วันนี้ขอย้อนเอาเรื่องคุณนายมาเขียนซะหน่อย กับเรื่องที่ติดค้างไว้ว่าอยากจะบันทึก อย่างน้อยๆ กรุ๊ปบลอกนี้ก็ถือเป็นเหมือนไดอารี่บันทึกอาการของคุณนาย
"แผลกดทับ" ส่วนตัวเลยก่อนที่คุณนายจะเป็น แทบจะไม่รู้จัก เคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ร้ายแรงแค่ไหน เข้าใจว่าก็คงเหมือนแผลถลอกทั่วๆ ไป เราเองเชื่อว่า หลายๆ คนก็คงคิดเหมือนกับเราเหมือนกัน แต่บ้านไหนที่มีญาติพี่น้องเป็นแผลกดทับก็คงจะรู้จักแผลแบบนี้เป็นอย่างดี
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแผลแบบนี้กันซักนิด แผลกดทับนี้จะต่างจากแผลถลอก น้ำร้อนลวก ทั่วๆไป เพราะเป็นแผลที่เกิดจากการกดทับของน้ำหนักตัว ไม่เสมอไปว่าคนนั้นจะต้องมี นน ชนิด โอเวอร์เวท นน น้อยๆ แต่มีการกดทับเป็นเวลานานๆ ก็มีโอกาสเป็นแผลชนิดนี้ได้เหมือนกัน การกดทับแบบนี้จะเกิดกับคนที่นอนนานๆ นั่งนานๆ โดยที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว หรือการกลับตัว พลิกตัว ทำให้บริเวณที่ถูกทับนั้นเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงลำบาก นานๆ เข้า บริเวณดังกล่าวก็จะขาดเลือดไปเลี้ยงดูปูเสื่อ เนื้อก็จะเริ่มเสียชีวิตลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเนื้อตายแบบไม่ฟื้น ถ้าทิ้งไว้โดยไม่รักษาหรือดูแลเยียวยา นานเข้าแผลก็จะเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ และหากไม่รักษาความสะอาดดีๆ แผลก็จะมีการติดเชื้อได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้แผลอาจจะเน่าในเวลาต่อมา และหนักเข้าเชื้อที่ว่าอาจจะมีการลามเข้าไปในกระแสเลือดได้อีก ทีนี้ก็จะกลายเป็นติดเชื้อกันในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น ถ้าดูแลรักษากันไม่ทันก็อาจถึงกาลอวสานของคนนั้นจากสาเหตุนี้ได้ โดยที่แผลกดทับนี้มันจะเกิดจากเนื้อด้านในไล่ออกมาที่ผิวหนังข้างนอก มะไหร่ที่เราเห็นผิวหนังด้านนอกเป็นแผลแสดงว่าข้างในน่ะ เรียบร้อยไปแล้ว เพราะมันเกิดจากกระดูกมันไปกดทับเอาบริเวณผิวกะเส้นเลือดด้านในน่ะ
ส่วนของคุณนายของเราน่ะ เนื่องจากขาไม่มีแรง 1 ข้าง บวกกับมีอาการปวดตามบั้นเอวและหลัง ทำให้คุณนายของเราก็นอนเอกเขนกตลอดเวลา เลยทำให้มีแผลกดทับเกิดขึ้น แผลกดทับของคุณนายเป็นตั้งแต่นอนอยู่ รพ มันมาหนักขึ้นตอนที่อยู่บ้าน เพราะคุณนายไม่ค่อยยอมพลิกตัว พูดเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยยอมฟัง ดื้อชะมัด แผลที่เป็นอยู่มันเลยเป็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายพอพาไปให้หมอดู คุณหมอก็เลยตัดสินใจกำจัดเนื้อส่วนที่ทรยศออกซะ
วิธีการรักษาแผลกดทับที่เป็นเนื้อตายแล้วเนี่ย ก็คือ การคว้านเอาเนื้อส่วนนั้นทิ้งซะ เพื่อไม่ให้มันเน่าและลุกลามวงใหญ่ขึ้น ส่วนบริเวณที่จะลงมีดนั้น ใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเนื้อตายที่มีอยู่ หลังจากคว้านเสร็จ เราก็จะได้อุโมงค์ส่วนตัวเป็นแบบนี้
