++ใครทำอะไรที่ไหน ขอไปร่วมวงด้วยคน++
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 

@@ ไต้หวัน เดือนเมษา ตะลอนทัวร์ทั่วเกาะ ตอนที่ 11 Yilan & Hualien @@

เช้าวันนี้ต้องออกต่างจังหวัดอีกแล้วค่ะ

ประสบการณ์(หิวโหย 55) จากเมื่อวาน บอกให้เราหาอาหารเช้ากินให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

เราก็เลยเดินออกจากที่พัก เพื่อหาอาหารเช้ากินกันก่อนค่ะ

คุณนายบอกว่า เรายังไม่ได้เดินมาทางนี้เลย (คนละทางกับวันที่ไปตลาดที่อยู่ในตึกน่ะค่ะ) ก็เลยตกลงว่าจะลองเดินไปดูกัน

เจออาแปะหาบเต้าฮวยขายอยู่ค่ะ สอยไว้ก่อนดีกว่า 555

เต้าฮวยอาแปะ ถ้วยละ 30 NT ค่ะ


พออาแปะหาบเต้าฮวยเดินหนีไป เราก็เห็นร้านขายน้ำเต้าหู้ร้านนี้ค่ะ



คุณนายสอยปาท่องโก๋ตัวยาวมากินคู่นึง พร้อมกับชามนี้ค่ะ โต้วเจียง หรือ น้ำเต้าหู้นั่นเอง



หลังจากคุณนายชิมแล้วว่าโต้วเจียงผ่าน อิฉันก็สั่งมาชิมมั่งค่ะ

ก็โอเคนะคะ รสชาติเหมือนน้ำเต้าหู้บ้านเรา ค่าน้ำเต้าหู้สองชามกับปาท่องโก๋ 42 NT ค่ะ

แอบเหล่คนนั่งโต๊ะเดียวกัน เขากินน้ำอะไรไม่ทราบค่ะ แดงๆ ข้นๆ น่าจะเป็นน้ำถั่วแดง

กินเสร็จเราก็ออกเดินทางค่ะ แต่ว่าก่อนไป เงินไต้หวันเราเริ่มเหลือน้อยค่ะ
ชักไม่มั่นใจว่าจะอยู่รอดถึงวันกลับได้

ประกอบกับวันนี้เป็นวันศุกร์ค่ะ ถ้าเราไปค้างต่างจังหวัดแล้วกลับมาในวันเสาร์จะหาที่แลกเงินไม่ได้

แจน เจ้าของที่พักที่เราพัก บอกว่า น่าจะมีแบงค์ที่รับแลกเงินไทย เดินไปทางทางออกที่ 3 ของสถานีซีเหมินติงค่ะ

แต่ว่าเราหาแบงค์ที่แจนบอกไม่เจอ เจอแต่อีกแบงค์นึง ชื่อเมก้าแบงค์ค่ะ

จำได้ว่าตอนแลกตู้ที่สนามบิน ก็แลกแบงค์นี้แหละ ก็เลยลองเดินเข้าไปดูค่ะ

รปภ.ออกมาต้อนรับอย่างดี พอบอกว่า มาห้วนเฉียน(แลกเงิน)

เขาก็ถามว่าเงินอะไร รปภ. พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยด้วยค่ะ โอ้ว วันเดอร์ฟูลจริงๆ 5555

แล้วรปภ. ก็กดบัตรคิวให้เราเสร็จสรรพค่ะ พร้อมกับขอพาสปอร์ตเราไปถ่ายเอกสาร

ตอนแลกเงินมีแอบเฟอะนิดหน่อยค่ะ 55 คือว่า จะแลกห้าพันบาท แต่แบงค์พันใหม่มันติดกันค่ะ ให้เขาไปหกพัน
พอเขาส่งเงินไต้หวันให้มา 5100 NT พร้อมกับสลิป เราก็งงๆ ว่าเอ เงินไทยมันเล็กกว่าไต้หวันนี่นา ทำไม่ 5000 ถึงแลกได้ 5100 ก็ท้วงเขาไปค่ะ

เขาก็พูดกับเราไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่แล้ว เลยตกใจกันใหญ่ 555
เขาเอาแบงค์มานับให้เราดูใหม่ค่ะ ว่า หกใบนะยู หกพัน ไม่รู้เขาจะคิดว่าอิฉันนึกว่าแลกมากใบกว่านั้นหรือเปล่า

