1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
Defying Gravity - แม้ฉันจะบินอย่างเดียวดาย ก็ขอบินอย่างเสรี
ว่าจะเอา Movie in My Mind ซึ่งเป็นเพลงเพราะอีกเพลงหนึ่งจาก Miss Saigon มาเล่าสักหน่อย แต่ดันทำ CD หายไปพอดีครับ ต้องไปค้นมาก่อน ไม่น่าจะนาน คงไม่หายไปไหน แต่ด้วยความที่เก็บของไม่ค่อยเป็นระเบียบ หาอะไรเลยไม่ค่อยจะเจอครับ ระหว่างนี้ เลยขอเอาเพลงที่ชอบเป็นการส่วนตัว มาแก้ขัดไปก่อน เพลงนี้มาจากเรื่อง Wicked ครับ เคยเล่าให้ฟังคร่าวๆ ไปแล้วที่blog นี้ (For Good) ใครยังไม่ได้ฟังเพลงนี้ ขอเชิญนะครับ สำหรับละครเพลงเรื่องนี้ เสริมแต่งต่อยอดมาจากนิทานที่เราทุกคนรู้จักกันดี นั่นก็คือ The Wizard of Oz นั่นเอง ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ โดโรที ไงครับ บ้านน้องแกโดนพายุพัดไปทั้งหลัง ไปตกในออซ ทับแม่มดตัวนึงตาย ได้รองเท้าวิเศษจากศพนางแม่มดมาคู่หนึ่ง เดินทางไปเจอสิงโตขี้ขลาด หุ่นกระป๋องไร้หัวใจ และหุ่นไล่กาไร้สมอง แล้วก็พากันไปเจอพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ได้มีพลังอำนาจอย่างที่คิด เธอต้องต่อสู้กับแม่มดชั่วตัวเขียวจนชนะ แล้วเธอก็เคาะส้นรองเท้าสามที พร้อมกับพูดว่า There's no place like home แล้วทุกอย่างก็จบลงอย่างมีความสุข ยังครับ เรื่อง Wicked ไม่ได้มีเนื้อเรื่องเป็นเช่นนั้น หากแต่เป็นการอธิบายว่า ที่จริงแล้วอะไรเป็นอะไร กล่าวคือ แม่มดชั่วเอลฟาบา แห่งทิศตะวันตก กับแม่มดดีที่ชื่อกลินดานั้น ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน เอลฟาบามีชีวิตรันทด เกิดมาก็ตัวเขียว เป็นลูกชู้ ถูกพ่อเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ทว่าเฉลียวฉลาด มีจิตใจดี และมีพรสวรรค์ด้านเวทมนต์เป็นที่สุด ส่วนกลินดาเป็นผู้หญิงสวย เป็นคุณหนู มองโลกในแง่ดี ทั้งสองจับพลัดจับผลูมาร่วมห้องกันขณะเรียน และได้มาเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองปรารถนาจะได้ทำงานเพื่อพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ และทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อฝึกฝน จนในที่สุด ได้ออกเดินทางมาออซเพื่อหวังจะมาทำงานรับใช้พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ด้วยกัน แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าพ่อมดไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไรเลย แต่เป็นแค่นักประดิษฐ์ แถมยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายและความทุกข์ทรมานต่างๆ ของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในเมืองออซอีกด้วย เท่ากับว่า เป็นตัวร้ายตัวจริงของเรื่องชัดๆ!!! เมื่อได้ทราบความจริงดังนั้น เอลฟาบาผิดหวังอย่างมาก