คำเตือน ถ้าใจไม่แข็งพอ ปิดตา อย่าดูภาพเด็ดขาด
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. 3 .. .. .. 2 .. .. .. 1 .. .. .. 0 .. .. .. เราเตือนคุณแล้วนะ อิอิ
ก็อย่างที่บอกว่าไซส์อุโมงค์ของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดเนื้อตายที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน ว่ามันกินอาณาบริเวณขนาดไหน ส่วนของคุณนายนี่ สำหรับเราก็ถือว่าใหญ่แล้วล่ะ เพราะเห็นครั้งแรกแทบเป็นลม มือไม้สั่นไปหมด ไม่เคยเจอแบบนี้ แต่ญาติที่เป็นอดีตพยาบาลเค้าบอกว่า ไม่ใหญ่นะ ธรรมดา เอ๊ะ หรือเค้าปลอบใจเราหว่า
หลังจากมีถ้ำอัศจรรย์เป็นของตัวเองกลับมา ก็จะต้องมีการทำแผล ล้างแผลทุกๆ วัน เพื่อไม่ให้แผลมีการติดเชื้อขึ้นอีกได้ เพราะมันเหมือนไม่มีผิวหนังส่วนนอกมาคอยห่อหุ้ม เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ทีนี้ล่ะ เข้าประโยชน์ที่ว่าใช้ห่อหุ้มร่างกายแบบแจ่มแจ๋วเลย
โดยที่จะออกจาก รพ พยาบาลจะสอนวิธีการทำความสะอาดแผลให้ เพราะเราจะต้องทำด้วยเอง หลังจากกลับบ้านแล้ว ครั้งแรกเลยที่พยาบาลเรียกเข้าไปดูการสาธิต บอกตามตรงว่ามือไม้สั่น ใจมันวิ้ว วิ้ว วิ้ว เหมือนจาเปนลม แต่โชคดีที่ได้น้องของป้าสะใภ้ซึ่งเป็นอดีตพยาบาลมาช่วยด้วยในสัปดาห์แรก
อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการทำความสะอาดต้องซื้อกันใหม่หมดเลย (ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดู แบบว่าหาไม่เจอว่าไปเซฟไว้ที่ไหน 5555) 1.normal saline เป็นน้ำเกลือที่ใช้สำหรับทำความสะอาดแผล 2.คอร์เส็บ (เขียนงี้ป่าวหว่า) เป็นคีมคีบไว้สำหรับหนีบจับพวกสำลี แนะนำว่าต้องเป็นชนิดที่ตรงปลายมีเขี้ยวไว้จิกสำลีด้วยนะ เพราะตอนแรกซื้อแบบเรียบมา ปรากฏว่าจับสำลีไม่อยู่เลยอ่ะ อ้อ ใช้ 2 อันนะคะ แทนมือไปเลย 3.น้ำยาฆ่าเชื้อ ถ้าที่ รพ ใช้ยี่ห้ออะไร จำมะได้ละ แต่หาซื้อยากชะมัด เลยต้องไปซื้อเป็นเบตาดีนมาแทน 4.โถมีฝาปิดสแตนเลสใส่พวกสำลี เหมือนกับที่ตาม รพ ใช้น่ะแหละ 5.ถ้วยสแตนเลสใบเล็กสำหรับใส่พวกน้ำยา 6.แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 7.สำลีก้อนฆ่าเชื้อ 8.ผ้าก๊อตฆ่าเชื้อ ขนาด 3x3 นิ้ว หรือ 4x4 นิ้ว
ก่อนเริ่มล้างแผล ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์กันเล็กน้อย โดยเอาพวกสำลีกะผ้าก๊อตใส่โถสแตนเลส แล้วก็คอร์เส็บ ถ้วยสแตนเลส ไปใส่รังถึงเพื่อนึ่งฆ่าเชื้อโรคกันอีกครั้ง โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
ทีนี้มาดูวิธีทำความสะอาดกัน ในส่วนของรูปภาพ ขั้นตอนคงไม่ละเอียดมากนัก เพราะตอนที่ถ่ายรูปไม่มีผู้ช่วย ทำแผลเอง ถ่ายเองมันไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
