Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

20090420 วิพากษ์ UNITED vs EVERTON in FA Semi Final

ถึงจะแพ้ แต่นายชนะใจเราอ่ะ เด็กผีจ๋า


สวัสดีเช้าวันจันทร์อันแสนระทดระท้อ ไม่ใช่เพราะความพ่ายแพ้หรอกนะครับ แต่เป็นเพราะมันเป็นวันจันทร์หลังจากได้หยุดงานชิลล์ๆมาหลายวันตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างหาก อันความพ่ายแพ้เมื่อคืนนั้น ก็พอรับได้อยู่ หากจะมองว่าป๋าส่งเด็กลงมาหากินกว่าค่อนทีมเลยทีเดียว แต่ที่น่าเสียดายก็คือผลการดวลเป้านี่แหละครับ แต่ก็ผ่านไปแล้วนะ ทำใจยอมรับความพ่ายแพ้กันดีกว่า และที่สำคัญ ชื่นชมหัวจิตหัวใจนักสู้ของเด็กๆเราดีกว่าครับ

ถึงแม้ว่าจะเป็นเส้นทางหนึ่งในรายการคว้าห้าถ้วยใหญ่ตามความฝันของหลายๆท่าน แต่ท่านเซอร์ก็ยังมองโลกตามความเป็นจริง และยังเดินทางอยู่บนเส้นทางแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่ดันทุรังทู่ซี้ตะบี้ตะบันจัดทีมลงตามความฝันเพียงอย่างเดียว ก่อนเกมนี้ ผมเองก็ยังมีมุมเล็กๆในห้วงความคิดตัวเองอยู่บ้าง คือสงสัยว่าป๋าจะส่งเด็กลงมากี่คน ผมไม่เชื่อครับ ว่าป๋าจะส่งชุดใหญ่ลงเต็มสูบ เพียงแต่ผมแค่คิดว่าจะมีเด็กป๋าลงมากี่คนเท่านั้นเอง และจากการอ่านบทสัมภาษณ์หลังเกมของป๋า เราก็พบความจริงเกี่ยวกับสาเหตุที่ป๋าจัดเด็กลงมาเกือบเต็มทีมขนาดนั้น ซึ่งขัดใจแฟนเฉพาะกิจสุดๆ และผมก็กำลังจะพูดถึงต่อไปนี่แหละ

ท่านเซอร์มีการปรับทัพจากชุดถล่มวังมังกรหลายคนทีเดียว โดยคงตัวหลักจากชุดดังกล่าวไว้แค่สามคน ก็คือ อันแดร์สัน, ริโอ และวิดิช เท่านั้น ป๋าวางเบน ฟอสเตอร์เป็นผู้รักษาประตู ราฟาเอล และ ฟาบิโอ ดา ซิลวา เป็นฟูลแบ๊ค ให้ริโอ กับวิดิชยืนเป็นปราการหลังตัวกลาง มีอันแดร์สัน และ ดาร์รอน กิ๊บสัน ทำเกมตรงกลาง ซ้ายเลือก เว็ลเบ็ค ขวาเป็นพาร์ค ชี ซอง คู่หน้าใช้ เฟเดริโก้ มาเคด้า ยืนคู่กับ คาร์ลอส เตเวซ จากรายชื่อ เราจะเห็นว่า มีดาวรุ่งเต็มทีมเลยทีเดียว โดยหากนับแอนนี่เป็นดาวรุ่งอีกคนตามอายุและส่วนร่วมกับชุดใหญ่ที่ยังมีน้อย ก็เท่ากับว่า เราจะมีดาวรุ่งในทีมชีตนี้ถึง 7 คนทีเดียว นับว่าป๋ากล้ามากครับที่จัดทีมลักษณะนี้ลงมาในเวมบลีย์

