การบริหารงานบุคคลกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินพนักงาน
ที่กล่าวมาตั้งแต่ตอนที่1 ถึงตอนที่6 คิดว่าทุกท่านคงเห็นภาพการเป็นหนี้สินแล้วนะครับว่า พนักงานในองค์กรของท่าน จะได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากการบริหารจัดการหนี้สินที่ไม่ถูกวิธี หากยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน ผมขอสรุปให้ท่านเห็นภาพที่ชัดเจนดังนี้ครับ 1.เมื่อพนักงานเป็นหนี้ สิ่งที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกเลยคือ สภาพคล่องในการใช้จ่ายเงินในครอบครัว หรือแม้กระทั่งพนักงานที่ยังเป็นโสดก็ตาม เชื่อได้ว่า คงไม่สะดวกเหมือนตอนที่ไม่เป็นหนี้ครับ 2.สิ่งที่จะตามมาต่อไปก็คือ ความเครียด ซึ่งปกติมนุษย์อย่างเราๆ นี้ ก็มีความเครียดกันได้สารพัดเรื่องอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดเรื่องสุขภาพ เรื่องครอบครัว เรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องคนรอบข้าง 3.หากอยู่ในช่วงที่พนักงานยังคงสามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ ก็อาจจะยังพอมีสติที่จะรับมือกับเจ้าหนี้สินต่างๆ ที่รุมเร้าอยู่ได้ครับ แต่ถ้าหากพนักงานอยู่ในช่วงจังหวะที่ไม่สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ด้วยตนเองแล้ว สิ่งที่จะตามมา ซึ่งบางทีไม่อาจคาดเดาได้ว่าพนักงานจะบริหารจัดการอย่างไรกับตัวเองและครอบครัว ก็เป็นสิ่งที่เราๆ ไม่อยากให้เกิดขึ้นครับ ตัวอย่างเช่น 3.1 หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ซึมเศร้า ( ซึ่งปัจจุบัน คนไทยเป็นโรคดังกล่าวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ) 3.2 ลาออกจากงานหนีหนี้ ซึ่งอาจหมดอนาคตที่ดีได้ 3.3 ฆ่าตัวตายหรืออาจฆ่าคนในครอบครัวด้วย เพื่อหนีหนี้สิน 3.4 ปล้น ชิงทรัพย์ เพื่อหาเงินมาชำระหนี้หรือใช้จ่ายในยามขัดสน 3.5 กู้ยืมเงินในระบบ หรือกู้เงินนอกระบบ ซึ่งดอกเบี้ยร้อยละ 10-20 ต่อเดือน ( ซึ่งผิดกฎหมายและโหดร้ายต่อคนที่เป็นหนี้อย่างมาก ) 3.6 จำนำ จำนองหรือขายทรัพย์สินที่มี เพื่อปลดหนี้สิน 3.7 ทะเลาะกันในครอบครัวบ่อยครั้ง เนื่องจากเงินไม่พอใช้ อีกทั้ง บางครอบครัว ไม่ได้วางแผนเรื่องการมีบุตร ก็อาจส่งผลกระทบกับบุตรในเรื่อง การศึกษาของบุตรหรือค่าใช้จ่ายของบุตรได้ 3.8 ถูกผู้คนรอบข้างดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัว 3.9 เป็นผู้ถูกฟ้องล้มละลาย หรือถูกอายัดเงินเดือนหรือทรัพย์สิน ดังนั้น เราในฐานะนักบริหารงานบุคคล หากเราต้องการช่วยเหลือพนักงานผู้ตกทุกข์ได้ยาก ที่กำลังจะเป็นหนี้สินหรือได้หลุดเข้ามาอยู่ในวงจรของการเป็นหนี้สินแล้วก็ตาม ผมถือว่าเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ประการหนึ่งทีเดียวครับประกอบกับการจะสร้างให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) และองค์กรแห่งความผูกพันของพนักงาน(Engagement Organization)เราก็ควรจะมีมาตรการป้องกันและมาตรการการช่วยเหลือพนักงาน ดังต่อไปนี้ครับ 1.