อิเหนาเป็นเอง เครือข่าย "สนธิ" โผล่ "เกาะฟอกเงิน"
ระบอบทักษิณและเครือข่ายธุรกิจแสนล้าน ถูกเปิดโปงว่าเลี่ยงภาษีและมีธุรกรรมที่ไม่โปร่งใส
หลายปีก่อน "ประชาชาติธุรกิจ" ตรวจสอบพบว่า บริษัทวิน มาร์คฯ ของทักษิณ ตั้งอยู่บนเกาะบริติชเวอร์จิน และยังมีอีกหลายบริษัทของเครือข่ายทักษิณอยู่ในเกาะฟอกเงิน
แต่เอาเข้าจริงศัตรูของทักษิณ ก็ทำแบบเดียวกับทักษิณ ...ไม่ผิดเพี้ยน
หากตรวจสอบและย้อนกลับไปดู บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ของ
"สนธิ ลิ้มทองกุล" ที่ตั้งบริษัทขึ้นเมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม 2536 โดยมีทุน จดทะเบียน 500 ล้านบาท อยู่ที่ 1041 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสน เขตพญาไท กทม. ทำธุรกิจให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกับ นายมรุธัช รัตนปรารมย์
บริษัทเดอะ เอ็ม. กรุ๊ป เปลี่ยนแปลงงบฯครั้งที่ 1 เป็นเงินจำนวน 1,250 ล้านบาท โดยไม่ระบุวันที่ โดยต่อมามีการเปลี่ยนแปลงงบฯครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2539 เป็น 1,400 ล้านบาท เปลี่ยนครั้งที่ 3 วันที่ 20 ธันวาคม 2539 เป็น 1,640 ล้านบาทจนถึงปัจจุบัน
จากการประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุดวันที่ 30 เมษายน 2545 ปรากฏผู้ถือหุ้นทั้งหมด 16 คนที่น่าสนใจคือ นายสนธิ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 44.8171% คิดเป็นเงิน 734,999,980 บาท, บริษัทโฮลดิ้งฯ 1998 จำกัด ถือหุ้น 14.6341% จำนวน 240 ล้านบาท, นายจินตนาถ ถือหุ้น 10.0610% คิดเป็นเงิน 165 ล้านบาท
นอกนั้นมี ผู้ถือหุ้นที่น่าสนใจ อาทิ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), นางจันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล, ตะวันออกแมกาซีน จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท โฟร์เอส จำกัด, บริษัท สนธิอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 (เล่ม 124 ตอนที่ 19 ง) ตีพิมพ์ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำพิพากษาให้ล้มละลาย ตามคดีหมายเลขแดงที่ 410/2544 ของศาลล้มละลายกลาง คำประกาศระบุว่า ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ให้บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้ ล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 แล้ว โดยผู้ล้มละลายมีอาชีพค้าขาย
ผู้ล้มละลายตั้งสำนักงานอยู่เลขที่ 1041, 1043 และ 1045 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร และก่อนหน้านี้ในปี 2546 เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป ขาดทุนเป็นเงินจำนวน 537,033,730 บาท
แม้ว่าขณะนี้บริษัทเดอะ เอ็ม. กรุ๊ป กำลังอยู่ในระหว่างการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ก็ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องอีกมากถึง 128 บริษัท หนึ่งในนั้นคือบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ซึ่งจดทะเบียน วันที่ 14 มกราคม 2537 ทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 1 ล้านบาท ก่อนจะปรับเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2537 เป็น 1 พันล้านบาท
ตั้งอยู่ที่ 49/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ชั้นใต้ดิน ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ผู้มีอำนาจคือ นายมนูญ นาวานุเคราะห์ และนายมรุธัช รัตนปรารมย์ มีจำนวนผู้ถือหุ้น 8 ราย สัญชาติไทย 7 ราย และสัญชาติหมู่เกาะเคย์แมน 1 ราย
ผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน), นายธนภูมิ เดชเทวัญดำรง, บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย, บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด และ MGH INVESTORS COMPANY ซึ่งเป็นบริษัทบนหมู่เกาะเคย์แมน มีสัดส่วนในการถือหุ้น 2.5% คิดเป็นเงิน 25 ล้านบาท
ตามที่ทราบกันในวงกว้างว่า หมู่เกาะเคย์แมนถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ Offshore Financial Center (OFC) หรือในทางภาษีระหว่างประเทศ สามารถกล่าวได้ว่า ดินแดนนี้เป็น Tax Havens ซึ่งหมายถึงประเทศหนึ่ง (country) หรือดินแดนพิเศษ (A Specific Jurisdiction) ที่มีระบบกฎหมายภายใน หรือระบบกฎหมายภาษีพิเศษเป็นของตนเองที่เอื้ออำนวยต่อการโยกย้าย หรือเก็บกักเงินทุนของกลุ่มทุนข้ามชาติ เพื่อประโยชน์ในการหลีกเลี่ยงภาระภาษีระหว่างประเทศ (International tax avoidance)
หมู่เกาะเคย์แมน เป็นสถานที่ที่มีบริษัทจัดตั้งขึ้นกว่า 20,000 บริษัท แน่นอนว่าบริษัทเหล่านี้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ไม่มีข้อผูกมัดให้ต้องมีการประชุมคณะกรรมการ หรือการประชุมผู้ถือหุ้นที่นั่น หมายความว่า บริษัทไม่จำต้องมีตัวตน เป็นเพียง paper company หรือบริษัทกระดาษก็ได้
งบการเงินปี 2549 บริษัทเอ็ม. แกรนด์โฮเต็ล มีหนี้สิน 35.5 ล้านบาท สินทรัพย์ 21.6 ล้านบาท ขาดทุนสะสมประมาณ 1 พันล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล มีสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งมี 629 ล้านบาท ปี2546 มี 605 ล้านบาท ปี 2547 เหลือ 27 ล้านบาท ปี 2548 อยู่ที่ 24 ล้านบาท และปี 2550 มีสินทรัพย์ 21 ล้านบาท
มีข้อสังเกตว่างบการเงิน 5 ปีล่าสุด (2545-2549) เงินสดเงินฝากสถาบัน การเงินของบริษัท ลดลงทุกปี จาก 1.1 ล้านบาท จนเหลือ 79,680 บาท สินทรัพย์ที่มี 550 ล้านบาทในปี 2545 เหลือเพียง 79,680 บาท, ที่ดินจาก 107,670 บาท ลดลงมาเหลือเพียง 70 บาท
ถึงแม้ว่าจะมียอดขาดทุนสะสมถึง 1 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ยังคงดำเนินกิจการอยู่
และมีที่ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท เวิลด์ไวด์ มีเดีย จำกัด, บริษัท บุ๊ค ด็อท คอม จำกัด, บริษัท แพลนโปรดัคชั่น จำกัด, บริษัท โฮลดิ้ง 1998 จำกัด, บริษัท ภูเก็ตบลูสกาย จำกัด ฯลฯ เพียงแต่อยู่คนละห้อง
ลองนึกดู บริษัท เดอะ เอ็ม. กรุ๊ป ซึ่งถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย บริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ล จำกัด ที่บริษัทบนหมู่เกาะเคย์แมนเป็นผู้ถือหุ้น เกี่ยวโยงสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทไทยเดย์ ซึ่งเป็นเจ้าของและบริหาร บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด หรือไม่
และที่สำคัญคือ เลขที่ 49/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม นอกจากจะเป็นที่ตั้งของบริษัท เอ็ม. แกรนด์ โฮเต็ลแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินอีกด้วย
เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เอา "ของจริง" มาตีแผ่ ก็อาจทำให้คนเข้าใจผิดกันได้ทั้งเมือง
Credit : ประชาชาติธุรกิจ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ H O M E
Create Date : 28 มีนาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 28 มีนาคม 2553 12:30:54 น. |
Counter : 1526 Pageviews. |
|
|
|