เหตุผลที่ป๋าจัดทีมแบบนี้ ป๋าให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ทีแรก จัดไว้ในใจสองชุด เป็นชุดผสมเด็กสองสามคน และ ชุดดาวรุ่งยั้วเยี้ยอย่างที่เห็นในเกม โดยกำลังชั่งใจเลือกอยู่ว่าจะเอาชุดไหน แต่เมื่อเห็นสภาพสนามจากเกมวันก่อนที่อาร์เซน่อลลงเซิ้งกับเชลซีนั้น ป๋าก็บอกว่า ไม่ลังเลเลยครับ ที่จะจิ้มไปที่ชุดดาวรุ่ง เพราะสภาพสนามเห่ยมาก อันอาจจะส่งผลเสียต่อสภาพร่างกายนักเตะได้ง่ายๆ ซึ่งหากมีนักเตะตัวหลักลงหลายคน โอกาสเสี่ยงที่จะเจ็บจนหลุดวงโคจรอีกสองถ้วยที่เหลือก็มีสูงมาก แถมเกมอาจจะหนักและยืดเยื้อจนต้องเสียแรงอีกเยอะ ท่านเซอร์จึงเลือกที่จะส่งเด็กๆลงมาเล่นเกมนี้ครับ โดยมีพี่ๆประคองอยู่สามสี่คนในเบื้องต้น


เมื่อเริ่มเกม ก็เป็นอย่างที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้ โดยที่บรรดาแฟนๆผีเฉพาะกิจก็อาจจะลมใส่ตั้งแต่เห็นรายชื่อไปก่อนหน้านั้นแล้ว ในเกมช่วงยี่สิบนาทีแรกก็ไม่ต่างกันครับ เสียงเชียร์จากฝูงชนร่วมเก้าหมื่นคน สนามเวมบลีย์ใหม่ เม็กกะลูกหนังแห่งอังกฤษที่ดาวรุ่งหลายๆคนเพิ่งได้ลงมาเหยียบ ได้ส่งผลต่อสภาพความกดดันในหัวใจนักเตะผีเด็กๆอย่างมาก ประกอบกับเอฟเวอร์ตันที่ส่งชุดใหญ่ที่สุดที่ส่งได้ลงมาเล่น ก็เพรสซิ่งเร็ว เล่นบอลเร็วทุกจังหวะเข้ากดดันตลอดเวลา ทำเอายูไนเต็ดตั้งเกมกันไม่ได้ และต้องถอยร่นลงมาตั้งรับกันอย่างตาลีตาเหลือก ซึ่งต้องขอบคุณเซอร์อเล็กซ์ครับ ที่ยังเลือกวิดิชกับริโอมากำกับหลังบ้าน ทำให้ยังไม่โอนเอนกันมากนัก และกลางยูไนเต็ดยังช่วยกันไล่บี้ได้ดีช่วยแผงหลังได้เยอะอยู่ รวมทั้งฟูลแบ๊คเองก็หยุดเกมริมเส้นทอฟฟี่ได้ดีมากๆ

ยิ่งเวลาผ่านไป เด็กผีก็เริ่มคุ้นเคยกับสภาพบรรยากาศมากขึ้น และเริ่มตั้งลำของตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาครองเกมได้เยอะกว่าในที่สุด แต่การที่เป็นเด็กๆแทบทั้งหมด ก็ส่งผลให้การต่อบอลเข้าทำค่อนข้างมีปัญหา ไม่ไหลลื่นสวยงามต่อเนื่องเท่าไหร่ เตเวซ ต่อบอลกับพาร์คไม่ค่อยได้ และมักจะฝืนจนเสียบอลง่ายๆกันทั้งคู่ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมในเกมนี้ก็คือ มาเคด้าและเว็ลเบ็คกล้าเล่น กล้าลาก กล้าชนทั้งคู่ เห็นแววดีๆอย่างนี้แล้วก็ชื่นใจ แม้ว่าในครึ่งหลังมาเคด้าก็ถูกคุมแจซะจนสลัดแทบไม่หลุด อีกทั้งเว็ลเบ็คเองก็ต้องเร่งสร้างกระดูกเกมของตัวเองขึ้นอีกเยอะ เพราะแพ้การดวลเดี่ยวกับกองหลังทอฟฟี่แทบตลอดทุกจังหวะ ไม่สามารถเบียดชิงจังหวะดวลให้ชนะได้เลย


