Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

ละครนอกสุวรรณหงส์ ตอนกุมภณฑ์ถวายม้า




มีนครใหญ่และเจริญรุ่งเรืองอยู่ชื่อ "นครไอยรัตน์" ปกครองโดยพระราชาทรงพระนามว่า "ท้าวสุทันนุราช" พระองค์มีพระมเหสีทรงพระนามว่า "พระนางศรีสุวรรณ" ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรสพระนามว่า "สุวรรณหงส์" บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองและสงบสุขมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งโหรหลวงได้กล่าวคำทำนายไว้ว่าในไม่ช้าจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นใน พระนคร
เมื่อทราบคำนายเช่นนั้นพระราชาและเหล่าพสกนิกรต่าง ๆ ก็ทุกข์ร้อนใจมากและสงสัยว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากประเภทใดกันแน่เนื่องจากโหร ไม่ได้ระบุประเภทลงไป แต่ละคนจึงคิดกันไปต่าง ๆ นานาเป็นต้นว่า ข้าวยากหมากแพงบ้าง ข้าศึกรุกรานบ้าง และภัยพิบัติทางธรรมชาติบ้าง ฯลฯ แล้วก็รอให้เหตุการณ์ที่มองไม่เห็นนี้เกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เมื่อเจ้าชายสุวรรณหงส์ทรงเจริญวัยสมควรที่จะได้ศึกษา หาความรู้ เพื่อประโยชน์แก่การขึ้นครองราชย์ในอนาคต พระราชาก็ส่งพระองค์ไปศึกษาเล่าเรียนกับพระฤาษีในป่า และในขณะที่อยู่กับพระฤาษีนั้น เจ้าชายสวรรณหงส์ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาในหลายแขนงด้วยกันโดยเฉพาะ อย่างยิ่งวิชาฟันดาบและเรียนรู้ภาษาของสัตว์ หลังจากจบแล้วก็กราบลาพระฤาษีเสด็จกลับพระนคร
หลังจากเสด็จกลับมาแล้ว เจ้าชายก็ช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบิดาในเกือบทุกเรื่อง พระราชาทรงปลื้มปิติกับพระโอรสยิ่งนัก แต่ก็ทรงนึกถึงคำทำนายของโหรอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงดำริว่าคำทำนายของโหรมีความคลาดเคลื่อนอย่างแน่ นอน จึงไม่จำเป็นที่พระองค์จะต้องทรงวิตกกังวลอีกต่อไป
วันหนึ่ง ในขณะที่พระสุวรรณหงส์เสด็จไปสรงน้ำที่ธารน้ำ ก็ทอดพระเนตรเห็นผอบทองที่พระธิกาพญายักษ์ลอยน้ำเสี่ยงทายมา เมื่อเปิดผอบก็พบพวงมาลัยดอกไม้สดกลิ่นหอมหวานยิ่งนักจึงนำมาเก็บไว้ใน พระราชวังด้วย เป็นที่น่าประหลาดใจก็ตรงที่ว่าแม้จะล่วงเลยไปเป็นเวลา 3 วันแล้ว พวงมาลัยดอกไม้สดนั้นก็ยังคงสดและมีกลิ่นหอมอยู่อย่างนั้น
คืนหนึ่ง เจ้าชายก็ทรงสุบินว่า ได้พบกับสาวสวยเจ้าของพวงมาลับดอกไม้นั้น ครั้งตืนจากบรรทมก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนึกถึงนางและคิดหาหนทางที่จะได้ พบนาง พระองค์ทรงตกหลุมรักของหญิงสาวในสุบินเสียแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่พระสุวรรณหงส์ระทมทุกข์ถึงนางในฝันอยู่นั้น ได้มีนายช่างผู้มีความสามารถสองคนมาขอเข้าเฝ้า ทั้งสองได้ทูบให้พระองค์ทราบว่าพวกเขามีความสามารถพิเศษซึ่งสามารถประดิษฐ์ ของวิเศษให้พระองค์ได้หากพระองค์ทรงอนุญาต พวกเขาก็พร้อมที่จะเริ่มงานในทันที เมื่อถูกถามถึงความชำนาญพิเศษทั้งคู่ก็ทูลว่าเขาคนหนึ่งเป็นช่างไม้มีความ ชำนาญพิเศษในการต่อเรือ ในขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นช่างเครื่องสามารถประดิษฐ์เครื่องยนต์ให้เรือบินไป ได้อย่างพญานก
