ม้าก้านกล้วย













ม้าก้านกล้วย
ไพวรินทร์  ขาวงาม 


ม้าก้านกล้วย กวีนิพนธ์ได้รับรางวัลซีไรท์ปี 2538  เป็นกวีนิพนธ์ไทยร่วมสมัย ที่สะท้อนให้เห็นพลังชีวิตและจิตใจของคนชนบท  ที่เข้ามาสู่เมืองด้วยความใฝ่ฝันและความหวังถึงชีวิตที่ดีกว่า  และได้กลายเป็นพลังอันสำคัญสร้างสรรค์สังคม แม้ว่าคนชนบทจะพบกับชีวิตแปลกแยกในสังคมเมือง  แต่ความผูกพันโหยหาชีวิตในถิ่นเดิมก็เป็นพลังหล่อเลี้ยงให้คนชนบทยืนหยัดอยู่ได้


ไพวรินทร์  ขาวงาม สามารถใช้กลวิธีทางวรรณศิลป์สร้างความกลมกลืนของรูปแบบและเนื้อหาด้วยการสรรคำกวีโวหาร  และลำนำแห่งเสียงถ่ายทอดอารมณ์สะเทือนใจให้ผู้อ่านได้ร่วมรับรู้ความรู้สึกนึกคิด และสารที่สื่ออย่างสมบูรณ์งดงาม




...บางช่วงบางตอนจากหนังสือ... 




ม้าก้านกล้วย 1

ด้วยมือพ่อต่อเติมปรารถนา
ตัดก้านกล้วยทำม้าให้ข้าขี่
ทั้งปืนกลก้านกล้วยก็สวยดี
เหมาะมือที่จะสู้รบกับไพริน


เสียงคำสอนพ่อสั่งก็ยังแว่ว
ลูกผู้ชายไม่แคล้วต้องจากถิ่น
สู่โลกกว้างทางไกลในแผ่นดิน
เสาะและสู้อย่ารู้สิ้นซึ่งแรงใจ


ม้าก้านกล้วยโจนทะยานจากบ้านทุ่ง
พาข้ามุ่งสู่พนาพฤกษาไสว
ด้นดงหนามระกำเกี่ยวลัดเลี้ยวไป
ข้ามบึงหนองคลองใส ไต่พนม


มุ่งสู่เส้นขอบฟ้าหาความฝัน
ล่วงร้อยวันพันคืนที่ขื่นขม
เคยรากไม้ต่างหมอนนอนระทม
เคยฟ้าห่มต่างผวยด้วยระกำ


ยังแต่ม้าเพื่อนยากในยามเปลี่ยว
เป็นเครื่องเหนี่ยวหัวใจไม่ถลำ
จนลุเมืองแห่งอารยธรรม
หนึ่งวิมานในม่านดำแห่งหมอกควัน


ข้าควบม้ามานานก็เหนื่อยนัก
จึงแวะพักหาเพื่อนผู้ร่วมฝัน
หยุดเจ้าม้าก้านกล้วยอยู่ด้วยกัน
ตึกเมืองต่างพนาวันพนมเชิง


มีโคมไฟต่างดาวดารดาษ
มีเถาวัลย์พันพาดดูยุ่งเหยิง
มีหรีดหริ่งเรไรใจกระเจิง
ด้วยเสีียงเมืองบันเทิงบรรเทาทุกข์


นานแสนนานกับการแสวงหา
เห็นแต่ม้าเพื่อนใจยิ่งไร้สุข
ยิ่งอ่อนแอแพ้ยักษ์ทุรยุค
ยิ่งไพรีก็รบรุกอยู่รอบกาย


ม้าและปืนของพ่อที่ต่อสู้
คงจะเฉาก่อนจะรู้ซึ้งความหมาย
เช็ดน้ำตาที่ขอบตา-ลูกผู้ชาย
หรือจะถึงคราวพ่ายต้องอายคน


เคยมือพ่อต่อฝันให้ฟันฝ่า
เคยฝันข้าเติมเข้มให้เต็มข้น
เคยทะนงควบม้ากล้าผจญ
มาถูกกักด้วยจักรกลกลางนคร


เจ็บอนาถบาดแผลก็เกลื่อนอก
ฝันจะหนีดงรกของเมืองหลอน
อยากควบม้าคืนทุ่งทะยานจร
ไปกราบพ่อขอพรอีกสักครั้ง




ม้าก้านกล้วย 2

กลับบ้านกันเถิดเพื่อนรัก
ย้อนเยี่ยมอาณาจักรความหลัง
ชักม้าชวนม้าออกกำลัง
บ่ายหน้าบ่ายหวังออกจากเรือน


เมืองนี้อยู่นานแล้วเหน็ดเหนื่อย
เหน็บหนาวหนืดเนือยจนหน้าเหลือง
ควบม้าเพื่อนยากย่างเยื้อง
ผ่านทุ่งมุ่งเบื้องบูรพา


ถนนฝุ่นทอดตัวรอเราแล้ว
ลำน้ำก็ทอดแนวอยู่เบื้องหน้า
ทุ่งถนนลำน้ำ-ตะวันอำลา
เราค่อยเลาะลัดวนาเพื่อพักนอน


ถึงรุ่งก็ถึงบ้านแล้วเพื่อนรั
หวังเพียงจะหยุดพักการเร่ร่อน
โอ้เจ้าม้าก้านกล้วยวเนจร
หนาวร้อนอย่างไรไม่ทิ้งกัน


พ้นแนวป่านี้ไม่ไกลนัก
เราจะพบอาณาจักร ณ ที่นั่น
ความหลังรังรองระยับนิรันดร์
บ้านเกิด-ฝันนั้นยังฝันนาน


