ศึกฟุตบอลโลก 2014 ฉบับแซมบ้า ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. พร้อมกับตำแหน่งแชมป์สมัยที่ 4 ของทีมชาติเยอรมนี 10 ฉากแห่งความทรงจำ ที่น่าจดจำในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้
|
1.วอลเลย์สุดสวยของ ทิม เคฮิลล์ ฟุตบอลโลกหนนี้ ออสเตรเลีย ไม่วายถูกมองเป็นทีมไม้ประดับอีกเช่นเคย เมื่อต้องถูกจับสลากมาอยู่ร่วมสายบี กับทีม เนเธอร์แลนด์ สเปน และ ชีลี และแม้ว่า ซ็อคเกอร์รูส์ จะไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ ทิม เคฮิลล์ ยังได้ฝากลูกวอลเลย์สุดสวยแบบไม่จับที่ยิงให้ทีมไล่ตามตีเสมอ อัศวินสีส้ม 1-1 ไว้เป็นที่พูดถึงตลอดทัวร์นาเมนต์นี้
|
2.สเปน แชมป์เก่าตกรอบแรก บิเซนเต เดล บอสเก พาทีมชาติสเปน กลับมาป้องกันแชมป์โลกหนนี้ ด้วยดีกรีแชมป์ยุโรป 2 สมัยในปี 2008 และ 2012 แต่ก็ต้องถูกอาถรรพ์แชมป์เก่าเล่นงานจนตกรอบแรก ถูกวิจารณ์หนักตั้งแต่เกมเปิดสนามแพ้ เนเธอร์แลนด์ 1-5 ส่วนเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มต้องการชนะ ชิลี เพื่อแย่งตั๋วเข้ารอบ แต่ก็ต้องลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ 0-2 ปิดตำนาน ติกี ตากา ที่เคยยิ่งใหญ่
|
3.คอสตา ริกา ม้ามืดตัวจริง ใน กรุ๊ป ออฟ เดธ กลุ่มดี ที่มีทั้ง คอสตา ริกา, อังกฤษ, อิตาลี และอุรุกวัย ใครจะไปเชื่อว่าทีมจากอเมริกลางจะทะลุเข้ารอบด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม เอาชนะทั้งทีม จอมโหด และ อัซซูรี ทั้งที่ในทีมมีสตาร์ดังชื่อคุ้นหูแค่ ไบรอัน ลุยซ์ เท่านั้น ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะผ่าน กรีซ และมายันเสมอกับ เนเธอร์แลนด์ ก่อนจะแพ้ในการดวลจุดโทษ เรียกความเป็นม้ามืดตัวจริงของทัวร์นาเมนต์นี้
|
4.อัศวินสีส้มใช้ผู้เล่นครบ 23 คน เรียกมาแล้วก็ต้องส่งลงสนาม โดยถือเป็นครั้งแรกของฟุตบอลโลกที่มีการส่งนักเตะลงสนามครบทั้ง 23 คน หลัง หลุยส์ ฟาน กัล ตัดสินใจส่ง มิเชล ฟอร์ม ลงสนามแทน ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ช่วงท้ายเกมชิงอันดับ 3 กับ บราซิล ให้โอกาสนักเตะทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์เวิลด์คัพ ก่อนจะปิดฉากยิ่งใหญ่คว้าที่ 3 ไปครอง
|
5.18 นาที 5 ประตู ที่ เบโล ฮอริซอนเต กลายเป็นความอัปยศ และโศกนาฏกรรมในประวัติศาสตร์ลูกหนังแซมบ้า เมื่อทีมชาติบราซิลที่ไม่มีทั้ง เนย์มาร์ และ ติอาโก ซิลวา เละไม่เป็นขบวนถูก เยอรมนี เดินเครื่องไล่ยิงแบบไม่ไว้หน้าเจ้าภาพ โดยช่วงนาที 11-29 ฮูลิโอ เซซาร์ ถูกเจาะตาข่ายไปถึง 5 ลูก ก่อนลงเอยด้วยผลแพ้ 1-7 ในรอบรองชนะเลิศที่สนาม เบโล ฮอริซอนเต
|
6.Van Persieing เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่รอบแรกๆ ของเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ ด้วยลีลาการพุ่งโหม่งพังประตูสำคัญของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี กัปตันทีมเนเธอร์แลนด์ ที่เรียกว่า Van Persieing ซึ่งเป็นประตูตีเสมอ 1-1 หลังถูกสเปน นำไปก่อนในเกมนัดเปิดสนาม ก่อนที่ตัดกลับมาจบ 90 นาทีจะเป็นแฟนดัตช์ได้เฮด้วยสกอร์ 5-1
|
7.แจ้งเกิด เจมส์ โรดริเกวซ สู่ระดับโลก หากไม่พูดกันถึงแชมป์โลก คนที่เด่นสุดๆ ในฟุตบอลโลก 2014 หนีไม่พ้น เจมส์ โรดริเกวซ ปีกจากทีมชาติโคลอมเบีย ที่ฉายแววซูเปอร์สตาร์ออกมาเต็มที่ ด้วยผลงานยิง 6 ประตูจาก 5 เกม พาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และฟอร์มในสีเสื้อทีมชาติหนนี้ถือเป็นใบเบิกทางสำคัญที่อาจจะทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่กับทีมในยุโรปที่ใหญ่กว่า โมนาโก
|
8.บทบาทของผู้รักษาประตู เวิลด์ คัพ บนแผ่นดินกาแฟมีหลายเรื่องเกี่ยวกับผู้รักษาประตูที่น่าจำจด ซึ่งไม่บ่อยครั้งที่จะมีนักเตะจากตำแหน่งนายด่านถูกยกย่องพร้อมๆ กัน ไล่ตั้งแต่ สถิติเซฟสูงที่สุดต่อเกมที่ 16 ครั้ง ในฟุตบอลโลกของ ทิม ฮาวเวิร์ด และ มานูเอล นอยเออร์ กับบทบาท สวีปเปอร์-คีปเปอร์ ที่ออกมาตัดบอลนอกกรอบโทษ 21 ครั้งในเกมกับ แอลจีเรีย ไหนจะมี ทิม ครูล ที่เป็น ซูเปอร์ซัพ-ซูเปอร์เซฟ ลงมาเซฟ 2 จุดโทษ หรือ ลอเรนา โอชัว จอมหนึบผู้หยุดประตูเจ้าภาพตั้งแต่รอบแรก
|
9.โคลเซ ดาวยิงสูงสุด มิโรสลาฟ โคลเซ จะต้องเป็นตำนานของฟุตบอลโลกไปอีกนาน หลังซัดประตูที่ 16 ในทัวร์นาเมนต์ ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุด แซงหน้า โรนัลโด ของบราซิล ที่เคยทำไว้ 15 ประตู ตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งหากจะหาคนมาทำลายสถิติของเขาคงจะมีเพียง โธมัส มุลเลอร์ รุ่นน้องทีมชาติที่เวลานี้ซัดไป 10 ประตูเพียงคนเดียวเท่านั้น
|
10.ประตูแชมป์โลกของ เกิตเซ ตลอดทัวร์นาเมนต์ มาริโอ เกิตเซ เล่นในฟอร์มที่เรียกว่าต่ำกว่ามาตรฐาน แต่สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษเสมอ เขาลงมายิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ พาทีมเอาชนะ อาร์เจนตินา 1-0 พาชาติบ้านเกิดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ในรอบ 24 ปี ถือเป็นนักเตะสำรองคนแรกที่ยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วย |