และแล้วนายช่างทั้งสองก็เริ่มประดิษฐ์ผลงานชิ้นเอก ซึ่งก็เป็นเรือหงส์เหาะได้ แล้วก็นำไปถวายพระโอรสซึ่งก็เป็นที่พอพระทัยยิ่งนักที่ได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ อันสวยงามเช่นนั้น พระองค์ได้ประทานรางวัลให้ทั้งคู่อย่างงาม ขณะที่ทรงชื่นชมความงามอยู่นั้นก็ทรงเห็นอักขระแปลกประหลาดจารึกอยู่บนเรือ นั้น พระองค์จึงตรัสถามหาความหมาย แต่ทั้งสองนายช่างไม่เข้าใจความหมายพวกเขาทูลว่าพวกเขาคัดลอกมาจากคัมภีร์ พระเวทย์ซึ่งเป็นภาษาของพญาครุฑ ดังนั้นผู้ที่อ่านอักขระเหล่านี้ออกก็จะสามารถบังคับเรือให้บินไปได้เหมือน นก
เนื่องจากพระสวรรณหงส์เรียนภาษาสัตว์จากพระฤาษีพระองค์จึงอ่านอักขระเหล่านั้นได้หมดและสั่งให้เรือบินไปได้ตามใจชอบ ชาวเมืองนครไอยรัตน์ต่างพากันชื่นชมพระบารมีของพระโอรสที่ทรงสามารถท่องเที่ยวไปด้วยยานมหัศจรรย์
ในเวลาต่อมา พระสุวรรณหงส์ได้เสี่ยงทายปล่อยว่าวเพื่อทำนายโชคชะตาของบ้านเมือง ในขณะที่ปล่อยว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้านั้นพระองค์ก็ตั้งอธิษฐานว่า "ถ้าว่าวติดลมดีก็หมายถึงในปีนี้บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองกว่าปีก่อน" แต่ก็น่าแปลกที่ว่าแทนที่ว่าวจะลอยอยู่ในพระนคร ว่าวก็ลอยไปยังเมืองของพวกยักษ์มีชื่อว่า "นครมัตตัง" ปกครองโดยพญายักษ์นามว่า "สุวรรณวิก" ผู้ซึ่งมีธิดาผู้เลอโฉมนามว่า "เกศสุริยง" พญายักษ์รักธิดามากจังกำชับให้พี่เลี้ยงทั้ง 5 คนดูแลธิดาของตนเป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน พระสุวรรณหงส์ก็เสด็จออกตามหาว่าวที่ลอยไปพันยอดปราสาทขององค์หญิงเกศสุริยง พอดี อาศัยมนต์วิเศษที่มีพระองค์ก็ทรงไต่ตามสายป่านว่าวขึ้นไปพบเจ้าหญิงผู้เลอ โฉมได้ ทันทีที่ได้พบนาง พระองค์ก็ทรงทราบทันทีว่าสตรีผู้นี้คือเจ้าของพวกมาลัยดอกไม้สดและเป็นนางใน ฝันของพระองค์จึงเปิดเผยตัวเองให้เจ้าหญิงทรงทราบ แล้วทั้งคู่ก็ตกหลุมรักของกันและกันในบัดดล ทั้งสองแอบใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาอย่างลับ ๆ และนับแต่นั้นมาเจ้าชายสุวรรณหงส์ก็จะไต่สายป่ายว่าวของพระองค์ไปพบเจ้าหญิง เกศสุริยงอย่างลับ ๆ อยู่เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม ชีวิตรักของทั้งคู่ก็ไม่อาจจะเก็บไว้ได้นาน เมื่อพี่เลี้ยงทั้งห้าพบสายป่านว่าวและชายหนุ่มอยู่กับองค์หญิงของพวกตา พวกนางมีความวิตกกังวลและเกรงกลัวความผิดที่ไม่ปกป้องเจ้านายของพวกตนตามที่ พญายักษ์สั่งไว้ จึงคิดหาทางกำจัดผู้บุกรุกเพื่อไม่ให้นำความเดือดร้อนมาให้พวกตนได้อีกต่อไป
