++ใครทำอะไรที่ไหน ขอไปร่วมวงด้วยคน++
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
+&+&+ หนีน้องน้ำจากเมืองไทย ไปผจญภัยในปักกิ่ง ตอนที่ 6 Temple of Heaven +&+&+

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในปักกิ่งของเราสองแม่ลูกแล้วค่ะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปกวางโจว ก่อนจะขึ้นเครื่องแอร์เอเชียกลับกรุงเทพฯ ต่อไป

หลังจากให้คุณนายเลือกระหว่างเขาเซียงซานกับเทียนถานแล้ว คุณนายแม่เลือกเทียนถาน เราก็เลยได้มาที่นี่

เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ และเราออกจากที่พักสายพอสมควรคือเกือบเก้าโมงแล้ว ก็ทำให้รถไฟฟ้าสาย ๕ ที่ผ่านที่พักของเรา แน่นขนัดเหมือนเคย

เราตัดสินใจรอรถจนกว่าจะพอมีรถไฟคันที่เราพอจะเอาตัวใส่เข้าไปในรถได้ เพราะรู้แล้วว่า อีกแค่สถานีสองสถานี มันก็จะเริ่มว่าง
ก็ใช้เวลารออยู่หลายขบวนเหมือนกัน

ไปเทียนถานไม่ต้องต่อรถไฟ ก็ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง โผล่มาก็ซื้อตั๋วได้เลย



ค่าตั๋วแบบผ่านตลอด ห้าสิบหยวน ถ้าไม่อยากผ่านตลอด ก็มีตั๋วให้ซื้อเป็นส่วนๆ ด้วย ๕๕๕

บริเวณรอบๆ เทียนถาน เป็นเหมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ค่ะ มีกิจกรรมมากมายที่นี่



สนามหญ้าเขียวขจี หอมกลิ่นหญ้าที่เพิ่งโดนตัดให้เป็นแถว



เดินไปสักพัก ก็จะเจอกับคนเก็บตั๋ว

แล้วเราก็จะเจอกับหอฟ้าเทียนถานตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้



จากนั้นก็เหมือนกับทุกที่เที่ยวในประเทศจีน นั่นคือ เดิน เรื่อย เรื่อย ๕๕

แต่วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยอะ ชักหิว แวะนั่งกินแอปเปิ้ลแถวนี้ก่อน



กินไปก็ชมนกชมไม้ไป แต่มันหนาวข้างหลังมาก เพราะว่า เขาเปิดสปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้เขียวๆ ของเขาอยู่ด้านหลัง ก็เลยนั่งนานไม่ได้



อันนี้ที่วางเครื่องเซ่นไหว้ฟ้าดิน มีแปดอัน นับดูซิ ครบไหม



จุดนี้แย่งกันยืนน่าดู ว่ากันว่าเป็นจุดที่ใช้สำหรับบูชาเทพเจ้า



แต่จุดนี้มะมีคนแย่ง ๕๕๕๕


เดินจนสุดทางก็มาทะลุทางออก จริงๆ เป็นทางเข้าด้านหน้า ๕๕๕ เราเข้าข้างหลังอีกแล้ว

พยายามหารถเมล์ไปสถานีรถไฟใต้ดิน ไม่อย่างนั้นเราจะต้องเดินอ้อมสวนกลับไปอีกรอบ ไม่ไหวๆ

เดินส่องป้ายรถเมล์อยู่นาน เปลี่ยนป้ายก็หลายป้าย จนคุณนายนำเหนอขึ้นมาว่า ก็ขึ้นๆ ไปเถอะ เห็นป้ายบอกว่ารถไฟใต้ดินตรงไหนก็ค่อยลง

เออเนอะ โง่อยู่ได้ตั้งนาน ๕๕๕

จุดหมายต่อไปของเราคือตลาดเสื้อผ้าตรงหน้าสวนสัตว์ปักกิ่ง

ไปถึงก็บ่ายกว่าเกือบบ่ายสองแล้ว หิวอะสิ สองคนแม่ลูกเลยได้แมคเบอร์เกอร์คนละชิ้น แล้วก็แมคนักเก็ตกล่องนี้ เป็นอาหารมื้อแรกของวัน



น้ำจิ้มนักเกต อร่อยดี



สะสมคิตตี้อะไรกันก็ไม่รู้ อยากได้ ๕๕



จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาช็อปปิ้งค่ะ รูปอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ถ่ายแล้ว

