บอกเล่าเท่าที่เห็น

กัมพูชา หรือ เขมร ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ไปต่างประเทศกะเค้า (ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศใกล้ ๆ และไม่ได้ฟู่ฟ่าอะไรมากนักก็ตาม) กว่าจะรู้ชะตาว่าได้ไปก็เล่นเอาจวนแจ ไปถึงจุดนัดพบรถจะมารับตอนตี ๒ แต่ด้วยอะไรมิรู้ได้รถกว่าจะมารับ ก็ปาเข้าไปเกือบตี ๕ พระออกบิณฑบาตรพอดี อ้อ...ลืมบอกไปที่ที่จะไปนี้ไปร่วมงานบวชสามเณรชีพราหมณ์น้อย บวชหมู่ ๔๐๐ คน ณ.วัดโพธิสุวรรณาราม อ. อองกอจุม จ.เสียมเรียบ.... กว่าจะไปถึงด่านอรัญฯ และผ่านพิธีการทางด่านไปได้ ปาเข้าไป ๙ โมงกว่าแนะ ก้าวแรกที่เหยียบผ่านด่านไปฝั่งเขมร ดีใจมากที่มีโอกาสได้มาเยือน ขึ้นรถตู้ที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ คนขับพาเรามุ่งหน้าไปหาข้าวกินก่อน (คนขับนิสัยดีนะ ชื่อ”ดารา” ชอบยิ้มอารมณ์ดีแอบขอเบอร์โทรมาด้วยหละ...เผื่อมีโอกาสจะไปใช้บริการ...) เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 11 โมงกว่าแล้ว..ถึงร้านกินข้าวก็วุ่นวายกันหน่อยเพราะไม่มีใครคุยภาษาของกันและกันได้ พอดีนึกคำเรื่องอาหารได้มาหนึ่งอย่าง ครือ...บาย ชา ซัจจรูก. ก็ข้าวผัดหมูนะสิ แหมแต่แพงเอาเรื่องนะ จานละ 60 บาทแนะ ที่นี่รับเงินไทยด้วยนะ อ้อ..ได้คำศัพท์อาหารมาอีกอย่าง ครือ..โปงเจียน เคลียนเครื่อง..ก็ข้าวไข่เจียว ถ้า โปงเจียนอย่างเดียวอาจได้ไข่ทอดแบบไข่ดาวนะสิ... เราไม่ได้กินข้าว สั่งกาแฟมาแก้วนึงแก้ว ขนาดพวกน้ำส้มเกล็ดหิมะบ้านเรานะ ราคาก็ 20 บาทไง...ซม ออรกุน เจริน แล้วก็ออกไปกันที่ร้านแลกเงิน วันที่ไปนี่เงินไทย 100 บาทแลกเงินเรียลได้ 12900 เรียลแหนะ แลกเงินกันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปบ้านคุณยาย...ซึ่งเป็นประธานบวชฝ่ายฆราวาสที่นั่น กว่าจะไปถึงก็ประมาณบ่าย 3 โมงแล้ว คณะไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่ากัน ห้องน้ำคิวยาวต้องรอคิว ก็เลยเลี่ยงไปช่วยเย็บผ้านุ่งขาวเพิ่มเติม... ทำเสร็จก็ได้เวลาเดินทางไปวัดต่อ เพราะมีพิธีอบรมตอนเย็นด้วย...ไปถึงวัดก็เกือบ 6 โมง ขนของลงที่ศาลาเรียบร้อยก็เอาเป๋าเสื้อผ้าไปที่ห้องพัก รีบแจ้นไปอาบน้ำก่อนแล้ว ขืนช้ามองไม่เห็นจะอาบน้ำลำบาก ก้อที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะจ๊ะ...ใช้เครื่องปั่นไฟแทน อ้อ..น้ำอาบก็ไปหาบกันมาจากบ่อ เป็นน้ำบาดาลแต่น้ำมีสีขาวขุ่นไม่ใส เสร็จจากอาบน้ำอาบท่าแล้ว เดินออกมาที่ศาลา อ้าว...ชาวคณะหายไปไหนหมดละนี่ เหลือแต่พระที่เดินทางมาด้วยกัน 2 รูปเท่านั้น .... ทางเข้ามาวัดนี้ไม่ดีเอามาก ๆ ๆ ทางดินแดง หลุมบ่อต่างระดับกันมาก และมีขนาดใหญ่ เห็นมีรถพวกแบกโฮล์กำลังทำทางกันอยู่ด้วย กินขนมปังกับนมกล่องซะหน่อย ชักหิวแล้วฮิ ฮิ เสบียงนี่ติดมาจาก กทม. โอ้กว่าจะได้กิน กินเสร็จก็หาเสื่อไปนอนใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ขนาด 5-6 คนโอบ มี 3 ต้นเรียงกัน..

โอ้โห...ช่างวิเศษจังเลย ใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่น มีลมพัดมาอย่างกะชายทะเลแนะ แถมนอนดูดาวได้อีก เบื้องหน้าเป็นทุ่งนา กว้างสุดตาแม้จะแห้งแล้งมีแต่ดินก็ตาม แต่เวลานี้เป็นภาพที่แสนจะสวยงาม ภายใต้แสงจันทรา .. ยามนี้มันทำให้จิตใจสงบสบาย ผ่อนคลายมาก ๆ เลยนอนมันที่นี่แหละใจมันบอกอย่างนี้ ยังมีชาวบ้านที่ข้ามทุ่งมากัน... เพื่อดูแลลูกหลานที่มาบวช และไม่ได้กลับบ้าน ก็มานอนกันแถว ๆ นี้เหมือนกัน เลือกเอาตามแต่ชอบ เพราะวัดมีพื้นที่โล่งกว้างพอควร ในศาลาก็มีคนนอน แม้แต่ในโบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ .. (ชาวบ้านบอกว่าสร้างมา 10 กว่าปีแล้ว ไม่มีเงินได้แต่รวม ๆ กัน ทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่มี) ก็มีเด็ก ๆ นอนกันอยู่เต็ม กุฎิพระก็เป็นไม้เก่ายกใต้ถุนสูงเหมือนบ้านเราในสมัยก่อน แต่เก่ามากแล้วเห็นถึงร่องรอยได้ว่าสร้างมานาน ไม้เริ่มผุบ้างเหมือนกัน ....ดึกแล้วไปนอนดีกว่า ก่อนนอนก็ทำสมาธิ สวดมนต์หน่อยคืนนี้กว่าจะหลับได้ก็ 5 ทุ่มแล้ว...ราตรีสวัสดิ์ ... เอ้าก่อนจากเพราะขี้เกียจบรรยาย...เอารูปไปดูตามลิ้งค์นี้ //cid-91c4aa744f2f383c.skydrive.live.com/browse.aspx/watbodhisuvannaram.pictures

Create Date : 29 เมษายน 2553		1 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:08:35 น.
Counter : 802 Pageviews.
Share Tweet