--+- RT.Korn Blog Blog : รตกร บ็อกๆ -+--

 
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 สิงหาคม 2551
 

ตำนานผู้กล้าสเตฟาน - - เปิดตำนานผู้กล้าสเตฟาน - -



//www.rt-korn.com/legend-of-stefan

เปิดตำนาน
ผู้กล้าสเตฟาน

“เมื่อ เซน สเตฟาน กลับมา ความหวังของพวกเราชาวแซทคาเรียนก็จะกลับมาเช่นกัน”


ลูกปืนใหญ่กระทบกำแพงอิฐก่อเสียงดังสนั่น ทั้งที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลาแต่เสียงนั้นยังดันทุรังลอยมากระทบพระกรรณขององค์ราชาแห่งอาณาจักรแซทคาริออน พระองค์สะดุ้งตื่นกลางดึก หยิบแว่นสายตาและเร่งสาวเท้าก้าวไปยังระเบียง มีเหตุร้ายเกิดขึ้นบริเวณพระราชวังแอนเดอร์เซีย เส้นขอบฟ้ายามราตรีที่ควรพร่างพราวไปด้วยดวงดาวกลับคละคลุ้งไปด้วยกลุ่มควันสีดำและเปลวเพลิงสีแดงฉาน พระองค์ทรงแว่วเสียงผู้คนร่ำไห้ระหว่างที่มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังกลบ ไม่นานนักเสียงเคาะประตูเบาๆ สองครั้งก็ดังขึ้นตามคาด ราชาเซดริกที่หกกล่าวสั้นๆ ว่า “เชิญ!” เพราะพระองค์รู้ดีกว่าคนที่มาหาในยามสภาวะฉุกเฉินเช่นนี้มีเพียงเขาคนเดียว

“แอนเดอร์เซียถูกโจมตีแล้วพะย่ะค่ะ เป็นไปตามที่พระองค์คาดการณ์จริงๆ”
“เราต่างรู้ว่าดมิทธีที่สิบสามมีความตั้งใจจะขยายจักรวรรดิไซเลนอัสไปทั่วคาบสมุทรซีเตียน” ราชาเซดริกวัยหกสิบพรรษาเอ่ย “เขาคงไม่ปล่อยให้อาณาจักรของเรากับแอนเดอร์เซียยืนโด่เด่อยู่ท่ามกลางจักรวรรดิของเขาหรอก”

“ถ้าเราผนึกกำลังกับแอนเดอร์เซียได้คงดี” ชายหนุ่มผู้มาเยือนกล่าว
“มันคงเป็นไปได้ยาก ราชาแอนเดอร์สันที่สี่ทรงทะนงตนถึงเพียงนั้น ซ้ำไซเลนอัสยังเลือกที่จะโจมตียูเรนีเซียก่อนแอนเดอร์เซีย เพราะดมิทธีที่สิบสามรู้ดีว่ายูเรนีเซียเป็นพันธมิตรกับเรา การยึดครองยูเรนีเซียได้เท่ากับตัดกำลังของฝ่ายเราออกไปเกือบครึ่ง กองทหารที่เราส่งไปช่วยเหลือก็ล้มตายไปมาก ถ้ามันตีแอนเดอร์เซียได้สำเร็จ สงสัยดินแดนของเราก็คงจะไม่รอดจากการเป็นอาณานิคมของมันเช่นกัน”

“หน่วยข่าวกรองรายงานมาว่า เจ้าชายเอริคที่ห้าทรงหนีออกจากพระราชวังมาได้ คาดกันว่าจะลี้ภัยเข้ามาในอาณาจักรของเรา ปะปนกับผู้อพยพชาวยูเรนีเซียน”
“ดี ... ถ้าอย่างงั้นก็รีบคงคนออกไปตามหาพระองค์ และรีบนำตัวพระองค์เข้ามาอยู่ในที่พระราชวังของเราซึ่งเป็นที่ปลอดภัย”
“ได้พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“ตอนนี้ข้าเองก็ชราลงไปมาก เสียดายที่คนหนุ่มอย่างแซม สเตฟาน กับ เรียส เรนาเซีย ได้ตายจากภพนี้ไปแล้ว ไม่เช่นนั้นเราอาจมีความหวังที่จะยืนหยัดต่อกรกับจักรวรรดิไซเลนอัสได้”
“กระหม่อมเองก็ยังอดสงสัยในคำทำนายไม่ได้” องครักษ์หนุ่มบอกตามตรง “คำทำนายของฝ่าบาทระบุชัดเจนว่า บุตรของแซม สเตฟาน คือ ผู้ที่จะสยบความอหังการ์ของดมิทธีที่สิบสาม”

“ฟิลิป ... ข้าเองก็ยังเชื่อมั่นในคำทำนายของตัวเองเช่นกัน แม้เมื่อสิบเจ็ดปีก่อนดมิทธีที่สิบสามจะทำการเพื่อขัดขวางสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลตามคำทำนายได้สำเร็จก็ตาม แต่ข้ายังคงเห็นภาพเซน สเตฟาน วัยยี่สิบเอ็ด ถือดาบเพลิงภพตะวันต่อกรกับอริราชศัตรูบนแผ่นดินแซทคาริออน”
“แต่เรารู้ดีว่า เซน สเตฟาน เองก็ได้จากภพนี้ไปตั้งแต่สี่ขวบ ดมิทธีที่สิบสามส่งเขาไปยังภพนรกโลกันตร์เพื่อไม่ให้เขาเติบโตมาขัดขวางแผนการของเขา”

“แต่ข้าก็ยังเชื่อว่าการที่ข้าใช้พลังจากผลึกอัญมณีแห่งสรวงสวรรค์มันจะดึงให้เขาไปอยู่ยังโลกมนุษย์ที่สูงกชั้นกว่านรกโลกันตร์ จากนี้เราก็ได้แต่ภาวนาให้ เซน สเตฟาน ยังมีชีวิตอยู่ในอีกภพหนึ่งและได้สัมผัสกับวัตถุเชื่อมมิติที่เราส่งไปยังโลกมนุษย์ เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่เราจะสามารถทำให้เขากลับมา เมื่อ เซน สเตฟาน กลับมา ความหวังของพวกเราชาวแซทคาเรียนก็จะกลับมาเช่นกัน”





 

Create Date : 04 สิงหาคม 2551
0 comments
Last Update : 4 สิงหาคม 2551 4:40:44 น.
Counter : 403 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

รตกร
 
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รตกร ครับ

ผลงานที่วางแผงแล้ว



เซน วีรบุรุษสุดขอบฟ้า
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์


Chat Box


Free chat widget @ ShoutMix
[Add รตกร's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com