สเปนแชมป์โลก!หน้าวิทย์ยิงดัทช์ 10 ตัวระทึก 1-0



สเปนแชมป์โลก!หน้าวิทย์ยิงดัทช์ 10 ตัวระทึก 1-0


"กระทิงดุ"สเปนปลดล็อกคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรกให้ตัวเองหลังสู้กับฮอลแลนด์
ถึงฏีกาต่อเวลา 120 นาทีจากประตูชัยท้ายเกมของอันเดรียส อินิสต้าโดยจอนนี่
ไฮติงก้าสังเวยใบแดงให้ชาวดัทช์ชอกช้ำปิดท้ายอีกด้วยแถม"หมึกพอล"กลายเป็น
สัญลักษณ์เทพชาบูทายผลถูก 8 นัดรวด


ฟุตบอลโลก
2010 รอบชิงชนะเลิศ



วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฏาคม 2553


ฮอลแลนด์ 0 -
1 สเปน



ประตู :
0-1 อังเดรส อิเนสต้า น.116



ก่อนเริ่มเกมราวเกือบหนึ่งชั่วโมงก็มีการแสดงพิธีปิดจากทางเจ้าภาพ สวยงาม
และอลังการงานสร้างดีแท้



'อัศวินสีส้ม' ฮอลแลนด์มาด้วยทีมชุดเต็มสูบ เวสลี่ย์
สไนจ์เดอร์ผ่านเข้าฟิตลงทำเกมในแดนกลาง ในขณะที่มีฟาน
เพอร์ซี่ยืนค้ำด้านหน้าเช่นเคย และที่ขาดไม่ได้ร็อบเบน
ที่จะควรป่วนเจาะแนวรับของสเปน และหาโอกาสกดสูตรท่าไม้ตายเพื่อลุ้นทำประตู



'กระทิงดุ' สเปน ยังคงดร็อปเฟร์นานโด ตอร์เรสไว้ที่ข้างสนามเช่นเดิม
และส่งเปโดรที่เกมรอบรองชนะเลิศทำผลงานได้ดีลงเล่นแทน
ส่วนตำแหน่งอื่นก็ยังคงใช้ผุ้เล่นชุดเดิม ซึ่งนอกจากจะลุ้นแชมป์แล้ว ดาวิด
บีญ่าดาวยิงของทีมยังลุ้นเป็นดาวซัลโวอีกด้วย หลังจากทำไป 5 ประตูแล้ว



รูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมเหมือนกันเป๊ะ 4-3-2-1
แต่ทางสเปนอาจจะมองว่าเป็น 4-3-3 ก็ได้เช่นเดียวกัน



เกมนัดชิงชนะเลิศได้มีการใช้ฟุตบอลลูกใหม่ ซึ่งก็คือ "โจบูลานี่"
มีลักษณะคล้ายกับ 'จาบูลานี่' จะต่างกันก็ตรงที่สีที่พาดลายรอบลูกฟุตบอล
จะเป็นสีทอง



ก่อนเริ่มเกมฟาบิโอ
คันนาวาโร่กัปตันทีมชาติอิตาลีได้รับเกียรติให้เป็นผู้ถือถ้วยแชมป์ฟุตบอล
โลกลงสนาม ก่อนที่จะวางบนแท่น



แต่ดันมีแฟนบอลแสนทะลึ่ง
วิ่งฝ่าการ์ดลงสนามพร้อมพุ่งเข้าไปเชยชมถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก
ทำเอาการ์ดต้องรีบวิ่งเข้ามาแทคแล้วหิ้วออกไปนอกสนามทันที


ครึ่งแรก

กระทิงเกือบ
เบิกร่อง


เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที สเปนก็เกือบจะทำประตูขึ้นนำไ้ด้
จากจังหวะฟริคิกทางฝั่งขวา บอลโยนลอยโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แซร์คิโอ
รามอสเบียดกองหลังของฮอลแลนด์สะบัดหัวโหม่งบอลได้ก่อน
แต่ติดเซฟของสเตเคเลนเบิร์กที่ยืนตำแหน่งได้ดี บอลยังไม่ตาย
ไปเข้าทางของเคราร์ค ปิเก้ทางฝั่งซ้าย พยายามจะเปิดบอลเข้ากลางใหม่
แต่ติดบล็อกของฮอลแลนด์ออกหลังไปแบบฉิวเฉียด