ต้องบอกก่อนเลยว่าขั้นตอนการทำความสะอาดนี้ คนที่ทำแผลจะต้องสวมถุงมือตลอดเวลา แล้วก็ห้ามเอามือไปจับสำลีหรือผ้าก๊อตเด็ดขาด ให้ใช้ตัวคอร์เส็บเป็นตัวคีบเท่านั้นนะคะ
ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดเลย
1.ใช้คอร์เส็บคีบสำลีชุบน้ำเกลือ ที่ผสมไว้กะ เบตาดีน 10:1 แล้วก็เอาไปเช็ดในอุโมงค์ เช็ดให้ทั่ว ปาดทุกจุด อุโมงค์จะกว้าง ยาว ลึกแค่ไหน ก็ทะลวงเช็ดเข้าไปให้หมด อ้อ เปลี่ยนสำลีบ่อยๆ ด้วยนะ ปาดเข้าไป 1 ที ก็เปลี่ยนสำลีทีนึง แบบว่าเปลืองสำลีมากๆ แต่จะทำแบบลวกๆ ก็ไม่ได้ กลัวไม่สะอาด 2.หลังจากนั้นก็ใช้คอร์เส็บคีบเอาผ้าก๊อตมาจุ่มน้ำเกลือผสมเบตาดีนที่ผสมไว้ หลังจากนั้นก็ใช้คอร์เส็บเป็นตัวช่วยบิดน้ำออก นึกออกมะจ๊ะ มือถือคอร์เส็บข้างละอัน แล้วก็เอาคอร์เส็บพันผ้าก๊อตแล้วก็บิดๆ ๆ ๆ บิดจนแห้งแล้วก็เอาคอร์เส็บคีบผ้าก๊อตใส่เข้าไปบรรจุไว้ในอุโมงค์ซะ บรรจุจนกว่าจะเต็ม เพื่อป้องกันในเรื่องของอากาศที่จะเข้าไป ใช้กี่แผ่นก็แล้วแต่ขนาดของอุโมงค์เช่นกัน
3.หลังจากนั้นก็เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบปากถ้ำกันซะหน่อย เช็ดให้เป็นวงกว้างกว่าประมาณ 2 นิ้วโดยรอบ 4.หลังจากนั้นก็คีบเอาผ้าก๊อตแห้งมาปิดปากอุโมงค์ แล้วก็เอาเทปมาแปะปิดผนึกปากถ้ำซะ เป็นอันเรียบร้อย
วันนึงก็ทำความสะอาดกัน 2 รอบ คือรอบเช้า กะ เย็น สัปดาห์แรกมีน้า (น้องป้าสะใภ้) มาช่วยช่วงเช้า ส่วนรอบเย็นก็ต้องทำเองค่ะ แต่เช้าอีกวันน้าจะมาเช็คความเรียบร้อยอีกที แต่ก็ได้รับคำชมมิใช่น้อย น้าบอกว่าทำได้เรียบร้อยมากเลย อิอิ ต้องยอมรับว่าตอนที่ทำก็น้ำตาจะไหลไป สงสารคุณนาย กลัวจะเจ็บ แต่ก็ต้องกัดฟัน กลืนน้ำตาลงคอไป ไอ้ครั้นจะเช็ดเบาๆ ก็กลัวมันจะไม่สะอาดพอ จะเช็ดแรงๆ ให้สะอาด ก็กลัวคุณนายจะเจ็บ เลยต้องเช็ดเบาๆ แต่เช็ดหลายๆ รอบ นานๆ ทำความสะอาดกันทีนึงใช้เวลากันที 1 ชม เต็มๆ เลย ไม่นับช่วงเวลาที่เตรียมอุปกรณ์นะเนี่ย นี่ทำแผลคุณนายไม่ถึงสัปดาห์นึงเลย คุณนายก็ไม่อยู่ให้ทำแผลซะละ เฮ้ออออออ แต่คุณนายก็สบายแล้วล่ะ ไม่เจ็บ อีกแล้ว ดูแล้วเหมือนจะน่าอิจฉาด้วยซ้ำนะ หุหุ
แอบเม้าท์น้าแป๋วนิดนึงเหอะ ตอนแรกๆ ที่เราเห็นแผลนะ เราไปเล่าให้น้าแป๋วฟัง แล้วบอกว่าอยากเป็นลม รู้สึกตัวได้เลยว่า ตอนนั้นเลือดมันไปเลี้ยงหน้าน้อยเหลือเกิน น้าแป๋วกลับขำ ๆ แล้วก็พูดว่า แค่แผลกดทับ ทำใจเสาะไปได้ ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า น้าแป๋ว น่ะ ออกแนวหญิงแกร่ง เราเลยหมั่นไส้ เอารูปที่ถ่ายไว้มาให้น้าแป๋วดู เหอ เหอ เหอ น้าแป๋วงี้หน้าถอดสีไปเลยอ่ะ 5555555 สะจายยยยยยยยย มาหาว่าเราใจเสาะ เป็นไงล่ะ เรียกให้มาดูแผลล่ะไม่กล้าเลย พอวันไหนน้าแป๋วมาบ้าน เราแกล้งทำเป็นไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผลนะ น้าแป๋วเก็บกระเป๋ากลับบ้านเลยอ่ะ แหมๆๆๆๆๆ แม่คนใจเด็ด
|
ทั้งคุณนายทั้งลูกคุณนายนั่นหล่ะ..
อิชั้นจะเป็นลม..
-_-''