รูปเกมในครึ่งแรกโดยทั่วไป ยูไนเต็ดสามารถสกรีนเกมรุกทางริมเส้นทอฟฟี่ได้ค่อนข้างชะงัด ถึงจะหลุดได้ แต่ก็เปิดไม่ผ่านเอาซะเลย ราฟาเอลเล่นเกมนี้ได้เด่นมากๆ ในการปิดลูกครอสจากริมเส้น แถมยังเติมเกมรุกขึ้นหน้าได้ค่อนข้างถูกจังหวะจะโคน อาจจะเพราะเล่นในชุดใหญ่มามากกว่าฟาบิโอ แต่ฟาบิโอเองก็ใม่ได้ด้อยอะไร ยังเล่นได้ค่อนข้างเด่นดีด้วยซ้ำ เกมรุกของทอฟฟี่เองต้องพึ่งพาลูกยาวขึ้นหน้าเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ถูกวิดิชและริโอดักเก็บกินหมด เกมนี้ ไรลี่ย์ค่อนข้างหยุมหยิมกับการทำฟาล์วเล็กๆน้อยๆพอสมควร ทำให้เกมของทอฟฟี่ที่หวังพึ่งพาลูกหนัก ลูกบดบี้ ทำอะไรได้ไม่ค่อยถนัดนัก เฟลไลนี่ และซาฮา แทบไม่ได้จังหวะสร้างความหวาดเสียวแม้แต่กับลูกตั้งเตะ จะมีก็เพียงลูกที่ซาฮาปรี่เข้าปั๊มบอลจากฟอสเตอร์เท่านั้น ที่น่าหวาดเสียวหัวใจ ส่วนเคฮิลล์เองก็ถูกถอยไปเล่นกลาง ซึ่งลดความอันตรายไปเยอะ แต่ก็ยังได้ยิงไกลสวยๆติดเซฟฟอสเตอร์ครั้งหนึ่ง

ส่วนเกมรุกทางฝั่งยูไนเต็ดถึงช่วงหลังจะครองเกมได้ก็จริง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ต่อเนื่องไหลลื่นนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะทอฟฟี่เมนพากันตั้งรับได้ค่อนข้างแน่น และเข้าบอลแม่นยำ การส่งผ่านบอลของยูไนเต็ดที่ยังไม่ค่อยประสานกันนัก เพราะไม่ค่อยได้เล่นร่วมกันเท่าไหร่ จังหวะจะโคนจึงยังไม่ค่อยลงตัว เมื่อล่วงเข้าครึ่งหลัง เกมเริ่มเนือยลงนิดหน่อย ผลัดกันรุกและรับเป็นระยะๆ แต่พื้นฐานแนวคิดทั้งสองทีมยังคงระแวงในหลังบ้านตัวเองทั้งคู่ จึงไม่ผลีผลามเดินเกมรุกเต็มตัวมากนัก เกมในครึ่งหลังแมนฯยูฯโชคร้ายก่อน เมื่อต้องเติมเอวร่าลงมาแทนฟาบิโอที่มีอาการเจ็บกำเริบ จากนั้น ก็เติมสโคลส์ลงมาแทนพาร์ค ที่วันนี้และช่วงที่ผ่านมาก็ยังควานหาฟอร์มดีๆของตัวเองไม่พบเสียที

การมีเอวร่าและสโคลส์ลงมาเล่น เริ่มทำให้เกมของยูไนเต็ดดีขึ้นมา ยกระดับการคอนโทรลบอลได้ดีขึ้น แอนนี่ที่เล่นเกมรับได้ดี แต่เกมรุกเร่งตัวเองจนจ่ายเสียตลอดมา ก็เริ่มเล่นได้แน่นอนขึ้น เซ็ตบอลเป็นรูปเป็นทรงมากขึ้น กิ๊บสันถูกถ่างออกมาทางขวา ดูจะลดทอนความมีส่วนร่วมในเกมลงไปบ้าง แต่ก็ยังช่วยคุมเกมตรงกลางได้ดี เกมนี้เตเวซเองก็ยังไม่สามารถทะลุขึ้นมาเป็นที่พึ่ง เป็นตัวพลิกเกมของทีมได้เสียที ซึ่งส่วนหนึ่งที่ต้องเห็นใจเตเวซก็คือ การที่เขาต้องเล่นกับมาเคด้า กับเว็ลเบ็ค ซึ่งอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา รู้จังหวะจะโคนกันนัก การต่อบอลข้างหน้าที่เกิดขึ้นสวยๆส่วนใหญ่ จึงมักจะมาจากมาเคด้าและเว็ลเบ็คกับแดนกลางซะมากกว่า ซึ่งก็น่าเสียดายที่เราไม่ได้จุดโทษในจังหวะที่เว็ลเบ็คทะลุเข้ามาแล้วโดนจากีลก้ากระแทกแซะซะกลิ้งเป็นลูกขนุน ไรลี่ย์ยังใจแข็งอยู่ครับ