นับตั้งแต่ก้าวแรกที่พนักงานเริ่มทำงานกับองค์กรของท่าน ท่านควรให้ความรู้เกี่ยวกับการออม การบริหารค่าจ้างเงินเดือน การเป็นหนี้ การปลดหนี้ ในการปฐมนิเทศพนักงานในช่วงของการเริ่มต้นทำงานครับ เพื่อเป็นวัคซีนป้องกันการดำเนินชีวิตที่อาจจะผิดพลาดจากการเป็นหนี้ก็เป็นได้ครับ 2.จัดตั้งคลีนิกให้คำปรึกษาเรื่องการบริหารหนี้สิน โดยพนักงานสามารถขอเข้ารับการปรึกษาได้อย่างเป็นความลับและไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อหน้าที่การงานของพนักงานท่านนั้นๆ ครับ 3.เรียนเชิญสถาบันการเงินต่างๆ กูรูทางด้านการออมเงิน การลงทุน หรือการบริหารหนี้สินอย่างมืออาชีพ มาให้ความรู้ให้คำปรึกษากับพนักงานที่ยังไม่เป็นหนี้และที่เป็นหนี้แล้ว 4.ในบางครั้งที่พนักงานถูกทวงหนี้แล้วไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ท่านอาจจัดหาผู้เชี่ยวชาญในด้านการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับเจ้าหนี้หรือสำนักงานกฎหมาย โดยช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาในเรื่องดังกล่าวนี้แทนพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจที่จะต่อสู้กับชีวิตและหนี้สินต่อไปได้ครับ 5.กรณีพนักงานถูกอายัดเงินเดือน ท่านในฐานะนักบริหารงานบุคคลควรแจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงทราบในเบื้องต้นและควรชี้แจงต่อผู้บริหารระดับสูงว่า พนักงานที่ถูกอายัดเงินเดือนต้องการโอกาสในการปลดหนี้ เพราะฉะนั้นการมองว่าพนักงานที่ถูกอายัดเงินเดือนไม่น่าไว้วางใจหรือเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของพนักงานที่ถูกอายัดเงินเดือน หรือบางองค์กรถึงกับเลิกจ้างพนักงานที่ถูกอายัดเงินเดือนท่านนั้นไปเลยก็มี ซึ่งผมคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมเพื่อนมนุษย์ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากครับ เราควรจะหาทางช่วยเหลือเขาหรือเธอ มากกว่าที่จะซ้ำเติมเขามิใช่หรือครับ คนเราจะเห็นใจกัน รักกันหรือผูกพันกัน ก็พิสูจน์กันตอนที่ลำบากด้วยกันเนี่ยละครับ ดังนั้น พนักงานจะผูกพันกับองค์กร ซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับองค์กร ทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจก็ตอนที่ผู้บริหารเห็นคุณค่าของเขาหรือเธอ หรือให้โอกาสเขาได้ลืมตาอ้าปากได้ในช่วงวิกฤตที่เข้ามากระทบกับชีวิตของเขาหรือเธอในช่วงดังกล่าวนี้ครับ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ การบริหารหนี้สินอย่างมีสติและมีแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องนะครับ เชื่อเถอะครับว่า ตราบใดก็ตามที่เรายังมีลมหายใจ มีขวัญและกำลังใจที่ดี ชีวิตของเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวันและทุกวินาทีครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ และหากท่านมีคำถามใดๆ เพิ่มเติม ผมยินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำครับ E-mail Address :somchailak1@hotmail.com หรือโทรศัพท์ 081-652-9843 สวัสดีครับ.... สมชาย หลักคงคา somchailak1@hotmail.com 081-6529843
Create Date : 19 กรกฎาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 7 สิงหาคม 2556 16:20:55 น. |
Counter : 3916 Pageviews. |
|
|
|