviews.

 
สื่อมวลชนมีผลกับสังคมไทยมากกว่าการศึกษาอีก เพราะว่าเข้าถึงได้มากกว่า ซึ่งบางทีสื่อเองก็ไม่ได้สำนึกในบทบาทอันยิ่งใหญ่อันนี้


โดย: gluhp วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:8:07:23 น.  

 
ตอนเรียนสื่อสารมวลชน

นอกจาก...วิชากฎหมายสื่อสารมวลชนที่เราต้องจำขึ้นใจ

สิ่งหนึ่งที่จะเพิกเฉยไม่ได้คือ...จรรยาบรรณ...

เอาเข้าจริงในวันทำงาน

กฎหมายนั้นก็ไม่เคยได้รับความสนใจเท่าไหร่ ((เท่าๆ ที่คุยกับเพื่อนที่ทำงานข่าวนะคะ))

จรรยาบรรณนั้นแล้วแต่ตัวบุคคล

นักข่าวสายบันเทิงนั้น...ฉันว่าคนร่ำเรียนมาทางนี้ไม่มีใครอยากทำหรอกค่ะ

เพราะงั้นจึงเป็นไปได้ที่พวกที่ทำกันจริงๆ อาจไม่รู้จักคำว่า "จรรยาบรรณ" ผู้สื่อข่าว
โธ่...ก็ไม่ได้ร่ำเรียน อีกทั้งยุคสมัยนี้ข่าวที่หาต้องเป็นข่าวที่ไว้ขายเท่านั้นล่ะค่ะ

เอาง่ายๆ ฉันให้เพื่อน ให้พี่ช่วยลงข่าวให้ประชาชนรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของ พรบ.น้ำ ที่ถ้ามันตีตราเป็นกฎหมายเมื่อไหร่ สงครามย่อยๆ คงเกิดขึ้นกลางเมืองกรุงล่ะค่ะ
เพื่อนอยากช่วย พี่อยากทำ แต่สุดท้ายไม่มีใครทำ เพราะถึงทำมันก็ไม่ผ่านโต๊ะข่าว


โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:18:26:31 น.  

 
ฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยได้เรียนวิชาเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน
พอเริ่มมีประสบการณ์เกี่ยวกับการสื่อข่าว
ทำให้รู้สึกไม่ชอบ จริงอยู่ที่ตอนเรียนนักข่าวทุกคนถูกสอนให้รู้จักจรรยาบรรณของสื่อ แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงข้อความในตำรา นักข่าวทุกคนไม่สามารถทำได้อย่างที่ตนเองตั้งใจไว้ เหมือนเมื่อตอนที่กำลังเรียน หรือตอนที่เรียนจบใหม่ๆ จรรยาบรรณที่มีอยู่ค่อยๆหายไป


โดย: คนเคยเรียน IP: 10.13.4.36, 202.29.83.65 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:9:51:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.