Group Blog
มิถุนายน 2553

 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
30
 
 
All Blog
The Matrix Really เมทริกซ์ ที่แท้จริง บทที่ ๒ นับล้านปี ที่ทุก ๆ ชีวิต ไม่รู้ ?



.
บทที่ ๒

นับล้านปี ที่ทุก ๆ ชีวิต ไม่รู้ ?


ไม่ใช่แค่ร้อยพัน หรือหมื่นปี แต่ว่านับแสนนับล้าน สิบล้าน

ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้านปี ฯลฯ ผ่านมาแล้ว ที่สรรพชีวิต ทุก ๆ ชีวิต

บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล เกิดขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองมาจากไหน ?

ไม่รู้ว่าทำไมคนเราจึงเกิดมาไม่เหมือนกัน ? บางคนเกิดมาหน้าตาดี บางคน

หน้าตาไม่ดี บางคนรวย บางคนจน บางคนโรคมาก บางคนโรคน้อย บางคน

โชคดี บางคนโชคร้าย ไม่รู้ว่าเมื่อตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหนกันต่อไป ?

ในหมู่มวลมนุษยชาติผู้ที่มีสมองมีปัญญาสูงที่สุด

ในหมู่สัตว์ทั้งปวง จึงได้มีการคาดเดา วิเคราะห์ คิดค้น ค้นพบ หรือ

มีการเชื่อกันไปต่าง ๆ นานา เกิดเป็นศาสนา เป็นลัทธิขึ้นมาสารพัดรูปแบบ

ตั้งแต่ยุคอดีตกาลตั้งแต่สมัยยุคหิน ที่คนเราอยู่ป่าอยู่ถ้ำ มาจนถึงยุคอวกาศ

ยุคไฮสปีดอินเตอร์เน็ต 3G , 4G อยู่คฤหาสน์ อยู่ตึก อยู่คอนโด โด่เด่

สูงกว่าภูเขา เทียมฟ้าท้าดิน เช่นในยุคปัจจุบันนี้

ความไม่รู้ก่อให้เกิดความเชื่อ ความเชื่อเกิดขึ้นมาจากความไม่รู้

เมื่อความรู้เข้ามาแทนที่ ความเชื่อก็จะค่อย ๆ เลือนรางหายไป เช่น สมัยก่อน

ในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก จะเชื่อกันว่า บนฟ้าจะมีเทพเทวดา ในรูปแบบต่าง ๆ

ตามความเชื่อของแต่ละท้องที่ถิ่นฐานประเทศของตน อาศัยอยู่บนก้อนเมฆ

เพราะวิทยาการของคนเรา ยังต่ำอยู่ ยังไม่สามารถบินได้ ยังไม่รู้ว่าบนก้อนเมฆ

มีอะไรอยู่ จึงได้มีการคาดเดาเชื่อกันไปต่าง ๆ นานา ในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก

ว่า บนฟ้าบนก้อนเมฆ มีสวรรค์ มีเทพเทวดา ส่วนใต้หล้า มีนรก มีภูตผี มีปีศาจ

ยมบาล ยมทูต นานับชนิดอยู่

ปัจจุบันเมื่อวิทยาการของคนเราก้าวหน้า ความเชื่อเหล่านี้

ก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เพราะคนมากมายเริ่มมีความรู้เข้ามาแทนที่ ว่าบนก้อน

เมฆไม่ได้มีอะไรอยู่ ส่วนใต้หล้าผืนแผ่นดิน เมื่อเจาะลงไปลึกมาก ก็ยังไม่มี

ใครเจอนรก เจอยมบาล มัจจุราช หรือ ยมทูต อยู่ใต้ดินซะที แต่ยังมีคนมาก

มายทั่วโลก หลายร้อยล้านคน ไม่ทราบจำนวนแน่นอน ที่ยังเชื่อยังนับถือ

ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นับถือเทพเทวดา ฟ้าดิน สิ่งลี้ลับสารพัดรูปแบบกันอยู่ เพราะ

ยังมีเรื่องราวมากมายที่คนเรายังไม่รู้ การเชื่อถือ การนับถือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์

ในรูปแบบต่าง ๆ ก็เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นสิ่งที่ดีงามอย่างหนึ่งของคนเรา

ถ้าสิ่ง ๆ นั้น ไม่เบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน และเป็นสิ่ง

ที่คอยชี้นำชี้ทาง สั่งสอนให้แก่เหล่ามวลมนุษย์ทั้งหลายทำแต่ความดี เห็นอก

เห็นใจผู้อื่น เห็นแก่ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์สุขส่วนตัว

...................

