เมื่อต้องเจอกับความเหงา ก็ทำได้แค่ยิ้มรับ และเปิดใจให้ความเหงาเป็นเพื่อนรักของเราไปเลยเท่านั้นเอง
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 กันยายน 2551
 
 
สังคมก็โหดร้ายเช่นนี้แหละ


เมื่อวานช่วงเวลาเย็นขณะที่กำลังเดินกลับห้อง ผ่านป้ายรถเมล์ ก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง แต่งตัวดี บุคลิกดี ถือแฟ้มเอกสารพะรุงพะรัง ตะโกนเรียก ขอเงิน 10 บาท ได้ยินแว่วๆว่า ลืมกระเป๋าเงิน ไม่มีเงินขึ้นรถเมล์ ที่ต้องบอกว่าได้ยินแว่วๆ เพราะแค่เค้าตะโกนเรียก ก็รีบจ้ำแล้ว ด้วยความที่ทางที่เดินผ่านไม่มีใครเลย ในใจก็คิดว่าจะหันกลับเอาเงินไปให้ผู้ชายคนนั้นดีไหมนะ ใจฝ่ายดีบอกว่า ถ้าเขาไม่มีเงินจริงล่ะ แล้วเขาจะกลับบ้านอย่างไร ขณะที่ใจฝ่ายแสนชั่วร้ายก็บอกว่า กลับแท็กซี่ก็ได้นี่แล้วไปเอาเงินที่บ้าน ขณะเดียวกันใจฝ่ายดีก็บอกว่า อ้าว แล้วถ้าเขา เดือดร้อนจริงจะไม่ช่วยเขาหรือ สุดท้ายใจฝ่ายชั่วร้ายก็บอกว่า อย่าเลย เกิดเขาเป็นคนร้ายล่ะ ไม่มีใครช่วยด้วย ตรงนั้นไม่มีคนเลย และแล้วผลสรุปก็คือ ใจฝ่ายชั่วร้ายชนะ ด้วยความที่กลัวน่ะ ก็เกิดถ้าเราให้เงินเขาจริงแล้วเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้น เราจะเป็นอย่างไรล่ะ การมองอะไรในแง่ร้ายเนี่ยะ ก็ไม่ดีนะ เพราะสุดท้ายเราก็ต้องกลับมานั่งคิดว่า มันแย่จังถ้าหากคนนั้นเป็นเราที่ต้องการความช่วยเหลือแบบนี้บ้าง แล้วคนทุกคนคิดแบบเราคือ กลัวว่าจะโดนหลอก หรือโดนทำร้าย เวลานั้นเราคนที่เป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือ ก็คงหมดหนทาง ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่ในสังคมแบบนี้ เราก็ควรจะรักตัวเองก่อน จริงหรือเปล่านะ ……………………………………………………………….

แต่ก็อีกนั่นแหละ มีอยู่ครั้งหนึ่งกับเหตุการณ์ประมาณนี้ ที่มานั่งเสียใจอยู่เนี่ยะ ว่าทำไมเราไม่หันกลับไปให้เงินเขานะ สักสิบยี่สิบบาทคงไม่เท่าไหร่ หรอก ถือว่าทำบุญ เพราะสภาพของคนที่มาขอเงินเรานั้นดูเหนื่อยมาก เขาบอกเราว่าเดินมาจากไหนสักแห่ง(จำไม่ได้แล้วล่ะ) เดินมาตลอดเลยแล้วถามทางจะไปหมอชิต เพื่อจะกลับบ้าน ไม่มีเงินนั่งรถเมล์ เพราะถ้านั่งรถเมล์แล้วเดี๋ยวเงินไม่พอค่ารถกลับบ้าน ตรงที่เขาถามเราอยู่ตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บนสะพานลอยซึ่งก็จำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ด้วยความที่เป็นคนมองโลกในแง่ร้ายเนี่ยแหละ เลยกลัวว่าเขาจะมาหลอก หรือเป็นพวกต้มตุ๋น ก็เลยเดินหนี แต่พอเราหันหลังกลับไป เขาทำหน้าแบบหมดอาลัยมาก แล้วก็เกาะราวสะพานเหมือนจะเป็นลม เพราะเขาบอกเราว่าไม่ได้กินข้าวมาหลายมื้อแล้ว ความสงสารก็มีล่ะนะ ในเวลานั้น แต่ไม่รู้ทำไม ขาเรามันไม่ก้าวหันกลับไปก็ไม่รู้ นี่ล่ะมั๊งจิตสำนึกของสัญชาติญาณการเอาตัวรอดของคนเรา จนสุดท้ายทุกวันนี้ก็มานั่งคิดว่า ถ้าเขาเดือดร้อนจริง เราก็ขอโทษด้วยล่ะกัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง สำหรับกรณีนี้ทำให้เรารู้สึกแย่จัง...................มีใครเคยเจอแบบเรา แล้วเขาทำอย่างไรกันนะอยากรู้จัง ............




Create Date : 05 กันยายน 2551
Last Update : 5 กันยายน 2551 17:16:26 น. 1 comments
Counter : 629 Pageviews.

 
เล่าเรื่องลุงคนหนึ่งแถวเดอะมอลล์บางแค เขาขอเงินจากผู้คน บอกว่าไม่มีค่ารถไปสถานีขนส่ง เห็นขอเงินคนเดินผ่านไปมาอยู่หลายวัน นี่เป็นลูกไมเก่า ๆ ของการหากินครับ
สำหรับความมีเมตตานั้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสังคมเรา แต่สำหรับคนอายุน้อยที่ไม่มีประสบการณ์ อาจดูคนไม่ออก หากสถานที่ที่นั้นไม่เปลี่ยว จะให้เงินคนที่มาขอ ก็คงไม่มีปัญหาครับ
เมื่อผมกลับบ้านดึกๆ ต้องเดินเข้าซอย จะเตรียมเศษสตางค์ไว้ในกระเป๋า หากใครมาขอก็ควักให้เลย แล้วรีบเดินไปไกลๆ เราจะไม่เอากระเป๋ามาเปิดหยิบสตางค์ให้เขาเห็น ซึ่งอาจเกิดความอยากได้ และเราอาจไม่ปลอดภัยครับ




โดย: Insignia_Museum วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:21:56:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

สายลมและลมหนาว
Location :
สิงห์บุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Myspace Layouts
[Add สายลมและลมหนาว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com