ก่อนหน้าที่จะมาหาองค์หญิงในวันต่อมา พระสุวรรณหงส์ก็ทรงสุบินร้ายในคืนนั้น พระองค์ทรงสุบินว่าตกลงจาภูเขาและติดอยู่ในความมืดสนิท เมื่อตื่นจากบรรทมก็ได้หลับต่อและทรงสุบินร้ายอีก แต่คราวนี้พระองค์สุบินว่า มีหอกพุ่งเข้าแทงตรงหัวใจทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์ในทันที
หลังจากชำระล้างพระวรกายแล้ว ก็เสด็จขึ้นเรือวิเศษบินไปยังเมืองมัตตัง แล้วก็ไต่สายป่านว่าวขึ้นไปพบเจ้าหญิงเหมือนเช่นเคย แต่โชคร้ายที่ว่าคราวนี้ไม่ง่ายเหมือนอย่างแต่ก่อน เพราะพี่เลี้ยงทั้งห้าได้ทำกับดักไว้ที่หน้าต่างในทันทีที่พระสุวรรณหงส์ ปรากฏพระองค์ขึ้นที่หน้าต่างหอกยนต์ก็ลั่นเสียบพระอุระทันที เจ้าชายได้รับบาดเจ็บแต่ก็สามารถหนีขึ้นเรือกลับมาสิ้นพระชนม์ที่พระนครของ ตนเอง แต่ก่อนจะสิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายพระองค์ก็ทรงสาบานว่าจะขอล้างแค้นองค์หญิง ทุก ๆ ชาติไป ด้วยเหตุที่พระองค์ไม่ทราบว่าใครเป็นคนคิดร้ายต่อพระองค์ เจ้าชายดิ้นทุรนทุรายและสิ้นพระชนม์ด้วยความเจ็บปวด
ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าองค์หญิงเกศสุริยงจะเป็นธิดาของพญายักษ์ผู้โหดร้าย แต่นางก็มีจิตใจดีและอ่อนโยน นางเฝ้าคอยพระสุวรรณหงส์อยู่เป็นเวลาหลายวันแต่ก็ไม่พบว่าพระองค์จะเสด็จมา นางจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง และก็ต้องแปลกใจที่พบรอยเลือด นางเกิดความสงสัยจึงตามรอยเลือดไปจนถึงป่าซึ่งลึกเขาไปจนไม่อาจจะผ่านไปได้ อีกแล้ว นางมีความเศร้าโศก และเสียใจมากจนหมดสติอยู่ในป่านั้นเอง พระอินทร์ทรงรู้สึกสงสารจึงช่วยให้ฟื้นคืนสติ
และพระอินทร์ก็ทรงช่วยแปลงร่างให้นางเป็นชาย และให้ปลอมตัวเป็นพราหมณ์หนุ่มเพื่อที่จะได้เดินทางไปตามลำพังได้อย่าง ปลอดภัย และพระองค์ยังได้ประทานน้ำมันทิพย์บรรจุขวดเล็ก ๆ และศรวิเศษให้พราหมณ์แปลงอีกด้วย น้ำมันนี้สามารถใช้ชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ ก่อนเสด็จกลับสวรรค์ พระองค์ยังได้ทรงแปลงร่างอีกส่วนของเจ้าหญิงเกศสุริยงให้เป็นร่างเกศ สุริยงอยู่ในปราสาท เพื่อไม่ให้พญายักษ์สงสัยต่อการหายไปของธิดาเพื่อตามหาสามี
พราหมณ์สุริยงในร่างแปลง ก็ออกเดินทางตามลำพังและมาถึงศาลาของยักษ์นามว่า "กุมภัณฑ์" เมื่อยักษ์กุมภัณฑ์เห็นผู้บุกรุกก็เกิดความโกรธและต้องการจะกินนาง แต่นางก็ต่อสู้และสามารถฆ่ายักษ์ได้สำเร็จ ด้วยความสงสารนางจึงใช้น้ำมันทิพย์ชุบชีวิตยักษ์ให้ฟื้นคืนชีพ หลังจากฟื้นแล้วยักษ์กุมภัณฑ์ก้อ้อนวอนขออภัยและสาบานว่าจะเป็นทาสผู้ซื่อ สัตย์ของนางตลอดไปนางก็ยินดีและแล้วทั้งนายและบ่าวจึงออกเดินทางไปด้วยกัน เพื่อให้ถึงเมืองไอยรัตน์โดยเร็ว ยักษ์กุมภัณฑ์จึงให้นายของตนนั่งบนบ่าแล้วก็เดินทางมาจนถึงพระนคร เกศสุริยงในร่างพราหมณ์จึงบอกให้ยักษ์แปลงร่างเป็นพราหมณ์เหมือนกับตน เพื่อไม่ให้ใครสงสัย