แลกเงินเรียบร้อย ก็ออกเดินทางค่ะ ลงรถใต้ดินไปไทเปเชอจ้านเหมือนเดิม คราวนี้ซื้อตั๋วรถไฟไปอี๋หลันค่ะ



ที่จริง อี๋หลัน ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวของไต้หวันนะคะ

แต่ว่า ร่วมวงฯมีความจำเป็นบางประการต้องไปแวะเมืองนี้ค่ะ

ใครไม่มีความจำเป็นจะผ่านไปเลยก็ได้ค่ะ 5555

อี๋หลันเป็นเมืองด้านฝั่งตะวันออกของไต้หวันค่ะ อาจจะเป็นฟากหน้าเขา เลยรับลมฝนตลอดปี ฝนตกแทบจะตลอดเวลาค่ะ หนักบ้างเบาบ้าง ต่างกันไป

รถไฟขบวนที่นั่งจากไทเปไปอี๋หลัน ใหม่กิ๊กเลยค่ะ แหม ถ้ารู้ว่าจะได้นั่งรถใหม่อย่างนี้ ไม่แวะซะก็ดี



ที่เท้าแขนมีของเล่นด้วย



มันคือ โต๊ะไว้วางรับประทานอาหารค่ะ

คุณนายเลยได้โอกาสจัดการเต้าฮวยอาแปะซะ



ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้วค่ะ อี๋หลัน



เพราะว่าข้อมูลของอี๋หลัน หายากมากเลยค่ะ (ก็มันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอ่ะนะ)

ก็เลยแวะอินฟอร์เมชั่นหน้าสถานีรถไฟซะหน่อยค่ะ เผื่อว่ามีโอกาสมาใหม่ จะได้ลองมาเที่ยวดู



จากนั้นเราก็ลองเดินหาข้าวกลางวันกิน

เจอกับร้านนี้ค่ะ



เล็งดูว่ามีคนนั่งพอสมควรนะ ก็เลยแวะ



พอนั่งปุ๊บ เจ้าของร้านก็เอานี่มาวางค่ะ

แย่แล้วสิ คั่นปู๋ต่ง (อ่านไม่ออก) ซะด้วย 5555



นั่งงงอยู่พักใหญ่ก็ถือกระดาษกลับไปให้คนขายค่ะ บอกว่า ขอโทษเถอะ อ่านไม่ออกจริงๆ 5555

คนขายก็งงๆ ว่าแล้วมันนั่งคลำอะไรกันอยู่

บอกเขาว่า เอาข้าว กับเนื้อหมู เขาก็จัดให้ค่ะ

หน้าตาดีเหมือนกันนะเนี่ย



แล้วชามนี้ก็ตามมา หง่า ไม่ได้สั่งอ่ะ มันมาไงไม่รู้ 555

แต่มันมา ก็กินค่ะ เดี๋ยวคนทำจะเสียใจ อิอิ



ส่วนจานนี้ เดินไปชี้ปลาหมึกที่หน้าตู้ค่ะ อร่อยดี


สรุปว่า อาหารร้านนี้ ผ่านค่ะ อร่อยดี กินได้ รสชาติไม่จืดชืด 555

อิ่มแล้วก็เดินต่อค่ะ มาเจอร้านขนมร้านนี้



ซื้อขนมไปตุนซะหน่อย 555



เนื่องจากฝนตกอยู่ตลอดเวลาค่ะ ประกอบกับกลัวว่าจะไปถึงฮวาเหลียนเย็นมาก อินฟอร์เมชั่นที่ฮวาเหลียนจะปิด แล้วเราก็อาจจะหาทางไปที่พักไม่เจอแบบที่เกาชุง

ก็เลยตัดสินใจขึ้นรถไฟต่อไปฮวาเหลียนเลยค่ะ



รถไฟขบวนนี้ เก่ากว่าขบวนที่ขึ้นมาอี๋หลันอยู่สักหน่อย ไม่มีเบอร์โชว์ข้างตู้ด้วยค่ะ

เกือบตกรถไฟแล้วเพราะคิดว่าไม่ใช่ขบวนนี้

ดีว่ารถไฟที่นี่ ตรงเวลาสุดๆ ค่ะ เราเห็นเวลาเข้ามาตรง ก็เลยวิ่งไปถามเจ้าหน้าที่ เอาตั๋วให้เขาดู เขารีบเปิดประตูรถให้เราขึ้น บอกว่าขบวนนี้แหละ