การเปลี่ยนตัวของทอฟฟี่ในครึ่งหลังที่ถอดซาฮาออก ส่งร็อดเวลล์ลงมานั้น ผมมองว่าทำให้เกมรุกของทอฟฟี่ลดพิษสงลง ไม่มีตัวที่สามารถเก็บบอลและครองบอลได้ดีในแดนหน้าอีกเลย และทำให้เกมรับของยูไนเต็ดเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในการดวลกับเฟลไลนี่โดยไม่ต้องพะวงซาฮาที่คอยดักเก็บจังหวะสอง เกมนี้ตัวทำเกมของทอฟฟี่ที่เด่นๆมากก็คือพีนาร์ และออสแมนที่ทำเกมตรงกลางได้คึกคักดีมาก โดยพีนาร์เป็นตัวปั่นป่วนแนวรับด้านข้างและมีเบนส์คอยสอดทะลุขึ้นมาเติม ส่วนออสแมนคอยบงการและคุมเกมตรงกลางสนาม แต่ในที่สุดแล้วก็ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ยูไนเต็ดส่งเบอร์บาตอฟลงมาแทนมาเคด้า ที่เริ่มถูกประกบจนกระดิกไม่ออกในปลายครึ่งหลัง รูปเกมยังคงสูสี แต่เอฟเวอร์ตันเริ่มแสดงให้เห็นว่าเรี่ยวแรงยังดี เมื่อสามารถไขก๊อกสองออกมาสู้ได้ดีกว่า และเริ่มครองเกมกดดันได้มากขึ้น ต่อเนื่องขึ้น เดวิด มอยส์ ปล่อยทีเด็ดอีกรอบด้วยการส่งเจมส์ วอห์นลงมาแทนเฟลไลนี่ เพื่อเอาลูกคล่องและเร็ว สด เข้ามาบด ช่วงนี้เกมรุกของทอฟฟี่ทำได้ดีแทบจะเรียกได้ว่าที่สุดของเกมนี้เลยก็ว่าได้ แผงหลังยูไนเต็ดและฟอสเตอร์ต้องตั้งสมาธิอย่างหนักเพื่อป้องกันแต่ละช็อตอย่างรอบคอบ ตรงนี้ครับ ที่ยืนยันเลยว่า หากป๋าส่งชุดใหญ่ลงมาและยืดเยื้อเนี่ย เราวูบแน่ๆ และอาจจะส่งผลต่อเนื่องถึงความฟิตในเกมกลางสัปดาห์อีกด้วย ซึ่งสำหรับเกมนนี้ ที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ทำอะไรกันไม่ได้อีก ต้องจบด้วยการดวลเป้า

ผมบอกคนที่นั่งเชียร์อยู่ข้างๆทันที เมื่อเกมล่วงเข้ามาช่วงนี้ว่าให้ทำใจซะ เพราะกวาดตาดูรายชื่อนักเตะแล้วค่อนข่างน่าเป็นห่วงทีมเราในเรื่องการดวลเป้า แต่เคฮิลล์ก็มากลบความพะวงซะด้วยการยิงเบิร์ดออกไปเยอะ แต่หลังจากนั้น เบอร์บาตอฟก็ดันยิงแบบติสต์แตกติดขาโฮเวิร์ดซะเล่นเอาผมปวดตับ ที่เหลือก็ตามคาดครับ คนยิงแต่ละคน ริโอ, วิดิช, แค่สองคนนี้ผมก็ถอนหายใจเฮือกๆแล้ว และริโอก็เป็นไปตามที่เฮือก ยิงติดเซฟโฮเวิร์ดอีก อีกสองคนที่เหลือ คนต่อมาคือแอนนี่ที่ยิงได้ดีอยู่แล้ว แต่คนสุดท้ายก็ไม่ได้ออกมายิง เพราะเอฟเวอร์ตันไม่พลาดเลยในอีกสี่คนถัดจากเคฮิลล์ ทำให้เอฟเวอร์ตันผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จครับ

