Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

20090119 วิพากษ์ BOLTON vs MAN. UNITED

ลูกโหม่งสุดท้าย...สะเทือนถึงดวงดาว



สวัสดีเช้าวันทำงานวันแรกครับ วันนี้ ผมขออนุญาตแสดงความยินดีต้อนรับ กับตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเราในซีซั่นนี้กันก่อนครับ แหม...ช่างลุ้นระทึกเสียนี่กระไร กว่าจะกลับมายืนที่เดิมอีกครั้งในวันนี้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามมากมายจนนึกว่าหัวใจจะวายไปหลายครั้งแล้วซะด้วยนะครับ และเมื่อมาถึงตรงนี้ได้ในที่สุดแล้ว ก็ต้องขอฮัมเพลงติ๊นาเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อยครับ กลับมายืนที่เดิม....ที่ที่เคยคุ้นตา....//ฮ่าฮ่าฮ่า และหวังว่า พลพรรคหงส์แดงจะต่อวีซ่าตำแหน่งจ่าฝูงให้เราต่อไปนะครับ จากเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ค่ำคืนนี้ที่จะมาถึง



ก่อนเกมเตะ ข่าวหลายกระแสโหมสะพัดถึงอาการบาดเจ็บของทัพนักเตะทั้งสองทีม ซึ่งก็เป็นตัวหลักๆกันทั้งนั้น ประกอบกับการที่เราเพิ่งผ่านการเซิ้งแข้งอย่างตรากตรำทำงานหนักมาตลอดช่วงเดือนสองเดือนหลังๆชนิดไม่ได้พักผ่อน ทำให้ท่านเซอร์ต้องปรับทัพหลายจุด โดยแนวรับยังไม่ได้ตัวหลักกลับมา มีน้าซาร์เฝ้าเสา แผงแบ๊คโฟร์มีแกรี่ เนวิลล์, เนมานย่า วิดิช, โจนาธาน เอแวนส์ และจอห์น โอเช แผงกองกลางสี่คนมี ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิล คาร์ริค, อันแดร์สัน และ คริสเตียโน โรนัลโด้ คู่หูคู่ฮาข้างหน้าเป็นเตเวซ กับเบอร์บาตอฟ ซึ่งนับว่าท่านเซอร์เองใจถึง ที่ส่งตัวริมเส้นลงมาเพียงคนเดียวคือโรนัลโด้ ส่วนที่เหลือสามคนล้วนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางทั้งนั้น

ในขณะที่ทางโบลตันเองก็พลิกโผเล็กๆครับ เมื่อสามารถเข็นเอา แกรี่ เคฮิลล์ รวมทั้ง สไตน์สัน ที่ล่าสุดยังเจ็บมาลงสนามได้ นอกจากนั้น ยังมี ปุยเกรนิเยร์มีชื่อเป็นสำรองข้างสนามอีกด้วย สำหรับคนที่น่าจับตามองของโบลตันนอกจากผู้รักษาประตูยัสเคไลเน่นที่มักผีเข้าเป็นประจำแล้ว ก็ยังมี ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ที่หากผีเข้าอีกคนก็น่ากลัวเช่นกัน



เมื่อเริ่มเกมขึ้นมา ก็เห็นชัดเลยครับ ว่าวันนี้ โบลตันส่งเกมเพรสซิ่งเข้ากดดันเราตั้งแต่นาทีแรก เกมไล่บี้ของโบลตันในช่วงแรก ทำเอายูไนเต็ดผู้มาเยือนออกอาการเล็กๆให้เห็น แต่ก็มาตั้งหลักได้เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เกมของยูไนเต็ดวันนี้ดูจะไม่หนักหน่วงกดดันเท่าไหร่นัก อาจจะเนื่องจากอัดผู้เล่นตัวกลางเข้าไปถึงสามคน และทั้งสามคนก็ไม่มีใครที่ถนัดเป็นตัวทะลุทะลวงเสียทีเดียว กลับประกอบไปด้วยคาร์ริค ที่ถนัดคุมเกมและแจกจ่ายบอลขึ้นหน้า แอนนี่ในเวลานี้ก็ยังถนัดกับบทบาทผึ้งงานที่คอยไล่บอลในพื้นที่และตัดบอลมาจ่ายขึ้นหน้าเช่นกัน ส่วนเฟล็ทเชอร์ก็ไม่แตกต่าง เป็นสไตล์ผึ้งงานที่คอยไล่บอลและช่วยเป็นลูกหาบของคาร์ริคมากกว่าจะช่วยทำเกมรุก ซึ่งเราสังเกตจากเกมแพลนที่วางมานั้น เฟล็ทเชอร์นั้นน่าจะรับบทตัวริมเส้นมากกว่าตัวกลางด้วยซ้ำไปนะครับ