เมื่อมาถึงพระนคร ทั้งคู่ก็เห็นความสง่างามของเมือง แต่ผู้คนดูเศร้าโศกกันไปหมดแล้วก็บอกข่าวสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายของพวกเขา ดังนั้นพราหมณ์เกศสุริยงจึงอาสาช่วยให้เจ้าชายฟื้นพระชนม์ชีพอีกครั้ง และด้วยอำนาจของน้ำมันทิพย์พระสุวรรณหงส์ก็ทรงฟื้นคืนชีพได้อีก ทั้งพระราชาและเหล่าพสกนิกรต่างก็ปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้น มีการจัดงานฉลองอย่างเอิกเกริกเป็นเวลาหลายวัน
นับแต่นั้นมา เกศสุริยงในร่างแปลงของพราหมณ์หนุ่มโดยใช้ชื่อว่า อัมพร ก็กลายเป็นที่โปรดปรานของพระราชาและพระราชินี เพราะเขาได้ชุบชีวิตพระโอรสให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในขณะเดียวกันพระ สุวรรณหงส์ ก็มีความสงสัยในตัวพราหมณ์หนุ่มเพราะเขาดูคล้ายเจ้าหญิงเกศสุริยงมาก พระองค์จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ธาตุแท้ของพราหมณ์ผู้นี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดก็ต้องใช้แผนสุดท้าย โดยการเรียกหญิงงามที่สุดเข้ามายังพระนคร ทำทีเป็นว่าเป็นคนรักใหม่ของพระองค์ คราวนี้ปรากฏว่าเกศสุริยงในร่างพราหมณ์อัมพรเกิดอาการโกรธและอิจฉาสตรีผู้ นั้น ด้วยความรู้สึกว่าตนเองถูกทรยศ จึงหนีออกจาเมืองและทิ้งพวงมาลัยดอกไม้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของนางไว้เบื้อง หลัง เมื่อทอดพระเนตรเห็นพวงมาลัย เจ้าชายก็ทรงทราบทันทีว่าพราหมณ์อัมพรนั้นแท้ที่จริงก็คือองค์หญิงเกศสุริยง ปลอมมานั้นเอง
ด้วยความรู้สึกที่ทั้งดีใจและแค้นใจพอ ๆ กัน พระสุวรรณหงส์เสด็จขึ้นเรือวิเศษแล้วบินไปยังเมืองมัตตังแล้วก็ได้เผชิญหน้า กับพญายักษ์บิดาขององค์หญิงเกศสุริยง ทั้งคู่เกิดต่อสู้กันอย่างดุเดือด และในที่สุดพระสุวรรณหงส์ก็เป็นฝ่ายชนะพญายักษ์ พระองค์รีบเสด็จตรงไปหาองค์หญิงเกศสุริยงเพื่อล้างแค้น
พระองค์เสด็จเข้าไปในห้อง ในขณะที่องค์หญิงเกศสุริยงและพี่เลี้ยงทั้งห้ากำลังหลับอยู่ ก่อนจะฆ่านางพระองค์ได้อธิษฐานว่า ถ้าหากว่ารักพระองค์จริงและมีความซื่อสัตย์ต่อพระองค์แล้วไซร้ ขอให้โลหิตของนางมีรสหวานแต่ถ้าเป็นไปในทางกลับกัน ก็ขอให้โลหิตของนางมีรสขม หลังจากจบคำอธิษฐาน พระองค์ก็ตัดคอนางด้วยดาบแล้วชิมโลหิตของนางดู ปรากฏว่ามีรสหวาน เจ้าชายผู้เศร้าโศกก็ทรุดลงกับพื้นแล้วร่ำไห้คร่ำครวญเสียงดังทำให้พี่ เลี้ยงสะดุ้งตื่นและก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเจ้านายของตนเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งห้านางรู้สึกเสียใจแล้วก็สารภาพผิดต่อเจ้าชาย