หลังเกมจบลง ผมยังอึ้งๆกับการดวลเป้าที่เกิดขึ้น เพราะการจัดตัวคราวนี้ดูแปลกๆไป ขัดความรู้สึกผมเป็นอย่างยิ่ง เบอร์บาตอฟน่ะโอเค ดาวยิงกับการเป็นเพชฌฆาต มันก็ไม่แปลก แต่สองคนถัดมาที่เป็นริโอกับวิดิชนี่ขัดอารมณ์อย่างแรงครับ ถึงวิดิชจะยิงได้ดีก็เถอะ แต่มันทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดว่ากองกลางกองหน้าไม่มีใครจะยิงแล้วเหรอเนี่ย อย่างน้อย เตเวซ, กิ๊บสัน ที่ยิงบอลได้ค่อนข้างดีก็ยังอยู่ สโคลส์ที่ถึงจะเคยพลาดมาแล้ว แต่ประสบการณ์การยิงจุดโทษก็มีพอสมควร แต่สุดท้าย...ผมก็พบว่า มันจบไปแล้ว และเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นครับ ไม่ควรมานั่งโทษคนนั้นคนนี้อีก โดยเฉพาะเมื่อมันต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษแบบนี้ วิดิชเองที่แม้จะยิงเข้าสวยๆ ยังออกมาบอกว่า ดวลเป้ามันก็คือการลุ้นล็อตเตอรี่นั่นแหละ ถึงตรงนี้แล้ว เราก็ควรยินดีกับชัยชนะของทอฟฟี่เมน นับว่าวิดิชนี่แมนจริงๆครับ

สิ่งที่เกิดขึ้น ก็นับว่าท่านเซอร์ตัดสินใจได้ดี กับการส่งทีมเด็กลงมาเล่น ถึงแม้หลายๆคนจะยังเชื่อว่า ชุดใหญ่เรานั้นสามารถตบเอฟเวอร์ตันคว่ำได้ในเก้าสิบนาที แต่ผมก็ยังมีอีกมุมมอง ที่คิดได้เช่นกัน ว่าเอฟเวอร์ตันที่วิ่งเป็น ม.ม้า คึกคัก ได้ตลอดร้อยยี่สิบนาทีนั้น จะสร้างปัญหาหนักอกอะไรให้นักเตะชุดใหญ่เราได้บ้าง ต่อให้เราชนะได้เข้าชิงฯจริง มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้แชมป์ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะยังต้องชิงกับเชลซีต่อไป ในขณะที่มันก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน ที่นักเตะเราอาจจะล้ามากขึ้นอีก จนเจ็บ จนไม่พร้อมที่จะลงพรีเมียร์ลีกกลางสัปดาห์นี้ ยิ่งสภาพสนามที่สวยแต่เปลือก แต่เตะทีหญ้าหลุดกระจาย ลื่นหัวทิ่มหัวตำเป็นระยะๆแบบนี้ ฟาบิโอเองก็ยังเจ็บขึ้นมาซะเฉยๆ หากเอาตัวจริงลงเต็มทีมแล้วเดี้ยงไปสองสามคน ผมว่าต่อให้เข้ารอบไปได้ แต่โอกาสที่จะคว้าแชมป์ทั้งสามถ้วย มันจะเหลือเท่าไหร่กันเชียว หากโด้หรือรูนี่ย์เจ็บหนักเนี่ย