การที่มีผู้เล่นตรงกลางถึงสามคนที่ถนัดบทบาทดังที่กล่าวมานั้น ทำให้เกมตรงกลางของโบลตันพิการทันที โบลตันไม่สามารถต่อเกมตรงกลางได้ถนัดเลย แต่นั่นก็เท่ากับเราไปลดความรวดเร็วของเราในการโจมตีคู่ต่อสู้ไปด้วย บอลถูกถ่ายไปมากลางสนามมากขึ้น คุกคามคู่ต่อสู้ข้างหน้าน้อยลง และเกมรุกทางริมเส้นก็หายไปเยอะ เมื่อเหลือเพียงโรนัลโด้คนเดียวที่คอยเล่นตามกราบ เฟล็ทเชอร์เองก็ไม่สามารถขึ้นเกมทางกราบได้ถนัด หลังจากมุ่งมั่นตรงกลางสนามมาสองปีติดต่อกัน ในขณะเดียวกัน โบลตันเอง ที่ถูกริดรอนประสิทธิภาพเกมกลางสนามไปจากผู้เล่นยูไนเต็ด ก็มิได้พยายามจะใช้การสร้างเกมมาสู้ กลับคอยเน้นเกมเพรสซิ่งไล่บอลเร็วอยู่ตลอด เกมตรงกลางของยูไนเต็ดเอง ถึงแม้จะยึดพื้นที่ได้ แต่ก็สร้างสรรค์เกมไม่ถนัดนัก เมื่อถูกไล่บี้เร็วอยู่ตลอดเวลา



โบลตัน ถึงแม้จะไม่สามารถตั้งเกมรุกได้ตามถนัด แต่การที่เม็กสันเองน่าจะคิดมาก่อนแล้วว่าคงเสียเปรียบพื้นที่ตรงกลางแน่ จึงวางหมากเกมรุกมาเน้นบอลไดเร็กต์แทบจะเต็มตัว เมื่อโบลตันตัดบอลได้ ก็หาผู้เล่นข้างหน้าพร้อมกับวางยาวขึ้นไปให้ทันที หลายครั้งที่แม่นยำและลงตัว ทำให้ผู้เล่นข้างหน้าของโบลตันเก็บบอลได้และเดินหน้าเข้าโจมตียูไนเต็ดได้บ้าง เพียงแต่การที่โบลตันไปเน้นเกมเพรสซิ่งซะมาก และการวางเกมไดเร็กต์สวนเร็ว ทำให้ผู้เล่นในสนามระหว่างรับเปลี่ยนเป็นรุกไม่ค่อยสมดุลกัน บอลที่ตัดมาได้เมื่อวางขึ้นหน้าก็จะมีผู้เล่นคอยเล่นน้อย บางจังหวะเหลือคนเดียวด้วยซ้ำ เพราะผู้เล่นที่เหลือขึ้นไม่ทันจากการที่เน้นเพรสซิ่งอยู่ตรงกลางสนามนั่นเอง และนั่นก็ทำให้มักจะถูกแนวรับยูไนเต็ดรุมแย่งบอลไปได้ง่ายๆ

เกมรุกของยูไนเต็ดยังคงต่อกันไม่ค่อยติดในจังหวะสุดท้าย มักจะออกบอลช้าเกินไปกันตลอดในแดนหน้า ไม่ว่าเตเวซ หรือโรนัลโด้ ต่างก็คายบอลช้าเกินไปหนึ่งจังหวะทุกครั้ง เพราะการที่พยายามพาบอลไปเอง หรือครองบอลดึงจังหวะมากเกินไปนั่นเอง หลายครั้งจังมักจะเห็นว่าเพื่อนวิ่งสอดไปแล้ว แต่เฮียยังดึงจังหวะอยู่ ยังล็อคเพลินอยู่ หรือแม้แต่เลือกที่จะม้วนหางกันอยู่นั่นเอง แอนนี่ยังมีปัญหาในจังหวะทะลุและตัดสินใจในช็อตสุดท้าย ยิงหรือจ่าย อันนี้ยังเป็นปัญหาข้อใหญ่ของแอนนี่ต่อไป ในขณะที่ยัสเคไลเน่นยังคงผีเข้าอีกครั้ง เมื่อปัดป้องลูกยิงได้หลายครั้ง ไม่เว้นฟรีคิกของเจ้าโด้