ถึงกับรับไม่ได้ในความเลวของพ่อมด เธอจึงหลบหนีออกมาจากปราสาท แม้กลินดาจะพยายามทัดทานไม่ให้เธอต้านพลังอันมากมายประดุจ "แรงโน้มถ่วง" ของพ่อมด (ซึ่งในเวลาต่อมาพ่อมดได้บ่อนทำลาย ใส่ความว่าเธอเป็นผู้ทรมานสัตว์ และตั้งฉายาให้เธอว่าเป็นแม่มดชั่ว) เธอก็ไม่ยอมฟัง และได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกับพ่อมดอย่างเปิดเผย ดังเนื้อหาในเพลงนี้ครับ ส่วนเนื้อเรื่องจะจบอย่างไร บอกไปจะเป็นการสะปอยมากครับ แต่ใบ้ให้ว่า อะไรๆ ที่อ่านมาจากหนังสือ The Wizard of Oz นั้น เบื้องหลังมันไม่เป็นอย่างนั้นซะทีเดียวหรอกครับ) เพลงนี้ ผมชอบเนื้อหา ที่ฮึกเหิม และเสริมสร้างกำลังใจครับ คงเคยมีสักครั้งที่เรารู้สึกว่า ตกอยู่ใต้อำนาจอะไรสักอย่าง ที่ต้านไม่ไหว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ รู้สึกเหมือนถูกกดขี่ ให้ต้องผิดหวังต่างๆ นาๆ จนอยากจะหลุดพ้นไปจากสิ่งพันธนาการเหล่านั้น เพลงนี้แสดงถึงชัยชนะ และการปลดปล่อยครับ เอลฟาบาที่ทั้งชีวิต ต้องการเพียงอยู่กับพ่อมด แต่เมื่อพ่อมดดีแต่เพียงเปลือกนอกอย่างนี้ เธอตัดสินใจปลดปล่อยตัวเอง และต่อสู้เพียงลำพัง กับอำนาจที่ไม่รู้จะทัดทานไหวหรือเปล่า นั่นก็คือ defying gravity ต้านแรงโน้มถ่วง นั่นเองครับ เสียงร้องของ Idina Menzel หนักแน่นมากครับ ผมว่าเธอใส่อารมณ์กับเพลงได้ยอดเยี่ยม เพราะเพลงนี้เป็น highlight เป็น showstopper ขององก์แรกและเป็นเพลงปิดท้ายองก์ด้วย ท้ายเพลงเธอปล่อย chest voice ออกมาได้แน่นและดังมาก ทั้งๆ ที่ต้องยืนอยู่บน platform แคบๆ เล็กนิดเดียว และถูกยกด้วยอุปกรณ์ที่คล้ายๆ กระเชัาซ่อมเสาไฟฟ้า ขึ้นไปสูงกลางเวที เก่งจริงๆ ครับ ว่ากันว่า สำหรับนักแสดงที่จะรับบทเป็น Elphaba ทุกคน เคล็ดลับในการซ้อมเพลงนี้คือจะต้องซ้อมโดยให้เท้าชิดกัน ห้ามพ้อยห้ามถ่างห้ามจิกใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเรื่องยากเพราะเวลาต้อง belt เสียงสูงๆ แบบนี้บางครั้งเราก็จะแสดงท่าเบ่งพลัง ขยับตัวไปโดยไม่รู้ตัว แต่เวลาแสดงจริงต้องยืนบน platform เล็กๆ จึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ครับ ใครที่ท้อแท้ คิดว่าต้องสู้เพียงลำพัง อยากให้ฟังเพลงนี้ เพื่อเสริมกำลังใจครับ ว่าหากแม้เราจะต้อง "ต้านแรงโน้มถ่วง" แต่ผู้เดียว ถ้าใจสู้แล้วล่ะก็ ไม่มีใคร "ฉุดเราลง" ได้แน่นอนกลินดา YOU CAN STILL BE WITH THE WIZARD WHAT YOU'VE WORKED AND WAITED FOR YOU CAN HAVE ALL YOU EVER WANTED... เธอยังเปลี่ยนใจไปอยู่กับท่านพ่อมดได้ ไปหาสิ่งที่เธอเฝ้าทุ่มเทและรอคอย สิ่งใดที่เคยต้องการ เธอจะได้ดังใจเอลฟาบา I know... BUT I DON'T WANT IT NO, I CAN'T WANT IT ANYMORE... ฉันรู้ แต่ฉันไม่ต้องการ ไม่ใช่สิ ฉันต้องการมันไม่ได้อีกแล้ว SOMETHING