แจวมาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว...
"แจว มาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจว มาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจวเรือไปซื้อลองกอง แจวเรือไปซื้อลองกองขอเชิญปี 2 ลุกขึ้นมาแจว ...เอ้า ..."
เมื่อวานเราต้องไปเรียนภาษาจีนที่ ม. เกษตรฯ เสียงเพลงออกไมค์ดังมาแต่ไกล พอลงจากรถปุ๊บเสียงแบบนี้ก็ดังเข้ามากระทบประสาทหูทันที อยากบอกว่าคิดถึงเพลงแบบนี้ บรรยากาศที่ใช้ร้องเพลงแบบนี้ และพอได้ยินท่วงทำนองแบบนี้แสดงว่าเทศกาลรับน้องใหม่กำลังจะเปิดศักราชขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว
แต่ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเราอาจจะจืดสนิทถ้าไม่มีกิจกรรมรับน้องที่ว่านี้ คงไม่มีเรื่องเล่าให้คนรุ่นต่อๆมาฟังว่าครั้งหนึ่งการรับน้องไม่ใช่แค่การนั่งฟังพี่ๆพูด แต่เป็นการทำกิจกรรมเคล้าน้ำตา และเสียงหัวเราะในตอนท้าย
ม. เกษตรเป็นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรับน้องมานาน เรามีระบบ SOTUS ที่เคยเข้มแข็งในอดีต เราเคยเคารพในระบบ seniority แต่กิจกรรมบางอย่างก็อาจจะมีอันตรายแฝงอยู่และอาจไม่ได้เหมาะสมกับเด็กทุกคน ทำให้ต้องมีการเข้มงวดตรวจตรากิจกรรมนี้เป็นพิเศษ จนตอนหลังแทบความโหดและความเข้มงวดจึงเจือจางลงไปมาก
การรับน้องใหม่บรรยากาศจะต่างจากวันแรกที่นัดมาทำกิจกรรมก่อนเปิดเทอมมากมาย วันทำกิจกรรมครั้งแรกเป็นครั้งแรกที่ได้เจอเพื่อนๆซึ่งต้องอยู่ด้วยกัน เรียนด้วยกันไปถึง 4 ปี และอาจมากกว่านั้นสำหรับบางคน กิจกรรมวันแรกมีแต่เสียงหัวเราะ อบอุ่นและเป็นกันเองกับพี่ๆ แต่การรับน้องใหม่ช่างเป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรั[ช่วงเวลานั้นการประชุมเชียร์เหมือนฝันร้าย...
เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เราก็เคยเป็นนิสิตใหม่ ต้องเข้าพิธีกรรมรับน้องที่แสนจะลำบาก (ในตอนนั้น) ต้องเข้าประชุมเชียร์ มีพี่ๆมายืนล้อมรอบและกดดัน ต้องนิ่ง ต้องฟังที่พี่ๆๆพูดถึงบางครั้งจะขัดแย้งในใจจนไม่อยากทำกิจกรรมนี้เลย ทำไมต้องท่องชื่อเพื่อนให้ได้ทุกคนทั้งชื่อทั้งนามสกุล ไหนจะเรียนยาก ไหนจะกิจกรรมโหด จนชักจะท้อใจ...ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำตามนั้น ทำไมต้องวิ่ง...ทำไมต้องรับโทษทั้งรุ่น
เพื่อนมาสายคนนึง ทุกคนต้องลุกนั่ง เพื่อนหายไปคนนึง พี่ๆก็มาถามๆอยู่นั่นว่าไปไหน เราจะไปรู้ได้ไง พอไม่รู้ก็โดนทำโทษอีก เอะอะก็ลุก-นั่งเท่าจำนวนรุ่น เราอยู่รุ่น 51 ก็ลุก-นั่ง 51 ที...ขอบอกว่าโครตเหนื่อยเลย
แต่พอจบกิจกรรมนั้น และยิ่งจบการศึกษาออกมาทำให้ได้รู้ว่าช่วงเวลาที่เราแสนจะทรมานนั้นมีประโยชน์ซ่อนอยู่ มันเป็นการสอนให้เรารู้จักความสามัคคี และมีระเบียบวินัย สอนให้เราเคารพรุ่นพี่ (แบบมีเหตุผล) เป็นการสอนที่โหดไปหน่อยแต่ก็ได้ผลที่คุ้มค่า
และวันนั้นถ้าพี่ๆไม่บังคับให้ท่องชื่อเพื่อนก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะไม่รู้จักเพื่อนๆเมเจอร์อื่นๆเลย เราไม่ใช่เด็กกิจกรรม ไม่ใช่คนชอบสังสรรค์เฮฮา แล้วจะไปรู้จักคนอื่นๆได้ตอนไหน แต่ทุกวันนี้เรายังได้ติดต่อเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เรียนด้วยกัน ยังรู้จักกัน คุยกันก็เพราะตอนรับน้องนั่นแหละ
การนินทารุ่นพี่ตอนรับน้องก็เป็นอะไรอีกอย่างที่มันส์มากๆ ด่ารุ่นพี่แบบใช้ความสามัคคีขั้นสูง ทุกคนอือออห่อหมกกันหมด นึกแล้วก็ขำดี
พอเห็นเด็กๆกำลังจะเข้าสู่ไซเคิลที่เราเคยอยู่ก็อดรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆไม่ได้
Create Date : 25 พฤษภาคม 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2551 11:19:29 น. |
Counter : 9636 Pageviews. |
|
|
|
อ่านแล้ว ก็คิดไปถึงตอนนั้นเหมือนกัน
จำได้ว่า เจใหญ่ anti เรื่องรับน้องสุด-สุด
แทบไม่เคยเข้าร่วมอะไรกับเค้าเลย
แต่ว่านะ...มันก็ยังเป็นเพื่องของพวกเราอยู่ดี
แม้ในตอนนั้น พวกรุ่นพี่จะขู่นักขู่หนา ว่าพวกที่ไม่เข้าร่วม
จะเป็นคนที่ไม่มีใครคบ...ก็ตาม
มาถึงตอนนี้ พี่ก็ยังเชื่อเสมอว่า ระบบ SOTUS นั้น...ดีแน่นอน
แต่คนที่ใช้ระบบนั้นต่างหากที่เป็นปัญหา