ในที่สุดก็ถึงค่ะ สถานีฮวาเหลียน

//ypplpq.bay.livefilestore.com/y1pVXzcSrg_d1dXQvZgGEvz6im17GRcXjgvVRkILqxBSYuUDj8P3icuGCEq3rmE-hmSQBafhpvRwfqxjzBk_4l88w/20090417-020.jpg

สถานีฮวาเหลียนค่อนข้างใหญ่ค่ะ เพราะว่าเมืองฮวาเหลียนเอง ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย

นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยค่ะ เดินทางมาเพื่อจะชมอุทยาแห่งชาติทาโรโกะ

ร่วมวงฯ ก็มาเพื่อเหตุนี้เหมือนกันค่ะ

แต่ก่อนอื่น เราต้องหาที่พักของเราให้เจอก่อน 555

เลี้ยวเข้านี่เลยค่ะ อินฟอร์เมชั่น ของที่นี่เปิดถึงสี่ทุ่มแน่ะ



ดูกันให้ชัดๆ ค่ะ เจอแบบนี้ เข้าไปได้เลย 555

เจ้าหน้าที่ที่นี่ สุดยอดมากๆ ค่ะ พูดภาษาอังกฤษคล่องสุดๆ แถมยังช่วยเหลือเราแบบเต็มความสามารถเชียวค่ะ

เธอบอกว่า ถ้าเราเรียกแท็กซี่ไปที่พัก ค่าแท็กซี่จะประมาณ 160 NT แต่ถ้าขึ้นรถบัส ก็จะถูกกว่านั้น (อ่ะ อันนี้ชัวร์) แต่ประเด็นคือ รถบัสไม่มีหมายเลข และ เราจะลงถูกได้ยังไง

ถ้าจะขึ้นแท็กซี่ ก็อาจจะพูดกับคนขับไม่รู้เรื่อง (จริงๆ แล้วเหมือนกับว่า คนที่ไต้หวัน ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใครขึ้นแท็กซี่เลยค่ะ เขาจะบอกว่ามันแพง แต่มันก็แพงจริงๆ นะคะ ขึ้นนั่งปุ๊บ ก็เจ็ดสิบ NT เข้าไปแล้ว)

เพราะฉะนั้น เธอจะโทรไปที่โรงแรม (ตามเบอร์โทรในอีเมล์จองโรงแรมของเรา) แล้วให้โรงแรมส่งรถมารับเราดีกว่า ให้เรานั่งรอที่นี่ สักสิบนาที ได้มั้ย

อูย ยิ่งกว่าได้ค่ะ ให้รอครึ่งชั่วโมงก็ยังได้ 5555

ระหว่างรอรถ เราก็เลยถามเรื่องที่เที่ยวค่ะ เพราะว่า จริงๆ ก็ลังเลที่จะเที่ยวทาโรโกะ เนื่องจากข้อมูลที่ได้มา บอกว่า จะต้องเหมาแท็กซี่เที่ยวจะสะดวกกว่า

ปรากฏว่า เธอแนะนำให้เที่ยวทาโรโกะค่ะ55
เธอบอกว่า ตอนนี้มีทัวร์ 1 วัน สำหรับเที่ยวทาโรโกะแล้ว ค่าทัวร์คนละ 988 NT พร้อมอาหารกลางวันนะคะ
ถ้าเราสนใจ ให้ติดต่อที่โรงแรมได้เลย เขาสามารถจองที่นั่งให้เราได้ค่ะ



แป๊บเดียว รถโรงแรมก็มารับค่ะ ดูเขางงๆ อยู่ที่เราสองคนแม่ลูก ไม่มีกระเป๋าเดินทาง 555
มีเพียงเป้ที่ร่วมวงฯ แบกอยู่ กับกระเป๋าสะพายใบโตของคุณนาย
เพราะว่าเราทิ้งทุกอย่างไว้ที่ไทเปหมดเลยค่ะ

นั่งรถไปสักสิบนาทีได้ ก็ถึงที่พักค่ะ พนักงานบริการที่เคาน์เตอร์โรงแรม บริการเข้าขั้นเทพ 555 พูดฝรั่งปร๋อเช่นกันค่ะ