HAS CHANGED WITHIN ME SOMETHING IS NOT THE SAME I'M THROUGH WITH PLAYING BY THE RULES OF SOMEONE ELSE'S GAME! บางสิ่งในตัวฉันเปลี่ยนแปลงไป บางสิ่งไม่เหมือนเดิม เบื่อเต็มทนกับการที่ต้องเล่นตามกฎเกณฑ์ที่คนอื่นตั้งเอาไว้ TOO LATE FOR SECOND GUESSING TOO LATE TO GO BACK TO SLEEP IT'S TIME TO TRUST MY INSTINCTS CLOSE MY EYES... AND LEAP สายเกินไปที่จะมานั่งเดาสุ่ม สายเกินไปที่จะกลับไปหลับไหล ถึงเวลาที่ฉันต้องเชื่อในสัญชาตญาณของตน ลองหลับตา แล้วกระโดดข้ามไป IT'S TIME TO TRY DEFYING GRAVITY I THINK I'LL TRY DEFYING GRAVITY AND YOU CAN'T PULL ME DOWN ถึงเวลาที่จะต้องลองฝืนแรงโน้มถ่วง ฉันว่าจะต้องลองต้านแรงโน้มถ่วงดูบ้าง และเธอก็ไม่อาจฉุดฉันลงได้กลินดา CAN'T I MAKE YOU UNDERSTAND YOU'RE HAVING DELUSIONS OF GRANDURE? นี่ฉันอธิบายเธอไม่เข้าใจหรืออย่างไร เธอกำลังหลงผิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เต็มประดาเอลฟาบา I'M THROUHG EXCEPTING LIMITS 'CUZ SOMEONE SAYS THEY'RE SO SOME THINGS I CANNOT CHANGE, BUT 'TIL I TRY I'LL NEVER KNOW! พอกันทีกับการยอมรับในข้อจำกัดต่างๆ เพียงเพราะว่าใครบางคนบอกให้เรายอมจำนน บางสิ่งฉันคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าไม่ลองก็คงไม่มีวันรู้ TOO LONG I'VE BEEN AFRAID OF LOSING LOVE I GUESS I'D LOST WELL IF THAT'S LOVE, IT COMES AT MUCH TOO HIGH A COST! ที่ผ่านมาฉันมัวแต่หวาดกลัว ว่าจะสูญเสียความรักที่มีไป แต่หากนั่นมันเรียกว่าความรักได้จริง บัดนี้ฉันว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย I'D SOONER BUY DEFYING GRAVITY KISS ME GOODBYE I'M DEFYING GRAVITY AND YOU CAN'T PULL ME DOWN! ฉันควรต้องต้านอำนาจโน้มถ่วง จูบลาฉันสิ ฉันกำลังจะฝืนอำนาจโน้มถ่วง ให้ใครมาฉุดก็ไม่มีทางเอลฟาบา Come with me... think of what we could do... together. UNLIMITED, TOGETHER WE'RE UNLIMITED TOGETHER WE'LL BE THE GREATEST TEAM THERE'S EVER BEEN, GLINDA DREAMS THE WAY WE PLANNED 'EM มากับฉัน ลองคิดสิว่าหากเราไปด้วยกัน เราจะทำสิ่งใดได้บ้าง ไร้ขีดจำกัด หากอยู่ด้วยกัน เราจะไร้ขีดจำกัด หากอยู่ด้วยกัน เราจะเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กลินดา ฝันที่เราเคยวาดไว้ด้วยกันกลินดา IF WE WORK IN TANDEM หากเราสู้ไปด้วยกันทั้งคู่ THERE'S NO FIGHT WE CANNOT WIN JUST YOU AND I DEFYING GRAVITY WITH YOU AND I DEFYING GRAVITY ไม่มีสิ่งใดที่เราจะเอาชนะไม่ได้ เพียงเราสองต้านแรงโน้มถ่วงไปด้วยกันเอลฟาบา THEY'LL NEVER BRING US DOWN. Well, are you coming? ไม่มีใครจะฉุดเราได้ลง ตกลงจะมาด้วยกันหรือเปล่ากลินดา I