หนาวเช้ายังเหยาะย่างไม่ระย่อ
หลับตาเห็นพ่ออยู่หน้าบ้าน
แม่ยิ้มจากครัวอย่างเบิกบาน
น้องน้องหลานหลานวิ่งตัวลอย


เถาตำลึงริมรั้วก็ยั่วทัก
กระถินฝักดอกแคก็แย้มค่อย
มะรุมรอมะละกอก็รอคอย
ใบหม่อนไหมน้อยก็ตื่นตัว


ลมลอดกอไผ่เป็นเพลงล่อง
ดงกล้วยใบตองก็ไกวทั่ว
ม้าเอ๋ยอกข้าระทึกรัว
กล้ากล้ากลัวกลัวไม่รู้แล้ว


กราบพ่อขอโทษที่ลูกแพ้
กราบแม่ขอพรรำพึงแผ่ว
พ่อยิ้มแม่แย้มอยู่นั่นแล้ว
ปลอบว่า-ลูกแก้วอย่ากังวล


กินข้าวกินปลาเสียก่อนเถิด
แนบกายบ้านเกิดอีกสักหน
หายเหนื่อยพรุ่งนี้ไม่จำนน
อีกครั้งเริ่มต้นจะเป็นไร


น้ำตาข้าริมจะรินร่วง
สุขซึ้งถึงสรวงสวรรค์ได้
โลกยิ้มยินดีกับหัวใจ
รับขวัญวันใหม่ให้ม้าจร





งานเลี้ยงรับน้องใหม่บนฟากฟ้า
(แด่แม่ผู้สูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก)


เจ้าจันทราประแป้งแต่งตัวแล้ว
ชวนดาวแก้วทาแก้มแย้มนวลฉาย
เมฆทอปุยเพียงนุ่นกระจัดกระจาย
ฟ้าทอฟากฝันพรายพริบสายตา


เบิ่งฟ้าซี บุญปลูกลูกรักของแม่
ฟ้าคืนนี้งามแท้นะแม่ว่า
อุ่นอิ่มงามความหวังฟ้าทั้งฟ้า
รอมิ่งขวัญลูกยาโบยบินไป


บินเถิด...ลูกรัก บินไปเถิด
แผ่นดินสวรรค์ยังเปิดประตูให้
ทางช้างเผือกทอดยาวพริบพราวไกล
โรยกล่นกลีบดอกไม้จากหมู่ดาว


แผ่นดินโลกหมดเวลาของลูกแล้ว
เพื่อนพิกุลเกดแก้วต่างร้าวหนาว
ช่างกระไรชีวันมิ่งขวัญวาว
เพียงหลับฝันครู่คราวของค่ำคืน


ฝันสมควรแก่เวลาของลูกแล้ว
จึงลับแวววาวฝันเมื่อพลันตื่น
แม่สิกลืนน้ำตาไปหลายกลืน
อิ่มอื่นไม่เท่าอิ่มน้ำตาตรม


มาสู่แม่ให้แม่รักไม่ทันไร
ลูกก็ผ่านแม่ไปกับขื่นขม
ประหนึ่งโลกโหดร้ายไม่หมายชม
แกล้งให้ฝันลูกล่มลงกลางคัน


โลกฉะนี้ ชีวิตหนอฉะนี้
ชั่วนิรันดร์บางทีก็แสนสั้น
จะโทษโลกอย่างไร โทษใครกัน
ก็เราล้วนมีวันของตัวเอง


แน่ะจันทราประแป้งแต่งตัวแล้ว
เจ้าดาวแก้วยิ้มแย้มแก้มนวลเปล่ง
ลูกชายแม่...บินขึ้นไปจะไม่เคว้ง
เพื่อนบนฟ้าต่างร้องเพลง...เลี้ยงต้อนรับ!





สาเหตุที่นำหนังสือเล่มนี้มาแนะนำเพราะเชื่อแน่ว่าคนที่รักในกวีนิพนธ์น่าจะชื่นชอบผลงานเล่มนี้ และสำหรับคนไม่ได้รักงานเขียนประเภทบทกวีก็อยากให้ลองอ่านค่ะ บางทีคุณอาจจะหลงรักหนังสือเล่มนี้เหมือนเราก็ได้





เอนทรี่นี้เพื่อนๆไม่ต้องโหวตนะคะ แค่แวะมาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ




 

Create Date : 30 กันยายน 2559
0 comments
Last Update : 30 กันยายน 2559 7:46:12 น.
Counter : 8487 Pageviews.


เรียวรุ้ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




...ดอกไม้แห่งมิตรภาพ...
ไม่เคยเลือก
ชั้นหรือวรรณะในการก่อกำเนิดเมล็ดพันธุ์
ไม่เคยเลือก
น้ำใจในการรินรดให้ต้นกล้าเติบโต
ไม่เคยเลือก
สถานที่ในการเบ่งบาน งอกงาม

“กาลเวลา”
จะเป็นผู้พิสูจน์ว่า
“ดอกไม้แห่งมิตรภาพ”
จะเจริญงดงามนานเพียงใด

“ความจริงใจ”
จะเป็นผู้หล่อเลี้ยงให้
“ดอกไม้แห่งมิตรภาพ”
ไม่มีวันโรยรา แม้กาลเวลาจะล่วงผ่านเลย








...ขอบคุณ ณ ที่นี้...
BG จากคุณดอกหญ้าเมืองเลย
กล่อง Comment จากป้าเก๋า(ชมพร)
ของแต่งBlog น่ารักๆจากป้าเก๋า(ชมพร)
emotionหมีจากคุณ On-rainy-days



Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 
30 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เรียวรุ้ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.