Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

อิเหนาเป็นเอง เครือข่าย "สนธิ" โผล่ "เกาะฟอกเงิน"

*ระบอบทักษิณและเครือข่ายธุรกิจแสนล้าน ถูกเปิดโปงว่าเลี่ยงภาษีและมีธุรกรรมที่ไม่โปร่งใส

หลายปีก่อน "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจสอบพบว่า บริษัทวิน มาร์คฯ ของทักษิณ ตั้งอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิน และยังมีอีกหลายบริษัทของเครือข่ายทักษิณอยู่ในเกาะฟอกเงิน

แต่เอาเข้าจริงศัตรูของทักษิณ ก็ทำแบบเดียวกับทักษิณ ...ไม่ผิดเพี้ยน

หากตรวจสอบและย้อนกลับไปดู บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ของ

"สนธิ ลิ้มทองกุล" ที่ตั้งบริษัทขึ้นเมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม 2536 โดยมีทุน จดทะเบียน 500 ล้านบาท อยู่ที่ 1041 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสน เขตพญาไท กทม. ทำธุรกิจให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกับ นายมรุธัช รัตนปรารมย์

บริษัทเดอะ เอ็ม. กรุ๊ป เปลี่ยนแปลงงบฯครั้งที่ 1 เป็นเงินจำนวน 1,250 ล้านบาท โดยไม่ระบุวันที่ โดยต่อมามีการเปลี่ยนแปลงงบฯครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2539 เป็น 1,400 ล้านบาท เปลี่ยนครั้งที่ 3 วันที่ 20 ธันวาคม 2539 เป็น 1,640 ล้านบาทจนถึงปัจจุบัน

จากการประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุดวันที่ 30 เมษายน 2545 ปรากฏผู้ถือหุ้นทั้งหมด 16 คนที่น่าสนใจคือ นายสนธิ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 44.8171% คิดเป็นเงิน 734,999,980 บาท, บริษัทโฮลดิ้งฯ 1998 จำกัด ถือหุ้น 14.6341% จำนวน 240 ล้านบาท, นายจินตนาถ ถือหุ้น 10.0610% คิดเป็นเงิน 165 ล้านบาท

นอกนั้นมี ผู้ถือหุ้นที่น่าสนใจ อาทิ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), นางจันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล, ตะวันออกแมกาซีน จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท โฟร์เอส จำกัด, บริษัท สนธิอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 (เล่ม 124 ตอนที่ 19 ง) ตีพิมพ์ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำพิพากษาให้ล้มละลาย ตามคดีหมายเลขแดงที่ 410/2544 ของศาลล้มละลายกลาง คำประกาศระบุว่า ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ให้บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้ ล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 แล้ว โดยผู้ล้มละลายมีอาชีพค้าขาย

ผู้ล้มละลายตั้งสำนักงานอยู่เลขที่ 1041, 1043 และ 1045 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร และก่อนหน้านี้ในปี 2546 เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป ขาดทุนเป็นเงินจำนวน 537,033,730 บาท

แม้ว่าขณะนี้บริษัทเดอะ เอ็ม. กรุ๊ป กำลังอยู่ในระหว่างการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ก็ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องอีกมากถึง 128 บริษัท หนึ่งในนั้นคือบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ซึ่งจดทะเบียน วันที่ 14 มกราคม 2537 ทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 1 ล้านบาท ก่อนจะปรับเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2537 เป็น 1 พันล้านบาท

ตั้งอยู่ที่ 49/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ชั้นใต้ดิน ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ผู้มีอำนาจคือ นายมนูญ นาวานุเคราะห์ และนายมรุธัช รัตนปรารมย์ มีจำนวนผู้ถือหุ้น 8 ราย สัญชาติไทย 7 ราย และสัญชาติหมู่เกาะเคย์แมน 1 ราย

ผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน), นายธนภูมิ เดชเทวัญดำรง, บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย, บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด และ MGH INVESTORS COMPANY ซึ่งเป็นบริษัทบนหมู่เกาะเคย์แมน มีสัดส่วนในการถือหุ้น 2.5% คิดเป็นเงิน 25 ล้านบาท

ตามที่ทราบกันในวงกว้างว่า หมู่เกาะเคย์แมนถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ Offshore Financial Center (OFC) หรือในทางภาษีระหว่างประเทศ สามารถกล่าวได้ว่า ดินแดนนี้เป็น Tax Havens ซึ่งหมายถึงประเทศหนึ่ง (country) หรือดินแดนพิเศษ (A Specific Jurisdiction) ที่มีระบบกฎหมายภายใน หรือระบบกฎหมายภาษีพิเศษเป็นของตนเองที่เอื้ออำนวยต่อการโยกย้าย หรือเก็บกักเงินทุนของกลุ่มทุนข้ามชาติ เพื่อประโยชน์ในการหลีกเลี่ยงภาระภาษีระหว่างประเทศ (International tax avoidance)

หมู่เกาะเคย์แมน เป็นสถานที่ที่มีบริษัทจัดตั้งขึ้นกว่า 20,000 บริษัท แน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ไม่มีข้อผูกมัดให้ต้องมีการประชุมคณะกรรมการ หรือการประชุมผู้ถือหุ้นที่นั่น หมายความว่า บริษัทไม่จำต้องมีตัวตน เป็นเพียง paper company หรือบริษัทกระดาษก็ได้

งบการเงินปี 2549 บริษัทเอ็ม. แกรนด์โฮเต็ล มีหนี้สิน 35.5 ล้านบาท สินทรัพย์ 21.6 ล้านบาท ขาดทุนสะสมประมาณ 1 พันล้านบาท

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล มีสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งมี 629 ล้านบาท ปี2546 มี 605 ล้านบาท ปี 2547 เหลือ 27 ล้านบาท ปี 2548 อยู่ที่ 24 ล้านบาท และปี 2550 มีสินทรัพย์ 21 ล้านบาท

มีข้อสังเกตว่างบการเงิน 5 ปีล่าสุด (2545-2549) เงินสดเงินฝากสถาบัน การเงินของบริษัท ลดลงทุกปี จาก 1.1 ล้านบาท จนเหลือ 79,680 บาท สินทรัพย์ที่มี 550 ล้านบาทในปี 2545 เหลือเพียง 79,680 บาท, ที่ดินจาก 107,670 บาท ลดลงมาเหลือเพียง 70 บาท

ถึงแม้ว่าจะมียอดขาดทุนสะสมถึง 1 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ยังคงดำเนินกิจการอยู่

และมีที่ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท เวิลด์ไวด์ มีเดีย จำกัด, บริษัท บุ๊ค ด็อท คอม จำกัด, บริษัท แพลนโปรดัคชั่น จำกัด, บริษัท โฮลดิ้ง 1998 จำกัด, บริษัท ภูเก็ตบลูสกาย จำกัด ฯลฯ เพียงแต่อยู่คนละห้อง

ลองนึกดู บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป ซึ่งถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย บริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ที่บริษัทบนหมู่เกาะเคย์แมนเป็นผู้ถือหุ้น เกี่ยวโยงสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทไทยเดย์ ซึ่งเป็นเจ้าของและบริหาร บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่

และที่สำคัญคือ เลขที่ 49/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม นอกจากจะเป็นที่ตั้งของบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ลแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินอีกด้วย

เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เอา "ของจริง" มาตีแผ่ ก็อาจทำให้คนเข้าใจผิดกันได้ทั้งเมือง

Credit : ประชาชาติธุรกิจ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553
1 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2553 12:30:54 น.
Counter : 1526 Pageviews.

 

 

โดย: นนนี่มาแล้ว 15 เมษายน 2553 6:43:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.