ดินสอพอง
ดินสอพอง
.. ของไทยแต่ใดมา นายราม ติวารี ผู้อำนวยการสาขาฟิสิกส์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ผ่านกระบวนการการเรียนการสอนแบบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และตำนาน STEM l (S: Science + T: Technology + E: Engineering + M: Mathematic + l : l egend ) ผ่านดินสอพองในเทศกาลสงกรานต์ โดยได้เล่าดังนี้ว่า
จากตำนาน (l : l egend) ดินสองพองมีแหล่งกำเนิดและผลิตที่ใหญ่และคุณภาพดีที่สุดของไทย อยู่ที่หมู่บ้านหินสองก้อน บ้านท่ากระยาง บ้านสะพาน และแหล่งอื่นของจังหวัดลพบุรีเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเหล่าวานร ซึ่งตามตำนานเมืองลพบุรี ที่เล่าสืบต่อกันมา เมื่อครั้งที่พระรามอวตารของพระนารายณ์ปราบทศกัณฐ์แห่งเมืองลงกา (คาดว่าประเทศศรีลังกาปัจจุบัน) ได้สำเร็จ พระองค์จึงคิดปูนบำเหน็จให้กับหนุมานทหารเอก โดยการแผลงศรออกไปและถ้าศรตกลงที่ใด มณฑลที่ตกนั้นก็เป็นของหนุมาน ศรของพระรามเป็น ศรศักดิ์สิทธิ์ เมื่อแผลงมาตกที่ทุ่งพรหมมาสตร์ (หมายถึงจังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน) ก็ทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ หนุมานจึงใช้หางกวาดเปลวไฟให้ดับ โดยดินในบริเวณที่ถูกไฟจึงสุกกลายเป็นสีขาว เรียก ดินสอพอง ในปัจจุบัน และเถ้าดินที่ถูกหางหนุมานกวาดออกไปก็กลายเป็นภูเขาล้อมรอบจังหวัดลพบุรีนั่นเอง ด้านวิทยาศาสตร์ (S) ดินสอพอง (ดินขาวพองเมื่อโดนน้ำ) หรือเราเรียกดินมาร์ล มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต อุดมไปด้วยเนื้อปูนที่มีองค์ประกอบของแร่เคลย์และอาราโกไนต์ มาร์ลเป็นคำโบราณที่ถูกนำมาใช้เรียกวัตถุที่หลากหลายโดยส่วนใหญ่เป็นวัตถุเนื้อหลวมๆของดินที่มีองค์ประกอบหลักของเนื้อผสมระหว่างดินเคลย์และแคลเซียมคาร์บอเนตเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดแวดล้อมที่เป็นน้ำจืดเป็นวัตถุเนื้อดินประกอบด้วยแร่เคลย์ร้อยละประมาณ 65 และคาร์บอเนตร้อยละ 35 คำเรียกที่ใช้ ในปัจจุบันหมายถึงตะกอนที่ตกสะสมตัวในทะเลและในทะเลสาบที่แข็งตัว ซึ่งเพื่อให้ถูกต้องแล้วต้องเรียกว่า มาร์ลสโตน ซึ่งเป็นหินที่แข็งตัวมีองค์ประกอบเดียวกันกับดินมาร์ลที่อาจเรียกว่าหินปูนมีการแตกแบบกึ่งก้นหอย คำว่า มาร์ล เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกกันอย่างกว้างขวางในทางธรณีวิทยา
ตามพจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2544 ได้ให้นิยามดินสอพองว่าเป็นหินปูนเนื้อมาร์ล (marly limestone) เมื่อนำมะนาวบีบใส่ น้ำมะนาวมีสภาพกรดซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับแคลเซียมคาร์บอเนตเกิดเป็นแกสคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟูขึ้น ดูเผินๆ ก็เห็นว่าดินนั้นพองตัว จึงเรียกกันว่าดินสอพอง