ดัทช์ได้ลอง
บ้าง


อีก 3 นาทีต่อมา เป็นโอกาสลุ้นของทางฝั่งฮอลแลนด์้บ้าง จากจังหวะที่ชาบี้
อลอนโซ่จ่ายขวางสนามหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง แต่บุสเกตส์ดันเตะพลาด
หลุดไปถึงเดิร์ค เคาท์ที่พอจับบอลได้ก็รีบยิงทันที แต่บอลเบาไปนิด
คาซิญาสรับสบาย


ซี๊ด!รามอ
สทำสวย-บีญ่าวอลเล่ย์


นาทีที่ 11 แซร์คิโอ รามอสทำได้สวยงาม จากจังหวะที่ได้บอลทางฝั่งขวา
เลี้ยงจี้เข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโยกหลอกเดิร์ค
เคาท์หลุดเข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู
แต่ติดบล็อกของไฮติงก้าออกหลังไป



จังหวะเตะมุม สเปนเล่นสั้นก่อนที่ชาบี้จะเปิดบอลเข้าในกรอบเขตโทษ
บอลเลยไปเสาสองดาวิด บีญ่ายืนว่างโล่งคนเดียววอลเล่ย์ด้วยซ้ายทันที
แต่บอลพุ่งเข้าข้างหน้าต่างไป


เพอร์ซี่โดน
จนได้


นาทีที่ 15 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ที่วันนี้ทุ่มเทมากไปนิด
เข้าบอลจังหวะอันตรายใส่บุสเกตส์ตั้งแต่ต้นเกม
และยังเข้าช้าใส่คัปเดบีญ่าอีก
ทำให้เขาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของนัดชิงชนะเลิศไปเลย


อูยยย!ปูโยลเสียบหัวไข่โดนเหลือง

ผ่านมาแค่ 2 นาที คาร์เลส ปูโยลก็โดนใบเหลืองบ้าง
จากจังหวะที่เขาพยายามจะเข้าตัดบอลก่อนที่อาร์เยน ร็อบเบนจะเข้าถึง
แต่ช้าไปหนึงจังหวะทำให้เสียบเข้าข้อเท้าของ 'หัวไข่' เต็มรัก ฮาวเวิร์ด
เว็บบ์วิ่งมาแจกใบเหลืองให้แบบไม่ต้องคิดนาน


เหลือง
ว่อน!บอมเมล+รามอส


นาทีที่ 23 เกมนี้อัดกันหนักน่าดูชมเลยทีเดียว คราวนี้เป็นคิวของมาร์ค ฟาน
บอมเมลที่ไปสอยอังเดรส อิเนสต้าจนตัวลอย เจอใบเหลืองเข้าไปกิน
และในอีกนาทีต่อมาก็เป็นแซร์คิโอ รามอสที่พุ่งเสียบใส่เดิร์ค เคาท์
เว็บบ์ก็แจกใบเหลืองให้อีก เริ่มเกมมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ฟาดใบเหลืองกันไปแล้วฝั่งละ 2 ใบ


เดอ
ยองกังฟูคิก!


นาทีที่ 29 คู่กองกลางของฮอลแลนด์ได้ใบเหลืองกันครบเป๊ะ จากจังหวะที่ไนเจล
เดอ ยองพยายามที่จะลอยตัวขึ้นสกัดบอล แต่เหมือนจะก่ะผิดพลาดหรืออย่างใด
ไปถีบเอายอดอกของชาบี้ อลอนโซ่จนถึงกับหงอยหลังร่วงลงพื้น
ผู้ตัดสินวิ่งเข้ามาแจกใบเหลืองให้ทันที หวาดเสียวดีแท้