ในตึกนี้เป็นเสื้อผ้าคล้ายๆ แพลตตินั่มบ้านเรา หรือว่าเหมือนโบนันซ่าสมัยก่อนน่ะ กางเกงยีนส์เยอะมาก เลือกไม่ถูก งงไปหมด
ได้กระเป๋าน้ำร้อนแบบเสียบปลั๊ก อันย่อมๆ มาสองอัน อันละสิบหยวน

เดินจนเมื่อยแล้ว ก็เลยว่าจะกลับ ก่อนกลับแวะเดินแบกะดินข้างหน้าตึก

ก็จะมีของขายแบบแบกะดินจริงๆ แต่น่าจะผิดกฏหมายแหละ คุณภาพของก็ตามราคาอะนะ

อย่างเช่นว่า ถุงเท้าคู่ละหยวน หรือว่าลองจอนทั้งชุดยี่สิบแปดหยวน คิดเป็นเงินไทยก็ไม่ถึงร้อยห้าสิบ

คุณนายยืนคิดอยู่นานเกินไป ตำรวจมา วงแตก ไม่ได้เสียตังค์เลย ๕๕๕



ช็อปเสร็จที่นึงก็กะจะไปหาที่ช็อปต่ออีกที่นึง เผื่อว่าจะได้ซื้อของฝากอะไรบ้าง

ตามตำราในหนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์ บอกว่ามีตลาดหย่าโชว์อยู่ อ่านก็ยังขำว่าตลาดอะไรกันมีการห้ามโชว์ด้วยนะ ๕๕

เราก็เดินทางตามตำราเลย ไปโผล่ที่ไหนสักแห่ง แต่เห็นซุปเปอร์ใหญ่อยู่ข้างทาง โฉบเข้าไป ได้กาแฟทรีอินวันเจย์โจวมาสองกระป๋อง

จากนั้นก็ออกเดินทางไปหาตลาดหย่าโชว์โดยการขึ้นรถเมล์ไปอีกสองป้าย แต่ไม่รู้ว่าเราขึ้นผิดทางหรือเปล่า เลยหาตลาดหย่าโชว์ไม่เจอ เจอแต่แก๊งนี้โชว์ ๕๕



จากนั้นก็กลับมาที่พักค่ะ ปรากฏว่า สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ๕๕๕

มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก เพียงแต่ว่าน้ำดื่มที่นี่น่ะ ข้างขวดจะเป็นรูปหวังลีหง เราก็กะจะเอาสลากไปฝากแฟนพี่หวัง

ทุกวัน คุณนายจะเอาน้ำในกระติกที่เราต้มชงชากินแล้วเหลือ กรอกใส่ขวดน้ำไว้ แต่ไม่ได้พกขวดไปด้วยนะ ขวดมันก็สติลอยู่ที่เดิมนี่แหละตลอดมาห้าหกคืน

จนกระทั่งวันนี้แหละ ที่เราไม่ได้กรอกน้ำไว้ ปรากฏว่าพอกลับมาถึงห้องพัก เอ๊ะทำไมมันโล่งๆ หว่า ๕๕๕

ขวดน้ำเราหายไปค่ะ เลยต้องออกไปตามล่าหาขวดน้ำ ๕๕๕
ก็เลยลองชวนกันว่า มานอนอยู่แถวนี้ตั้งหลายคืนนะ ไม่เคยเดินไปดูเลยว่าละแวกนี้เขามีอะไรกันบ้าง

พอเดินเลยทางลงสถานีรถไฟใต้ดินที่เราใช้เดินทางแทบทุกวัน ก็พบว่า มีซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านเดียวกับที่เราเจอเมื่อตอนเย็นแต่ใหญ่กว่า๕๕๕

เข้าไปช็อปน้ำกลับเมืองไทย (ได้ข่าวว่าขาดแคลนน้ำดื่ม ๕๕๕) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างๆ เพื่อกำจัดเงินที่เหลือในบัตรอี้ข่าท่งค่ะ เพราะว่าตั้งใจว่าจะไม่หาที่คืนบัตรแล้ว เหนื่อย

จากนั้นเราก็กลับมากินข้าวที่ร้านข้างโรงแรมร้านเดิม ทำไมวันนี้มีเครื่องเคียงมาเสริฟก่อน วันก่อนไม่เห็นมี
ถ้วยนี้เขาเอามาเสิร์ฟเอง คงจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยมั้ง แต่รสชาติมัน เจี๊ยะบ่โละจริงๆ นะ๕๕
มีผักดองมาเป็นออเดิร์ฟด้วย