เมื่อมันจบลงแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีต เก็บเพียงสิ่งที่ที่น่าชื่นชมไว้ก็คือ อย่างน้อย ดาวรุ่งชุดนี้ ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า ได้รับโอกาสอย่างมากจากท่านเซอร์ ทั้งคาร์ลิ่งคัพที่ฝ่าฟันจนได้แชมป์ ทั้ง เอฟ เอ คัพ ที่หักด่านมาได้ถึงรอบรองชนะเลิศ ประสบการณ์ตรงนี้ คงทำให้เด็กๆชุดนี้ สามารถเก็บเกี่ยวกำลังใจและความมั่นใจได้มากทีเดียว และผมคิดว่า มันคือสิ่งที่ท่านเซอร์ต้องการให้เด็กๆชุดนี้ได้รับมันอย่างเร็วที่สุด เพื่อการเตรียมความพร้อมในการปล่อยลงน้ำช่วงโค้งสุดท้ายชองซีซั่นนี้ ตามแต่สถานการณ์จะอำนวย ผู้เล่นอย่างกิ๊บสัน, มาเคด้า, เว็ลเบ็ค, คู่แฝด ดา ซิลวา, ฟอสเตอร์ ต่างก็เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยผ่อนแรงผู้เล่นชุดใหญ่ได้มาก หากเลือกที่จะหย่อนลงสนามตามความเหมาะสมของแต่ละเกม ซึ่งประสบการณ์จากบอลถ้วยสองรายการในปีนี้ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาก และเรียนรู้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ได้เร็วขึ้น

สิ่งดีๆที่มองข้ามไม่ได้อีกประการหนึ่ง ก็คงจะเป็นคลีนชีตติดต่อกันเป็นเกมที่สอง และฟอร์มโดยรวมของวิดิชกับริโอ ที่เก็บกวาดหลังบ้านซะเหี้ยนเต้ ลูกกลางอากาศที่เป็นอาวุธหนักของมอยส์ ไม่สามารถฝ่าด่านปราการหลังอรหันต์ของเราได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมราฟาเอลกับฟาบิโอก็ยังมีความปราดเปรียวและคล่องมากๆ แม้จะปล่อยคู่ต่อสู้หลุดไปได้บ้าง แต่ก็กลับมาปิดทางวิ่ง บังทางครอส บล็อกลูกโยนจากกราบ จนแทบจะเรียกได้ว่า เก็บหมด ก็ว่าได้ อย่างน้อยๆครับ เกมนี้ก็ถือว่าเราได้แบ๊คสองข้างที่ไว้วางใจได้มาสแตนด์บายรุ่นพี่ชุดใหญ่อย่างเต็มตัวแล้วครับ แถมยังมีกองหน้าไว้แก้ขัดได้อีกถึงสองคน ยามฉุกเฉินที่ไม่มีตัวเล่นหากตัวหลักบาดเจ็บหรือแบนไป

ต่อจากนี้ กับเส้นทางที่เหลือ โอกาสที่จะคว้าห้าแชมป์มันก็หลุดลอยไปแล้ว ซึ่งท่านเซอร์เองก็เคยพูดอยู่บ่อยๆว่าห้าแชมป์มันยากเกินยาก มันต้องมีดวงอย่างมาก ถึงจะทำได้สำเร็จ และตอนนี้ เราก็เหลือเพียงสองถ้วยที่จะต้องเดินทางไปไขว่คว้ามาให้ได้ แต่กับการได้พักผู้เล่นชุดใหญ่ไปหลายๆคนในเกมนี้ นั่นก็เท่ากับว่า เราค่อนข้างได้เปรียบพอร์ทสมัธเล็กน้อยตรงความสด โรนัลโด้, รูนี่ย์, คาร์ริค, เฟล็ทเชอร์, กิ๊กส์, ฟาน เดอร์ ซาร์ ต่างได้พักเต็มๆทั้งหมด สโคลส์, เอวร่า ได้เล่นประมาณหนึ่งชั่วโมง เบอร์บาตอฟครึ่งชั่วโมง นั่นน่าจะทำให้ทัพผีแดงกลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกครั้งในวันมะรืนนี้ ในขณะที่ต้องลุ้นครับ ว่าอาร์เซน่อลที่เพิ่งบดหนักๆกับเชลซีไปเมื่อวันเสาร์ จะสามารถเบรกความสุดยอดของลิเวอร์พูลที่ได้พักมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆได้หรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่ยากที่สุดของหงส์แดงแล้วในโปรแกรมที่เหลืออยู่

