|
20080818 วิพากษ์ UNITED vs NEWCASTLE
นัดแรกก็งานเข้าแล้วครับพี่น้อง
สวัสดีนัดเปิดฤดูกาลใหม่ครับ ทุกๆท่าน ช่างเป็นที่น่าเศร้าเหลือเกินนะครับ กับผลบอลเมื่อคืนนี้ของทีมรักของเรา เรื่องฟอร์มการเล่นยังไม่เท่าไหร่ เพราะกว่าครึ่งทีมนั้น ไม่ใช่ตัวหลักที่เราวางแผนไว้สำหรับฤดูกาลใหม่ แต่ที่น่าเศร้าจริงๆ กลับกลายเป็นขุมกำลังหลักในช่วงเปิดฤดูกาลต่างหาก ที่พากันเจ็บไข้ได้ป่วย จองคิวเตียงพยาบาลกันเป็นทิวแถว ไม่ทราบว่าไปติดเชื้อเฮียปลาดุกมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนี่
แค่เห็นรายชื่อ ผมก็เริ่มแปร่งๆในความรู้สึกขึ้นมาทันที เตเวซ หายไปไหนหว่า โด้พักอีกเดือนหลังผ่าข้อเท้า ฮาร์กรีฟส์ยังไม่ฟิตอีกรึ พาร์คก็ยังไม่หายแน่ๆ นานี่ติดแบนจากปีที่แล้ว แอนนี่ติดโอลิมปิก เฮียดุกนี่ถ้าลงได้ตั้งแต่นัดแรกก็ถือว่ามหัศจรรย์ ทั้งหมดนี่ ทำให้ป๋าเลือกที่จะจัดตัวลงสนามมาเป็น 4-4-2 มีน้าซาร์เฝ้าเสา แผงหลังยังได้ชุดใหญ่ มี บราวน์, ริโอ, วิดิช และเอวร่า แผงกองกลางสี่คนประกอบไปด้วย เฟล็ทเชอร์, สโคลส์, คาร์ริค และกิ๊กส์ ส่วนคู่กองหน้าใช้ แคมป์เบลล์ คู่รูนี่ย์ ในขณะที่สำรอง ถ้าไม่นับคุสแซ็ค โอเช และแกรี่ ก็มีแต่เด็กๆ คือ พอสเซบอน, ราฟาเอล, กิ๊บสัน และอีแวนส์...เฮ้อ
ในขณะที่นิวคาสเซิล เปิดตัวโคลอชชินี่ และ กูเตียร์เรซลงสนามทันทีในนัดแรกเลย วางตัวให้มาร์ตินยืนหน้าเป้า มีดัฟฟ์ คอยทำทางและเปิดป้อน ริมเส้นมีมิลเนอร์และกูเตียร์เรซวูบวาบ ส่วนแผงหลังนั้น มีฮาบิ๊บ เบย์, สตีเฟ่น เทย์เลอร์, โคลอชชินี่ และเอ็นซ็อกเบีย ผู้รักษาประตูยังคงเป็น เชย์ กิฟเว่นตามปกติ
เกมในครึ่งแรก ช่วงแรกนั้นยูไนเต็ดเจ้าบานยังทำเกมได้น่ากลัว การต่อบอลและออกบอลทางกว้างทำได้ค่อนข้างดี สโคลส์หาโอกาสสอดเข้ามาตรงกลางได้บ่อยๆ ในขณะที่นิวคาสเซิลใช้จังหวะโต้กลับเร็วจากความจี๊ดจ๊าดของมาร์ตินส์, ดัฟฟ์ และกูเตียร์เรซคอยปั่นป่วน เกมค่อนข้างสนุกทีเดียว ยูไนเต็ดมีจังหวะเสียวสองสามครั้งจากแคมป์เบลล์ที่โหม่งติดหัวกิฟเว่น และลูกยิงของรูนี่ย์กับลูกซ้ำของสโคลส์ แต่ยังไม่ผ่านมือกิฟเว่น ขณะเดียวกันโอกาสสวนกลับของนิวคาสเซิลล้วนน่าหวาดเสียวตลอด แถมมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุมที่บอลมาเข้าหัวมาร์ตินส์ซึ่งขึ้นเทคหนีเฟล็ทเชอร์ง่ายๆส่งให้สาลิกาดงขึ้นนำได้สำเร็จ แต่แป๊บเดียวเท่านั้น เฟล็ทเชอร์ก็แก้ตัวได้ เมื่อสอดเข้าฮอสลูกเปิดเรียดจากปีกซ้ายของกิ๊กส์ผ่านตัวกิฟเว่นเข้าไปได้