เมื่อล่วงเข้าสู่ครึ่งหลังแบบที่ผมเองชักเริ่มหงุดหงิดที่เห็นจังหวะเข้าทำยังไม่เนียน ถึงแม้จะยังสบายใจที่จังหวะเข้าทำของฝั่งเจ้าบ้านไม่ได้คุกคามเรามากนัก แต่ก็อยากเห็นเราทำประตูเสียทีเช่นกัน เกมในครึ่งหลังยูไนเต็ดเริ่มออกอาการตื้อให้เห็นจากเกมที่ไม่ได้ประตูเสียที ในขณะที่โบลตันเองไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เหมือนกับว่าผลเสมอ เม็กสันก็แฮปปี้แล้วนั่นแหละ ยิ่งทำให้ผมเองเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้เสียแล้ว หลังจากหล่นความมั่นใจไปก่อนหน้านี้ว่าเราชนะแน่//หยอกเย้า

เกมของโบลตันจากการวางยาวยังไม่ได้ผลมากนัก แต่เกมของเราเริ่มมีการปรับหมากเล็กน้อย ท่านเซอร์สั่งให้แผงหลังสลับกันขึ้นมาเติมเกมตรงกลางสนาม ไม่วิดิชก็เอแวนส์ คนใดคนหนึ่งต้องขึ้นมาช่วยเกมตรงกลาง และดันเอาแอนนี่ขึ้นไปช่วยเกมรุกข้างหน้า แกรี่ เติมเกมรุกทางริมเส้นช่วยเฟล็ทเชอร์ และหุบเฟล็ทเชอร์เข้าไปเล่นหน้ากรอบมากขึ้น มีคาร์ริคและเซ็นเตอร์หนึ่งคนช่วยดูแลกำกับเกมตรงกลาง นั่นก็พอช่วยให้เกมรุกเราคืบหน้ามากขึ้นได้เยอะ แต่จังหวะต่อบอลกันยังมากจังหวะอยู่ กว่าจะได้จบแต่ละครั้งเล่นเอาลุ้นกันเหนื่อย



การปรับเกมตรงจุดนี้ ช่วยให้เราได้จบมากขึ้นครับ แอนนี่และเฟล็ทเชอร์สามารถหาจังหวะสอดเข้าไปจบสกอร์ได้ด้วย แอนนี่มีจังหวะยิงไกลสวยๆครั้งหนึ่ง เล่นเอาผมเองยังงงว่า ลูกยิงนี้ของแอนนี่จริงๆหรือ ได้ทั้งน้ำหนักและทิศทาง จะไม่ได้ก็แค่ยัสเคไลเน่นคนเดียว ที่ปฏิเสธนั่นแหละครับ แต่ผลเสียของการปรับเกมตรงนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีนะ มันค่อนข้างเห็นได้ชัดด้วยซ้ำไป จากการที่เราเติมเกมกันมากขึ้นเพื่อหวังประตูนั่นเองครับ ที่ทำให้เกมโต้กลับของโบลตันได้ผลมากขึ้น คือพื้นที่มันมีมากขึ้น ช่องว่างมีมากขึ้น ในขณะที่คนของโบลตันเองถึงจะเท่าเดิมแต่การที่แนวรับเราเปิดพื้นที่มากขึ้น ก็ทำให้การครองบอลรุกเข้าใส่เราทำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

มาถึงตรงนี้ จากที่เคยนั่งดูเกมรับแบบสบายใจ ก็ชักร้อนรนขึ้นเช่นกันสำหรับผม เห็นโบลตันครองบอลรุกได้บ้าง และพอรู้อยู่ว่าลูกกลางอากาศของเขาไม่ธรรมดา ในขณะที่การป้องกันตรงนั้นของเราพอโดนบอมบ์มากๆเข้าก็เป๋ โบลตันก็รู้ เราก็รู้ ป๋าก็รู้ และในที่สุดน้าซาร์ก็ต้องเริ่มโชว์ฟอร์มให้เห็นบ้าง ทั้งการตัดลูกครอส ทั้งลูกยิงไกลแถวสอง เล่นเอาแฟนๆโบลตันส่งเสียงกันดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นทีมตน กระทำแชมป์เก่าได้บ้าง จอห์น โอเชเริ่มต้องเตะทิ้งอีกแล้ว เอแวนส์เริ่มแสดงสีหน้าเช่นกันว่าตรูเหนื่อย เช่นเดียวกับวิดิช ทั้งๆที่เมื่อโบลตันเองพอครองบอลรุกได้มากขึ้น พื้นที่ตัวเองก็เปิดมากขึ้น เราโต้คืนสวยๆได้หลายครั้ง แต่กลับจบไม่ลงกันอีกแล้ว