หากทัพแดงของราฟา สามารถเก็บสามแต้มได้จากอาร์เซน่อล ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที ทิ้งให้เราแบกความกดดันลงเตะกับพอร์ทสมัธในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราจะพลาดไม่ได้อีก หากต้องการคงระยะห่างเพื่อสวิงหงส์แดงกลับไปเป็นผู้ตามอีกครั้ง เราต้องเล็งสามแต้มเท่านั้นครับ และนั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ท่านเซอร์เลือกที่จะส่งเด็กลงเล่นในเกมเอฟ เอ คัพ นี่แหละ ป๋าคงมองข้ามช็อตไปแล้วว่าอาร์เซน่อลอาจจะเบรกหงส์แดงไม่ไหว ด้วยสภาพความฟิตที่เป็นรอง และตัวผู้เล่นที่มีจำกัดจำเขี่ย ต่างกับหงส์แดงที่ค่อนข้างสดและพร้อมกว่าในตัวผู้เล่น และถ้วยพรีเมียร์ลีกก็มีความสำคัญสูงกว่าเอฟเอ คัพ มากนักสำหรับป๋า เดิมพันของป๋าจึงอยู่ที่ถ้วยนี้มากกว่า และป๋าก็คงให้ความสำคัญตรงนี้มากกว่า เอฟเอ คัพ ดังจะเห็นจากการจัดตัวเมื่อคืนนี้ครับ

จากตารางแข่งที่เหลือ เป็นที่แน่นอนว่า หงส์แดงจะลงเตะก่อนหน้าเราตลอด ซึ่งจะทำให้หงส์แดงมีโอกาสแซงเป็นจ่าฝูงทุกครั้งที่ลงเตะ และทางเดียว ที่จะรักษาโมเมนตัมให้คงอยู่กับเราต่อไป ก็คือต้องแซงกลับให้ได้ในเกมวีคเดียวกันเท่านั้น ไม่งั้น หงส์แดงจะเป็นจ่าฝูงค้างไปตลอด และมีโอกาสทิ้งเราเป็นห้าแต้มในนัดถัดไปที่จะลงเตะก่อนเราอีกต่างหาก ซึ่งตรงนั้น มันจะช่วยให้หงส์แดงมั่นใจขึ้นอีกพะเรอเกวียนทีเดียว และผมมั่นใจว่า ป๋าไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นแน่ๆ จึงพยายามรักษาแต้มต่อของเราตรงนี้ไว้ให้ได้ตลอด จนกว่าลิเวอร์พูลจะพลาดก่อนนั่นแหละ ป๋าจึงจะคลายกังวลลงได้บ้าง

แต้มต่อตรงนี้สำคัญมากนะครับ เพราะเรายังมีเกมหนักเหลือในลีกอีกอย่างน้อยสองเกม หนึ่งก็คือรับมือท็อตแน่มที่กำลังฟอร์มดีวันดีคืนในวันที่ 25 เมษายน (เสาร์นี้) และรับมืออาร์เซน่อลในวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเกมรองสุดท้าย โดยเกมสุดท้ายที่ต้องออกไปเยือนฮัลล์ ซิตี้ นั้นก็ต้องลุ้นครับ ว่าสถานะของฮัลล์ตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ยังดิ้นรนหนีตกชั้นอยู่ไหม อันจะทำให้งานเรายากขึ้นไปอีกขั้น ดังนั้น หากจะให้ง่ายก็คือ ช่วงนี้แหละที่ลิเวอร์พูลเจองานยากก่อน ในการต้องดวลอาร์เซน่อลและเยือนฮัลล์ติดๆกัน ทำให้มีโอกาสพลาดสูงกว่าช่วงหลังๆ เราจะต้องไม่พลาดทำแต้มหกในช่วงนี้ครับ และรักษาระยะห่างให้ได้ โดยลุ้นให้ลิเวอร์พูลพลาดก่อนในเกมสองเกมนี้ เพื่อช่วงปลาย เราจะได้สบายตัวหน่อยไงครับ



แล้วมาลุ้นกันครับ
เริ่มที่คืนนี้ก่อนเลย ลุ้นอาร์เซน่อลกัน อิอิอิ

สงบใจ




 

Create Date : 20 เมษายน 2552
1 comments
Last Update : 20 เมษายน 2552 10:27:01 น.
Counter : 476 Pageviews.

 

ลุ้นกันต่อไป

แต่วันนี้มาทำงานโดนแฟนปืน แฟนหงส์แซวยับ
อิอิอิอิ

 

โดย: HastaLaVista 20 เมษายน 2552 15:42:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.