หลังจากนั้น ลางร้ายก็เริ่มปรากฏ เมื่อคาร์ริคได้รับบาดเจ็บอีกคน ต้องโขยกเขยกออกไป ป๋าที่ไม่มีทางเลือกมากนัก จำต้องส่งโอเชลงมาแทน โดยให้ลงมายืนต่ำเป็นแบ๊ค ดันเอวร่าขึ้นมาทำเกมทางกราบซ้ายแทน แล้วหุบกิ๊กส์เข้าตรงกลาง หลังจากนั้น เกมตรงกลางของยูไนเต็ดเริ่มค่อยๆเฟดเอาท์ไปเรื่อยๆ การประสานงานจากหลังมากลางทำได้ไม่ค่อยเนียนตา แถมจากกลางไปหน้ายิ่งหายไป จริงที่ยังครองเกมได้มากกว่าสาลิกาเยอะ แต่การต่อบอล และการเข้าทำเร็ว การสอดประสานทำได้ไม่ดีเอาซะเลย เมื่อส่วนประกอบในสนามยังไม่ลงตัว รูนี่ย์ต้องลงต่ำบ่อยๆ ในขณะที่แคมป์เบลล์ก็ฝ่ากองหลังพรีเมียร์ชิพไปไม่รอด เกมทางกราบที่ใช้เฟล็ทเชอร์ประสานบราวน์ และเอวร่ากับโอเชนี่ยิ่งเงียบงัน ในขณะที่เมื่อสาลิกาตัดบอลได้ ก็วางยาวออกกราบเร็วตลอด ให้กูเตียร์เรซบ้าง มาร์ตินส์บ้าง ดัฟฟ์บ้าง ใช้ความเร็วเข้าทำ เล่นเอาเสียวไปเสียวมาอยู่เรื่อยๆ
ผมก็มารอดูว่า ท่านเซอร์จะจัดการแก้เกมอย่างไรในครึ่งหลัง เมื่อไม่มีผู้ช่วยมือขวาผู้รู้ใจอยู่ข้างๆ และทางเลือกข้างสนามก็มีแต่เด็กๆทั้งนั้น เริ่มครึ่งหลัง เกมของยูไนเต็ดก็พยายามจะเร่งสปีดขึ้นมาอีก เพื่อเข้าทำให้เร็วขึ้น แต่มาเจอกับการแก้เกมของคีแกน ที่เน้นเพรสซิ่งเร็วขึ้นกว่าครึ่งแรกเสียอีก ทำเอาต่อบอลไม่ค่อยติด จังหวะสุดท้ายยังติดๆขัดๆ แถมการจ่ายบอลหลายๆครั้ง ไม่ว่าจากสโคลส์, กิ๊กส์, โอเช หรือรูนี่ย์ ยังขาดๆเกินๆ มีห้าหกครั้งด้วย ที่ถึงขนาดไปเข้าเท้าคู่ต่อสู้ให้ลากจึ้สวนแนวรับเราเข้ามาส่องง่ายๆ ดีที่ไม่เป็นประตู ไม่งั้นคงแย่กว่านี้ แคมป์เบลล์เอง มีจังหวะสวยๆอีกครั้ง เมื่อจับบอลได้แล้วล็อกหลบสวยๆก่อนจะยิงไปติดกิฟเว่น แต่ก็มีแค่ครั้งเดียว
สถานการณ์ยิ่งลำบากมากขึ้น เมื่อกิ๊กส์ก็มีอาการบาดเจ็บเพิ่มไปอีกคน จนต้องส่งพอสเซบอนลงมาแทนในช่วงกลางครึ่งหลัง เกมเลยยิ่งต่อไม่ติดเข้าไปใหญ่ พอสเซบอนยังไม่ค่อยได้บอล เมื่อรุ่นพี่ต่างต้องการเร่งเกมเข้าทำเร็ว และเรียกบอลตลอดเวลา ทำให้พอสเซบอนไม่ค่อยกล้าทำอะไรกับบอลมากนัก เป็นได้แค่ตัวผ่านบอลคนหนึ่ง ช่วงท้าย เรายังเปลี่ยนแคมป์เบลล์ออก ส่งราฟาเอลลงมา ซึ่งก็เกือบทำให้ได้จุดโทษ เมื่อเขาลากบอลหลบเข้ากรอบโทษ แต่ถูกบัตต์เกี่ยวล้มหน้ากรอบ รูนี่ย์ปั่นฟรีคิกออกข้าง และก็หมดเวลาในที่สุด ทำให้เปิดซีซั่นด้วยหนึ่งแต้มอีกครั้งหนึ่ง เป็นรองบิ๊กโฟร์ทั้งสามจนได้ครับ