พอเราเข้าไปเช็คอิน เขาก็จะให้เราเลือกอาหารเช้าพรุ่งนี้ค่ะ แล้วก็เลือกเวลาเสิร์ฟ 55 แถมด้วยซิลวาเนียและหนังสือแนะนำที่ท่องเที่ยวในไต้หวันอีกหนึ่งเล่ม

หลังจากนั้น เราก็ขอให้เขาจัดการจองทัวร์ทาโรโกะให้ พร้อมกับบอกให้เขาช่วยบอกคนขับรถด้วยว่า ขากลับให้เขาส่งเราที่สถานีรถไฟเลย
จองทัวร์วันพรุ่งนี้เสร็จสรรพ ก็เข้าที่พักกันค่ะ



แต่เปิดตู้เสื้อผ้าออกมา เจออุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เคยเจอที่โรงแรมไหนมาก่อนวางอยู่ค่ะ

คุณนายบอกว่า อุ๊ย โรงแรมนี้เขามีโน้ตบุคให้เธอใช้ด้วย 555



แต่มันไม่ใช่โน้ตบุคนะคะ จะเป็นอะไรไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ

เห็นฝนขาดเม็ดไปแล้ว ก็เลยรีบลงไปเดินข้างล่างค่ะ

จำได้ว่าตอนจองโรงแรมนี้ โรงแรมจะอยู่ไม่ห่างชายทะเลนัก

และ ที่ชายทะเล จะมีตลาดกลางคืนอยู่ด้วยค่ะ แจ่มมั้ยล่ะ

จะรออยู่ไย รีบไปกันดีกว่าค่ะ



เดินออกมาได้พักนึง ตามลายแทงที่ได้จากทั้งโรงแรมและเจ้าหน้าที่ที่อินฟอร์เมชั่นค่ะ

ก็ว่าน่าจะเดินมาถูกทางแหละ แต่เหมือนมีใครเดินตาม 555

ไม่ใช่คนหรอกค่ะ เป็นเมฆต่างหาก เมฆฝนซะด้วยค่ะ ดำปื้ดเลย

เพื่อความชัวร์ เราถามชายคนหนึ่งที่เดินผ่านหน้าค่ะ จะได้ไม่หลงทางให้เสียเวลา แล้วจะติดฝนอยู่แถวนี้

ชายคนนั้นบอกว่ามาถูกแล้วแหละ เดินตรงไปข้างหน้า ประมาณห้านาที

เห็นต้นปาล์มอยู่ไหวๆ แต่ว่า ที่เห็นน่ะ เป็นที่โล่งแจ้งนะคะ

ตอนที่กำลังเดินลังเลไปลังเลมาว่าจะไปไม่ไป ก็เจอกับร้านขายผลไม้แบกะดินค่ะ

คุณนายเห็นเถาจึ 555 ยังติดใจจากวันก่อน รีบรี่เข้าไปหา

แถมเถาจึที่นี่ ราคาถูกมากค่ะ ครึ่งโล 25 NT เท่านั้น

คุณนายรีบเลือกเถาจึใหญ่เลยค่ะ 55 เรียกว่า ไม่ได้กลัวลมที่กำลังกรรโชกแรงกันเลยที่เดียว

ได้เถาจึแล้วก็ได้องุ่นมาด้วยค่ะ

ตัดสินใจว่า ไม่ไปแล้วดีกว่า ชายทะเล กลัวฝนค่ะ มันดูท่าจะไม่มีที่หลบซะด้วยสิ

แต่ว่า แล้วคืนนี้ เราจะกินอะไรกันล่ะ

ขากลับมาโรงแรม เหมือนสวรรค์ทรงโปรดค่ะ สงสัยจะกลัวเราอดเหมือนเมื่อวาน 55 เลยปะกับร้านนี้เข้า



หน้าร้านก็ตกแต่งน่ารักดีค่ะ



มาดูอาหารในร้านกันค่ะ
นี่ เขาขายนี่เลยค่ะ



เอาหล่ะ ไม่ว่าจะพูดรู้เรื่องไม่รู้เรื่อง ก็จะกินแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวอดอีก 55