ข่าวการจากไปอย่างกระทันหันแพร่ไปถึงทาสผู้ซื่อสัตย์ ของนาง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยักษ์กุมภัณฑ์ ยักษ์กุมภัณฑ์รับไปทูลให้เจ้าชายใช้น้ำมันทิพย์ซึ่งพระอินทร์ประทานให้กับ นายของตนไว้ และก็เป็นไปได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อน้ำมันทิพย์ถูกร่างขององค์หญิง ก็ทำให้นางฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง ท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจของเจ้าชายและบ่าวผู้ซื่อสัตย์ขององค์หญิงเกศ สุริยง ทั้งคู่กลับมาใช้ชีวิตคู่กันอีกครั้ง และคราวนี้จะอยู่ด้วยกันตลอดไป เจ้าชายจึงนำพระชายากลับสู่พระนครของพระองค์เอง
ในระหว่างไปพระนครของพระองค์นั้น เจ้าชายไม่ได้ทรงใช้เรือสุวรรณหงส์แต่ทรงเดินทางด้วยม้าและทั้งคู่ ก็มาพบยักษ์มีนามว่า วิรุญเมฆ ซึ่งเกือบจะทำร้ายพระสุวรรณหงส์อยู่แล้วถ้าหากยักษ์กุมภัณฑ์ไม่เข้ามาขัด ขวาง หลังจากฆ่ายักษ์วิรุญเมฆได้สำเร็จแล้ว ยักษ์กุมภัณฑ์ต้องการเดินทางไปกับนายของตนเพื่อจะได้ช่วยปกป้องทั้งสอง พระองค์ได้ แต่องค์หญิงเกศสุริยงสั้งให้เขากลับไปดูแลเมืองมัตตัง
และแล้วทั้งสองพระองค์ก็ออกเดินทางต่อ เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็ทรงหยุดพักและเผลอหลับไป มีนางยักษ์ตนหนึ่งผ่านมาพบทั้งคู่เข้า ทันใดนั้นนางยักษ์เกิดนึกรักพระสุวรรณหงส์ผู้มีรูปร่างงามขึ้นมาทันที และผลักองค์หญิงเกศสุริยงตกลงไปในแม่น้ำ แล้วก็แปลงร่างเป็นองค์หญิงแทน โดยบรรทมเคียงคู่กับพระสวามี หลังจากตื่นบรรทม เจ้าชายก็ไม่ได้ทรงสงสัยอะไรนอกจากได้กลิ่นแปลกประหลาดจากเรือนร่างของพระ ชายาตน พระองค์ก็ไม่ได้บ่นเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นนี้ เพียงแต่แปลกพระทัยว่าโดยปกติชายาของตนไม่มีกลิ่นตัว ถึงแม้ว่านางจะเป็นธิดาของยักษ์ก็ตาม
เมื่อเสด็จมาถึงพระนครของพระองค์ เจ้าชายก็พาพระชายาออกชมรอบ ๆ เมืองและเพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ ทั้งสองพระองค์อยู่ร่วมกันระยะหนึ่งก็ไม่เห็นมีสิ่งประหลาดอะไรเกิดขึ้น นางยักษ์ปลอมเป็นองค์หญิงพยายามซ่อนความลับว่าตนเป็นยักษ์ไว้ นางจึงกินอาหารเหมือนมนุษย์ทั่วไป อย่างไรก็ตามโดยธรรมชาติของยักษ์ก็ย่อมจะชอบกินเนื้อดิบคราวละมาก ๆ ดังนั้นกลางคืนองค์หญิงปลอมจึงแอบออกมานอกพระนครเพื่อออกจับสัตว์ป่ากินเป็น อาหาร
ในขณะเดียวกัน ยักษ์กุมภัณฑ์ก็นำม้าของพระสุวรรณหงส์มากินน้ำที่แม่น้ำ ก็มาพบกับองค์หญิงเกศสุริยงเข้าโดยบังเอิญ จึงรีบน้ำนายของตนตรงไปยังเมืองไอยรัตน์ซึ่ง ณ ที่นั้นเองที่เกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นระหว่างองค์หญิงตัวจริงและตัวปลอม ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของผู้คนนั้นเอง องค์หญิงปลอมก็หนีออกจากพระนครไปแต่ก็ถูกยักษ์กุมภัณฑ์สกัดจับไว้ได้แล้วก็ ฆ่านางเสียในระหว่างการต่อสู้กัน
และแล้วทั้งสองพระองค์ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและตอนนี้พระนครไอยรัตน์ก็สงบสุขปราศจากเรื่องราวร้ายแรงทั้งปวง