ภาคจบสุดท้าย ของ เมทริกซ์

The Matrix Really

เมทริกซ์

( สิ่งที่ลวงตา กักขังจิตใจของทุก ๆ ชีวิต บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล )

ที่แท้จริง

...................


โลกที่พวกเราอาศัยอยู่นี้ คือ โลกแห่ง matrix

( สิ่งที่ลวงตา กักขังจิตใจของทุก ๆ ชีวิต บนโลกนี้ และทั่วทั้งจักรวาล )

ที่แท้จริง โดยแท้จริง อย่างแท้จริง ไม่ได้อ้างอิงนิยาย หรือแต่งขึ้นมา เพื่อ

สร้างเป็นภาพยนตร์ มู๊วี่ เรื่องเล่าเช้านี้ แต้มสีเติมสัน เพิ่มความมันใส่เข้าไป

แต่ประการใด

บทที่ ๑

เมทริกซ์ คืออะไร ?

บทความในหนังภาพยนตร์ ที่มอเฟียสอธิบายให้กับนีโอได้ทราบ

ในตอนต้นของเรื่องถึงความหมายของ “ เมทริกซ์ ” ว่ามันคืออะไร ผมถอด

คำพูด จากในหนังออกมาทั้งหมดทุกพยางค์ได้ดังนี้

“ เจ้าเมทริกซ์อยู่ทุกแห่งหน มันอยู่รอบตัวเรา ตอนนี้มันก็อยู่ใน

ห้องนี้ด้วย คุณเห็นมันเมื่อมองไปนอกหน้าต่าง หรือเมื่อคุณเปิดโทรทัศน์

คุณสัมผัสมัน ตอนคุณไปทำงาน ตอนคุณไปโบสถ์ ตอนคุณเสียภาษี มัน

เป็นโลก ที่ถูกดึงลงมา ปิดตาคุณไว้จากความจริง , ความจริงเหงอ , ว่าคุณ

เป็นทาสคนนึง นีโอ เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เกิดมาเพื่อถูกจองจำ เกิดมาในคุก

ที่คุณไม่อาจสูดดม ลิ้มรส รึว่าแตะต้อง เป็นเรือนจำขังจิตใจคุณ น่าเสียดาย

ไม่มีใครบอกได้ ว่าเมทริกซ์ มันคืออะไร คุณต้องเห็นด้วยตาของคุณเอง ”

ข้อความด้านบนคือความหมายของเมทริกซ์ ในหนังภาพยนตร์

ส่วนความหมายของ

The Matrix Really เมทริกซ์ ที่แท้จริง

เมทริกซ์ในโลกแห่งความเป็นจริง

ความหมายก็คล้ายกันกับเมทริกซ์ ในหนังภาพยนตร์ มาก

มีดังนี้ คือ

“ เจ้าเมทริกซ์อยู่ในที่ทุกแห่งหน มันอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ตอนนี้มันก็อยู่

ในห้องนี้ด้วย คุณเห็นมันเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง หรือเมื่อคุณเปิด