จากนั้นก็กลับที่พักเตรียมแพคกระเป๋าเพื่อออกเดินทางตั้งก่าเช้ามืดค่ะ

ค่าแท็กซี่ไปสนามบินประมาณเจ็ดสิบหยวน (จริงๆ มันหกสิบห้าหรือไงเนี่ย แต่ทิปคนขับไป)



เช็คอินแล้วก็หากาแฟกิน

อยากจะบอกว่า กาแฟมื้อนี้ เป็นอาหารมื้อที่แพงที่สุดในทริปเลยทีเดียว

โดยเฉพาะกาแฟของคุณนาย ซึ่งยังบ่นมาจนวันนี้ว่า มันแค่ไม่ถึงอึกดี ๕๕๕

กับแซนวิชหน้าตาไม่ดีที่มีขนมปังตัดครึ่งอยู่สามแผ่นกับผักเหี่ยวๆ หนึ่งใบ เอิ๊ก



ขึ้นเครื่องแล้ว กินข้าวบนเครื่องก็ได้เนอะ วันนี้เราเดินทางด้วยสายการบินไชน่าเซาท์เทิร์นค่ะ



อาหารสายการบินนี้ อร่อยกว่าสายการบินขามานิดนึงค่ะ หรือหิวหว่า

บินมาได้สามชั่วโมง ก็ถึงกวางโจวค่ะ แต่ว่าข่าวร้าย กวางโจวฝนตก แง๊

ฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบินค่ะ กว่าจะหาจุดฝากกระเป๋าเจอเล่นเอาเหนื่อยเลย

ใครจะฝากกระเป๋าที่สนามบินกวางโจว ให้มาที่ประตูเบอร์ ๘ นะคะ



ตรงจุดแรกที่เราจะฝาก เขาจะปิดแค่สองทุ่ม ก็บอกให้เราเดินหาประตูหมายเลขแปด แต่ว่า ฟากที่เราเดินหาน่ะ มันมีประตูจากเบอร์สิบหก ไล่ลงมาจนกระทั่งถึงเบอร์เก้า แล้วประตูแปดไปไหน หาเกือบตาย กระเป๋าก็หนักสุดๆ อยู่ติดกับเคาน์เตอร์วีไอพีนี่เอง



ฝากกระเป๋าไว้สี่ใบค่ะ (ได้ข่าวว่าขามามีแค่สอง ๕๕๕)

เขาบอกให้เรามาเอากระเป๋าก่อนสี่ทุ่มนะ คือเขาคิดเวลาเป็นชั่วโมง สี่ชั่วโมงเท่านี้ แปดชั่วโมงเท่านี้ ประมาณนั้น



จากนั้นก็ถามหาวิธีการเข้าเมืองที่เคานเตอร์วีไอพีน่ะแหละ ๕๕๕

เขาก็บอกว่า มีซับเวย์ ยูไปประตูเบอร์ห้านะ ทางลงอยู่ตรงนั้น อ่า

ลงบันไดเลื่อนไป ก็เจอกับรถไฟใต้ดินเข้าเมืองค่ะ ค่ารถคนละเจ็ดหยวนเท่านั้น

ตั้งใจจะไปอนุสาวรีย์ห้าแพะ แต่ออกจากสถานีมาเจอว่าฝนตก ก็ขี้เกียจจะเดินหาแพะแล้ว

แถมมีอุบัติเหตุนิดหน่อย คุณนายลื่นล้มด้วย

คำเตือนในรถไฟฟ้าที่แปลกประหลาดที่สุด ห้ามห้อยโหน ๕๕๕ กวางโจวนี่เป็นเมืองกายกรรมจริงๆ นิ



ในเมื่อฝนมันตกนัก ก็ไปช็อปดีกว่าเนอะ นั่งรถไฟใต้ดินอีกทีค่ะ ไปเป่ยจิงลู่กัน
แต่ฝนตกอะ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนะคะ

เลือกกินอาหารมื้อสุดท้ายเป็นอาหารญี่ปุ่นค่ะ



หมดมื้อนี้แล้วก็กลับไปนั่งๆ นอนๆ รอที่สนามบินอย่างหมดสภาพ

แล้วก็กำจัดเหรียญในกระเป๋า โดยการหยอดน้ำชาขวดๆ ข้างในเกท ๕๕๕

จะบ้าแบกน้ำไปไหน

จบการผจญภัยในปักกิ่งแต่เพียงเท่านี้ค่ะ




Create Date : 28 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 14:03:46 น. 0 comments
Counter : 2419 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ร่วมวงด้วยคน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ร่วมวงด้วยคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.