ขอขอบคุณญาติมิตรแฟนเพลง เพื่อนๆชาวbloggang ที่ร่วมโหวตให้แก่blog เกศสุริยง เผื่อว่าจะมีสายสะพายกับเขาบ้าง ตอนเล่นblogใหม่ๆสงสัยมากว่าแถบแดงๆนั่นคืออะไร จำได้ว่าเห็นจาก Blog กะว่าก๋า,blogอุ้มสี,blogดาดา,อยากมีกับเขาบ้างน่ะ ถึงแม้จะไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่เป็นความสุขทางใจที่ทำให้รู้ว่าเราได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมไม่มากก็น้อย
ญาติมิตรแฟนเพลงถ้าจะกรุณาครูเกศ blog นี้เข้าตาเพื่อนๆก็ขอเป็น สาขาbest education blog นะคะ ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน รักครูเกศน้อยๆแต่รักนานๆนะคะ(จำมาจากลิเกงานวัดค่ะ555555)ขอบคุณค่ะ




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2553
28 comments
Last Update : 26 มกราคม 2556 23:38:18 น.
Counter : 10488 Pageviews.

 

ค่ำๆจะตามไปเยี่ยมนะคะ ตอนนี้ยุ่งนิดๆค่ะ

 

โดย: เกศสุริยง 8 ธันวาคม 2553 15:42:15 น.  

 

มาโหวตให้แล้วนะคะ
นานๆแวะมาที แต่คิดถึงเสมอนะคะ

 

โดย: ratana_sri 8 ธันวาคม 2553 19:28:09 น.  

 

...สวัสดีจ้า..ครูเกศ...

..ก้นกะลาเคยรู้แต่เพียงว่าเรื่องสุวรรณหงส์นี่เป็นบทละครนอกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้เคยศึกษาเนื้อเรื่อง เพิ่งจะมารู้ตรงนี้นี่แหละ..

..โหวตให้แล้วนะจ๊ะ..

 

โดย: ก้นกะลา 9 ธันวาคม 2553 0:17:01 น.  

 

เข้ามาทักทายครูเกศคะ
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายญดาเช่นกัน

ครูเกศสบายดีมั้ยคะ

ญดาสบายดีคะ

 

โดย: ญดา (aoyyada ) 9 ธันวาคม 2553 4:50:35 น.  

 

สวัสดีค่ะครูเกศ มาถึงอเมริกาเมื่อคืน สบายดีค่ะยังต้องปรับตัวเรื่องเวลาวันนี้ง่วงทั้งวัน หนาวแล้วรักษาสุขภาพนะคะ

 

โดย: Arinchaya 9 ธันวาคม 2553 6:33:13 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่เกศ







 

โดย: กะว่าก๋า 9 ธันวาคม 2553 7:16:58 น.  

 

โหวตเรียบร้อยไปแล้วค่ะ
3 คะแนนเต็ม

 

โดย: แม่หมู (jamaica ) 9 ธันวาคม 2553 9:31:48 น.  

 

ส่งความสุขครับคุณครู
มีหลังไมค์ครับ

 

โดย: panwat 9 ธันวาคม 2553 9:38:04 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ และได้เข้าไปโหวตให้คุณเกศแล้วเหมือนกันค่ะ ในสาขา "EducationBlog" ที่ให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับนาฎศิลป์และวัฒนธรรมไทย (3 คะแนนค่ะ)

 

โดย: ดอยสะเก็ด 9 ธันวาคม 2553 9:48:16 น.  

 

สวัสดีครับ ต้องโหวตสาขาไหนเนี้ยน ผมไปแอบดูก่อนนะครับ

 

โดย: ชายเอ ทุ่งรังสิต 9 ธันวาคม 2553 9:57:35 น.  

