มหาลัย มหาหลอก เด็กชายบ้านนอก เด็กหญิงบ้านนา
มาถึงมหาลัยตั้งแต่ 11 โมงครึ่ง แต่ไม่เห็นมีใครมาเลย อาจารย์ของเราก็ยังไม่มา เอ...หรือว่าอาจารย์ไปทานข้าวหว่า?
ว่างจัด ว่างเกินไปเลยมาหาทางเขียนอะไรให้วุ่นวายเล่น
ใบปริญญานั้นสำคัญไฉน?
หลายคนที่ประสบความสำเร็จในวันนี้เขาไม่มีแม้แต่ใบปริญญา หรือวุฒิการศึกษาที่สูงส่ง แต่เขาก็ทำงานมุมานะจนประสบความสำเร็จได้ บางคนเรียนจนจบโท จบเอก แต่ยังไม่รู้แม้แต่ว่าไอ้ที่เรียนเรียนมาน่ะ ชอบหรือเปล่าด้วยซ้ำ
คนหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นฉันด้วยก็ได้
ไม่ปฎิเสธหรอกนะว่าใบปริญญามันเป็นเสหมือนทางที่ราดด้วยคอนกรีต ขับรถไปก็นุ่มสบาย ไม่สะเทือนก้นให้ลำบาก แต่คนที่ต้องทำงานเอาเอง มุมานะบากบั่นมันเหมือนขับรถไปในทางที่ขรุขระ ทางแสนจะแย่ หลุมบ่อมากมายให้ต้องขับหลบ รถสะเทือนเสียจนหัวสั่นหัวคลอน
แต่ปลายทางมันอาจจะไปที่เดียวกันใช่ไหม ปลายทางอาจไม่แตกต่างกันเลยนั่นคือความสำเร็จ
ใครจะไปรู้ ทางที่ขรุขระนั้นอาจเป็นทางลัดให้ไปสู่ฝั่งฝันก็ได้
ดูเอาเถอะคนที่เรียนสูงส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเกือบทั้งนั้นแหละ เป็นลูกจ้างของคนที่จบแค่ป.4 น่ะ ไม่ต้องดูไกล...พ่อเพื่อนเราเอง จบป.4 ทำงานตั้งแต่ยังเด็กตอนนี้ส่งลูกเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ 2 คน คนละ 2 ใบ เพื่อฉันยังเคยเปรยๆว่าไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่พ่อมันทำไหม เขียนมาตั้งขนาดนี้แต่ยังไม่แน่ใจ
ที่บอกไปนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝันของทุกคนคือความร่ำรวย แค่ยกตัวอย่างของการประสบความสำเร็จเท่านั้น
เราเรียนมาตั้งแต่ยังเล็ก โรงเรียนสอนให้มีความรู้ ความรู้ที่มาจากที่ผู้อื่นเค้าคิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่โรงเรียนลืมสอนให้เราคิด ลืมสอนจินตนาการ
โทมัส เอวา เอดิสันคงประดิษฐ์หลอดไฟไม่สำเร็จถ้าเค้าไม่รู้จักการคิดนอกกรอบ อะไรที่คนอื่นว่าเป็นไปไม่ได้ เค้ากลับทำให้มันเป็นไปได้ และเกิดประโยชน์กะไอ้คนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างหนังฝรั่งละกัน เราย้อนกลับไปดูหนังเมื่อสมัย 10 กว่าปีที่แล้ว เรื่องหุ่นยนต์ หรือยานอวกาศ สมัยนั้นคงเป็นเรื่องโครตเพ้อฝันเลย...โหย..หุ่นยนต์เป็นตัวๆกอบกู้โลก
ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นสร้างหุ่นยนต์สำเร็จแล้วล่ะ
หนังไทยเหรอ...เมื่อ 10 ปีก่อนที่ดังคงเป็นบ้านผีปอบละมั้ง วิ่งหนีผี ลงไห ลงตุ่ม
ไม่ได้บอกว่าหนังไทยไม่ดี แต่บรรยากาศบ้านเราไม่เอื้อให้เด็กมีจินตนาการมากนัก แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นมากและเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เด็กไทยประดิษฐ์อะไรเจ๋งๆออกมาเพียบ เครื่องรดน้ำอัตโนมัติโดยวัดความชื้นของดินเป็นตัวกำหนด หรืออะไรอีกมากมาย
แต่สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือ บ้าปริญญา
ส่งมันเข้าไปเถอะลูกน่ะ ให้มันเรียนสูงๆ
ฉันอยากจริงๆให้บ้านเรามีเด็กที่จบม.ปลายแล้วลองหางานดูว่าชอบแบบไหน เพราะการเอนทรานเข้ามาแล้วมันเหมือนเป็นตัวกำหนดอนาคตเราไปอีก 30 - 40 ปีข้างหน้าไปเลยนะ
กว่าเราจะรู้ว่าเราชอบเขียนหนังสือมากกว่าการเรียน food sci ก็ต่อเมื่อเราเรียนปริญญาโทเข้ามาเป็นปีที่ 2 แล้ว
ถ้ารู้อย่างงี้คงเลือกที่จะเรียนอักษรดีกว่า
Create Date : 17 เมษายน 2549 |
|
9 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2549 12:07:10 น. |
Counter : 706 Pageviews. |
|
|
|
เรียนไปด้วย เขียนหนังสือที่เรารักไปด้วยก็ได้นะคะ