หลังจากส่งภาษามืออยู่นาน เจ้าของร้านก็พอรู้ว่า เราอยากได้ข้าวกับเนื้อปลา ก๊ากก

แต่ก็ยังไม่เข้าใจที่เราบอกว่าจะไม่นั่งที่ร้าน จะกลับไปโรงแรม คือเขาคิดว่าเรายังอธิบายอาหารอยู่น่ะค่ะ เขาก็เลยบอกว่า เขาขายซูชินะ เอ้อ นั่นแหละค่ะ ที่จะกินอ่ะค่ะ

ทำไมเราไม่พูดว่าซูชิซะแต่แรกก็ไม่รู้ 555

พอเริ่มรู้ว่า สามารถสั่งอาหารเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ คือว่า เรียกชื่ออาหารทับศัพท์เหมือนบ้านเราน่ะค่ะ ก็เลยสั่งใหญ่เลย

ที่จริงถ้าไม่กลัวฝนจะถล่ม ก็อยากจะนั่งที่ร้านนี่แหละค่ะ




ได้อาหารแล้วก็รีบจ้ำอ้าวกลับโรงแรมค่ะ

มาดูกันนะคะว่าได้อะไรมากิน

เปิดมากล่องแรกเป็นซูชิค่ะ เขาถามว่า สำหรับสองที่หรือเปล่า แต่เราดันบอกว่า หนึ่งที่ค่ะ เลยได้ซูชิมาเท่านี้



ตอนแกะกล่องออกมา แทบจะวิ่งกลับไปสั่งที่ร้านใหม่เลยค่ะ 555

ตะกละน่ะค่ะ กลัวไม่อิ่ม

แต่กล่องนี้สิคะ โอ้ว ให้ตาย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้กินอิคุระขนาดนี้มาก่อน

อร่อยมากๆ ด้วยค่ะ เขาทำเป็นแบบยำๆ บีบมะนาวคลุกกับเครื่องค่ะ



อีกกล่องเป็นสลัดค่ะ สลัดมันฝรั่ง อร่อยอีกแหละค่ะ ยิ่งเอาอิคุระกล่องข้างบนมาคลุกน้ำสลัดนะคะ กิ๊ดด อยากกินอีกค่ะ555

กินไปก็บ่นกับคุณนายไปค่ะ ว่าฝนตกหรือยัง อยากจะวิ่งกลับไปซื้อมาอีก ทั้งๆ ที่อิ่มจนกินแทบไม่หมดแล้ว 55



มีซุปมิโซะอีกถ้วยนะคะ หมดนี่ 285 NT ค่ะ

แล้วคุณนายก็เอาองุ่นกับเถาจึไปล้างแช่ตู้เย็น เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำค่ะ

ดูห้องน้ำที่นี่นะคะ เกลี้ยงเกลามาก อุปกรณ์ไปไหนหมด



หาอยู่นานค่ะ กว่าจะเจอว่า ใต้ซิงค์ล้างหน้า มันเป็นลิ้นชัก 555



พออาบน้ำเสร็จ คุณนายก็ขึ้นเตียง เปิดทีวีค่ะ
อยู่ที่นี่ คุณนายเธอดูลีซานภาคภาษาจีนทุกคืนเลย

ดูๆ อยู่ดีๆ เตียงก็สั่นค่ะ สั่นแบบเหมือนพวกเตียงนวดไฟฟ้าอะไรแบบนั้นแหละค่ะ

สองคนแม่ลูกมองหน้ากัน เหวอแล้วค่ะ ตกใจก็ตกใจ ขำก็ขำ คุณนายลงจากเตียงไปดูแก้วน้ำ เออ น้ำก็สั่น 5555

อิฉันเลยเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดูอีกทีค่ะ ไอ้อุปกรณ์ที่ตอนแรกไม่ได้สนใจว่ามันคืออะไรนั่นแหละค่ะ เปิดออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ



แถมด้วยป้ายนี้แปะไว้ข้างตู้ด้วยค่ะ 555



เท่านั้นไม่พอค่ะ ยังมีป้ายทางหนีที่ประตู คือว่า มีผังทางหนีไฟเนี่ย ก็เป็นเรื่องปกติของโรงแรมนะคะ แต่ว่า ที่นี่เนี่ย หลังจากเล็งแล้ว นอกจากบันไดหนีไฟ ยังมีป้ายทางออกที่หน้าต่างด้วยค่ะ 5555

เท่านั้นแหละค่ะ สองคนแม่ลูกเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายใส่กระเป๋าพร้อมวิ่งเลยค่ะ