 

มาเยี่ยมคุณครูเกศขอรับ

ชอบภาพในกล่องคอมเม้นต์จัง

เห้นแล้ว คิดถึงบ้านชะมัด

 

โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 9 ธันวาคม 2553 10:17:09 น.  

 

ผมสบายดีครับพี่
งานชุดความรักนี้
มี 33 ตอนเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 9 ธันวาคม 2553 10:17:30 น.  

 

สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณครูเกศ

ขอให้มีความสุขและเที่ยวให้สนุกในวันหยุดนะคะ

 

โดย: กิ่งลีลาวดี 9 ธันวาคม 2553 11:25:02 น.  

 

best education blog
โหวตไว้ก่อนเลยค่ะคุณครูเกศ

 

โดย: YUCCA 9 ธันวาคม 2553 13:03:21 น.  

 


แวะมาเยี่ยมคร่าาาาา สบายดีนะคะ.....
สร้างกริตเตอร์

เอาเค็กที่ร้านมาฝากค่ะ มีความสุขมากๆนะคะคุณครู

 

โดย: poepum 9 ธันวาคม 2553 13:09:41 น.  

 

อ่านตอนนี้จึงทราบที่มาของชื่อ "เกศสุริยง" ครับ

พรุ่งนี้หยุดยาวอีกรอบ คุณครูเกศคงได้พักผ่อนนะครับ

 

โดย: Insignia_Museum 9 ธันวาคม 2553 22:16:00 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกัน มีความสุขมากมายในวันนี้จ้าครูเกศ
มาทักทายกันชั่วโมงแรกของวันศุกร์ค่ะ

 

โดย: หอมกร 10 ธันวาคม 2553 0:07:41 น.  

 

สวัสดีค่า
ขออนุญาติเรียก คุณครู ตามคุณปุ้ม นะค่า
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

ขอบคุณ คุณครูที่แวะไปลงคะแนนให้นะค่า

คุณครู สาขา best education blog นะคะ
โอเคค่า 3 เรียบร้อยแล้วนะค่า

รักษาสุขภาพนะค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 10 ธันวาคม 2553 0:25:39 น.  

 

ด้วยความยินดีค่ะ..นอนหลับฝันดีนะค่ะ..

 

โดย: จิ๊บ (คุณนายเยอรมัน ) 10 ธันวาคม 2553 2:24:06 น.  

 


แวะมาทักทายพี่ครูเกศก่อนจะไปนอนเจ้า

 

โดย: แม่เฮือน 10 ธันวาคม 2553 2:29:46 น.  

 

มาเชียร์คุณครูเกศ อีกแรงหนึ่งน้ะคร๊าบ
คิดถึงซำเหม๋อๆๆๆคับโผ๊ม

 

โดย: ตาติ๊ก - สกุลเพชร IP: 125.26.139.198 10 ธันวาคม 2553 2:45:50 น.  

 

โอยย นุ่นไม่ได้เข้านานมาก มาทักทายค่ะ

ธันวาแล้ว อากาศยังไม่หนาวเลย พี่เกศสบายดีนะคะ ^^

 

โดย: m3v 10 ธันวาคม 2553 5:35:03 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่เกศ







 

โดย: กะว่าก๋า 10 ธันวาคม 2553 7:01:36 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่เกศ







 

โดย: กะว่าก๋า 10 ธันวาคม 2553 7:02:32 น.  

 

 

โดย: nootikky 10 ธันวาคม 2553 15:30:55 น.  

 

 

โดย: nootikky 13 ธันวาคม 2553 17:50:07 น.  

 

ขอโทษคะ พอจะมีประวัติของการแสดงชุดเกศสุริยงรบกุมภณฑ์บ้างไหมข๊ะ หายากจังคะ
ช่วยหนูด้วยคะ

 

โดย: bow IP: 101.109.183.217 12 กันยายน 2555 23:03:02 น.  

 

ฝฝฝฝ

 

โดย: ฝฝฝ IP: 49.49.248.233 30 มกราคม 2565 12:05:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เกศสุริยง
Location :
อ่างทอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




ยินดีต้อนรับ/blogนี้ทำขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ สำหรับผู้ค้นคว้า ยินดีอย่างยิ่งถ้าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย
Friends' blogs
[Add เกศสุริยง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.