กลับมาดูถึงสถานการณ์ในทีมกันดีกว่า ผมค่อนข้างหวั่นใจนะครับ ว่าถ้าขุมกำลังเรายังไม่กลับมามากกว่านี้ เร็วกว่านี้ เราอาจจะเสียแต้มไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในห้าหกเกมแรกนี้ รู้สึกจะมีบิ๊กเกมด้วย ถ้าจำไม่ผิด นั่นคือ ซูเปอร์คัพ ปลายเดือนกับเซนิต อีกทั้งกลางเดือนหน้า มีคิวเยือนทั้งหงส์แดงและเชลซีติดกันห่างกันแค่เจ็ดวันเท่านั้น ซึ่งโรนัลโด้ คงไม่น่ากลับมาทัน แต่เตเวซที่ไม่ได้เจ็บ แค่บินกลับไปร่วมงานศพที่บ้าน น่าจะกลับมาลงได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าครับ ดังนั้น ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ คือช่วงเดือนนี้และต้นเดือนหน้านี่แหละ ที่เราต้องหามิดฟิลด์มาลงสนามให้ได้ และต้องเก็บสามแต้มเพื่อประคองสถานการณ์ของเราให้อยู่ในเส้นทางที่ไม่ยากจนเกินไปนักในช่วงหลังซีซั่น
ยิ่งเรามองเชลซี ที่เปลี่ยนแนวทางอย่างชัดเจนตั้งแต่นัดแรก เราจะเห็นเลยว่า บิ๊กฟิลนั้น ไม่ชอบการประคองผลการแข่งขัน สังเกตสิครับ จบครึ่งแรกที่ 3-0 ครึ่งหลังน่าจะเลือกประคองตัว บิ๊กฟิลกลับออกอาการทันทีที่ลูกทีมเนือยๆลงไป จนมาได้ลูกที่สี่นี่แหละที่บิ๊กฟิลได้ยิ้มออกเต็มๆ นี่แหละครับ คือสิ่งที่น่ากลัวของจริง หากเชลซีเน้นเช่นนี้จริงๆทุกนัด การถูกยิงแชร์แต้มท้ายเกมจะเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะเชลซีจะยิงขาดไปก่อน คล้ายๆอาร์เซนอลยุคไร้พ่ายนั่นเอง ที่จะยิงกระจุยก่อนตั้งแต่ครึ่งแรก
เมื่อเชลซีมาดีขนาดนี้ ปรัชญาในการเล่นเปลี่ยนมาน่ากลัวอีกครั้ง เราจะรับมืออย่างไรดี ข้อแรกที่ป๋าต้องขยับก็คือ เบอร์บาตอฟครับ ถึงผมจะไม่ค่อยปลื้มนักเตะคนนี้เท่าไหร่ เพราะสไตล์ออกแนวเชอรี่ ซึ่งผมจะชอบนักเตะสไตล์วิ่งจ่าย วิ่งจ่าย แล้วแลบมายิงมากกว่า แต่เมื่อป๋าดูแล้วว่าต้องการ นั่นก็น่าจะการันตีได้ระดับหนึ่งแล้วครับ ว่ามีประโยชน์แน่ แล้วยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ลำบากขนาดนี้ ขุมกำลังตัวจริงโดยเฉพาะกลาง หายไปครึ่งทีม จังหวะจบสกอร์ก็ไม่คมเอาซะเลย ป๋าคงต้องทุ่มเพื่อเบอร์บาตอฟเต็มๆแล้วในวีคนี้ แคมป์เบลล์นั้นอาจจะทำได้ดีในสถานการณ์เข้าฮอส หรือฉาบฉวย แต่การพาบอลหนีแผงหลังพรีเมียร์ยังต้องปรับอีกบานเลยครับ ยังเก๋าไม่พอ โดนเบียดโดนแซะโดนแย่งง่ายๆ คงยังไม่สามารถขึ้นมาได้เต็มตัวในห้านัดสิบนัดนี้หรอกครับ เมื่อมองอย่างนี้ ทำให้เห็นว่า รูนี่ย์กับเตเวซ แค่สองคนนี่ไม่พอแน่นอน
นอกจากนี้ ต้องดูสถานการณ์กองกลางด้วย ว่าช่วงสี่ห้านัดจากนี้ จะทำอย่างไร เมื่อคาร์ริคนั้น ค่อนข้างแน่ ว่าหายไปสองถึงสามวีค กิ๊กส์ก็เจ็บอีกคน ยังไม่คอนเฟิร์มว่าหนักเบาแค่ไหน สโคลส์ช่วงครึ่งชั่วโมงท้ายก็หมด เฟล็ทเชอร์กับบราวน์และโอเช สามคนนี้ต้องเล่นในทีมที่มีองค์ประกอบที่ดีครับ ถึงจะแสดงผลงานที่ดีออกมาได้ สามคนนี้ไม่ใช่คนที่จะแบกทีมนะครับ แต่เป็นส่วนเติมเฉพาะตำแหน่งให้ทีมมากกว่า