คืนนั้น นอนหลับกระสับกระส่ายกันนิดหน่อยค่ะ คุณนายบอกว่า คราวหน้าจองโรงแรม บอกเขาเอาแค่ชั้นสองก็พอนะ ไม่ต้องถึงชั้นสี่ ก๊ากก

ได้ข่าวว่าคุณนายนอนดูลาดเลาจนดึกค่ะไม่กล้าหลับ

ตอนดึกๆ มีรายงานข่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวที่ฮวาเหลียนด้วยค่ะ

ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นปกติของเมืองนี้นะคะ เท่าที่เคยเช็คข้อมูลเรื่องแผ่นดินไหวมา ที่ฮวาเหลียนนี่ เป็นที่ที่แผ่นดินไหวบ่อยที่สุดในไต้หวันเลยทีเดียวค่ะ

แต่มันไม่ปกติสำหรับเราน่ะสิคะ 555

แต่ว่า คิดอีกทีในแง่ดีสุดๆ ก็เท่ากับว่า เราได้มาถึงไต้หวันจริงๆ แล้ว จริงมั้ยคะ
แหม ไม่ทุกคนหรอกค่ะที่มาเที่ยวไต้หวันแล้วจะได้เจอ โอกาสแบบนี้ หายากกกกกจะตายไป ก๊ากก

กลับมาเช็คเว็บพยากรณ์อากาศ มีรายงานว่า แผ่นดินไหว ขนาด Magnitude 5.5 ML (มันแปลว่าไรฟระนี่ 55)

ล่าสุดนี่เมื่อวันที่ 26 เมษา ก็ไหวอีก ที่ฮวาเหลียนเหมือนกัน
ปีนี้ที่นี่มันไหวไปยี่สิบกว่าครั้งได้แล้วมั้ง

กลับมาเล่าให้คนที่ไทเปฟัง เขาบอกว่า ที่ฮวาเหลียน แผ่นดินไหวเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรหรอก อ่า ซะงั้น




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
8 comments
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 11:09:05 น.
Counter : 1806 Pageviews.

 

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

อาหารน่าหม่ำและๆๆ ชามหย่ายยม๊ากกก

 

โดย: NuAeaw 11 พฤษภาคม 2552 9:24:18 น.  

 

อร่อยด้วยค่ะ คุณ NuAeaw

 

โดย: ร่วมวงด้วยคน 11 พฤษภาคม 2552 11:15:00 น.  

 

เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านน่าเที่ยวจังค่ะ ที่พักที่ฮวาเหลียน ชื่ออะไรค่ะ

 

โดย: เปิ้ล IP: 110.49.148.91 13 กรกฎาคม 2552 23:24:50 น.  

 

คุณเปิ้ล ขอโทษทีที่มาตอบช้าค่ะ ร่วมวงฯไม่ทันเห็นคอมเม้นท์ของคุณเปิ้ล

โรงแรมที่พัก ชื่อ C'est Jeune ค่ะ
จองได้ทางเนตเลย

น่าอยู่มากๆ ค่ะ ถ้าคราวหน้ามีโอกาสไปอีก ร่วมวงฯก็คงพักที่นี่เหมือนเดิมแหละค่ะ(แต่สงสัยต้องไปหัดถีบจักรยานก่อน 55)

 

โดย: ร่วมวงด้วยคน 23 กรกฎาคม 2552 9:22:08 น.  

 

ผ่านมาโดยบังเอิญ เลยได้อ่าน สนุกมากค่ะ

 

โดย: เน IP: 122.120.233.70 16 กุมภาพันธ์ 2553 14:59:36 น.  

 

ดีใจที่สนุกนะคะ คุณเน

 

โดย: ร่วมวงด้วยคน 17 กุมภาพันธ์ 2553 23:54:55 น.  

 

คุณร่วมวงคะ จากไทเปไป ฮวาเหลียนนั่งรถไฟไปกี่ชั่วโมงคะ

 

โดย: p_pat_p 20 กันยายน 2553 23:05:43 น.  

 

ประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ แล้วแต่ขบวนรถว่าสปีดขนาดไหน

 

โดย: ร่วมวงด้วยคน 2 ตุลาคม 2553 21:16:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ร่วมวงด้วยคน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ร่วมวงด้วยคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.