อีเคร์
เคือง!ดัทช์จ่ายคืนเกือบเข้า


นาทีที่ 34 อีเคร์ คาซิญาสออกอาการเคืองเล็กน้อย
จากจังหวะที่ผู้เล่นของทางฮอลแลนด์จ่ายบอลกลับมาให้กับเขาจากระยะไกล
บอลลอยโด่งแล้วเด้งข้ามหัวคาซิญาส
จนเจ้าตัวต้องกระโดดสุดเยียดเพื่อสะกิดปัดออกหลังไป พอบอลออก
คาซิญาสหันกลับไปค้อนแข้งดัทช์ชนิดที่สายตาไม่เป็นมิตรสุด ๆ



พอจังหวะเตะมุมฮอลแลนด์ก็ส่งคืนให้กับคาซิญาสที่หน้าปากประตู
ด้วยน้ำใจนักกีฬา


เกมปะทะกัน
หนัก


เกมนี้นักเตะทั้งสองทีมค่อนข้างจะเข้าปะทะกันหนักหน่วงพอสมควร
โดยในช่วงท้ายเกมเวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ไปพุ่งยันปะทะใส่ทางแซร์คิโอ บุสเกตส์
จนลงไปนอนดิ้นกับพื้น แต่ยังดีที่ฮาวเวิร์ด เว็บบ์แค่เตือนเท่านั้น


หัวไข่กด
สูตรติด-อีเคร์เซฟ


ช่วงทดเวลา อาร์เยน
ร็อบเบนเกือบจะพังประตูได้จากจังหวะที่เขาได้บอลจากช่วงคลุกคลิกหน้ากรอบเขต
โทษทางฝั่งขวา เจ้าตัวไม่รอช้ารีบกดสูตรยิก ๆ
โยกหลอกเข้าซ้ายแล้วปั่นยิงจังหวะแรกทันที บอลพุ่งเลียดไปทางเสาแรก
แต่คาซิญาสพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นละเสียบเสาแน่



จบ 45 นาทีแรกของนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ฮอลแลนด์เสมอกับสเปนอยู่ 0-0
โดยในเกมนี้ผู้เล่นในแดนหน้าของทั้งสองทีมต่างก็ได้บอลน้อยมากในช่วงครึ่ง
แรก


ครึ่งหลัง


คัปเดบีญ่า
เตะวืดเฉย


เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 3 นาที โจน
คัปเดบีญ่าก็เกือบจะทำประตูขึ้นนำให้กับทีมชาติสเปนได้
จากจังหวะเตะมุมที่ปูโยลเทคตัวขึ้นโหม่งสะกิดบอลไปเสาสอง
ที่มีคัปเดบีญ่ายืนว่างโล่งอยู่คนเดียว แต่กลับแปด้วยขวาวืด เลยผ่านไป
เจ้าตัวถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นเลยทีเดียว


ดัทช์โดน
เหลืองอีก 2


นาทีที่ 56 ผู้เล่นของฮอลแลนด์ยังคงเสียใบเหลืองอย่างต่อเนื่อง
จากจังหวะที่ไฮติงก้าไปเสียบสกัดเตะตัดขาใส่ดาวิด บีญ่า
แม้ตอนแรกเว็บบ์จะไม่เห็นเหตุการ
แต่หลังจากปรึกษากับผู้ช่วยแล้วก็เรียกไฮติงก้าไปแจกใบเหลืองให้
ซึ่งก่อนหน้านี้ฟาน บล็องค์ฮอร์สเพิ่งจะโดนไป
ทำให้ฝั่งฮอลแลนด์โดนใบเหลืองไปถึง 5 คนแล้ว


ซี๊ดดด!ไฮ
ติงก้าโหม่งเฉียดไปนิด


แค่ 2 นาทีต่อมา ฮอลแลนด์ได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่อาร์เยน
ร็อบเบนเปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษ
แม้ว่าไฮติงก้าจะโดนเบียดอยู่แต่ก็ยังสามารถโหม่งได้
เพียงแต่บอลพุ่งผ่านหน้าประตูไป


นาบาสแทนเปโดร

นาีทีที่ 61
สเปนตัดสินใจเปลี่ยนเอาเปโดรที่วันนี้ไม่สามารถแสดงพิษสงได้เท่ากับเกมกับ
เยอรมัน และส่งเฆซุส นาบาสลงมาลากเลื้อยทางริมเส้นแทน