HOPE YOU'RE HAPPY NOW THAT YOU'RE CHOOSING THIS หวังว่าเธอคงพอใจ ที่เลือกทางสายนี้เอลฟาบา I HOPE IT BRINGS YOU BLISS I REALLY HOPE YOU GET IT AND YOU DON'T LIVE TO REGRET IT I HOPE YOU'RE HAPPY IN THE END! I HOPE YOU'RE HAPPY... MY FRIEND... หวังว่าคงสมหวังดังใจ ไม่ต้องฝืนทนกับความเศร้าเสียดาย หวังว่าในที่สุดเธอจะสุขสันต์ นะเพื่อนเอย SO IF YOU CARE TO FIND ME, LOOK TO THE WESTERN SKY AS SOMEONE TOLD ME LATELY, EVERYONE DESERVES THE CHANCE TO FLY! ถ้าใครคิดจะตามล่าฉัน ก็ขอให้มองมาทางท้องฟ้าทิศตะวันตก ก็ในเมื่อใครบางคนเพิ่งบอกฉันว่า เราทุกคนควรมีโอกาสจะได้โบยบิน AND IF I'M FLYING SOLO, AT LEAST I'M FLYING FREE! TO THOSE WHO GROUND ME, TAKE A MESSAGE BACK FROM ME! และแม้ฉันจะต้องบินอย่างโดดเดี่ยว ฉันก็ยังได้โบยบินอย่างอิสระ ใครคิดจะกดฉันไว้กับพื้นดิน ก็ขอให้ทราบเอาไว้ด้วย TELL THEM HOW I AM DEFYING GRAVITY!!! I'M FLYING HIGH DEFYING GRAVITY!!! AND SOON I'LL MATCH THEM IN RENOWN บอกพวกมันว่าฉันกำลังต้านอำนาจโน้มถ่วง ฉันโบยบินสูงสุดฟ้า ต้านอำนาจทั้งปวง และสักวันจะต้องเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า AND NOBODY IN ALL OF OZ... NO WIZARD THAT THERE IS OR WAS IS EVER GONNA BRING ME DOWN!!! และจงรู้ไว้ว่า ไม่มีใครหน้าไหนในออซ ไม่มีพ่อมดตนใด ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน ที่จะมาสยบฉันลงได้
Create Date : 06 สิงหาคม 2549
Last Update : 4 กรกฎาคม 2552 13:48:24 น.
11 comments
Counter : 5324 Pageviews.
โดย: 90210 วันที่: 7 สิงหาคม 2549 เวลา:6:03:28 น.
โดย: 90210 วันที่: 7 สิงหาคม 2549 เวลา:6:17:45 น.
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:15:37:59 น.
โดย: 90210 วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:7:02:38 น.
โดย: พอล (Jedi ใจดี ) วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:22:06:44 น.
โดย: 90210 วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:16:30:27 น.
โดย: ป๋อม IP: 202.57.156.242 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:14:45:43 น.
โดย: pony IP: 124.121.213.243 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:12:30 น.
โดย: ELPHABA IP: 27.55.174.211 วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:1:54:32 น.
Location :
Houston, Texas United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [? ]
ชีวิตนี้ มีแต่ภาษา กับเสียงเพลงครับ ที่ทำให้สู้ทนอยู่ได้ เลยส่งผลผลิตให้มี blog นี้ ไว้ถ่ายทอดผลงาน ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