ต่อไปมาฟังเหตุการที่เกิดขึ้นนะคับ(ผมรู้หลังจากสู้คดีกันเสดแล้ว)คือมีผู้หญิงคนนึง(ผู้เสียหาย)เทอได้ไปเที่ยวกลางคืนที่ร้านคาราโอเกะในเมืองกาญฯแล้วได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง(คนร้าย)ซึ่งทำงานเปนดีเจที่ร้านแห่งนั้นหลังจากเทอได้ทำการแลกเบอและพูดคุยกันสักพักเทอก็ขอตัวกลับ แต่ชายคนนั้นอาสาไปส่งเทอ เทอก็ตกลงและได้นั่งซ้อนท้ายไปจนถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้ถามว่าในกระเป๋ามีอะไร เทอก็ได้บอกไป สักพักคนร้ายก็จอดรถแล้วบอกให้เทอลง พอเทอลงเท่านั้นแหละ คนร้ายรีบขับรถจักรยานยนต์ไปอย่างรวดเร็ว เทอตกใจแล้วได้วิ่งตามไปแต่ไม่ทัน แล้วเทอก็ได้ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจได้พาเทอมาที่เกิดเหตุและพาเทอไปร้านคาราโอเกะที่คนร้ายทำงาน เจ้าของร้านได้ให้หลักฐานคือใบสมัครงาน(ที่กล่าวไปข้างต้น) ตำรวจได้นำรูปถ่ายในใบสมัครงานนั้นให้ผู้เสียหายดู เทอยืนยันว่าเปนคนร้ายแน่นอน ตำรวจจึงพาเทอไปโรงพักเพื่อหาข้อมูลทะเบียนราษฎ์ ตามสำเนาบัตรประชาชนที่อยุ่ในใบสมัครงาน ปรากฎเปนชื่อ นายโอภาส ลัทธิธรรม(ชื่อผม)  เทอได้ชี้ยืนยันกับตำรวจว่าใช่คนร้ายพร้อมเซนกำกับไว้ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคับ (หลักฐานยืนยันตัวตนผมไม่มีว่าขณะเกิดเหตุผมอยู่ที่สระบุรีเพราะคดีมันตั้ง8ปีที่แล้ว)

ส่วนสิ่งที่ขัดแย้งมรหลายกรณี เช่น

1.รูปในใบสมัครงานกับรูปในสำเนาบัตรปชชไม่เหมือนกัน

2.ข้อมูลที่กรอกสมัครงานไม่ใช่ข้อมูลของนายโอภาสเลยทั้งชื่อพ่อชื่อแม่และสถานศึกษาแต่ชื่อพ่อชื่อแม่กลับไปตรงกับคนร้ายที่ขโมยรถผมไป

3.ซึ่งรูปถ่ายในใบสมัครงานกลับเปนคนๆเดียวกันที่ขโมยรถผมไปตอนปี2550(ก่อนเกิดเหตุ)

4.ผมเจอกับผู้เสียหายในศาลแต่ผู้เสียหายกลับบอกไม่แน่ใจคล้ายๆ เนื่องจากคนร้ายไว้ผมทรงเดียวกัน

5.ผมไม่เคยย้ายภูมิลำเนาแต่ทำไมไม่เคยมีหมายเรียกมาหา

6.ผมอยุ่สระบุรี ผมควรจะลงทุนไปวิ่งราวทรัพย์ด้วยมูลค่า2000บาทกับโทรศัพย์1เครื่องที่กาญฯหรอ

7.ขณะเกิดเหตุผมมีอายุ20ปี วุฒิภาวะไม่น่าจะขับรถไปกาญฯคนเดียว โดยที่ไม่ได้มีปันหาอะไร

ทั้งหมดคือคร่าวๆนะคับ คือตอนนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก3ปี ผมสู้อุทรณ์อยุ่ และจะมีการนัดฟังคำพิพากษาในวันที่25พฤษภาคม2560นี้

รบกวนผู้มีความรู้แนะนำผมหน่อยนะคับว่าควรทำอย่างไร กลัวศาลอุทรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ผมอาจจะติดคุกในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