หัวไข่
พลาด!เดี่ยวติดเซฟ


เพียงแค่ 1 นาทีต่อมา อาร์เยน ร็อบเบนก็ได้โอกาสทองแบบสุด ๆ วิ่งหลุดเดี่ยว
จากลูกจ่ายทะลุช่องของเวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์เข้าไปดวลกับทางอีเคร์
คาซิญาสแบบหนึ่งต่อหนึ่งได้แล้ว
แต่ลูกยิงของเขากลับติดเซฟของคาซิญาสที่แม้จะล้มตัวผิดทาง
แต่ใช้เท้าเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด น่าหวาดเสียวสุด ๆ


ดัทช์บล็อก
เซฟชีวิต


นาทีที่ 69 สเปนได้โอกาสทองจากจังหวะที่ชาบี้จ่ายไปด้านขวาให้กับนาบาส
ที่กระชากบอลขึ้นข้างหน้าแล้วรีบเปิดเลียดเข้ากลางกรอบเขตโทษ
ไฮติงก้าเหมือนจะสกัดได้ในจังหวะแรก
แต่บอลปลิ้นไปเข้าทางบีญ่าที่ยืนอยู่เสาสอง รีบวิ่งเข้าไปแปบอลทันที
แต่โดนบล็อกเอาไว้ได้ทันแบบเฉียดฉิว


ดัทช์แอบ
สู้-เอเีลียแทนเคาท์


นาทีต่อมาฮอลแลนด์ตัดสินใจเปลี่ยนเอาเดิร์ค เคาท์ออก แล้วส่งเอลเยโร่
เอเลียลงเล่นแทน นี่แสดงว่า 'อัศวินสีส้ม'
พร้อมที่จะเล่นเกมรุกมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว


ฟาน เดอ
วีลบล็อกได้สวย


นาทีที่ 77 ฟาน เดอ วีลช่วยพุ่งเซฟชีวิตของฮอลแลนด์ไว้ได้
จากจังหวะที่ดาวิด บีญ่าได้โอกาาสับไกยิงในกรอบเขตโทษแบบเหน่ง ๆ
แต่แบ็คจากอาหยักซ์ยังพุ่งเข้ามาบล็อกเอาไว้ได้ทันควัน


รามอสโขก
เหน่ง ๆ พลาด!!


จังหวะต่อเนื่องที่สเปนได้เตะมุม บอลโยนเข้าในกรอบเขตโทษ แซร์คิโอ
รามอสพุ่งเข้ามาคนเดียวได้โขกเหน่ง ๆ โล่ง ๆ จะ ๆ แต่เจ้าตัวกลับกดบอลไม่ลง
พุ่งข้ามคานออกไป


หัวไข่หลุด
เดี่ยวพลาดอีก!


นาทีที่ 83 อาร์เยน ร็อบเบนพลาดโอกาสทองอีกครั้ง
จากจังหวะที่เขาวิ่งควบแซงหน้าคาร์เลส ปูโยลแบบเห็น ๆ
แม้จะโดนเหนี่ยวแต่ยังฝืนต่อไปได้ ก่อนที่จะล็อกไปด้านขวาของตัวเอง
เพราะโดนปิเก้ดักเอาไว้ทางซ้าย ทำให้โดนคาซิญาสล้มตัวฉกบอลไปได้



จังหวะนี้ร็อบเบนรีบมาโวยใส่ฮาวเวิร์ด
เว็บบ์ทันทีว่าทำไมถึงไม่ให้เขาได้ฟาวล์ แต่ออกแอ็คชั่นมากเกินไป
ทำให้โโนใบเหลืองไปเป็นคนที่ 7 ของทางฝั่งฮอลแลนด์


เชสก์ลงสนาม
แทนคุณชาย


นาทีที่ 87 เชสก์ ฟาเบรกัสได้รับโอกาสลงสนามไปเล่นแทนชาบี้ อลอนโซ่
ดูท่าทางเฟร์นานโด ตอร์เรสอาจจะต้องรอถึงช่วงต่อเวลาเลยทีเดียว
หากหวังจะได้ลงเล่นในเกมนี้ แต่ต้องดูว่าจะมีทีมใดทำประตูได้หรือไม่


สไนจ์เดอร์
จะสไนเปอร์???