โทรทัศน์ คุณสัมผัสมัน ตอนคุณไปทำงาน ตอนคุณไปโบสถ์ ไปวัด ตอนคุณ

เสียภาษี มันเป็นโลก ที่ถูกดึงลงมา ปิดตาแห่งปัญญาของคุณไว้ จากความ

จริง ว่าคุณเป็นทาสคนนึง เหมือนกับคนอื่น ๆ ทุก ๆ ชีวิต บนโลกนี้ และทั่วทั้ง

จักรวาล ที่เกิดมาพร้อม ๆ กับการถูกจองจำทางจิตใจ เกิดมาในคุก ที่คุณไม่

อาจสูดดม ลิ้มรส รึว่าแตะต้อง มองเห็นจิตใจเดิมแท้ ของตัวคุณเอง เป็น

เรือนจำขังจิตใจคุณ ให้ตกเป็นทาส อยู่ใต้อำนาจของสัญชาติญาณสัตว์ คือ

ความต้องการทางร่างกาย น่าเสียดาย ไม่มีใครสามารถบอกให้เข้าใจอย่าง

ละเอียด ได้ว่า จิตใจเดิมแท้ของตัวคุณเอง ที่เป็นธาตุแห่ง พุทธะ ( God )

เป็นอมตะ ไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ อยู่เหนือโลก เหนือความสุข และความ

ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นความบริสุทธิ์ สะอาด สงบ ร่มเย็น มันคืออะไร มี

ลักษณะเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตนที่แท้จริง

คุณต้องเห็นด้วยตาแห่งปัญญา ของตัวคุณเอง เท่านั้น ”

...................


บทเริ่มต้น

( ไม่ต้องอ่านก็ได้ ถ้าขี้เกียจ หรือไม่ค่อยมีเวลา )

( ก็อ่าน The Matrix Really บทที่ ๑ ได้เลย)

.........

จาการที่คุณทักษิณ กล่าวถึงเรื่อง matrix ในทวิตเตอร์

ว่าเหมือนประเทศไทยในปัจจุบันนี้ เหมือนยังไง ผมก็ไม่เข้าใจ แต่ก็คิดว่า

น่าศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมดู วันต่อมาผู้จัดการก็ได้เอาข่าวนี้มาลงในเว็บอีก

ทำให้ผมนึกได้หลังจากที่ลืมและขี้เกียจสนใจเรื่องนี้ไปแล้ว

สมัยก่อนผมลองดูเรื่อง matrix อยู่บ้าง แต่ได้กรอวีดีโอดูผ่าน ๆ

เฉพาะตอนที่มีฉากอลังการ ในภาค ๑ จึงทำให้ไม่ได้เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง

ของเรื่อง และไปดูอีกทีก็ภาคสามเริ่มต้นที่ฉากรถไฟ ดูแล้วก็งง ๆ และข้าม

ไปดู ตอนที่นีโอพูดคุยกับเทพพยากรณ์ ดูแล้ว ก็ไม่ค่อยมันเท่าไหร่ เพราะ

ไม่ได้ติดตามเนื้อเรื่องมาตั้งแต่แรก

พอผมได้เข้าไปค้นหาข้อมูลเรื่องของ matrix อีกครั้ง

หลังจากที่คุณทักษิณเล่า และผู้จัดการนำเสนอข่าว เมื่อผมได้อ่านความ

หมาย ของคำว่า matrix ในวิถีพีเดีย เป็นคำพูด ที่มอเฟียสบอกกับนีโอใน

ตอนต้นเรื่องของภาคหนึ่ง เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ในวีถีพีเดีย มีเรื่องย่อที่น่า

สนใจในภาคต่าง ๆ อยู่พอสมควร แต่ข้อมูลยังไม่ละเอียดพอ ผมจึงต้องไป

หาหนังมาดูเพิ่มเติม

บ้านผมมีดีวีดีอยู่ร้อยกว่ากล่องก็ไม่เจอเรื่องเมทริกซ์

สมัยก่อนเคยเจออยู่หนึ่งหรือสองภาคแต่ปัจจุบันไม่รู้ใครหยิบไป โชคดีที่ผม

สามารถหาดู ภาคสองและสามได้อย่างไม่อยากเย็นเท่าไหร่ ความคมชัด

ระดับดีวีดี ภาคหนึ่งขัดข้องทางเทคนิคดูได้แค่สี่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ พอผมดู

จบสามภาค ภายในไม่กี่วัน วันต่อมาจึงบังเอิญไปเจอกับภาคหนึ่งแบบเต็ม ๆ

ถึงภาพจะไม่ค่อยชัด ก็ยังดี ยังได้รู้เรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมอีกพอสมควร

ตอนแรกผมก็นึกว่าไม่เป็นไร ดูภาคหนึ่งครึ่งเดียวก็พอแล้ว ความจริงมันยังมีเ

รื่องน่าสนใจอีกพอสมควรในภาคแรก ทำให้ผมรู้และเข้าใจเรื่องราวอย่าง

สมบูรณ์มากขึ้นไปอีก

ผมเห็นตัวอย่างหนังภาคสี่ มันออกมาเป็นปี ๆ แล้ว แต่หนังเต็ม ๆ

ยังไม่เห็นมีออกมาซะที ผมคิดตั้งแต่แรกแล้วว่ามันน่าจะมีภาคสี่ ภาคต่อไป

ออกมา เพราะตอนแรกเขาบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นไตรภาค มีสามภาคจบ แต่

ภาคสาม ผมดูแล้วรู้สึกว่า มันจบง่ายดายเกินไป จบแบบยังไม่สุด ถ้าจบแค่

สามภาคจริงแสดงว่าคนแต่งเรื่องมันกระจอกไปหน่อย เพราะจบง่ายไป

เรื่องราวต่าง ๆ ยังไม่สมบูรณ์

ต่อมาเมื่อได้อ่านข้อมูลเรื่องเมทริกซ์ในวิถีพีเดียอย่างละเอียด

ก็ได้พบว่ามันมีภาพยนตร์ย่อย ๆ สั้น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกเก้าตอน ผมก็หาเฉพาะ

ตอนที่สำคัญที่สุดคือ ตอนที่โลกของเรายังดีอยู่และถูกหุ่นยนต์เข้ามา

ทำลายและสร้างเมทริกซ์ขึ้นมาได้อย่างไร โชคดีที่เจอแบบซับไทยด้วย

จึงสามารถดูได้อย่างเข้าใจในเนื้อเรื่อง เพราะภาษาอังกฤษของผม

ไม่ค่อยแข็งแรง

ยุคปัจจุบันนี้ มีกูเกิ้ลแปลภาษา ผมจึงสามารถหาภาษาอังกฤษ

ที่แปลว่า อย่างแท้จริง ซึ่งมีอยู่หลายคำ นำมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง ได้อย่างเนียน ๆ

เป๊ะเลย ตอนแรกหาคำว่า ของแท้ ได้ Genuine อย่างแท้จริงก็ได้ Genuinely

ไม่มีเรียลลี่ โชคดีผมไปเจอคำว่า Really ซึ่งแปลว่า โดยแท้จริง ได้เหมือนกัน

พอตอนไปดูชื่อภาษาอังกฤษ ของ The Matrix ทั้งสามภาคแล้ว จึงพบว่า

คำว่า Really สามารถเข้ากันกับชื่อเรื่องของเมทริกซ์ทั้งสามภาค ได้อย่าง

เนียน ๆ ไม่แปลกแยก เป๊ะเลยครับ ๑. The Matrix ๒ . The Matrix

Reloaded ๓. The Matrix Revolutions และภาคจบสุดท้ายของเมทริกซ์

The Matrix Really เมทริกซ์ ที่แท้จริง




Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 21:47:52 น.
Counter : 1240 Pageviews.