ทำให้ทั้งสามคนนี้ก็ไม่อาจแสดงผลงานดีๆออกมาได้เช่นกัน ในขณะที่รูนี่ย์ก็ต้องช่วยแคมป์เบลล์ แถมต้องลงมาล้วงบอลเอง ทำให้เกมไม่ค่อยต่อเนื่อง ยิ่งเกมนี้ พอคาร์ริคออกไปนี่เห็นชัดเลยว่า สปีดเกมตกลงไปทันที การจ่ายบอลขึ้นหน้าสวยๆ หายไปหมด สโคลส์ต้องเล่นเกมรับมากขึ้น ยืนตำแหน่งต่ำลง ประกอบกับการที่คีแกนปรับเกมโต้กลับของตัวเองจากปีที่แล้ว ไม่ให้มาร์ตินส์ยืนค้ำเดี่ยวๆ แต่ฉีกออกมารับบอลริมเส้น ตรงที่แบ๊คเราต้องเติมนั่นแหละ ตรงนี้ทำให้เกมโต้กลับน่ากลัวมาก และดึงเวลาไปได้เยอะทีเดียว
แมนออฟเดอะแมทช์ ผมยกให้กูเตียร์เรซครับ คนบ้าอะไร ลงเล่นนัดแรกก็เด่นซะขนาดนี้แล้ว แถมประสานงานกับเพื่อนได้ดีอีกต่างหาก นอกจากเขาแล้ว ยังมี กัทธรี่, มาร์ตินส์, ดัฟฟ์, เทย์เลอร์, โคลอชชินี่ ที่เล่นได้เด่นๆ ที่ลืมไม่ได้เลยก็กิฟเว่นนี่แหละครับ ที่เซฟไปหลายดอกเหลือเกิน ช่วยแชร์แต้มให้ทีมได้สำเร็จ ส่วนทางด้านยูไนเต็ด ก็ไม่พ้นคู่เซ็นเตอร์ครับ ที่ปักหลักป้องกันการโจมตีทางอากาศได้ดี ลูกที่เสียนั่นก็เฟล็ทเชอร์ครับ ที่ประกบมาร์ตินส์พลาด ไม่ใช่คู่เซ็นเตอร์ของเรา ในขณะที่คนอื่นๆ ก็คงเล่นได้แค่ตามมมาตรฐาน หรือต่ำกว่านั้นนิดหน่อยด้วยซ้ำไป แคมป์เบลล์ กับราฟาเอล หากนับว่าเป็นนัดแรกของเด็กๆอย่างเขาก็ถือว่าสอบผ่านครับ ส่วนพอสเซบอนนั้น ไม่ได้แสดงออกอะไรที่เห็นเด่นชัดนัก
ดูเกมแรกของปีแล้วก็ให้รู้สึกว่างานเข้ายังไงไม่ทราบนะครับ ผู้เล่นหายไปครึ่งทีม โรนัลโด้, อันแดร์สัน, นานี่, คาร์ริค, ฮาร์กรีฟส์, พาร์ค, กิ๊กส์ แถมถ้าขืนๆให้ตัวหลักที่เหลือเล่นเต็มเกมไปเรื่อยๆ อาจมีเจ็บมากกว่านี้อีกตะหาก แค่นี้กลางก็จะไม่เหลือตัวลงสนามแล้วครับ นัดหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะจัดตัวอย่างไร ถ้าได้เบอร์บามายังพอถอยเตเวซลงมาทางกราบได้บ้างนะครับ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องที่ป๋าไม่มีผู้ช่วยมาช่วยคิดแก้ปัญหาด้วย นี่ยิ่งทำให้ป๋าเครียดมากขึ้นแน่นอนครับ เฮ้อ สงสารคนแก่เนอะ...
สำหรับแฟนผีที่ดีอย่างเรา คงทำได้แค่ส่งกำลังใจไปให้ และหวังว่า เราจะประคองสถานการณ์ของทีมในช่วงคับขันนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง โดยมีแต้มตามทีมนำไม่มากเกินไปนัก รอจนขุมกำลังกลับมาพร้องพรั่งอีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นไล่ล่าอย่างจริงจังต่อไปครับ
สงบใจ
| Create Date : 18 สิงหาคม 2551 |
|
4 comments |
| Last Update : 18 สิงหาคม 2551 9:31:02 น. |
| Counter : 418 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ช่วยตอบด้วย