ช่วงท้ายของการทดเวลา เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน
ได้บอลเลยกลางสนามมาแค่เพียงม่กี่เมตร
เจ้าตัวตัดสินใจยิงไกลทันทีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทั้งที่เป็นจังหวะสวนกลับ
ของทีม แน่นอนว่าบอลพุ่งออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร



จบ 90 นาที ฮอลแลนด์กับสเปนเสมอกันอยู่ที่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30
นาที


ต่อเวลา
พิเศษครึ่งแรก


เว็บบ์ไม่
ให้จุดโทษ


เริ่มช่วงต่อเวลามาได้ 2 นาที
สเปนได้โอกาสบุกขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษของฮอลแลนด์บอลขลุกขลิกไปมา
แล้วไปเข้าทางของชาบี้ที่ก้างเท้าจะยิง
แต่กองหลังของฮอลแลนด์เข้ามาแหย่ขาสกัด ทำให้เตะไปโดนเท้า ชาบี้ล้มลงไป
แต่เว็บบ์ปฏิเสธที่จะให้เป็นจุดโทษ ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นสเปน


กระทิงพลาด
บ้าง!เชสก์หลุดเดี่ยวติดเซฟ


นาทีที่ 95 เชสก์ ฟาเบรกัสพลาดโอกาสทองที่จะทำประตูขึ้นนำ
จากจังหวะที่เขาวิ่งหลุดไปรับบอลแทงทะลุช่อง
มีโอกาสเดี่ยวดวลกับผู้รักษาประตูแล้ว
แต่ยิงไปติดเซฟของสเตเคเลนเบิร์กที่พุ่งออกมาบล็อกเอาไว้ได้ทัน
น่าเสียดายแทน


หน้าวิทย์
ตัดสินใจไม่ดี!!


นาทีที่ 99 อังเดรส
อิเนสต้าตัดสินใจไม่ดีในจังหวะที่เขาหลุดเข้าไปรับลูกจ่ายทะลุช่องของเชสก์
ฟาเบรกัสเข้าไปว่างโล่งโจ่ง มีเพียงฟาน บล็องค์ฮอร์สคนเดียวเท่านั้น
แถมยังมีเพื่อนรออยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง แต่เ้จ้าตัวสองจิตสองใจ
ก่อนจะพยายามกระชากขึ้นหน้าไป แต่โดนสกัดเอาไว้ได้
พลาดโอกาสทองไปแบบน่าเสียดาย


นาบาสยิง
แฉลบเกือบหาย


2 นาทีต่อมา เฆซุส นาบาสเกือบจะทำประตูขึ้นนำให้แก่สเปนได้
จากจังหวะที่เขาได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวา
ก่อนที่จะตัดสินใจยิงไปเสาแรกทันที บอลแฉลบกองหลังของฮอลแลนด์
มุมกล้องหลอกตาเหมือนจะเข้าจนเฮียบิ๊กจ๊ะร้อง "เรียบร้อย" ไปแล้ว
แต่กลับพุ่งติดข้างตา่ข่ายออกหลังซะนี่



จบครึ่งแรกของการต่อเวลา ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


ต่อเวลา
พิเศษครึ่งหลัง



ในที่สุดก็ถึงเวลาของเฟร์นานโด ตอร์เรสได้ลงสนาม
เพียงแต่น่าเสียดายแทนดาวิด บีญ่าที่ถูกถอดออก
และหมดสิทธิ์ลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวเดี่ยวที่เท่ากับทางเวสลี่ย์
สไนจ์เดอร์อยู่ที่ 5 ประตู


เอาแล้ว!ไฮ
ติงก้าโดนแดง


นาทีที่ 109 ฮอลแลนด์คงต้องลุ้นดวลจุดโทษเสียแล้ว เพราะจอห์นนี่
ไฮติงก้าโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
ในจังหวะที่ไปดึงอิเนสต้าก่อนที่จะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษได้
สเปนได้เปรียบในช่วงเวลาที่เหลือ 10 กว่านาทีแล้ว