4 comments
  
เข้ามาอ่าน ไม่ได้มานานแล้ว
เป็นกำลังใจให้ครับ

ท่านเคยคิดแบบนี้ไหมครับ
เพียงแค่เราคิดเราก็ได้อย่างที่คิด เพียงแต่เราไม่มีปัญญาคิดเราก็เลยไม่ได้ออย่างที่คิด เช่นผม คิดว่า จะไปนั่งใต้ร่มไม้ ผมก็ก้าวขาเดินไปนั่งใต้ต้นไม้ ผมก็ได้อย่างที่คิดไว้เลย คือ นั่งใต่ร่มไม้
แน่นอนการก้าวขาเดินต้องอาศัยจิตใจความต้องการประสาทสัมผัส ทั้งสั่งการและรับรู้สัมพันธ์กัน แต่มันเป็นไปเองโดยที่เราไม่ต้องบังคับ เพราะเรารู้วิธีการทำอย่างนี้(กำหนดจิตอย่างนี้ แต่เราไม่รู้ตัว) เพื่อให้เกิดผลที่เราต้องการ
แท้จริงเราอาจไม่ได้ก้าวขาเดินไปหาต้นไม้ ต้นไม้ต่างหากที่มาหาเรา เพราะเมื่อกำหนดจิตว่าจะเดินไปใต้ร่มไม้ จิตก็สร้างสภาวะแวดล้อม ให้เราเข้าใจอาการเดินไปหาต้นไม้ เป็นแบบนี้ และก็ได้ไปอยู่ใต้ร่มไม้ สมใจปราถนา
ด้วยประการนี้ ผมจะหายตัวไปใต้ร่มไม้ ก็ทำได้เช่นกัน ถ้าจิตผมเข้าใจในสภาวะแวดล้อมของอาการหายตัว และมีปัญญารู้ว่าจะกำหนดจิตเช่นไร
เราอยู่ในจักรวาลของความต้องการ ภาพที่เห็นความรู้สึกที่รับรู้ ล้วนเป็นสิ่งที่เราอยากให้มันเกิดขึ้น แต่เราไม่รู้ตัว
จักรวาลที่แท้จริงเป็นเช่นไร ไม่อาจรู้ได้ด้วย ปัญญาแค่นี้

ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าอ่านไม่เข้าใจ
ผมเคยตั้งกระทู้ใน หว้ากอ แล้วไม่มีใครเข้าใจความคิดผมเลย เขาว่าผมบ้า
โดย: ช่างบ้านนอก IP: 112.142.15.16 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:1:02:02 น.
  
ผมไม่เคยคิดแบบที่คุณช่างบอกนี้ แต่ผมก็พอเข้าใจความ

คิดคุณช่างบ้านนอกอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าบางท่อนบางตอน

อ่านแล้วก็งง ๆ อยู่เหมือนกัน

ถ้าคุณช่างไปตั้งกระทู้ที่หว้ากอ แล้วบอกว่า

คนเราหรือคุณสามารถหายตัวเข้าไปในต้นไม้ได้ ก็ต้อง

มีคนบอกว่า คุณบ้า เป็นเรื่องธรรมดาครับ
โดย: samma วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:16:08:32 น.
  
ผมพอเข้าใจว่าท่าน ช่างบ้านนนอก จะสื่อถึงอะไร

เขาจะบอกว่า จิตใจเรานั้นเป็นนายของทุกสิ่ง

ถ้าเราคิดจะเดินไปใต้ต้นไม้ เราไม่ต้องเดินไปก็ได้

แต่หายตัวไป(ไปแต่จิต) ก็คือคิดไปว่าถึงแล้วจะเป็นอย่างไร

เสียงใบไม้พัดไหวไปตามลม ความเย็นของสายลมที่ปะทะหน้า

ใช้ความคิดของเราเพื่อรับรู้ทุกสิ่ง ประมาณนั้น ถ้าผิดก็ขออภัย

ปล. ความจริงผมมีความคิดที่แปลกกว่านั้นอีก ไว้จะมาบ่นให้ได้อ่าน
โดย: ผ่านมา IP: 115.87.96.212 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:19:29:54 น.
  
เหมือนกับที่คุณ samma เขียนแหละครับ เราถูกขังเป็นทาส โดยที่เราไม่รู้ตัว เมื่อเรามีปัญญารู้ตัวเมื่อไร เราจะหายตัว เราจะเหาะ เราจะอะไรได้อีกหลายอย่าง

แต่ที่จริงเราไม่ได้ไปไหน สิ่งที่รู้สึกทางประสาทสัมผัส เป็นมายาที่จิตสร้างขึ้นเพื่อสนองความต้องการ

ขอบคุณครับ เริ่มมีคนเข้าใจเราแล้ว ^_^"
โดย: ช่างบ้านนอก IP: 114.128.126.212 วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:23:14:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samma
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]