ในทางกระบวนการของเทคโนโลยี (T) และวิศวกรรม (E) ได้นำกระบวนการทั้งสองมาใช้ในการผลิตดินสอพองนั่นเอง ขั้นที่หนึ่ง คือ การขนดินมาร์ลใส่บ่อกาก แล้วปล่อยน้ำลงไปผสมให้ดินละลาย เมื่อดินละลายน้ำดีแล้วตักน้ำในบ่อกากเทใส่ตะแกรงลงในบ่อกรองหรือบ่อเนื้อเพื่อแยกเอาหินกรวดและเศษหญ้าทิ้ง ขั้นที่สอง ตักน้ำดินจากบ่อกรอง เทผ่านผ้ากรองลงในบ่อทำแผ่น ทิ้งไว้หนึ่งคืน ดินมาร์ลซึ่ง มีสีขาว จะตกตะกอนนอนก้นบ่อตอนบนจะเป็นน้ำใส ค่อยๆ ช้อนหรือดูดเอาน้ำใสนี้ออกจากบ่อ จนเหลือ แต่ดินขาวข้นเหมือนดินโคลนเรียกดินสอพอง ขั้นที่สาม ตักโคลนดินสอพองหยอดใส่แม่พิมพ์ที่ทำด้วยโลหะไม่ขึ้นสนิม หรือใส่ไม้ไผ่นำมาขดเป็นวงกลม ก่อนหยอดโคลนดินสอพองลงแล้วปล่อยให้แห้ง จะต้องใช้ผ้าใบหรือผ้าชนิดอื่นๆ ปูรองพื้นแม่พิมพ์ก่อน เพื่อให้ผ้าดูดซับน้ำจากโคลนดินสอพองด้วย
สุดท้าย ขั้นที่สี่ หลังจากหยอดโคลนดินสอพองลงในแม่พิมพ์แล้ว ทิ้งไว้กลางแจ้งสักครู่ ดินสอพองจะแห้งหมาดเกาะติดกันเป็นก้อนแข็งพอที่จะใช้มือหยิบได้ นำดินสอพองไปวางบนตะแกรงไม้ไผ่ ผึ่งแดด ให้แห้งสนิท เมื่อแห้งดีแล้วจะมีสีขาวกว่าแผ่นที่ยังไม่แห้ง ก็นำไปใช้ได้ อ.ราม ยังกล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำดินสอพองมาใช้เล่นสงกรานต์ โดยนำมาผสมกับสีต่างๆ อาจมีการปนเปื้อนจุลินทรีย์ หรือเชื้อก่อโรคอื่นๆ และหากนำมาเล่นโดยไม่ระมัดระวังอาจเป็นอันตราย ต่อร่างกายได้ ทั้งนี้ ดินสอพองยังสามารถใช้แก้ดินเปรี้ยวได้ เนื่องจากดินเปรี้ยวมีสภาพเป็นกรด มีค่า pH4 เมื่อเติมดินสอพอง ที่มีค่า pH 9.22 9.63 มีความเป็นด่าง โดยใช้คณิตศาสตร์ (M) เป็นตัวช่วยในการ หาปริมาณที่เหมาะสมก็จะแก้ดินเปรี้ยวได้ ดินสอพองที่ใช้ในเทศกาลสงกรานต์ต้องปรับค่า pH ให้เหมาะ กับผิวหนังของเรา คือ มี pH 5.0 8.0 โดยใช้สารสกัดจากพืชเป็นส่วนผสม ช่วงเทศกาลนี้หวังว่าทุกท่านจะเล่นน้ำ ประดินสอพอง กันอย่างมีความสุข สนุกสนาน และปลอดภัย ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ สสวท. ได้ที่เว็บไซต์ //www.ipst.ac.th เฟซบุ๊ค Ipst Thailand : https://www.facebook.com/ipst.thai tags : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดินสอพอง คลายร้อน สสวท. ราม ติวารี STEM lสงกรานต์ วิทยาศาสตร์ เครดิตข้อมูล จาก //www.vcharkarn.com/varticle/59537
Create Date : 22 เมษายน 2559 |
Last Update : 22 เมษายน 2559 6:10:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 758 Pageviews. |
|
|