เม็กสันปรับเกมก่อน โดยถอดมากูกูล่า กองหน้าที่เป็นตะคริวออก ส่งโอบาเดยี่ กองหน้าที่สดกว่าลงมาแทน ท่านเซอร์เองต้องปรับตามทันทีครับ ถอดเอาแอนนี่และเฟล็ทเชอร์ออกซะ แล้วส่งผู้อาวุโสอย่างกิ๊กส์ และสโคลส์ลงมาแทน พร้อมการปรับเกมอีกชุดใหญ่ ดีเทลของหมากนี้ก็คือ การเอากิ๊กส์ลงมาเลื้อยริมเส้นตามถนัด แต่เน้นฝั่งขวา เพราะโรนัลโด้จองเอกสารสิทธิ์ สปก. ฝั่งซ้ายของเกมนี้แล้ว ท่านเซอร์ปรับหมากให้สโคลส์และคาร์ริคคุมเกมตรงกลางสนามไว้ กิ๊กส์และโรนัลโด้เลื้อยริมเส้น แผงหลังปรับมายืนคุมพื้นที่เหมือนเดิมเพื่อป้องกันโซนแตกจากลูกกลางอากาศที่โบลตันบอมบ์มา

เท่านั้นเองครับ เกมก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อเกมริมเส้นทำงานได้ แนวรับโบลตันก็ถูกถ่างออกมามากขึ้น พื้นที่ตรงกลางหน้าปากประตูเปิด ดิมี่และเตเวซก็พาเหรดเข้าไปเจาะถี่ขึ้น คาร์ริคและสโคลส์ซึ่งแม่นยำทั้งคู่ในการวางบอล ก็แจกบอลขึ้นหน้า ซ้ายที ขวาที ขวางสนามที เพื่อเน้นให้แนวรับของโบลตันต้องกระจายกันวิ่งมากขึ้น และเปลืองแรงในการเพรสซิ่งทั้งสนามมากขึ้น ประกอบกับพยายามหาที่ว่างเพื่อวางบอลให้ได้เร็วที่สุด ลึกที่สุด และเพื่อนที่ว่างที่สุดด้วยนั่นเอง การเพรสซิ่งเร็วของโบลตันที่เล่นมาตลอดเกมก็เริ่มส่งผลให้เกิดอาการล้าให้เห็นช่วงนี้แหละ โบลตันเริ่มเสียฟาล์วมากขึ้นบริเวณหน้ากรอบ โรนัลโด้ได้ส่องฟรีคิกบ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็เน้นเข้ากรอบด้วย ดั๊นมามียัสเข้ ที่ผีเข้า ปัดป้องได้หมดจดจริงๆ ทั้งลูกฟรีคิก ลูกยิงไกล ยิงใกล้ เฮียยัสเข้แกรับกินหมดจริงๆ