หัวไข่เกือบ
โดน


นาทีที่ 114 อาร์เยน ร็อบเบนเกือบทำเพื่อนงานเข้าหนัก
จากจังหวะที่เขารับลูกจ่ายของสไนจ์เดอร์ซึ่งตัวเองล้ำหน้าอยู่
แต่กลับไปเล่นต่อพยายามจิ้มบอลเข้าประตู
ทำให้ผู้เล่นของสเปนรีบกรูเข้าไปกดดันผู้ัตัดสินให้แจกใบเหลืองที่สอง
แต่เว็บบ์ยังคงปราณีไม่ว่าอะไร


กระทิง
ดุ!!!หน้าวิทย์ซัดหาย


นาทีที่ 116 ในที่สุดสเปนก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้
จากจังหวะที่สเปนทำเกมขึ้นมา ตอร์เรสจ่ายข้ามไปให้อิเนสต้า
แต่โดนกองหลังสกัดออกมาก่อน แล้วบอลไปเข้าทางฟาเบรกัส
บรรจงไหลทะลุช่องให้กับอิเนสต้า ที่ได้ง้างเท้าซัดเหน่ง ๆ
บอลพุ่งผ่านมือสเตเคเลนเบิร์ก เสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม สเปนขึ้นนำ 1-0
หรือนี่จะเป็นประตูชัยของสเปน???


ตอร์เรสเจ็บ
เอง


ช่วงท้ายเกม นี่คือช็อตที่พิสูจน์การที่ตอร์เรสฟอร์มตกอย่างแท้จริง
จากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมของตัวเขาเอง
ในจังหวะที่เขาพยายามสปีดขึ้นไปรับบอลจากจังหวะสวนกลับของเพื่อน
แต่เหมือนจะมีอาการบาดเจ็บกระตุกขึ้นมาที่ขา
ทำให้เจ้าตัวต้องลงไปนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด



จบ 90 นาทีสเปนเอาชนะฮอลแลนด์ไป 1-0 จากประตูชัยของอังเดรส
อิเนสต้าในช่วงท้ายของการต่อเวลา
ส่งให้พวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไปอย่างยิ่ง
ใหญ่



ส่วนทางฮอลแลนด์ก็ต้องอกหักอีกครั้ง
หลังจากเข้าชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 3 ครั้ง
แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งไป


รายชื่อนัก
เตะทั้งสองทีม



ฮอลแลนด์ :
มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก 7.5,ยอริส แมธไทเซ่น 6,จอห์น ไฮติงก้า 4,จิโอวานนี่ ฟาน บล็องค์ฮอร์ส 6(บราฟไฮด์ 5 น.105),เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล 4.5,ไนเจล เดอ ยอง 5 (ฟาร์ท 5 น.99),มาร์ค ฟาน บอมเมล 5.5,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 4,เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ 7,เดิร์ค เคาท์ 5(เอเลีย 5.5
น.71),อาร์เยน ร็อบเบน 6.5


สเปน : อี
เคร์ คาซิญาส 6.5,คาร์เลส ปูโยล 6,เคราร์ด ปิเก้ 5.5,โจน คัปเดบีญ่า 6.5,แซร์คิโอ รามอส 8,แซร์คิโอ บุสเกตส์ 7,ชาบี้ อลอนโซ่ 6.5(ฟาเบรกัส 7
น.87),ดาวิด บีญ่า 6(ตอร์เรส 4.5 น.105),ชาบี้ 8,อังเดรส อิเนสต้า 8.5*,เปโดร 5(นาบาส 7.5 น.60)
































































ขอขอบคุณภาพและข่าวดีๆจาก//www.soccersuck.com/ss/






Free TextEditor



Create Date : 12 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 9:21:43 น.
Counter : 331 Pageviews.

1 comments
  
คงไม่ว่ากันนะที่จะบอกว่า "เศร้าจัง"
เพราะเป็นแฟนกังหันสีส้มมาช้านานอ่ะค่ะ
โดย: cvJ; วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:31:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ninetong30
Location :
กาฬสินธุ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31