ล่วงเข้าช่วงท้าย ท่านเซอร์ต้องปรับอีกระลอก คราวนี้เหมือนครั้งแรกครับ ทิ้งแผงหลังเช่นเดิม ดันเซ็นเตอร์คนใดคนหนึ่งแล้วแต่จังหวะเกม ขึ้นมาเล่นตรงกลางคอยช่วยจ่ายบอลขึ้นหน้า คาร์ริคกับสโคลส์ผลัดกันทะลุขึ้นไปส่อง เข้าไปจบ แต่จนแล้วจนรอดก็จบไม่ลง เม็กสันถอดการ์ดเนอร์ออกทันที และส่งปุยเกรนิเยร์ซึ่งเป็นหลังอาชีพลงมาช่วยเกมรับ ท่านเซอร์กดดันบ้าง เมื่อสั่งเว็ลเบ็คลงมาวอร์มข้างสนาม เท่านั้นเป็นได้เรื่องครับ เตเวซได้พลังแฝงเพิ่มขึ้นทันที เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นเว็ลเบ็คยืนยิ้มฟันขาวอยู่ข้างสนาม จากจังหวะนั้น บอลก็ไม่ตายเลย ทำให้ไม่ได้เปลี่ยนตัวสักที และโอกาสของเตเวซก็มาถึง เมื่อได้บอลหลุดมาทางมุมกรอบโทษด้านขวาและถูกรุมสกัดจากสองผู้เล่นโบลตัน เตเวซทำท่าจะล้ม แต่พลันที่หางตาเหลือบเห็นฟันขาวๆข้างสนามอีกครั้ง ก็ฝืนตัวสุดชีวิต ลากลูกไปต่อจนสุดเส้น ก่อนจะตวัดเร็วส่งบอลเข้าหน้าปากประตู เฮียดิมี่ไม่รู้มาจากไหนครับ พุ่งตอร์ปิโดบกเข้ามาพอดี ส่งบอลพุ่งผ่านเฉยีดตัวเฮียยัสเค่เข้าไปในนาทีที่ 91 พอดิบพอดี ลูกนี้เครดิตเตเวซเต็มๆครับ

หลังจากนั้นยังไม่ทันทำอะไรเพิ่มกันได้ เสียงนกหวีดยาวก็ดังขึ้น เป็นอันว่าแมนฯยูไนเต็ด เก็บสามคะแนนล้ำค่าออกมาจากรีบอค สเตเดี้ยมได้สำเร็จ แซงหน้าลิเวอร์พูลขึ้นไปเป็นจ่าฝูงเป็นครั้งแรกของซีซั่นนี้ได้เสียที และเป็นจ่าฝูงด้วยเกมที่เท่ากันเสียด้วย เรียกได้ว่า ลูกโหม่งลูกนี้ของเบอร์บา ส่งสัญญาณเตือนภัยระดับสึนามิ ไปยังแอนฟิลด์เรียบร้อยแล้ว




สำหรับผมเอง ไม่ต้องพูดถึงครับ กระป๋องเบียร์กระแทกปากเรียบร้อย พลันที่เฮียเบิร์บโหม่งเข้านั่นแหละ//ฮ่าฮ่าฮ่า ทำเอานอนฝันหวานตื่นสายทีเดียวเชียวครับ

ผลจากเกมนี้ แน่นอนว่ามันส่งผลกระทบสองเด้ง เด้งแรกคือความมั่นใจ ความฮึกเหิม ต้องกลับมาสู่ชายคาโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกคำรบ หลังจากหายไปตลอดเก้าสิบนาทีที่ผ่านมา นอกจากนั้นการทำสถิติคลีนชีตสิบนัดติดต่อในลีก ทั้งๆที่เอแวนส์ยืนตัวจริงกว่าครึ่งหนึ่ง ยังช่วยสร้างเสริมความมั่นใจอีกต่อหนึ่งให้แนวรับเรา

ผลอีกเด้งหนึ่ง แน่นอนครับ มันย่อมเกิดขึ้นที่แอนฟิลด์ เป็นความกดดันระดับลุ้นแชมป์ที่ลิเวอร์พูลได้รับจากเราเป็นครั้งแรกของซีซั่นนี้เช่นกัน หลงัจากก่อนหน้านั้น ถูกไล่ตามแบบคิดถึงห่างๆ แต่ตอนนี้ก็ถูกแซงเรียบร้อยแล้ว และความกดดันที่เผชิญตอนนี้ นั่นแหละครับ คือความกดดันการลุ้นแชมป์ของจริง




แล้วเรามาลุ้นกันต่อคืนนี้ครับ ว่าหงส์แดง จะก้าวข้ามผ่านบันไดขั้นแรกของการลุ้นแชมป์นี้ ได้หรือไม่


สงบใจ




 

Create Date : 19 มกราคม 2552
1 comments
Last Update : 19 มกราคม 2552 9:44:44 น.
Counter : 467 Pageviews.

 

ตอนดูก็ลุ้นใจขาดดิ้นเหมือนกัน...ผีแดงชอบทำเสียวนะ อี่ๆๆ
แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หงส์แดง แซงที่ 1 กลับไปแย้วอะ
ไม่เป็นไรเรายังแข่งน้อยกว่า 1 นัด หุหุ

 

โดย: UStogetheR 19 มกราคม 2552 10:17:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.